realmeเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก realme X50 Pro 5G พร้อมประกาศกลยุทธ์ใหม่ด้าน AloT realme X50 Pro 5G จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speed of the Future” เปิดประสบการณ์ความเร็วแห่งอนาคต เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G ทั้งแบบ 5G NSA และ 5G SA พร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 64MP จอแสดงผลแบบ AMOLED อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และระบบชาร์จเร็ว 65W SuperDart ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทร’ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านมา
ในปี 2563 realme มุ่งมั่นเดินหน้านำเสนอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT เพื่อการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ภายในงาน คุณ Emilio Álvarez ยังได้เผยแผนกลยุทธ์และทิศทางด้าน AloT ของ realme ในอนาคตอีกด้วย
realme X50 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G ทั้งแบบ 5G NSA และ 5G SA พร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 64MP จอแสดงผลแบบ AMOLED อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และระบบชาร์จเร็ว 65W SuperDart ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทร’ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านมา ในปี 2563 realme มุ่งมั่นเดินหน้านำเสนอสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT เพื่อการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ภายในงาน คุณ Emilio Álvarez ยังได้เผยแผนกลยุทธ์และทิศทางด้าน AloT ของ realme ในอนาคตอีกด้วย
สมาร์ทโฟน 5G และอุปกรณ์ AIoT ตัวขับเคลื่อนสู่การเป็น ‘ผู้นำด้านเทคโนโลยีตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่’
คุณ Emilio Álvarez กล่าวว่า realme เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในซึ่งในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 realme มียอดการส่งออกสมาร์ทโฟนทั้งหมดมากกว่า 10 ล้านเครื่อง ถูกจัดอันดับเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายเป็นอันดับ 7 ของโลกและถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกอีกด้วย ในปี 2562 realme ได้เข้าสู่ 25 ตลาดทั่วโลก ด้วยยอดการขนส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมดมากกว่า 25 ล้านเครื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ได้มียอดขนส่งเพิ่มขึ้นถึง 500% ส่งผลให้ realme ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นสมาร์ทโฟน
หลักของโลก ในปีนี้ realme มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าภายใต้แนวคิด “Popularizer of Tech Trendsetters’ Lifestyle” ผสมผสานสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AloT โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
realme มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าตามคอนเซ็ปต์ “Dare to Leap” พร้อมที่จะมอบผลิตภัณฑ์ 5G เพื่อคนรุ่นใหม่ ภายในปี 2563 realme ได้เดินหน้าเครือข่าย 5G ทั่วโลกเพื่อสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ 5G ที่ครบวงจร ครอบคลุมทุกกลุ่มราคาเพื่อตอบโจทย์และเปิดประสบการณ์ใหม่ของผู้ใช้งานทั่วโลก นอกจากนี้ realme ยังมีการร่วมมือที่ดีกับพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ โรงงานผลิตเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและนักพัฒนาแอพลิเคชั่นเพื่อร่วมกันพัฒนา 5G ระดับโลกและผลักดันอีโคซิสเต็ม 5G
ในส่วนของอุปกรณ์ loT ทาง realme ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป, ครอบครัว และผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว เพื่อสร้าง UNI Smart AloT ยกระดับชีวิตด้วยเทคโนโลยีสำหรับคนรุ่นใหม่ ในอนาคต realme จะเปิดตัวสมาร์ทแพลตฟอร์ม realme Link ที่มาในสมาร์ทโฟนเพื่อรองรับเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ AIoT อาทิ สมาร์ททีวี, สมาร์ทวอทช์,หูฟังบลูทูธ และลำโพงอัจฉริยะ โดย realme จะผสานระบบ AI เพื่อสร้างระบบอีโคซิสเต็ม AIoT ที่สมบูรณ์แบบ
สมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก พร้อมเดินหน้าภายใต้คอนเซ็ป “Dare to Leap”
ในฐานะผู้นำที่เหนือกว่าในยุค 5G ล่าสุด realme ได้เปิดตัว realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่รองรับ 5G ตัวเครื่องมาพร้อมวัสดุโลหะและโทนสีแบบ Low-saturation มาพร้อมกัน 2 สีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง Moss Green และ Rust Red สำหรับหน้าจอและฝาหลังมาพร้อมกระจกกันรอย 3D Corning Gorilla Glass 5 และการป้องกันพื้นผิวกระจกแบบ AG ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพจึงทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความทนทานและตัวเครื่องที่จับถือสะดวกกระชับมือ นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมขุมพลังหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 รองรับ 5G พร้อมแรม LPDDRS5 และ UFS 3.0 ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเร็วแรงไหลลื่นมากยิ่งขึ้น
realme X50 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 65W SuperDart ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากขึ้นและชาร์จได้เร็วยิ่งขึ้น โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4200mAh เต็มได้ภายใน 35 นาที realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมกับ realme UI บนพื้นฐาน Android 10 ภายใต้ดีไซน์แบบ “Real design” รูปแบบการทำงานที่เรียบง่ายสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง อีกทั้งรองรับฟีเจอร์อัจฉริยะอีกมากมาย อาทิ เทคโนโลยี NFC, ระบบมอเตอร์แบบ Tactile Engine Motor, ระบบ Dual-band GPS, ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos และรองรับ Hi-Res เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานในทุกด้าน
นอกจากนี้ realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว โดยมีอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 อัตรา Refresh rate ที่ 90 Hz และ Sampling rate ที่ 180Hz ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปมีอัตรา Refresh rate เพิ่มขึ้นถึง 50% มอบความรวดเร็วลื่นไหลตอบสนองต่อการสัมผัสขณะเล่นเกมอย่างดี realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่สามารถปลดล็อคด้วยความเร็วเพียง 0.27 วินาที เท่านั้น
ในส่วนของกล้อง realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้าคู่แบบ Ultra-wide-angle โดยเลนส์หลักมาพร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX616 ความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง f/2.5 และกล้องความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม Ultra-wide-angle ที่ให้มุมมองกล้องกว้างถึง 105 องศา สำหรับกล้องหลัง realme X50 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ โดยเลนส์หลักมาพร้อมความละเอียด 64MP แบบ Ultra-wide-angle และการอัพเกรดโหมดการถ่ายภาพ ‘Nightscape 3.0’ และ ‘Ultra Nightscape Mode’ ที่จะช่วยให้ได้ภาพที่มีคุณภาพไม่ว่าจะถ่ายภาพในช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน อีกทั้งมาพร้อมเลนส์ Ultra wide-angle ความละเอียด 8MP ที่มีมุมมองกว้างถึง 119 องศา และพร้อมระยะโฟกัสวัตถุ 3 เซนติเมตร และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP สามารถซูมแบบ optical ได้ถึง 5 เท่า และซูมแบบ Hybrid ได้ 20 เท่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเลนส์ Portrait รองรับระบบ ‘ ฟิลเตอร์สี’ ช่วยให้การถ่ายภาพของคุณนั้นง่ายและสนุกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพวิดีโอที่มีคุณภาพระดับความคมชัดถึง 4K และระบบกันสั่น UIS และ UIS Max ช่วยให้การถ่ายวิดีโอคมชัดป้องการสั่นไหวของภาพ คุณภาพเทียบเท่ากับกล้องถ่ายภาพมืออาชีพ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดใช้งานเอฟเฟคต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเบลอฉากหลัง, การถ่ายวีดีโอแบบ Ultra-wide-angle หรือเอฟเฟคอื่นๆ ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการถ่ายวีดีโอมากยิ่งขึ้น
realme X50 Pro 5G วางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นความจุ 8GB + 128 GB ราคา €599, ความจุ 8GB + 256GB ราคา €669 และความจุ 12GB + 256GB ราคา €749 พร้อมวางจำหน่ายในเดือนเมษายนผ่านช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ realme ในยุโรป