OnePlus Nord CE 5G สมาร์ทโฟนระดับกลางที่กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยรุ่นล่าสุด ที่มาในสโลแกน “ประสบการณ์ที่ดีกว่า” ก็ตามสโลแกนครับ ด้วยความเป็นสมาร์ทโฟนในระบบ 5G ที่ออกแบบมาครบพร้อมในรอบด้านเลย เหมาะกับการใช้งานของกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียนและวัยเริ่มทำงาน หน้าจอสวย สเปคดี เล่นเกมลื่นครับ แบตอึดชาร์จไว และตัวเครื่องก็บางเบาสวยงามด้วยครับ
OnePlus Nord CE 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนจาก Nord ซีรี่ส์ของ OnePlus เป็นซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมากจากปีที่แล้ว โดยในรุ่น CE เป็นตัวที่ย่อมาจาก “Core Edition” หรือหมายถึง “แก่น” ที่สำคัญ
โดยฟีเจอร์ในรุ่นนี้ที่ OnePlus เลือกใส่เอาไว้คือสิ่งที่เขาคัดมาแล้วครับ ว่ามันจะเป็นฟีเจอร์ที่พัฒนาชีวิตและประสบการณ์การใช้งานในแต่ละวันของเราได้จริง ไม่ใช่แค่การโหมโฆษณาด้วยตัวเลขในด้านที่ลูกค้าไม่ได้ใช้งาน โดยเน้นไปที่ “แก่นแท้” ในการใช้งานจริงของผู้ใช้นั้นคือ
1. ชาร์จเร็ว ระบบ Warp Charge 30T Plus ถูกใส่เข้ามาในรุ่นนี้ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh ที่ใช้เวลาชาร์จจาก 0 ถึง 70% ในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง
2. จอภาพสวยงาม Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความคมชัด FullHD+ 2400 x 1,080 ให้ภาพสดใส สว่าง คมชัด และขอบจอที่เล็กมากสำหรับการควบคุมขนาดเครื่องให้พกพาง่ายๆ บางแค่ 7.9 มิลลิเมตร และหนักเพียง 170 กรัมเท่านั้นเอง
3. รองรับ 5G การเชื่อมต่อคือสิ่งสำคัญ ใส่ซิมพร้อมใช้งาน 5G ได้เลย รองรับสองซิมการ์ดใช้งาน 5G ได้ทั้งสองสล็อต
การใช้นหน่วยประมวลผลตัวแรงระดับกลาง Snapdragon 750G 5G ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อการเชื่อมต่อที่รองรับสัญญาณ 5G ได้แล้ว ยังรวมถึงประสิทธิภาพการใช้งานที่แรงเกินพอสำหรับวัยรุ่นด้วย โดยเฉพาะใน 750G ที่ตัว G บอกถึงหน่วยประมวลผลที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
แรมขนาดใหญ่ 8GB เยอะมากเพียงพอต่อการเข้าออกแอพพลิเคชั่นหรือเกมขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นเรื่องของประสิทธิภาพในการเล่นเกมไม่ต้องห่วงเลยครับ ไม่ต้องเป็นรุ่นใหญ่ราคาแพง แต่เจ้าตัวนี้ก็ให้ประสิทธิภาพในการใช้งานการเล่นเกมได้ลื่นไหล ทั้งด้านการประมวลผล ด้านภาพที่สวยงาม และการเชื่อมต่อที่รองรับสัญญาณ 5G ในตัวเดียวจบ แรง ครบ แบบงบประหยัดกว่า
OnePlus Nord CE 5G ยังคงคอนเซปงานออกแบบตัวเครื่อง ที่ต้องสวยดูดีในทุกรุ่น ใช้การออกแบบเครื่อง Premium Design ด้วยความบางเพียง 7.9 มม. และน้ำหนักที่เบาเพียง 170 กรัม เบาบางมากครับ จับเข้ามือใช้งานมือเดียวได้สบายๆ สำหรับผม และยังคงมีรูหูฟัง 3.5 มม. มาให้อีกด้วย
จะมีเข้ามาจำหน่าย 2 สีครับ ได้แก่สีดำ Charcoal Ink และสีฟ้า Blue Void ที่เห็นในบทความพรีวิวนี้ RAM 8 และ ROM 128 GB วัสดุตัวเครื่องเป็น AG Matte ผิวสัมผัสละมุนแบบพื้นผิวด้าน เวลาใช้งานจะไม่เกิดรอยนิ้วมือ สะท้อนเงาแสงคล้ายผิวโลหะผสมกระจกเวลาอยู่กลางแจ้ง แต่เวลาอยู้ในที่ร่มจะดูนิ่มนวลสีชัดขึ้น แตกต่างกันครับ ผมชอบสี Blue Void ตัวนี้มาก สวยงาม
ปกติวัสดุ AG Matte จะมีต้นทุนผลิตที่ราคาสูง ที่ผ่านมาจึงมักจะได้เห็นแค่ในรุ่น Flagship เท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าขึ้น ทาง OnePlus จึงเลือกนำมาใช้ในเครื่องระดับกลางตัวนี้ด้วย
กล้องถ่ายภาพของรุ่นนี้ให้กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ดีของ Sony IMX471 ส่วนกล้องหลังเป็นกล้องชุดสามตัว กล้องหลักความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 119 องศา 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Mono Lens สำหรับช่วยโฟกัส 2 ล้านพิกเซล
มี Smart scene recognition หรือตัว AI คอยช่วยตรวจจับและปรับแต่งโทนสีแสงให้เหมาะกับสิ่งที่ถ่าย มีฟังก์ชั่น HDR, ถ่ายภาพบุคคลละลายหลัง Portrait, Panorama, Pro Mode, มีโหมดถ่ายภาพนิ่งและวีดีโออีกเยอะครับ Super Slowmotion, Time-Lapse, กล้องถ่ายภาพกลางคืน Nightscape, กล้องระยะใกล้ Super Macro, ซึ่งเราจะเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากเครื่องจริงมาให้ดูกันในรีวิวของทาง Appdisqus เช่นเดิมนะครับ ติดตามราคา โปรโมชั่น และการทดสอบใช้งานในด้านต่างๆ จากทางเราได้เลย ไม่นานเกินรอครับ ^^
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีเคสใสลวดลายจาก OnePlus ที่ชาร์จ Warp Charge 30T Plus และสาย DATA USB Type C สีแดงสไตล์แบรนด์ 1+ มาให้ แต่จะไม่มีชุดหูฟังแถมมานะครับสำหรับรุ่นนี้
และจะแนะนำผู้ใช้ OnePlus ทุกท่าน รวมถึงผู้ที่ใช้ Nord CE 5G รุ่นนี้ด้วย ทางบริษัท OnePlus ได้มอบ After Service บริการหลังการขายที่ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาใช้บริการหลังการขาย ทั้งการซ่อมแซม เปลี่ยนอะไหล่ หรือตรวจเช็คสภาพเครื่อง ผ่าน OnePlus Service Center ที่ MBK Center ชั้น 5 และศูนย์บริการ OPPO Service Center ได้ทั่วประเทศเลยนะครับ ใกล้ที่ไหนไปที่นั้น หมดห่วงเรื่องศูนย์บริการได้เลยเมื่อใช้บริการศูนย์ของ OPPO ได้ด้วย ก็ครอบคลุมทั่วประเทศ
ทาง OnePlus ประเทศไทย จะจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน OnePlus Nord CE 5G Online Launch Event ในไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มิถุนายน 2564 เวลา 19.00 น. ผ่านทาง Facebook Fanpage: OnePlus Thailand >>> https://www.facebook.com/oneplusthailand/
เข้าไปติดตามกันได้เลยนะครับ ^^