พรีวิวลองใช้ Samsung Galaxy Note 7 กันน้ำ สแกนม่านตา ปากกาดีขึ้น พร้อม USB type-C แค่นี้ก็กลับมาเป็นที่สุดได้อีกครั้ง
ถึงฤกษ์จุติ Galaxy Note 7 ตามกำหนดการ ข้ามชื่อจาก Note 5 ก็มา Note 7 เลยครับ มือถือท็อปตัวจริงจากแบรนด์ Samsung และน่าจะยกให้เป็น อันดับหนึ่งของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ได้ด้วยในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย ประสิทธิภาพ และความสามารถ เพราะ Samsung ใส่เทคโนโลยีต่างๆ เขามีเข้ามาให้อย่างเต็มที่ไม่มีกั๊ก และแน่นอนในประเทศไทย รอกันไม่นานครับ ซึ่งตอนนี้ก็ได้ข้อมูลมาแน่นอนแล้วว่า จะมีการนำเข้ามาจำหน่ายก่อนสามสี นั้นคือสีเงิน สีทอง และสีดำ ส่วนสีฟ้าจะตามมาในอนาคตครับ
Samsung Galaxy Note 7 เป็นเครื่องหน้าจอขนาด 5.7 นิ้วครับ ขอบจอโค้งลงทั้งสองข้าง ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่ไปกว่าเครื่องหน้าจอ 5.5 นิ้วมากนัก เพราะการออกแบบที่แทบจะไร้ขอบเครื่อง
สำหรับเครื่องระดับ Galaxy Note คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องสเปคมากนัก ประสิทธิภาพระดับสูงสุดๆ และน่าเกินพอสำหรับการทำงานได้ทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเลยครับ ขอข้ามไปพูดเรื่องสิ่งที่เพิ่มเข้ามา และจะดูเป็นประโยชน์มากขึ้นกว่ารุ่นเดิม เช่นเรื่องของการ “กันน้ำ” ตามมาตรฐาน IP68 แบบเดียวกันกับเครื่อง Galaxy S7 นั้นเองครับ
สำหรับการกันน้ำของ Galaxy Note 7 กันน้ำได้ลึกเมตรครึ่ง นานครึ่งชั่วโมง ประกอบกับการทำงานของปากกา S-pen ที่สามารถใช้งานได้ใต้น้ำอีกด้วย เพื่อใครที่ต้องการอยากจะไปวาดรูปใต้น้ำ หรือจะเขียน SMS ขอความช่วยเหลือจากใต้บาดาล ^^ (เผื่อๆ ไว้ไง) แต่นั้นหมายถึงการใช้ S-Pen ควบคุมกล้องขณะถ่ายภาพใต้น้ำได้ด้วยนะอย่าลืม อันนี้มีประโยชน์จริง
S-Pen เองก็มีการพัฒนามากขึ้นครับ Samsung ทำให้หัวปากกาของ S-pen เล็กลงได้อีกขั้น เทียบเท่ากับขนาดหัวปากกาจริง ความละเอียดของความแม่นยำก็สูงขึ้น จากการทดสอบใช้งานของคุณ Cherry Cola รับประกันกับเราเลยว่า เขียนลื่น เส้นแม่น หัวปากกาเล็กลงส่งผลให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการเขียนการวาดเหมือนปากกาจริงมากครับ
ตัวปากกาสามารถเขียนหน้าจอขณะที่เปียกน้ำได้ครับ (ดำไปเขียนใต้น้ำยังได้เลยนะ) และมีฟังชั่นเพิ่มเติมจากเดิมหลายอย่าง ที่เด็ดๆ ก็จะเป็นการแปลภาษาจากอักษรที่เลือกบนหน้าจอได้โดยตรงครับ
Galaxy Note 7 มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนพอร์ตใต้เครื่องให้กลายเป็น UCB Type-C เครื่องแรกของแบรนด์ Samsung มันส่งผ่านข้อมูลต่างๆ ได้ไวขึ้น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้มากกว่าเดิม และด้วยรูปลักษณ์ของพอร์ต USB Type C ที่สามารถเสียบสลับได้ทั้งด้านบนด้านล่าง ก็จะง่ายกว่าสำหรับการเสียบชาร์จไฟในที่มืดหรือตอนกลางคืน ซึ่งตัวแบตเตอรี่ของ Galaxy Note 7 รองรับระบบการชาร์จไวและการชาร์จแบบไร้สายด้วยครับ
ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้กับสาย USB เดิมๆ ที่เรามีอยู่ไม่ได้นะครับ เพราะทาง Samsung แถมมาให้ด้วยสำหรับตัวแปลงพอร์ต จาก USB Type-C ให้กลายเป็น Micro USB แบบเดิมๆ ที่เราใช้กันมา
เรื่องที่สามที่อยากพูดถึง ก็เป็นเรื่องที่ Galaxy Note 7 เพิ่มระบบสแกนม่านตาเข้ามา Iris Scanner เราสามารถใช้ตาของเราปลดล็อกเครื่องได้เหมือนดังเช่นลายนิ้วมือ เพิ่มรูปแบบการปลดล็อกแบบใหม่ ซึ่งจากที่ทดสอบใช้ มันฉับไวมากครับ บางครั้งยังแบบสงสัยว่า มันเจอตาเราไปตั้งแต่ตอนไหน เหมือนยกเครื่องขึ้นมาก็เข้าหน้าการใช้งานได้ทันที
ระยะสแกนที่ได้ผลดีก็ประมาณหนึ่งไม้บรรทัด สแกนในที่แสงน้อยได้ ใส่แว่นตาหรือคอนเทคเลนส์ก็สแกนได้ครับ แม้ตัวเครื่องจะเตือนเราไว้ว่าไม่ควรใส่แว่นในขณะสแกนครับ
เพราะสิ่งที่ Samsung เน้นมากในช่วงหลัง คือความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เครื่อง และเทคโนโลยีปลดล็อกพวกนี้ถูกใส่เข้ามาเพื่อนำไปใช้กับฟังชั่นโฟลเดอร์ส่วนตัวที่เราไม่ต้องการให้ใครเข้าถึงเป็นต้นครับ
นี่คือหลักๆ ที่เราย่อยให้ก่อนสำหรับสิ่งสำคัญที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Samsung Galaxy Note 7 ยังมีรายละเอียดและสิ่งที่สนใจอีกมากมาย เพราะเจ้า Galaxy Note 7 เป็นเครื่องที่ฟลูฟังชั่นที่สุดแล้วละครับสำหรับสมาร์ทโฟนระบบ Android ในขณะนี้
แต่เจ้า Galaxy Note 7 ก็ไม่ได้เปิดตัวออกมาเพียงลำพังนะ มันมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม Gear VR รุ่นใหม่ที่พัฒนามากกว่าเดิม เพิ่มเติมปุ่มควมคุม “ปุ่มโฮม” เข้ามา เพื่อให้กลับมายังหน้าแรกขณะใช้งานได้ง่ายกว่า ปรับเลนส์ให้ใหญ่ขึ้นและการขยายภาพให้น้อยลงเพื่อความคมชัดครับ และสามารถใช้งานได้ทั้งอุปกรณ์ Galaxy ใหม่อย่าง Galaxy Note 7 และอุปกรณ์ Galaxy รุ่นใหญ่ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ด้วยพอร์ตเชื่อมต่อที่เปลี่ยนได้ระหว่าง USB Type C และ Micro USB
ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ทาง Samsung พัฒนาออกมาเพื่อ Galaxy Note 7 อีกหลายตัวครับ ซึ่งที่ผมได้ลองจับลองดูก็จะมีเคสสวมใส่หลายๆ แบบครับ รวมถึงเคสที่เป็นแบตเตอรี่เสริมภายในตัว และเคสที่สามารถสวมใส่เลนส์กล้องเพิ่มเติมเข้าไปได้ ซึ่งจะมีทั้งเลนส์เทเล และเลนส์ไวด์ มาให้ใช้งานสองแบบด้วยกัน
Samsung Galaxy Note 7 เป็นเครื่องที่รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดนะครับ ในถาดซิมการ์ดที่สองต้องเลือกใช้ระหว่างจะใส่ซิมหรือจะใส่เป็น Micro SD card เพิ่มเติม
ส่วนราคา ก็ 28,900 บาท และเปิดจองวันที่ 5-14 สิงหาเป็นครับ สำหรับรีวิวแบบเต็มๆ สามารถติดตามได้ที่ Appdisqus เช่นเคยครับ