ASUS ROG Ally เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่รันด้วยระบบปฏิบัติการ Windows ออกแบบมาเพื่อใช้เล่นเกมบนแพลตฟอร์ม Windows ได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการใช้งานร่วมกับบริการสตรีมค่ายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Steam, Xbox Game Pass, Epic, หรือ GOG และอื่นๆ อีกทั้งหมด
เล็กแต่ทรงพลัง เล่นได้ทุกที่ สตรีมgd,ได้ทุกเวลา ด้วยอุปกรณ์เครื่องเกมพกพาเครื่องเดียว นี่คือแนวคิดหลักของอุปกรณ์ตัวนี้นั้นเองครับ
ROG Ally เป็นเครื่องเกมพกพาที่ออกแบบมาได้ดูดุดัน สวยงาม แต่เมื่อได้ถือจับเครื่องจริงจะนรู้สึกว่าตัวมันมีน้ำหนักที่เบากว่าที่ตาเราเห็นมากครับ น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 608g แต่ใช้การออกแบบกระจายน้ำหนักตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถจับถือได้สะดวก ตัวเบา ถือเข้ามือมากๆ ครับ
หน้าจอขนาดใหญ่ 7 นิ้วความละเอียด FHD (1920×1080) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz ขอบเขตสี 100% sRGB รองรับเทคโนโลยีป้องกันการฉีกขาดของภาพด้วย AMD FreeSync Premium ความสว่างหน้าจอ 500 nits เป็นจอที่รองรับการทัชสกรีนเต็มรูปแบบ สามารถทัชพร้อมกันได้มากถึง 10 จุด กระจกแข็งแกร่งเพื่อรองรับการพกพา ด้วยการใช้กระจก Corning Gorilla Glass Victus พร้อมกับเคลือบสาร Corning Gorilla Glass DXC เอาไว้อีกชั้นหนึ่ง เป็นการเคลื่อยกระจกจอเพื่อช่วยลดการสะท้อนของแสง เพิ่มความโปร่งใสของการแสดงผล ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกสภาวะแสงพร้อมกับเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหน้าจอไปด้วยพร้อมๆ กัน
ลำโพงคู่หน้า 2 ตัว Front Facing Speaker หันทิศทางลำโพงเข้าหาผู้ใช้โดยตรง เสียงดังกระหึ่มมีพลังสะใจมาก รองรับเทคโนโลยี Smart Amp และ Dolby Atmos ให้เสียงรอบทิศทางแบบ 5.1.2 แชนแนล พร้อมติดตั้งไมโครโฟน 2 ตัว เพื่อทำงานกับระบบการตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI noise-canceling technology) ตัว AI จะประมวลผลทั้งเสียงขาเข้าและขาออกเพื่อกรองเสียงรบกวนรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากตัวไมค์ จะได้ใช้ไมค์ในการโทร แชท และสตรีมโดยปราศจากเสียงรอบข้างรบกวนได้โดยไม่ต้องต่อไมค์เสริมภายนอก
ปุ่มกดต่างๆ ออกแบบมาได้ตามหลักสรีรศาสตร์ ไม่ปวดแขน ไม่เมื่อยนิ้ว ออกแบบปุ่ม A / B / X / Y มาในลักษณะปุ่มทรงโดมแบนทำให้กดได้ง่าย มีคันโยก Joysticks ที่สามารถปรับแต่งความไวและองศาการขยับได้โดยละเอียด ปรับแต่งได้ตามความถนัดของแต่ละบุคคลกันเลยครับ ผู้ใช้สามารถปรับ dead zone และขนาดวงรอบของก้านควบคุมได้เป็นโพรไฟล์ไว้แบบเกมต่อเกม ต้องการให้คันโยกมีความไวเท่าไหร่ องศาการโยกกว้างหรือแคบแค่ไหน เป็นการปรับตั้งค่าละเอียดเพื่อที่จะได้การควบคุมที่เหมาะสมกับเราได้มากที่สุด
เพิ่มเติมไว้ด้วยความสวยงามของไฟ RGB Aura Sync ที่ฐานของ Joysticks ทั้งซ้ายและขวา และแน่นอนว่ามันสามารถปรับแต่งสีสันและรูปแบบการแสดงสีของไฟได้ เหมือนเช่นอุปกรณ์เกมมิ่งของ ROG ตัวอื่นๆ ได้ครับ
ด้านบนเป็นปุ่ม Trigger ซ้ายและขวา ออกแบบกดง่ายเหมือนไกปืน มีความไวต่อการสัมผัสสูงมาก แม้แต่แรงกดเพียงเล็กน้อยตัวปุ่มก็สามารถรับรู้ได้อย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์แม่เหล็ก และเซนเซอร์เหล่านี้ก็ถูกออกแบบให้มีความทนทานสูง จะไม่สึกหรอไปง่ายๆ เป็นประสบการณ์การออกแบบและการผลิตจากแบรนด์เกมมิ่งตัวตึงอย่าง ROG นั้นเองครับ
ด้านหลังเป็นปุ่ม Macro keys (M1 & M2) สามารถกดได้ง่ายด้วยปลายนิ้วกลาง
โดยตัวระบบปฏิบัติการจะใช้ Windows 11 แบบเต็มรูปแบบ การทำงานโดยรวมจะเสมือน PC เครื่องหนึ่งตามปกติ แต่จะมีโปรแกรม Armoury Crate SE ที่เพิ่มเติมเข้ามาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการจัดการตัวเครื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นเกมทั้งหมดของเครื่องด้วย ช่วยให้ผู่ใช้สามารถเข้าถึงเกมทั้งหมดจากทุกสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเกมจาก Steam, Xbox Game Pass, Epic, GOG หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจากนั้นแล้วยังให้คุณสามารถทำการตั้งค่าปุ่มต่างๆ, รีแมปปุ่ม,ตั้งค่า Macro keys หรือปรับแต่งแสงไฟ Aura Sync ได้เองอิสระจากในโปรแกรมเดียวทั้งหมด
และผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งระดับการสั่นของระบบสั่นสมจริง Haptic ได้ใน Armoury Crate SE อีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว Ally ยังรองรับการใช้ gyro sensor เพื่อการควบคุมเกมแบบที่ใช้การเคลื่อนไหวและการหมุน บนเกมและแอปพลิเคชันที่รองรับได้ด้วยนะครับ เรียกว่าใส่มาครบทุกองค์ประกอบ เหมือนเป็นอุปกรณ์ Windows แบบพกพา + ที่รวมคอนโทรลเลอร์สำหรับการควบคุมขั้นเทพ รวมกันไว้อยู่ในตัวเดียวเลยครับ
และด้วย ROG Ally ถูกออกแบบมาในรูปทรงของเครื่องเกมพกพา ฉะนั้นมันจึงได้มีการติดตั้งปุ่มเสริมพิเศษ ซึ่งเป็นปุ่มลัดสำหรับเพิ่มความสะดวกในการใช้งานระหว่างการเป็นเครื่องเกม และการเป็นอุปกรณ์ Windows 11 เอาไว้ด้วย เช่น
มีปุ่มพาวเวอร์ที่จะทำงานร่วมกับ Windows Hello เป็นจุดสแกนนิ้วเข้าใช้งานได้ในตัว มีปุ่มกดเพิ่อเรียกใช้ Armoury Crate SE ได้ในคลิ๊กเดียว หรือปุ่มกดเรียกใช้ Cpmmand Center ที่เป็นหน้าศูนย์รวมคำสั่งด่วนที่เราตั้งค่าไว้ล่วงหน้าได้เป็นต้น
โดยรวมแล้วการใช้งาน ROG Ally จะมีความสะดวกมาก ถูกออกแบบให้เราสามารถควบคุม เรียกใช้ และสลับการทำงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมภายนอกเลยนั้นเองครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ROG Ally ยังคงมีพอร์ตสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก เพื่อเสริมประสิทธิภาพการใช้งานได้มากขึ้นไว้ด้วย เช่น ช่องเสียบ microSD (รองรับชนิด UHS-II) เพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บบนมาตรฐานความเร็วสูง, รูหูฟัง 3.5มม. สำหรับการเชื่อมต่อระบบเสียงภายนอกเช่นหูฟังหรือเครื่องเสียง
และที่เด็ดที่สุดคือช่องเชื่อมต่อ ROG XG Mobile ที่บริเวณขอบด้านบนของเครื่อง โดยอุปกรณ์ ROG XG Mobile ที่เราสามารถซื้อเพิ่มเพื่อเอามาเชื่อมต่อนั้น จะเป็นอุปกรณ์กราฟิกการ์ดแบบต่อแยกภายนอก (eGPU) นำมาเสริมความแรงให้กับ Ally ได้ โดยจะมีตัวเลือกความแรงระดับสูงสุดในระดับการ์ดจอ RTX 4090 เสริมความแรงขึ้นไปเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกปรับตั้งค่ากราฟิกเกมได้สูงอย่างใจต้องการได้
นอกจากนั้นแล้วตัว ROG XG Mobile จะยังทำหน้าที่เป็น hub สำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ ออกไปได้อีก ไม่ว่าจะเป็น เม้าส์, คีย์บอร์ด, หรือต่อหน้าจอแยกภายนอก เป็นอุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนเครื่อง ROG Ally ให้กลายเป็น PC Desktop ที่ทรงพลังอย่างมากได้นั้นเองครับ
(ROG XG Mobile จำหน่ายแยกต่างหาก ข้อมูลเพิ่มเติม : https://rog.asus.com/th/external-graphic-docks/rog-xg-mobile-2023-model/)
แต่แค่ลำพัง ROG Ally ก็มีความแรงมากพอตัวอยู่แล้ว มันถูกขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดของ AMD เป็น Ryzen Z1 Extreme APU ใช้สถาปัตยกรรมแบบ Zen 4 และกราฟิก RDNA 3 รองรับเทคโนโลยี FidelityFX Super Resolution (FSR) เทคโนโลยีอัปสเกลที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพในเกมต่างๆ ด้วยการเพิ่มความละเอียดให้สูงขึ้นโดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพในการประมวลผล
ใช้ RAM แบบ LPDDR5 ที่มีบัสความเร็วสูง 6400MHz ขนาดใหญ่ 16 GB หน่วยจัดเก็บความจำ PCIe Gen 4 SSD M.2 2230 เบื้องต้นติดตั้งขนาดความจุ 512 GB เอามาให้ แต่สามารถถอดอัปเกรดได้เองง่ายๆ หากต้องการขนาดความจุที่มากขึ้น
ในด้านระบบระบายความร้อน ใช้การออกแบบใหม่ Zero Gravity Cooling ระบบระบายความร้อนที่อาศัยแรงโน้มถ่วงในการทำงานของพัดลม และรักษาระดับของเหลวที่อยู่ภายในฮีทไปป์ให้ยังหมุนเวียนความร้อนออกจากระบบได้สม่ำเสมอ แม้ว่าจะใช้งานในขณะที่ถือแนวตั้ง วางหงาย หรือคว่ำเครื่องอยู่ก็ตาม โดยจะทำงานร่วมกับพัดลมระบายความร้อน 2 ตัวที่ออกแบบเป็นพิเศษ ให้การหมุนของพัดลมทำงานได้เต็มที่ในทุกองศาของการถือเครื่องด้วยเช่นกัน และยังมี Dust Filter แผ่นกรองฝุ่นติดตั้งเอาไว้ ไม่ให้ฝุ่นเข้าไปในระบบได้โดยง่าย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องพกพาไปไหนต่อไหนภายนอกอาคาร ก็ต้องมีการป้องกันที่ทำมามากกว่าปกตินั้นเองครับ
ตัวแบตเตอรี่ภายในใส่มาให้ 40Wh รองรับการชาร์จด้วยอะเดปเตอร์ 65W PD ที่แถมมาให้ภายในกล่อง รองรับระบบ pass through charging จ่ายไฟเข้าเครื่องโดยตรงไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่เพื่อลดการเกิดความร้อนและรักษาอายุการใช้งานของแบตได้มากขึ้นด้วยครับ
ROG Ally เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการรับประกันแบบ Global warranty ไม่ว่าจะซื้อจากที่ไหนก็สามารถส่งเข้าศูนย์ได้ทุกที่ทั่วโลก โดยจะได้รับการประกันยาวนานถึง 2 ปีเต็ม เข้าศูนย์ ASUS ได้กว่า 84 ประเทศทั่วโลก ฉะนั้นใครที่สนใจไม่จำเป็นต้องรอซื้อเครื่องของศูนย์ไทยเลยครับ เพราะทาง ROG ประเทศไทยยังไม่มีการประกาศหรือยืนยันวันวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการออกมาในขณะนี้
โดย ROG Ally จะมาพร้อมสิทธิพิเศษ รับสมาชิก Xbox Game Pass Ultimate เอาไปให้ใช้โหลดเล่นเกมได้ยาวๆ 90 วัน มีราคาจากหน้าร้านค้าเมืองนอกอยู่ที่ 599$ สำหรับรุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Ryzen Z1 ตัวปกติ และราคา 699$ สำหรับรุ่นที่ใช้ Ryzen Z1 Extreme ซึ่งเป็นตัวท็อปของซีรี่ส์ครับ