สืบเนื่องจากข่าวก่อนหน้าที่ Microsoft ประกาศถึงคุณสมบัติใหม่ๆที่จะมาพร้อมกับอัพเดทตัวต่อไปของระบบ Windows phone 8 ในชื่อ GDR3 หรือ General Distribution Release 3 (ตามข่าวนี้ครับ: Click) ซึ่งตอนนี้ Microsoft ก็ได้ปล่อยตัวอัพเดทสำหรับนักพัฒนาเพื่อเอามาทดลองใช้เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาแอพให้รองรับคุณสมบัติใหม่ๆใน GDR3 กันแล้ว และ AppDisqus ของเราก็ไม่พลาดที่จะร่วมทดสอบในครั้งนี้ด้วยครับ
โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปในอัพเดท GDR3 ตั้งแต่เริ่มการติดตั้งจนถึงตอนนี้ที่เราทดสอบกัน มีดังนี้ครับ
- เริ่มจากหน้าจอการติดตั้งตัวอัพเดทเลย ที่ Microsoft ทำหน้าจอ spinning gear ให้ใหม่ โดยใส่แถบสถานะการดำเนินการเข้าไปด้วย ช่วยให้เราไม่ต้องรออย่างไร้จุดหมายอีกต่อไป
- สิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้อีกก็คือ เลขเวอร์ชั่นของระบบปฏิบัติการเปลี่ยนไปจากเดิมใน GDR2 ที่เป็น 8.0.10328.78 จะกลายเป็น 8.0.10512.142 ในอัพเดท GDR3 ครับ
- ในด้านของจำนวนคอลัมน์ของ Live tiles นั้นด้วยความที่ผมลองกับ Nokia Lumia 625 ทำให้มันไม่สามารถเพิ่มแถวของ Live tiles ได้ครับ อาจจะต้องรอการทดสอบกับ Nokia Lumia 920 ขึ้นไปหรือไม่แน่ว่าฟังก์ชั่นนี้ยังไม่มีใน Windows phone 8 GDR3 release นี้ก็ได้ครับ
- หน้าจอ Multi-tasking คุณสมบัตินี้ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ ใช้งานได้ตามที่ Microsoft บอกเอาไว้เลย เป็น highlight ที่หลายๆคนรอคอบเลยทีเดียว การเข้าสู่โหมด Multi-tasking ทำได้โดยการกดปุ่มย้อนกลับค้างเอาไว้สัก 2-3 วินาที เรามีวิดีโอสาธิตการใช้งานตามนี้ครับ
- การปรับปรุงเรื่องการจัดการหน่วยความจำ (Storage management) ตรงนี้เป็นคุณสมบัติที่ไม่มีรายละเอียดอะไรมากแต่ผลที่ได้น่าประทับใจครับ เพราะหน้าตาการจัดการหน่วยความจำเปลี่ยนไป และใช้งานได้ดีขึ้น รวมถึงข้อมูลชั่วคราวหรือ others หายไปแล้ว โดยหลังการอัพเดทข้อมูลชั่วคราวใน Lumia 625 ของผมมีขนาดแค่ 18.08 MB เท่านั้น (จากเดิมใน GDR2 ถึงแม้เพิ่งแฟลชเครื่องมาใหม่ๆ ไฟล์ Others ก็มีขนาดถึง 340MB เข้าไปแล้วครับ)
- ดูวิดีโอได้คุณสมบัติ Storage management ได้จากที่นี่ครับ
- และอีก 1 คุณสมบัติที่น่าประหลาดใจที่ Microsoft ไม่ได้พูดถึงเอาไว้คือการปรับปรุงเรื่องคีย์บอร์ดครับ ซึ่งการอัพเดทนี้ทำให้เมื่อเรากด shift ที่คีย์บอร์ดแล้วพิมพ์ตัวอักษรลงไป ตัว shift จะเด้งกลับให้เหมือนคีย์บอร์ดบนระบบอื่นๆแล้ว
ตัวอย่างการใช้งานตามวิดีโอเลยครับ ผมว่าหลายๆคนน่าจะชอบแน่นอน
- การตั้งเสียงเตือนแบบกำหนดเอง (custom tones) สามารถทำได้โดยเราจะตัดเพลง MP3 จากคอมพิวเตอร์แล้วเอาไปวางที่โฟลเดอร์ “Ringtone” หรือจะทำผ่านแอพ Nokia Ringtone Maker ก็ได้ครับ จากนั้นเมื่อเราต้องการกำหนดค่าเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ระบบจะแสดงตัวเลือกให้เราใช้งานเสียงที่เราสร้างขึ้นเองได้ (จากเดิมที่การใช้เพลงที่ตัดมาเองนั้นจะทำได้เฉพาะกับเสียงเรียกเข้าเท่านั้น)
- คุณสมบัติการล็อกหน้าจอ สามารถล็อกได้จากหน้าจอการตั้งค่าเท่านั้น ซึ่งเราต้องเลือกจากหน้าจอนี้ครับว่าต้องการล็อกการหมุนของหน้าจอแนวไหน เช่นถ้าต้องการล็อกการหมุนให้เป็นแนวนอน เราต้องเปิดการหมุนของหน้าจอก่อน จากนั้นก็หมุนเครื่องเพื่อให้หน้าจอหมุนเป็นแนวนอน จากนั้นก็กดปิดฟังก์ชั่นหมุนหน้าจออัตโนมัติ ระบบก็จะล็อกหน้าจอให้อยู่ในแนวนอนเท่านั้น
- แต่ข้อจำกัดคือ หน้าจอแนวนอนจะใช้งานไม่ได้กับทุกๆหน้าในระบบนะครับ อย่างน้อยหน้า Live tiles ก็จะแสดงผลเป็นแนวตั้งอยู่ดี และแอพหลายๆตัวที่ไม่ได้ทำมาให้รองรับการหมุนหน้าจอ มันก็จะไม่สามารถแสดงผลแนวนอนได้ (เช่น Facebook, Facebook beta หรือแม้แต่ดู YouTube แอพอย่าง myTube ก็ไม่สามารถล็อกการหมุนของหน้าจอได้) แต่ถ้าเป็นการดูวิดีโอผ่านแอพ เพลง+วิดีโอหรือแอพอย่าง YouTube HD สองแอพนี้สามารถล็อกการหมุนของหน้าจอได้ครับ
ตรงนี้คาดว่าขึ้นกับผู้พัฒนาแอพที่จะปรับปรุงแอพให้เรียกใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ด้วยหรือไม่นั่นเอง
และข้อจำกัดอีกอย่างคือ การปลดล็อกให้หน้าจอหมุนได้อีกครั้ง ต้องเข้าไปทำที่เมนู settings หรือการตั้งค่าเท่านั้นครับ
- การปรับปรุงเรื่อง Bluetooth ที่มีตัวเลือกขั้นสูงเพิ่มขึ้นมา น่าจะทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธบนรถยี่ห้อต่างๆได้ดีขึ้น
- โหมดการขับขี่หรือ Driving mode เป็นคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน GDR3 ครับคือหน้าจอให้เราตั้งค่าการปฏิเสธสายเรียกเข้าพร้อมทั้งการส่งข้อความกลับไปยังคนที่โทรเข้ามาได้ (ตอบกลับ sms ที่ส่งเข้ามาก็ได้เช่นกัน) โดยสิ่งที่จะเป็นการกำหนดว่าเมื่อไหร่ที่ระบบจะเข้าสู่โหมดการขับขี่คือ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth hands free ของเรานั่นเอง
- เมนู DataSense มีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ขึ้นมาอีก 1 อย่างคือการจำกัดปริมาณข้อมูลเมื่อเรา Roaming ที่ต่างประเทศครับ
คุณสมบัติที่ยังไม่ได้ทดสอบได้แก่
- ปรับปรุงให้เราสามารถใช้งาน WiFi ได้ตอนเปิดใช้งานเครื่องครั้งแรก ช่วยให้เราสามารถ restore ข้อมูลได้ผ่าน WiFi แล้ว (จากเดิมที่ต้องทำผ่านเครือข่าย 2G/3G/4G เท่านั้น)
- ปรับปรุงเรื่องการแชร์อินเตอร์เน็ตให้ทำงานกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆที่ใช้งานระบบ Windows 8.1 โดยเราสามารถแชร์อินเตอร์เน็ตไปยังเครื่องที่ใช้ Windows 8.1 ได้ ซึ่งการยืนยันทำได้โดยการจับคู่อุปกรณ์ทั้ง 2 ตัวด้วยบลูทูธ ทำให้เราไม่ต้องป้อนรหัสสำหรับการใช้ WiFi แบบเดิม
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการพรีวิวเบื้องต้นสำหรับอัพเดท GDR3 นะครับ ถ้ามีคุณสมบัติอะไรใหม่ๆเราจะรีบเอามานำเสนอเพิ่มเติมอีกแน่นอนครับ