OPPO R17 Pro สมาร์ทโฟนที่มีข่าวหลุดและลือออกมาเยอะพอตัวเลยครับ ในที่สุดชาวไทยก็ได้จับได้ลองตัวจริงกันสักที กับสมาร์ทโฟนกล้องสามตัวรุ่นแรก ของ OPPO
ต้องเกริ่นก่อนเลยว่า กล้องสามตัวของ OPPO R17 Pro ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนครับ กล้องหน้าความละเอียดสูงมาก 25 ล้านพิกเซล, f/2.0.
แต่กล้องหลังจะเป็น 12 ล้านพิกเซล ที่ใช้รูรับแสงคู่สองขนาด ที่จะปรับเองโดยอัตโนมัติได้ระหว่าง f/1.5 และ f/2.4 ทำงานคู่กับกล้องตัวที่สอง 20 ล้านพิกเซล f/2.6 และตัวสุดท้ายที่ชื่อจะแปลกหูกันแน่นอน กับกล้อง “เซ็นเซอร์ TOF 3D”
ชื่อนี้เป็นของใหม่เพราะกล้องตัวที่สามของ OPPO R17 Pro มันไม่ใช่กล้องสำหรับการถ่ายมุมกว้างหรือมุมแคบแบบที่เราเจอๆ กันครับ แต่มันคือกล้องที่มาพร้อมเซนเซอร์ภาพแบบ TOF ล้ำยุคล้ำหน้าไปไกลจนต้องขออธิบายกันในบทความแยกนี้ >>>(รู้จักระบบ TOF ของกล้อง OPPO R17 Pro <<<<)
ก็ย่อๆ ความสามารถของระบบกล้อง TOF ก็คือ การยิงแสงออกไปตรวจจับวัตถุคล้ายๆ กับระบบสแกนใบหน้า แต่ทว่าระบบสแกนใบหน้าแต่เดิมนั้นยังมีจุดอ่อนครับ เพราะว่ามันยิงแสงออกไปเป็นจุด (dot) 15,000 จุด
แม้จะยิงออกไปเยอะ แต่เมื่อวัตถุอยู่ในระยะไกล ทำให้ความหนาแน่นของเจ้า 15,000 จุดนั้น ต่ำลงมากครับ การวัดทรวดทรง ความลึกความตื้นของวัตถุ ที่มีระยะเกิน 1 เมตร ก็จะเพี้ยนได้โดยง่าย
แต่ระบบ TOF คือการยิงแสงออกไปเป็น “แผ่น” ออกไปคลุมวัตถุและตรวจจับความตื้นลึกหนาบ้างได้หมด นำมาทำการวิเคราะห์ขึ้นรูปแบบ 3D เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการถ่ายภาพนั้นเองครับ
ด้วยสเปคของกล้องรูรับแสง f1.5 และระบบ TOF ที่มีใน OPPO R17 Pro ทำให้คาดหวังกันไปได้เลยว่า กล้องกลางคืนมันเทพแน่ๆ ครับ ^^
และที่สำคัญ มันมาพร้อมกับโหมด Ultra night mode หรือการถ่ายภาพกลางคืนที่สุดยอดมาก ถือถ่ายมือเปล่าแต่ได้ภาพระดับเหมือนใช้ขาตั้งกล้องเลยครับ ซึ่งอยากให้ทุกคนรอดูความพิเศษของมันในรีวิวกันครับ ยอดเยี่ยมจริงๆ
ในส่วนอื่นๆ OPPO R17 Pro ก็สุดยอดครับ ด้วยแรมขนาดใหญ่ถึง 8GB และหน่วยความจำภายใน 128GB เรียกว่าสเปคเรือธงแบบเต็มตัว
รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual 4G , NFC, Bluetooth 5.0 อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ทั้งเคสใส ชุดหูฟัง พร้อมกระจกกันรอยติดมาให้ตั้งแต่แรก และที่ชาร์จแบบ SuperVOOC Flash Charge ผ่านพอร์ต USB Type-C 3.1 ครับ
หน้าจอยังรองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอเป็นเครื่องแรกของ OPPO (และระบบสแกนใบหน้า) แถมเป็นเครื่องแรกๆ ของโลกที่ใช้กระจกลิง (Gorilla Glass ) เวอร์ชั่น 6 แข็งกว่า Gorilla Glass 5 รุ่นเดิมถึงสองเท่า
ขนาดจอใหญ่ 6.4 นิ้ว มีติ่งเหลือนิดเดียว คิดเป็นเปอร์เซ็นหน้าจอต่อพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่องแล้ว ก็นับเป็นพื้นที่จอมากถึง 91.5% เลยครับ
หน่วยประมวลผลตัวใหม่สดกิ๊ง Snapdragon 710 ตัวระดับกลางแต่มาตรฐาน Hi-End ผลทดสอบการใช้งานและมาตรฐานความเข้ากันกับแอปพลิเคชั่นใช้งานในระบบ Android ไม่ต้องห่วงเลยเมื่อมาในชื่อของ Qualcomm
และผมยินดีเสนอให้ทุกคนรู้จัก “มือถือที่มีระบบการชาร์จพลังงานที่มีความไวสูงที่สุดในโลกครับ” เพราะ OPPO R17 Pro เป็นสมาร์ทโฟนซีรีย์ R ตัวแรก ที่มาพร้อมระบบชาร์จ SuperVOOC Flash Charge ชาร์จ 10 นาที แบตเตอรี่กลับมากว่า 40%!!!
แบตเตอรี่ OPPO R17 Pro มีขนาด 3,700 mAh ถือว่าใหญ่ไม่น้อย แต่ด้วยระบบการชาร์จแบบ SuperVOOC ที่ใช้เทคโนโลยีที่เราอาจจะเรียกกันง่ายๆ ว่า “แบตเตอรี่คู่” (1850 mAh + 1850 mAh = 3,500 mAh) พร้อมกับที่ชาร์จระดับ 50w ของ SuperVOOC Flash Charge ที่มีมาให้ในกล่อง
ทำให้ OPPO R17 Pro ชาร์จแบตเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงนั้นเองครับ
ซึ่งไม่ใช่ราคาคุย เสียบชาร์จโชว์กันให้เห็นเลยครับ เผลอแพร่บเดียวกลับมาดูแบตเต็มไปแล้วครับ แถมแทบไม่มีความร้อนเลยแม้แต่น้อย สุดยอดครับระบบ SuperVOOC Flash Charge
ที่ให้มานี่มันเกินกว่าเครื่องระดับเรือธงในหลายรุ่นไปแล้วครับ แถมตัวเครื่องก็สวยงามด้วยเหลือบสีม่วงไล่เฉดน้ำเงิน ในชื่อสี Radiant mist และสีที่ขรึมเข้มขึ้นสักหน่อย แบบ Emerald green
เข้าไทยสองสีนี้นะครับ ในระดับแรม 8GB รอม 128GB เท่านั้น ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 24,990 บาทครับ
โดยมีของแถมมูลค่า 9,200 บาท ซึ่งก็มีประกันจอแตกหนึ่งปี และขาตั้ง Tripod เปิดจองตั้งแต่ 17-30 พฤศจิกานี้
แต่จะมีราคาพิเศษที่ทำกับเครือข่าย AIS, Dtac และ True อยู่ที่ 9,990 บาทเท่านั้นครับ
ส่วนรีวิวแบบเต็มๆ ของ OPPO R17 Pro ก็ติดตามกันได้ที่ AppDisqus เช่นเดิมนะครับ รอกันไม่นานแน่นอน ^^