เรือธงสายเกมประจําปีของ Asus มักจะเป็นจุดสนใจและข่าวใหญ่เสมอ จะใหญ่มากหรือใหญ่น้อยก็แล้วแต่กรณี แต่ตอนนี้ Asus ROG Phone 8 Pro อยู่ที่นี่แล้ว และมันดูเป็นสมาร์ทโฟนแบบทั่วไปมากกว่าที่แล้วๆ มา แม้ว่าภายใน จะยังคงเป็นสัตว์ร้ายที่ยังอาศัยอยู่อย่างแน่นอน
ROG Phone 8 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 และระบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟที่มีตัวนําระบายความร้อนโบรอนไนไตรด์ มันช่วยกระจายความร้อนจาก SoC ได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว เพื่อจัดการกับปัญหาของชิปเซ็ตที่ทรงพลังและร้อนแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 มันยังสามารถรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก AeroActive Cooler ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ตรงรุ่นจาก Asus ได้อีกด้วย
ลองดูภาพเปรียบเทียบของ ROG Phone 8 Pro เทียบกับ ROG Phone 7 Ultimate เรือธงรุ่นก่อน มันมีขนาดท่สั้นกว่าเกือบ 10 มม. ในขณะที่จอแสดงผลยังมีขนาด 6.78 นิ้วเท่าๆ กัน (และอัตราส่วนภาพก็เป็นแบบเดียวกัน)
Asus ถอดกรอบเครื่องที่หนาๆ ด้านบนและด้านล่างออกไป และย้ายกล้องเซลฟี่ความละเอียด 32MP ฝังไปในจอแสดงผล ขอบจอด้านบนจึงบางลงถึง 71% และด้านข้างก็บางลง 14% ด้วยเช่นกัน
เปรียบเทียบขนาดเครื่อง Asus ROG Phone 8 Pro กับ ROG Phone 7 Ultimate
ROG Phone 8 ยังมีความบางและน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนอีกด้วย จากการลดขนาดแบตเตอรี่ลงจากเดิมเล็กน้อย แบตของเครื่องร่นใหม่คือขนาด 5,500mAh ลดลงจากรุ่นก่อนที่มีขนาด 6,000mAh แต่ทาง Asus ได้สัญญาว่าจะมีความอึดของแบตเตอรี่ที่ใกล้เคียงเท่าเดิม สามารถรับชม Netflix ได้นาน 22.7 ชั่วโมง ใช้ท่องเว็บ เล่น Instagram ได้นาน 17 ชั่วโมง และใข้สตรีม TikTok ได้น่นถึง 14.4 ชั่วโมง รองรับการชาร์จไวแบบมีสาย 65W ร่วมด้วยการรองรับระบบชาร์จไร้สายที่ปรับแต่งมาเป็น 15W Qi 1.3
Asus ROG Phone 8 ยังเป็นรุ่นแรกของกลุ่มที่ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ํากันฝุ่นแบบเต็มตัว IP68
Asus ROG Phone 8 Series มีเปิดตัวออกมาในสองรุ่น นั้นคือ ROG Phone 8 Pro จะมีมาเฉพาะในสี Phantom Black และอีกหนึ่งรุ่นคือ ROG Phone 8 ซึ่งมาในสี Rebel Grey และ Phantom Black
ความแตกต่างที่สําคัญระหว่างทั้งสองคือขนาดของ RAM และที่เก็บข้อมูล โดยรุ่น Pro จะมีขนาด RAM สูงสุดที่ 24GB และหน่วยความจำ 1TB สำหรับรุ่น ROG Phone 8 ปกติ จะมี RAm สูงสุด 16GB และ ROM 512GB
ความแตกต่างอื่นที่สังเกตได้ง่ายสำหรับสมาร์ทโฟนสองรุ่นนี้คือแสงไฟที่ด้านหลัง – ROG Phone 8 จะได้รับโลโก้ ROG ที่สามารถปรับสีแตกต่างกันได้ ในขณะที่รุ่น Pro จะได้รับเป็น AniMe Matrix ซึ่งเราสามารถปรับแต่งเพื่อแสดงข้อความและไอคอนแจ้งเตือนต่างๆ ได้แทน
ภาพเทียบด้านหลังเครื่อง ROG Phone 8 Pro ด้านซ้าย และ ROG Phone 8 รุ่นปกติด้านขวามือ
ข้อแตกต่างประการสุดท้ายคือแพ็คเกจการขายของ ROG Phone 8 Pro จะมาพร้อมกับ AeroActive Cooler X รุ่นใหม่ใส่มาให้ภายในกล่อง ซึ่งมีขนาดที่เล็กลง 29% และเบาขึ้น 10% แม้จะเล็กลงแต่กลับอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติการจัดการความร้อนที่ดีกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ระบายความร้อนที่ใหญ่กว่าเดิมมากกว่าสองเท่า (2.6 เท่า) มีความเร็วพัดลมที่เร็วขึ้น 1.1 เท่า
AeroActive Cooler X ที่จะมาในแพ็กคู่กับ ROG Phone 8 Pro เท่านั้น
สุดท้ายนี้คือข้อมูลของจอแสดงผลและกล้องถ่ายภาพ หน้าจอด้านหน้าจะใช้เป็นจอ FHD+ E6 AMOLED ขนาด 6.79 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรชที่ปรับระดับได้เองตั้งแต่ 1-120Hz และรองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 165Hz สำหรับการเล่นเกม
และในส่วนระบบกล้อง ก็เรียกได้ว่าในที่สุดสมาร์ทโฟนสายเกมมีคุณสมบัติกล้องที่ครบถ้วน ด้วยการใส่เลนส์เทเลโฟโต้ 3x ความละเอียด 32MP f/2.4 มีระบบกันสั่แบบออพติคอล ส่วนกล้องหลักจะมีความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56 นิ้ว f/1.9 ใช้ระบบปกันสั่นไหวแบบไฮบริด 3.0 และสุดท้ายคือเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 13MP f/2.2 ครบถ้วนสมดุลในด้านการถ่ายภาพ
และสามารถติดตามรีวิว Asus ROG Phone 8 Pro ได้เร็วๆ นี้ครับ
ที่มา : GSMarena