Galaxy S24 FE น้องใหม่! ราคาเบาลงแต่ได้ประสบการณ์ของเรือธง Samsung มาครบ! ทั้งการรองรับการถ่ายวีดีโอ 8K พร้อมมี Galaxy AI ที่ทำงานได้ทุกฟังก์ชั่นไม่ต่างจากรุ่นพี่ และยังมีความสามารถในการภาพซูมไกล 30X
เปิดราคาออกมาให้เข้าถึงได้ง่าย ด้วยราคาประมาณสองหมื่นต้นๆ เท่านั้นครับ
Galaxy S24 FE ถูกวางมาให้เป็นสมาร์ทโฟนแฟลกชิปของ Samsung ที่มีราคาจำหน่ายสบายกระเป๋ามากที่สุด เพราะจากคำนิยามของ FE ไม่ไช่แปลได้แค่ว่า “Fan Edition” แต่ยังสื่อถึงคำว่า “Flagship Experience” ได้ด้วย หรือหมายถึงเครื่องรุ่นนี้จะให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเครื่องแฟลกชิปแก่ผู้ใช้ได้นั้นเองครับ
ผู้ใช้ Galaxy S24 FE จะได้รับความสามารถที่สำคัญอย่าง Galaxy AI เอามาใช้ได้อย่างสมบูรณ์เหมือนเครื่องรุ่นใหญ่ทุกฟีเจอร์ ทั้งล่ามแปลภาษา, การสรุปเนื้อหา, การแต่งรูป, ลบรูป ที่ไม่ใช่จำกัดแค่การลบภาพคน และ Circle to Search ที่พร้อมใช้
รวมถึงฟังก์ชั่นใหม่อย่าง Sketch to Image, และผู้ช่วยเขียน Composer ก็สามารถใช้งานได้ด้วยเช่นกัน ทุกอย่างมีครบใน Galaxy S24 FE แบบไม่ต้องห่วงว่าจะน้อยหน้ารุ่นใหญ่ตัวไหนเลยครับ
Sketch to Image อยากวาดอะไรก็วาด วาดด้วยลายเส้นเด็กแบบง่ายๆ แล้วตัว AI จะทำการสร้างวัตถุนั้นขึ้นมาตามสีปากกาที่เราวาดลงไปให้เอง เราลองมาวาด “น้องหมูเด้ง” กันดีกว่า ^^
ลบบุคคลหรือวัตถุ หรือนำวัตถุในภาพออกมาทำเป็นสติ๊กเกอร์ สามารถใช้งานได้ครบทั้งหมด
ซึ่งในวันนี้ Galaxy AI ยังคงเป็นระบบ AI เพียงเจ้าเดียวที่รองรับการใช้งานในภาษาไทยได้แล้ว และมีความสมบูรณ์ในการใช้งานมากที่สุดในวงการสมาร์ตโฟน ณ ปัจจุบันนี้ครับ
ตัวเครื่องของ Galaxy S24 FE ให้ฟิลลิ่งแบบเครื่องระดับสูงครับ แม้จะใช้การออกแบบที่ดูเรียบง่าย แต่แน่นหนาครับ ถือจับแล้วรู้สึกได้เลยด้วยน้ำหนักตัวเครื่องและงานประกอบ โครงเครื่องเป็นโลหะรู้สึกแข็งแกร่ง ใช้กระจกจอ Gorilla Glass Victus+ ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 (ทนน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นาน 30 นาที)
ขอบเครื่องตัดเหลี่ยม หน้าจอแบน ขนาดจอแสดงผล 6.7 นิ่ว Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด FullHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างหน้าจอ 1900nits รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอโดยตรง ฝังกล้องหน้า 10MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้
และให้ลำโพงคู่สเตอริโอมาครับ ฉะนั้นในเรื่องของระบบเสียงและจอภาพถือว่าครบ แต่จะไม่มีรูหูฟังบนตัวเครื่อง โดยทาง Samsung มีการนำเข้ามาในไทยสามสี มี สีดำ Graphite, Mint และ สีฟ้า Blue
รองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด และสามารถลงทะเบียนใช้ eSim ได้ด้วยครับ แต่จะไม่รองรับการใส่ microSD Card เพิ่มเติม แบตเตอรี่ภายในขนาด 4700mAh รองรับการชาร์จ 25W, PD3.0, และรุ่นนี้รองรับระบบชาร์จไร้สายได้ที่ 15W ด้วยนะครับ
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว เป็นกล้องความละเอียด 50MP ทำงานกับเลนส์มุมกว้าง 12MP และสุดท้ายคือเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8MP รองรับการซูมภาพแบบ Optical ได้ที่ 3X และสามารถซูมภาพแบบดิจิทัลได้สูงสุดที่ 30X โดยจะมีระบบล็อคภาพเป็นกันสั่น OIS ที่จะทำงานให้อัตโนมัติเพื่อการถ่ายซูมระยะไกลได้ง่ายขึ้น
ที่สำคัญคือกล้องของ Galaxy S24 FE สามารถถ่ายวีดีโอและรองรับฟังก์ชั่น AI ของเรือธงอย่าง Instant slow-mo ด้วยนะครับ แค่กดค้างไว้ตอนเล่นวิดีโอที่ถ่ายมา ก็จะเป็นการสร้างวีดีโอแบบ Slow-Motion ได้ตามช่วงเวลาที่เรากดลงบนวีดีโอได้ทันทีเลยครับ
และยังสามารถถ่ายในความละเอียดสูงสุดที่ 8K เลยครับ ซึ่งความสามารถในการถ่ายวีดีโอระดับ 8K มักจะมีแค่ในรุ่นระดับเรือธงเท่านั้น เพราะต้องอาศัยประสิทธิภาพจากชุดประมวลผลที่ต้องแรงมากพอเพื่อมารับหน้าที่นี้นั้นเอง ทำให้สามารถถ่ายแล้วนำมาครอปใช้บางส่วนในภายหลัง เทียบภาพวีดีโอหลังขยายแล้ว คมชัดกว่าการถ่าย 4K ชัดเจนเลยทีเดียว
โดยชุดประมวลผลใน Galaxy S24 FE จะใช้ชิปเซ็ตเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร Samsung Exynos 2400e ซึ่งเป็นชิปเซ็ตแบบ 10 core ตัวใหม่ ที่มีความใกล้เคียงกับ Exynos 2400 ที่ถูกใช้ใน Galaxy S24 และ Galaxy S24+ แต่จะมีความต่างเพียงเล็กน้อยในความเร็วของคอร์หลักเพียงคอร์เดียว ที่ลดลงจาก 3.2GHz มาอยู่ที่ > 3.11GHz ส่วนคอร์ที่เหลืออีก 9 คอร์จะมีความเร็วเท่ากันทั้งหมด (2.9GHz x 2 core, 2.6GHz x 3 core, และ 1.95GHz x 4core) ฉะนั้นในด้านความแรงอาจจะบอกได้ว่าแรงเท่าๆ กับ Galaxy S24 และ Galaxy S24+ ก็ได้ครับ
ในเมืองไทยนำเข้ามาจำหน่ายในรุ่น RAM 8GB/128GB และ 8GB/256GB (สามารถขยาย RAM ออกได้อีกสูงสุด 8GB) รันด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย OneUI 6.1
และเรามีโอกาสได้เห็นภายในตัวอุปกรณ์ของ Galaxy S24 FE และได้เห็นขนาดของชุดระบายความร้อน Vapor Chamber ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ซึ่งมันมีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นตัวท็อปอย่าง Galaxy S24 Ultra ซะอีกนะครับ ทำให้ชุดระบายความร้อนในตัว FE รุ่นนี้มีขนาดใหญ่มากที่สุดแล้วในสมาร์ตโฟนของ Samsung ทำให้เครื่องมีความเย็น และจะส่งผลให้เวลาทำงานจะทำได้เต็มที่ ไม่ถูกลดประสิทธิภาพลงเพราะเรื่องความร้อน
Samsung Galaxy S24 FE เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยสามสี ได้แก่ สีดำ Graphite, สีเขียว Mint และ สีฟ้า Blue ในราคา 22,900 บาทสำหรับรุ่น 8GB+128GB และราคา 25,900 สำหรับรุ่น 8GB+256GB