หลังจากที่ผมกลับมาจากเชียงใหม่ก็รีบมาปั่นให้เพื่อนๆได้อ่านพรีวิวของเจ้า Samsung Gear S กันนะครับโดยงานนี้ทาง Samsung ได้จัดงานเปิดตัวอุปกรณ์ Wearable อัจฉริยะรุ่นล่าสุด Samsung Gear S ซึ่งพัฒนามาจนถึงขั้นสามารถใส่ซิมได้ รองรับ 3G 900/2100 โดยมาพร้อม Design เหมือน Samsung Gear Fit แต่มีขนาดหน้าจอที่สั้นกว่าและใหญ่กว่าว่าไปก็ดูเหมือน Gear Fit ผสมกับ Gear 2 เลยละครับ หน้าตาสวยมาก สามารถเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายๆเหมือนกับ Gear Fit ซึ่งเจ้า Gear S จะมาพร้อมสายโทรศัพท์สวยๆจากแบรนด์ดังต่างๆนำมาขายใน Samsung Shop แน่นอนครับไม่ว่าจะเป็น Diesel หรือ Swarovski ถูกใจสาวๆและหนุ่มๆที่รักในแฟชั่นแน่นอน สนใจกิจกรรมที่ผ่านมาครั้งนี้สามารถติดตามได้จาก #GearSTrip กันได้นะครับงานนี้มีสื่อมวลชนและ Blogger ชื่อดังไปร่วมงานกันหลายท่านเลยละครับ
สเปคของ Samsung Gear S
สามารถใส่ซิมการ์ดได้ (Nano SIM) รองรับ 3G 900/2100
สามารถโทรออกและรับสายได้ด้วยตัวเอง
ขนาดตัวเครื่อง 39.8 x 58.3 x 12.5 มม.
สามารถเปลี่ยนสายได้
รองรับมาตราฐานกันน้ำและกันฝุ่น IP67
มาพร้อมเซนเซอร์ Accelerometer, Gyro, Proximity, Compass, Heart Rate, Barometer, UV Light
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 2 นิ้วความละเอียด 360 x 480 pixels (300 ppi)
Tizen-based wearable platform
CPU MediaTek MT6582 Quad Core 1.3 GHz
GPU Dual Core 1.0 GHz
RAM 512MB
หน่วยความจำภายใน 4GB
Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1, GPS+GLONASS
แบตเตอรี่ความจุ 300 mAh
ราคาเปิดตัว 11900 บาท
ตัวเรือนของ Samsung Gear S จะเป็นพลาสติคและโลหะ (ขอบกระจกจะเป็นโลหะส่วนตัวเรือนจะเป็นพลาสติค) โดยจะมีให้เลือก 2 สีได้แก่สีขาวและสีดำ หน้าจอโค้งมีขนาดใหญ่มาก บางคนบอกว่าใหญ่ไปแต่ผมว่าโอเคเลยนะผมชอบนาฬิกาหน้าปัดใหญ่ๆอยู่แล้วครับ และหน้าจอใหญ่แบบนี้สิถึงจะใช้งานได้สะดวกเพราะมันเป็น Smartwatch ระบบสัมผัสหน้าจอด้วยแล้ว หน้าจอยิ่งใหญ่ยิ่งช่วยให้ใช้งานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น สำหรับหน้าจอของ Samsung Gear S จะเป็นหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 2 นิ้วความละเอียด 360 x 480 pixels (300 ppi) ดูคม สีสด สวยมากๆครับ ผมเห็นแล้วชอบเลยละ
สายของ Samsung Gear S จะเป็นยางครับถอดเปลี่ยนง่ายๆเหมือนกับ Samsung Gear Fit ผมว่าสีขาวดูสกปรกง่ายนะ สีดำดูจะรักษาความสะอาดง่ายกว่า แต่หลายๆคนก็บอกว่าชอบสีขาวครับเพราะว่าสวยดี (แต่ถ้าผมซื้อจะเอาสีดำนะ ส่วนสายโทรศัพท์มีจำหน่ายแยกแน่นอนครับ แถมมีระดับแบรนด์เนมชื่อดัง ก็จะนำเข้ามาขายด้วยนะ)
สำหรับระบบภายในของ Samsung Gear S จะเหมือน Samsung Gear 2 ครับโดยจะเป็นระบบ Tizen การใช้งานลื่นไหลดีมากและเข้าใจง่าย สามารถเปลี่ยนรูปแบบนาฬิกาได้มากมาย การใช้งานเมื่อเลื่อนลงมาจะเป็นในส่วนของการตั้งค่าพื้นฐานเช่นความสว่างหน้าจอ, ความดังของเสียง, การโอนสาย และโหมดห้ามรบกวน
เมื่อเลื่อนขึ้นไปจะเป็นเมนูการใช้งานต่างๆเช่นการโทร, รายชื่อ, ข้อความ, อีเมล์, ปฏิทิน, การตั้งค่า, S Health, Nike+ Running, Here for Gear เป็นต้น
เมื่อเลื่อนไปทางขวาจะเป็นส่วนของการแจ้งเตือนต่างๆ
เมื่อเลื่อนไปทางซ้านเป็นการการเปิดฟังก์ชั่นต่างๆผ่าน Widget
ระบบ Tizen เวลาจะลงแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมสามารถลงได้อย่างง่ายๆผ่านโทรศัพท์ Smartphone โดยต้องลงแอพพลิเคชั่น Gear Manager ก่อนนะครับรวมทั้งการจัดการต่างๆด้วย
จุดน่าสนใจ S Health นอกจากจับการวิ่งและ Heart Rate แล้วยังสามารถตรวจวัดค่าความเข้มของรังสี UV ได้ด้วยนะครับ และจะมีการแนะนำว่าเราควรใช้คลีมกันแดดที่มีค่า SPF ขนาดไหนนอกจาก S Health ยังมาพร้อมแอพพลิเคชั่นออกกำลังกายชื่อดังอย่าง Nike+ Running ติดตั้งมาให้ด้วย
สำหรับในงานการออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬา เคยมีเพื่อนๆ Blogger บอกว่า Samsung Gear S หน้าจอดูใหญ่เกินไปที่จะนำไปใช่ในกิจกรรมเหล่านั้นเพราะมันเสี่ยงที่หน้าจอจะแตกได้ แต่เท่าที่ผมลองสวมใส่ดูมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นนะ ดูแล้วไม่น่าจะกระแทกอะไรจนแตกง่ายๆครับ ดูแข็งแรงในระดับนึงเลยละ แถมกันน้ำกันฝุ่น IP67 ด้วยตัดปัญหาเรื่องเหงื่อและฝุ่นไปได้เลย
และแอพพลิเคชั่นแผนที่และนำทางชื่อดังอย่าง Here ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นของ Nokia หลังจากที่ขายกิจการบางส่วนให้กับ Microsoft แล้วตอนนี้ก็ต้องเริ่มเดินหน้าต่อไปกับธุรกิจที่เหลืออยู่ โดยล่าสุดได้พัฒนา Here for Gear ขึ้นมาครับรวมทั้งมีบนมือถือระบบ Android ของ Samsung ก็จะมี Here Maps ด้วยนะ (ยังลงให้กับ Samsung แบรนด์เดียวไปก่อนครับ) สำหรับ Here for Gear ถ้าจะใช้นำทางจะมีการคิดค่า Data ด้วยนะครับระหว่างใช้ต้อง Online ครับ
สำหรับแป้นพิมพ์บน Samsung Gear S จะมีหน้าตาแบบในภาพประกอบครับ พิมพ์ง่ายกว่าที่คิดนะเพราะ Samsung Gear S มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 2 นิ้วทำให้การใช้นิ้วพิมพ์ยังไม่ถือว่ายากนักรวมทั้งความโค้งของหน้าจอผมว่าช่วยให้ตัวเครื่องมีขนาดที่ดูเล็กลงจากความเป็นจริงนะครับ มันโค้งรับกับข้อมือ แต่ถ้าพิมพ์ข้อความยาวๆผมว่าก็ไม่ค่อยสะดวกนักนะครับ การใช้งานจะเหมือนแป้นพิมพ์มาตราฐานของ Samsung เหมือนที่ใช้บน Smartphone
และในเรื่องของ Social ในงานเผยว่าสามารถเล่น Line ผ่าน Samsung Gear S ได้ครับแต่ว่าได้แค่อ่านเท่านั้นไม่สามารถตอบกลับได้ (ต้องไปตอบกลับผ่าน Smartphone) ส่วนถ้าเป็น Facebook สามารถใช้งานได้ตามปกติแต่ด้วยขนาดจอการแสดงผลก็ไม่เต็มอิ่มเท่าบน Smartphone นะครับ
Samsung Gear S จะมาพร้อมแท่นชาร์จซึ่งจะมีพอร์ท Micro USB 2.0 สำหรับชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูลมาด้วย สำหรับการใช้งานโทรศัพท์ผมให้ผ่านนะเสียงดังชัดเจนดีครับ หรือถ้าบางคนอยากคุยส่วนตัวก็ให้ลดเสียง Samsung Gear S ให้เบาลงและนำมาจ่อที่หูแล้วคุยก็จะได้อารมณ์โทรศัพท์เลย แต่คุยท่านั้นนานๆผมว่ามีเมื่อย
Samsung Gear S นั้นผมว่าเหมาะสำหรับเวลาที่เราไม่ได้พก Smartphone เครื่องหลัก พกแต่เจ้า Samsung Gear S ออกไปทำงาน หรือออกกำลังกาย แต่ก็ไม่พลาดทุกการติดต่อนั่นเองครับ เพราะมันใส่ซิมได้นี่ละถือเป็นจุดแข็งของ Wearable รุ่นนี้เลยละครับ
ส่วนตัวเท่าที่ลองเล่นในเวลาจำกัดช่วยทดสอบในงาน และสวมออกไปทำกิจกรรมแข่งขันข้างนอกผมถูกใจ Samsung Gear S มากครับใส่แล้วรู้สึกว่ามันดูสวยมากๆ ใส่สบาย ใช้งานง่าย มีจุดขายที่น่าประทับใจ มีนดูเป็นนาฬิกาจากหนัง Sci-Fi มากๆเลยครับ แต่ก็ยังดูเท่และสวยงามในแบบแฟชั่นอีกด้วย ยิ่งตัวอย่างภาพสายนาฬิกาของ Samsung Gear S ที่นำมาให้ดูในงานผมว่ามันดูสวยและน่าใช้มากๆเลยครับ แต่ในการใช้งานจริงจะเป็นยังไงต้องรอชมในรีวิวครับ ซึ่งถ้าผมได้ยืมมาจะรีบรีวิวให้ชมกันเลย (แต่ว่าไปอาจจะได้เห็นผมซื้อมาใช้ก่อนจะได้รีวิวนะเนี่ย อิอิ)