ZTE Blade A35 มือถือสำหรับงานเบาๆ ผู้เริ่มต้นหรือผู้ใหญ่ใช้ หน้าจอใหญ่ แบตอึด ราคาประหยัด
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้สมาร์ตโฟน และกลุ่มอาชีพที่ต้องใช้มือถือภายนอกบ้านตลอดทั้งวัน หรือหามาให้ผู้สูงอายุภายในบ้านใช้สำหรับติดต่อสื่อสาร หรือรับชมคลิป, ฟังวิทยุ ในราคาเบาๆ
ระบบใช้งานง่าย มีโหมช่วยขยายขนาดเมนูและข้อความให้ใหญ่เพื่อเห็นได้ชัด จอใหญ่ เครื่องบางถือง่าย และแบตเตอรี่ใหญ่ มีความอึดให้ใช้งานได้นานข้ามวัน
ราคาจำหน่ายถูกมาก และสินค้าแบรนด์ ZTE เป็นแบรนด์ใหญ่ที่ตัวสมาร์ตโฟนมีมาตรฐาน และความทนทานที่ดี ได้รับประกันนาน 1 ปี
The Good
- หน้าจอขนาดใหญ่มาก 6.75 นิ้ว
- เครื่องบาง ตัดเหลี่ยม ถือจับใช้งานง่ายไม่หลุดมือ
- ใช้พลังงานน้อย แบตเตอรี่อึด ชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้นานข้ามวัน
- มีระบบขยาย UI ลดความซับซ้อน ขยายขนาดเมนูและตัวอักษรให้มองเห็นได้ง่าย
The Bad
- ไม่รองรับ WiFi 5.0Ghz
- ไม่มีเซนเซอร์วัดแสงเพื่อปรับความสว่างหน้าจอแบบอัตโนมัติ
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
ZTE Blade A35 สมาร์ตโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ ตัวอักษรใหญ่เห็นได้ชัดเจน แบตเตอรี่อึดไม่ต้องชาร์จบ่อย แม้สเปคจะไม่แรงแต่องค์ประกอบหลักที่มีเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้สมาร์ตโฟนหรือให้ผู้สูงอายุใช้งาน มาในราคาที่เบาแบบสุดๆ แค่ 2,499 บาทเท่านั้นเอง
ZTE Blade A35 มาในขนาดหน้าจอใหญ่เป็นจุดขายเลย เป็นจอ IPS ขนาด 6.75 นิ้ว แสงสว่างดี สีชัดเจน ความละเอียด HD+ (720×1600) รีเฟรชเรท 90Hz เพิ่มความนุ่มของภาพ ใช้การวางกล้องหน้าแบบ Waterdrop ความละเอียด 5MP รองรับใช้ในการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ ซึ่งรุ่นนี้จะใช้การสแกนใบหน้าและการใส่รหัสหรือพินเพื่อเข้าใช้งานเท่านั้น เพราะไม่รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
ลำโพงเดี่ยวเสียงดัง เอาไว้ใช้รับชมภาพยนตร์ได้เลย เพราะจอขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว จอภาพเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเครื่องรุ่นนี้
ขอบจอเล็ก แม้หน้าจอจะใหญ่แต่เครื่องไม่ใหญ่ ออกแบบมาได้บางและใช้ขอบแบบตัดเหลี่ยม บางแค่ 8.5 มม. ถือจับใช้งานเลยไม่ยาก ขอบเครื่องแข็งแรงทนทานพอตัว ฝาหลังพลาสติกเคลือบเงา มีลายนิ้วมือเล็กน้อยในเวลาใช้งาน
วางกล้องหลังความละเอียด 8MP ทำงานคู่กับระบบกล้อง AI ออกแบบพื้นที่ให้เป็นสีทูโทน ดูสวยมีราคาดีครับ ไม่ได้ทำมาเกลี้ยงๆ แม้ราคาจะถูก
กล้องถ่ายภาพไม่มีโหมดอะไรมากนัก มีโหมดอัตโนมัติ, พาโนรามา, โหมดถ่ายภาพบุคคล ซึ่งรองรับทั้งการปรับระยะชัดลึกชัดตื้นและปรับใบหน้าเนียน ขาวใส ปรับขนาดดวงตา ส่วนการถ่ายวีดีโอก็รองรับการถ่ายแบบปกติและแบบ Time-Lapse
ตัวอย่างภาพถ่ายของ ZTE Blade A35
มีรูหูฟัง 3.5 มม. สามารถเสียบหูฟังเพื่อใช้เป็นเสาอากาศในรับฟังวิทยุ FM ได้ครับ มีแอปวิทยุให้ใช้งานอยู่ในเครื่อง
รองรับการใช้งาน 4G ได้ทั้งสองซิมการ์ด ให้ถาดใส่ซิมแบบสามสล็อต สามารถใส่ micro SDcard ได้เพิ่มเติม 1TB เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi 2.4 GHz ได้เท่านั้น ไม่รองรับ Wi-Fi 5.0 GHz นะครับ
แบตเตอรี่ภายในใส่มาให้ 5000mAh และด้วยความที่ตัวเครื่องไม่กินพลังงานมากนัก ทำให้มีระยะเวลาการใช้งานได้นานมาก สามารถอยู่ได้ประมาณ 2 วันต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดมาก
ใช้พอร์ตชาร์จแบตแบบ USB Type-C รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 10W ซึ่งมีตัวอะแดปเตอร์ 10W แถมมาให้ภายในกล่อง พร้อมกับเคสใสซิลิโคน, เข็มจิ้มซิม แต่จะไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้นะครับ
การใช้งานภายใน
ZTE Blade A35 สเปคไม่สูงนะครับ แต่ ZTE ก็พยายามใส่ระบบเข้ามาเสริมประสิทธิภาพให้เอาไว้หลายตัว โดย Blade A35 จะใช้ชิปประมวลผล sc9863a Octa-core 1.6GHz ชิปรุ่นเริ่มต้นราคาดีจาก Unisoc กินพลังงานน้อย ให้ประสิทธิภาพระดับพอใช้ ทำงานกับแอปส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาครับ
จะฝืนเอามาใช้เล่นเกมก็ยังพอได้ ทดสอบกับ ROV เล่นได้ลื่นอยู่ครับ แต่เกมกราฟิก 3D ภาพสวยๆ จะกระตุกมากเกีนไปไม่แนะนำครับ
ให้หน่วยความจำภายใน 64GB และใส่ RAM 4GB ที่มีความสามารถในการขยายแรมได้สูงมาก ขยายได้อีก 8GB รวมเป็นขนาด 4GB+8GB ขยายได้ใหญ่มาก
รันด้วยระบบ Android 14 ไม่ต้องรออัปเดท ครอบทับด้วย MyOS 14 ระบบตัวนี้มีลูกเล่นน่ารักๆ ใส่เข้ามาให้่ครับ เรียกว่า Live Island การใช้พื้นที่หน้าจอด้านบนข้างกล้องหน้า เป็นพื้นที่แจ้งเตือนพิเศษ บอกถึงการชาร์จพลังงาน, สถานะแบตเตอรี่ใกล้หมด, การแสดงข้่อมูลในขณะเล่นเพลง หรือแสดงข้อมูลการเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธอยู่เป็นต้น ทำมาเป็นลูกเล่นน่ารักๆ ให้่เราเปิดใช้งาน
หน้าตาของ UI สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบ “โหมดง่าย” สำหรับให้ผู้ใหญ่ใชได้ โดยระบบจะลดความซับซ้อนในหน้าเมนูต่างๆ และขยายขนาดไอคอน, ขนาดเมนู, และขนาดตัวอักษรให้มองเห็นได้ง่ายๆ บวกกับหน้าจอขนาดใหญ่ขนาด 6.75 นิ้ว สายตาของผู้ใหญ่มองเห็นได้ชัดแน่นอนครับ
มีระบบปรับสีหน้าจอเพื่อถนอมสายตา ทั้งโหมดมืด, โหมดลดแสงสีฟ้า และโหมดสำหรับการอ่านที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้กลายเป็นสีขาวดำ โดยเราสามารถกำหนดให้โหมดอ่านทำงานเองเมื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นที่เราระบุครับ แต่ข้อเสียของเครื่องรุ่นนี้ก็คือไม่มีเซนเซอร์วัดความสว่างครับ จึงไม่มีโหมดสำหรับการปรับระดับแสงไฟหน้าจอแบบอัตโนมัติมาให้
มีระบบ AI คอยควบคุมการทำงานเบื่องหลังของแอป ที่เปิดให้เราสามารถระบุได้เองด้วยนะครับ ว่าต้องการอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้แอปไหนเปิดการทำงานหรือทำงานเบื่องหลังต่อเนื่องได้ ซึ่งถ้าเราไม่ต้องการไประบุอะไรให้ยุ่งยาก ตัว AI ก็จะคอยจัดการให้ครับ
ตัว AI ยังมีความสามารถในการล้างการทำงานของเบื้องหลังให้เองได้ตลอดทั้งวัน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และการถนอมแบตเตอรี่ไปด้วยในตัว และสามารถตรวจจับระยะการไม่ใช้งานของเครื่อง เพื่อให้ปรับตัวเองเข้าสู่โหมดพัก เป็นการลดความสว่วง, ลดการใช้ข้อมูล, ลดการใช้เซนเซอร์และ GPS เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้ได้นานขึ้นไปอีก เช่นในตอนที่เรานอนหลับ ทำให่เครื่องรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ แม้เราจะลืมชาร์จแบตทิ้งไว้ในตอนกลางคืน แบตเตอรี่ก็แทบจะไม่ลดลงไปเลยครับ
ประสิทธิภาพการใช้งานบนแอปทั่วไป เช่น โซเชี่ยล Facebook, Tiktok, Line พวกนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ สเปคแค่นี่ก็เพียงพอ อาจจะไม่ทันใจติดนิ้วมากนัก แต่ถ้าผู้ใช้เป็นผู้ใหญ่ หรือผู้เริ่มต้นที่ไม่ซีเรียสกับความเร็วของเครื่องมากนัก ก็ถือว่าใช้งานได้แล้วครับ แลกมากับราคาที่ประหยัดมาก หน้าจอขนาดใหญ่ และแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานสบายๆ 2 วัน
สรุปท้ายรีวิว
ราคาเบา จอใหญ่ เครื่องบางถือง่าย และแบตเตอรี่ใหญ่ มีความอึดให้ใช้งานได้นานข้ามวัน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้สมาร์ตโฟนและสำหรับให้ผู้ใหญ่ในบ้าน ระบบใช้งานง่าย มีโหมดสำหรับผู้ใหญ่ให้ใช้ ช่วยขยายขนาดเมนูและข้อความให้ใหญ่เพื่อเห็นได้ชัด
แบรนด์ ZTE เป็นแบรนด์ใหญ่น่าเชื่อถือ ตัวสมาร์ตโฟนมีความทนทาน รับประกันนาน 1 ปี เปิดขายในราคา 2,499 บาท ผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ