เปิดราคามาแล้ว OnePlus NORD สมาร์ทโฟนใหม่จากแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม ที่นิยมทำตลาดแค่เพียงเครื่องในระดับ Flagship ระดับสูงเท่านั้น แต่ว่าวันนี้ เขาได้ปล่อยอุปกรณ์ในกลุ่มตลาดใหม่ เพื่อให้ใครที่อยากลองสัมผัสความพรีเมี่ยมของแบรนด์ OnePlus และมาตรฐานความแรงจากระบบ Oxygen OS ก็จะสามารถสัมผัสได้ในราคาที่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมครับ
OnePlus NORD ก็จะเป็นสินค้ารุ่นแรกของแบรนด์ ที่เปิดตัวมาในเรทราคาตลาดกลาง แต่ยังใช้จุดเด่นสำคัญของ OnePlus นั้นคืองานผลิตตัวเครื่องระดับสูง เพราะจริงๆ แล้วจากสเปคที่ได้มา มันก็อยู่ในกลุ่มของเครื่องเรือธงได้เช่นกันนะครับ ด้วยการใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 765G ให้ ROM สูงสุด 256GB และ RAM สูงสุด 12GB!
นี่ก็คือเครื่องสเปคสูงมากๆ และด้วยซอฟท์แวร์ Oxygen OS จากที่ทดสอบใช้เบื้องต้น โคตรลื่นครับ! เล่นเกมดีสุดๆ เกมลื่นไหล การใช้งานต่างๆ รวดเร็วคล่องตัวมาก
ยังใช้หน้าจอขั้นเทพ Fluid AMOLED FullHD+ ขนาดจอใหญ่ 6.44 นิ้ว รีเฟรชเรทสูง 90Hz รองรับ HDR10+ และรองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอโดยตรง
เป็นจอเจาะรู Dual Punch Hole Display วางกล้องหน้าคู่ความละเอียดสูงด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX616 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่กล้องหน้าได้กว้างถึง 105 องศา และกล้องหน้ายังสามารถถ่ายวีดีโอ 4K 60Fps ได้ด้วยนะครับ
แบตเตอรี่ขนาด 4,115 mAh รองรับชาร์จไว Warp Charge 30T สามารถชาร์จแบตได้ 70% ได้ในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
มาครบทุกด้าน! นี่มันสเปคเครื่องระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะงานผลิตตัวเครื่อง สวยงามและให้ฟิลลิ่งสัมผัสแบบเครื่องเรือธงชัดเจน โดย OnePlus NORD จะมีเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราสองสีครับ นั้นคือสี Marble Blue และสี Grey Onyx ที่เราได้มาพรีวิวในบทความนี้
สีของ Grey Onyx จะเป็นโทนสีเทา สะท้อนเงามีมิติดูมีความเข้มและเป็นผู้ชาย ตัวเครื่องโค้งมนขอบเคลื่องเคลือบไว้สวยงาม ใช้กระจกหน้าจอเป็น Corning Gorilla Glass 5
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลถ่ายภาพได้กว้าง 119 องศา กล้องที่สามเป็น Depth Sensor 5 ล้านพิกเซล ใช้จับบุคคลและระยะความลึกของวัตถุ และเลนส์สุดท้ายคือเลนส์มาโคร เลนส์ถ่ายภาพระยะใกล้ 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัสจ่อวัตถุได้ใกล้ประมาณ 4 เซนติเมตรครับ ในมุมการถ่ายของกล้องรุ่นนี้ นอกจากรองรับเลนส์มุมกว้างแล้ว จะสามารถซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 10x ครับ
และยังมีโหมดถ่ายภาพสนุกๆ อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นภาพหน้าชัดเบลอ ภาพฟิลเตอร์สีสันแปลกตา และโหมดถ่ายภาพกลางคืน ทั้งหมดมีครบและมีให้ใช้เยอะในรุ่นนี้ครับ
รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual 4G แต่จริงๆ ก็รองรับการใช้งาน 5G ด้วย เพราะเครื่อง OnePlus nord เป็นเครื่องในเกรดระดับเทคโนโลยี 5G ไปแล้วนะครับ รองรับ 5G ในคลื่น 700 และ 3500 MHz ฉะนั้นในอนาคตถ้าประเทศไทยเราได้เปิดใช้ 5G ในคลื่นดังกล่าว รุ่นนี้ก็จะพร้อมใช้งานไปได้ด้วยเช่นกัน
ก็ต้องสรุปเลยว่าเจ้าตัวนี้มันยังมาพร้อมกับจุดขายดั้งเดิมของแบรนด์ OnePlus ครับ นั้นคือความพรีเมี่ยมของตัวเครื่อง สวยงามมากจริงๆ และยังมอบการดูแลหลังการขายที่การันตีให้สำหรับการดูแลอัพเดทระบบให้ลูกค้า ได้รับการอัพเดทอย่างน้อย 2 เจนเนอเรชั่นแน่นอน ใช้งานกันได้อีกยาวนาน เป็นมาตรฐานเดียวกันกับรุ่นซีรี่ย์เรือธงนั้นเองครับ
จับสัมผัสตัวจริง และงานประกอบต่างๆ ก็เป็นเกรดแบบเครื่องรุ่นท็อปๆ ครับ ยังคงเอกลักษณ์ของ OnePlus ด้วยการใส่สวิตช์ปรับรูปแบบการเแจ้งเตือนด้านข้างเครื่องมาให้ ซึ่งน้อยแบรนด์นักที่จะใส่ใจในจุดนี้ เข้าออกที่ประชุม เข้าโรงภาพยนตร์ หรือจะสนทนากับผู้หลักผู้ใหญ่ ปิดเสียงเตือนหรือปรับเป็นโหมดสั่นได้ทันทีแค่สับสวิทช์ไม่ต้องเปิดจอขึ้นมาตั้งค่า
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีเคสใสซิลิโคน ที่ชาร์จ Warp Charge 30T พร้อมสายชาร์จ USB Type C สีแดงสวยงามครับ รับชมคลิปพรีวิวแกะกล่องได้จากวีดีโอด้านล่างนี้ของ Appdisqus ได้เลยนะครับ และฝากกดติดตามช่องทาง Youtube ของเรากันเอาไว้ด้วยนะ
สเปคของ OnePlus NORD
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 765G 5G 2.4GHz / GPU Adreno 620
- RAM 8GB/12GB
- ROM 128GB /256GB UFS2.1
- Dual Nano-Sim Slot
- 4115 mAh Warp Charge 30T
- WiFi 2×2 MIMO 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G/5G
- Bluetooth 5.1 aptX LDAC AAC
- NFC, GPS (L1+L5 Dual Band)
- หน้าจอ 6.44 นิ้ว Fluid AMOLED 2400x1080p, Refresh rate 90Hz, HDR 10+
- กล้องหน้า 32+8 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 48+8+5+2 พิกเซล
ราคาและวันวางจำหน่ายของ OnePlus NORD
รุ่นแรม 8+128GB ราคา 14,990 บาท
รุ่นแรม 12+256GB ราคา 17,990 บาท
เปิดจองตั้งแต่วันที่ 21 – 27 สิงหาคม รับฟรีกระเป๋าและบัตรประกันรวมมูลค่า 10,990 บาทจากทาง OnePlus
รวมถึงช่องทางจำหน่ายผ่านทางเครือข่าย ที่มีโปรโมชั่นซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจในราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 7,990 บาทเท่านั้นครับ สามารถติดต่อของจองเครื่องและสอบถามข้อมูลโปรโมชั่นได้ตั้งแต่วันที่ 21 – 27 สิงหาคมนี้เช่นกันนะครับ