ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาแล้วครับ กับ HUAWEI P20 และ HUAWEI P20 Pro ณ Grand Palais, Exhibition Hall and Museum Complex มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส และก็เป็นไปตามคาด HUAWEI P20 Pro ได้ปรากฏตัวจริงออกมาเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวตามข่าวลือ ซึ่งยังคงเป็นกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Leica และมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ที่นับเป็นสมาร์ทโฟนเจนเนอเรชั่นที่สองของ Huawei มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI
ซึ่งถ้าจะให้ย่อยสรุปจุดเด่นของ HUAWEI P20 Series ก็จะมีดังนี้ครับ
- นวัตกรรมกล้อง ช่วยเพิ่มความสามารถในการรับแสง เก็บรายละเอียดภาพได้มากขึ้น ให้ภาพสวยยิ่งกว่าเคย ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว จาก Leica ที่มาพร้อมกับระบบ Hybrid Zoom 5 เท่า ใน HUAWEI P20 Pro และกล้องคู่จาก Leica ใน HUAWEI P20 ที่พัฒนามาใหม่
- นวัตกรรม Master AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สำหรับการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ และ Huawei AIS (AI Image Stabilization) เทคโนโสยีป้องกันภาพสั่นไหวที่ควบคุมโดย AI
- ดีไซน์ขอบหน้าจอที่บางลง และสีสันสวยสะดุดตาที่แปลกใหม่ในรูปแบบของการไล่เฉดสีมีมิติ
- ประสิทธิภาพการทำงาน จากหน่วยประมวลผล Kirin 970 และหน่วยประมวลผลพิเศษ (NPU) ที่มาพร้อมกับ EMUI 8.1 และระบบปฏิบัติการ Android 8.1 ตัวล่าสุด ซึ่งรองรับระบบ Google Assistant
ตัวเครื่องภายนอก
HUAWEI P20 Series มาพร้อมกับสีสันและดีไซน์เด่นมากครับ ในสี Twilight และ Pink Gold จากการเคลือบ NVMC ซ้อนทับกันหลายชั้นใต้ฝาหลังที่ผลิตจากแก้ว จะหักเหแสงที่มาตกกระทบ ทำให้ได้เฉดสีที่เปลี่ยนไปมายามต้องแสง อีกทั้งสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นยังวางจำหน่ายในสี Black และ Midnight Blue ซึ่งเป็นตัวที่ผมได้มารีวิวอีกด้วย
HUAWEI P20 มีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว และ HUAWEI P20 Pro มีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว มาพร้อมกับขอบหน้าจอที่บางและมีอัตราส่วนหน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องที่กว้างขึ้น HUAWEI P20 Pro มากับแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับการชาร์จได้อย่างรวดเร็ว แรม 4GB รอม 128 GB ใช้หน่วยประมวลผล Kirin 970 ของทาง Huawei เองครับ
และที่สำคัญสุดในเครื่อง P20 Pro ก็คือเรื่องกล้องถ่ายภาพ ที่ขณะนี้ DxOMark จัดอันดับการถ่ายภาพของกล้อง HUAWEI P20 Pro และ Huawei P20 ไว้ที่ 109 และ 102 คะแนนตามลำดับ ซึ่งถือว่าสูงสุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนในตอนนี้แล้วครับ
เรื่องกล้องต้องร่ายคุณสมบัติกันยาวเลย
กล้องถ่ายภาพหลัง 3 ตัว ที่พัฒนาร่วมกับ Leica สำหรับ Huawei P20 Pro อีกทั้งให้ภาพที่มีจำนวนพิกเซลสูงที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย
- เซนเซอร์รับแสงแบบอาร์จีบี (RGB Sensor) ขนาด 40 ล้านพิกเซล
- เซนเซอร์รับแสงสีขาวดำ (Monochrome Sensor) ขนาด 20 ล้านพิกเซล
- เซนเซอร์รับแสงสำหรับการถ่ายภาพจากระยะไกลขนาด 8 ล้านพิกเซล (Telephoto Lens)
มีระบบการประมวลผลภาพและการสร้างโทนสีและอุณหภูมิของภาพถ่ายในเฉดสีเอกลักษณ์ของ Leica มีความกว้างรูรับแสงที่ f/1.8 1.6 และ 2.4 ตามลำดับ ทั้งยังใช้เลนส์ Leica รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบซูมแบบออพติคัลจาก Leica ที่มาก 3 เท่า (VARIO-SUMMILUX-H 1:1.6-2.4/27-80ASPH) และระบบซูมแบบไฮบริด 5 เท่า สำหรับการถ่ายภาพระยะไกล เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/1.7 นิ้ว (ประมาณ 7.76 x 5.82 มม.) และดัน ISO ได้ถึงระดับ ISO 102400
HUAWEI P20 Series รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 6 แกน (Six Axis) และการถ่ายวิดีโอในโหมด Slow Motion ที่ 960 เฟรมต่อวินาที
HUAWEI P20 Series ยังใช้หน่วยประมวลผล Kirin 970 ในการช่วยตรวจจับและวิเคราะห์ฉากหลังกว่า 500 แบบ และวัตถุต่างๆ ได้ถึง 19 ประเภท ปรับการตั้งค่าต่างๆ อัตโนมัติให้เหมาะสมกับวัตถุที่ถ่ายมากที่สุด
ระบบ HUAWEI AIS จะช่วยรองรับการถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืน ด้วยการถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงนานโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง คุณสมบัติใหม่ของกล้องจากหัวเว่ย คือระบบการจับโฟกัสตามวัตถุแบบ 4 มิติ (4D Predictive Focus) สามารถจับและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของวัตถุและจับโฟกัสได้โดยอัตโนมัติ
สำหรับกล้องหน้า HUAWEI P20 และ HUAWEI P20 Pro มีกล้องหน้าขนาด 24 ล้านพิกเซลพร้อมเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยแต่งภาพให้สวย และเทคโนโลยี 3D Portrait Lighting ช่วยถ่ายเซลฟี่ได้สนุกมากขึ้น
ราคาประกาศเป็นยูโร (ราคาไทยรอการประกาศจาก Huawei ประเทศไทยนะครับ)
สเปคเครื่องทั้งสามรุ่น HUAWEI P20/ HUAWEI P20 Pro และPORSCHE DESIGN HUAWEI MATE RS
สำหรับรีวิวเต็มๆ ของเครื่องทั้งในการถ่ายภาพและประสิทธิภาพการใช้งาน ก็ติดตามได้ใน AppDisqus เร็วๆ นี้นะครับ รวมทั้งราคาและโปรโมชั่นจำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งเชื่อว่าทาง Huawei ไทย ไม่ช้าแน่นอน ^^