Primetime ผู้ให้บริการธุรกิจทีวีออนไลน์ แบบออนดีมานด์ ที่มีภาพยนตร์ใหม่ ภาพยนตร์ฮิต พร้อมทั้งซีรีย์ดังมากมาย แบบถูกลิขสิทธิ์ จาก 6 ค่ายภาพยนตร์ชั้นนำฮอลลีวูด พร้อมเปิดให้บริการ เอาใจคอหนังชาวไทยเรียบร้อยแล้ว ตั้งเป้าในปี 58 มียอดใช้บริการ 200,000 คน และคาดหวังรายได้ 500 ล้านบาท ภายในสิ้นปี
คุณกษิดิศ กลศาสตร์เสนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพรม์ไทม์ เอ็นเตอเทนเมนต์ จำกัด และ บริษัท ไพรม์ไทม์ โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “ไพรม์ไทม์ (Primetime) คือ ผู้ให้บริการ ทีวีออนไลน์ ระดับพรีเมี่ยม โดยรับชมผ่านอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบ Video on demand (VOD) ที่สามารถ สมัครแพ็คเกจชม ภาพยนตร์สุดฮิตกว่า 1,000 เรื่องต่อปี และ ซีรีย์ ดังกว่า 2,000 ตอนต่อปี อย่างถูกลิขสิทธิ์จาก 6 ค่ายชั้นนำของฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น Walt Disney, Warner Bros, 20th Century Fox , Paramount, NBC Universal และ Sony Pictures มีให้เลือกทั้งพากย์ไทย และซาวน์แทร็ก บทบรรยายไทย หรือ บทบรรยายอังกฤษ มีความคมชัดสูงสุดถึงระดับ Full HD พร้อมด้วยระบบเสียง dts Surround 5.1และ HeadphoneX (ให้เสียงเซอร์ราวด์ในขณะใส่หูฟัง) ซึ่งเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่นำคุณภาพระดับสูงมาใช้ในระบบออนไลน์ และมุ่งหน้าสู่การ ให้บริการความคมชัดสูงสุดถึงระดับ Ultra HD ในอนาคตอันใกล้
Primetime ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยหัวใจหลัก 3 ประการ คือ 1. การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้กับผู้ชม 2. การบริการที่ยอดเยี่ยม และ 3. ความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำให้บริษัทสายเลือดไทยไปโดดเด่นอยู่ ในระดับภูมิภาคและระดับโลก “เรามีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการทีวีออนไลน์ แบบ on-demand ที่ดีที่สุดในทุกๆที่ที่เป็นไปได้ โดยการนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารต่างๆมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น สัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ชุมชน สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ททีวี ทั้งนี้ การให้บริการทุกส่วนต้องผ่านกฏข้อบังคับ ของเจ้าของลิขสิทธิ์ทุกข้อ ด้วยการให้บริการ หนังและทีวีซีรีย์ที่สดใหม่และรวดเร็ว ประกอบกับเทคโนโลยีเรื่องภาพและเสียงที่ได้รับลิขสิทธิ์มาเป็น เจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทยผ่านระบบออนไลน์ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถเรียนรู้ และเติบโตไปพร้อมๆ กับลูกค้าของเรา และสามารถขยายการบริการของเรา ที่มีลูกค้าเป็นหัวใจหลัก นี้ไปในประเทศอื่นๆ ได้ในอนาคต”
สำหรับจุดเด่นของ Primetime คือ content ภาพยนตร์ ที่จะเข้าสู่บริการหลังลาโรงเพียง 2-3 เดือนและมีซีรีย์ดังตอนล่าสุด และย้อนหลังพร้อมกันกับอเมริกา (ที่ได้สิทธิ์) อีกทั้งสามารถรับชมได้กับทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอแพด คอมพิวเตอร์พีซี และสมาร์ททีวี และยังสามารถรับชมได้ทุกที่ ทุกเวลาและไม่ต้องติดตั้งสาย อะไรให้ยุ่งยากเพียงแค่โหลด แอพพลิเคชั่น ชื่อ Primetime ผ่านทางระบบ iOS ที่ App Store และระบบ Android ที่ Google Play และยังสามารถต่อออกทีวีได้จากหลายอุปกรณ์ เช่น Apple TV, Chromecast และผ่ายสาย HDMI โดยยังคงให้ภาพคมชัดถึงระดับ full HD หรือรับชมโดยตรง ผ่านทาง www.GoPrimeTime.tv
คุณกษิดิศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าภาพยนตร์ที่จัดมาให้บริการผ่าน Primetime จะมีความพิเศษกว่าผู้ ให้บริการเจ้าอื่นๆ เพราะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เพิ่งออกจากโรงภาพยนตร์ที่เร็วกว่า หรือ ออกพร้อมกับแผ่นดีวีดี และยังมีภาพยนตร์ฮิต สุดคลาสสิค มาให้เลือกรับชมอย่างคับคั่ง รวมถึงยัง จะมีภาพยนตร์พิเศษ ที่ไม่ได้เข้าฉายในประเทศไทย มาเป็นทางเลือกให้รับชม ยิ่งไปกว่านั้น พิเศษเฉพาะ สำหรับคอซีรีย์ ที่ Primetime ยังเป็นที่เดียว ที่ได้สิทธิ์ในการรับชมซีรีย์ ตอนล่าสุดพร้อมกันกับอเมริกา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกำแพงภาษา เพราะมีบทบรรยายไทย กำกับเรียบร้อยแล้วและ ทั้งหมดที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมานั้น อยู่ภายใต้สโลแกน ”ที่สุดคลังหนังและซีรีย์ดูได้ทุกที่บน Primetime”
“ทีมงาน Primetime มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบวิดีโอ สตรีมมิ่ง ของเมืองไทยมารวมตัวกันและมี ประสบการณ์ การจัดการเนื้อหาระดับพรีเมียมมาในอดีต ทำให้มั่นใจเรื่องระบบที่มารองรับการใช้งานของลูกค้า รวมถึงการดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และยังมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง อาทิเช่น DNA, Comseven (iStudio, iBeat, Banana IT), LG, CTH และ dts โดยในช่วงเปิดตัว ทางบริษัทได้คัดเลือก รายชื่อหนังสุดพิเศษ ซี่งจะแตกต่างไปจากบริการเจ้าอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างแน่นอน รายชื่อภาพยนตร์บางส่วน ที่ทางบริษัท จัดมาให้กับลูกค้าของ Primetime โดยเฉพาะ เช่น Big Hero 6, Lucy, Guardians of the Galaxy, Teenage Mutant Ninja Turtles และอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ตลอดปีนี้”
ทั้งนี้ บริษัท ยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ให้สามารถซื้อ หรือ สมัครบริการได้หลากหลาย ช่องทาง เช่น ระบบ เครดิตการ์ด, PayPal, เคาเตอร์ธนาคาร, ตู้เอทีเอ็ม ,อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง, เคาเตอร์เซอร์วิส และตัวแทนจำหน่าย เช่น DNA, iStudio by Comseven, iBeat by Comseven, Banana IT, Banana Mobile และอื่นๆ โดยมีแพคเกจให้เลือก ดังนี้บุฟเฟ่ต์หนังฮิตราคา 199 บาท ต่อเดือน, หนังใหม่และบุฟเฟ่ต์
หนังฮิต ราคา 299 ต่อเดือน, บุฟเฟ่ต์ซีรีย์ ราคา 299 บาทต่อเดือน และรวมทุกแพคเกจ หนังใหม่ หนังฮิต และซีรีย์ในราคา 549 บาทต่อเดือน (12เดือนเหลือเพียงเดือนละ 399 บาท) ซึ่งลูกค้า สามารถเลือกซื้อได้ ตามความต้องการ โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ