สืบเนื่องจากทุกวันนี้ประเทศไทยมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก นอกจากการหวังพึ่งรัฐให้จัดการปัญหา และการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองและญาติมิตรว่า “อย่าโอน!” แล้ว หลายคนก็มองไปที่จุดเริ่มต้น ต่างสงสัยกันว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ได้เบอร์โทรศัพท์เรามาจากไหน? มีการซื้อขายข้อมูลกันหรือใช้โปรแกรมดูดข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตกันแน่? เราคงได้เพียงแค่ตั้งข้อสมมุติฐานเท่านั้น แต่ประเด็นคือหากมีเว็บไซต์หรือบุคคลอื่นใดนำข้อมูลส่วนตัวบุคคลของเราไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต มันจะส่งผลทำให้ข้อมูลของเราถูกสืบค้นได้ง่าย ๆ จากหน้าค้นหาของ Google แล้วเราจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง? บทความนี้จึงจะสอนวิธีส่งคำขอลบข้อมูลออกจากผลการค้นหา Google เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ รูปภาพลายเซ็น รูปภาพ และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ
วิธีส่งคำขอลบข้อมูลออกจากผลการค้นหา Google เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ รูปภาพลายเซ็น รูปภาพ และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ
ความจริงแล้ว Google มีนโยบายให้เราสามารถส่งคำร้องขอให้ลบข้อมูลออกจากผลการค้นหานานแล้ว แต่เป็นเพียงข้อมูลด้านการเงิน เช่น หมายเลขบัตรเครดิต หรือหมายเลขบัญชี เท่านั้น ล่าสุด Google ได้ประกาศขยายขอบเขตการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (personally identifiable information – PII) ออกจากผลค้นหาของ Google ให้ครอบคลุมข้อมูลส่วนบุคคลด้านอื่นด้วย เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ รูปภาพ เป็นต้น เรามาดูขั้นตอนการทำโดยละเอียดกันเลยครับ
อันดับแรกให้เข้ามาที่ลิงก์ : คลิก! แต่ละหัวข้อจะมีรูปดินสออยู่ด้านขวามือ ถ้าเราคลิกจะสามารถเลือกตัวเลือกต่าง ๆ ได้ บทความนี้ขอแบ่งออกเป็น 2 กรณี นั่นคือ กรณีเราไม่สามารถลบข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์เองได้ และกรณีลบข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ไปแล้วแต่ข้อมูลยังแสดงอยู่บนผลการค้นหา Google อยู่
กรณีแรก: เราไม่สามารถลบข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์เองได้
ความจริงแล้ว Google ต้องการให้เราติดต่อทางเว็บไซต์ให้ลบข้อมูลเหล่านั้นก่อนนะครับ เขาจะนิ่งเฉยหรือตอบกลับอย่างไรค่อยว่ากัน ถ้าเขาลบให้เราจะได้ไปทำกรณีที่สองที่ถือว่าเป็นการส่งคำขอที่ง่ายกว่ากรณีแรกครับ แต่หากเราติดต่อแล้วเขาไม่ทำอะไรเลย หรือเราไม่อยากติดต่อก็ดำเนินการดังต่อไปนี้ได้เลย
- เมื่อเราอยู่ในหน้า “ขอให้นำข้อมูลส่วนบุคคลของคุณออกจาก Google” แถบหัวข้อคุณต้องการทำอะไร ให้ติ๊กเลือก “นำข้อมูลที่คุณเห็นใน Google Search ออก” แถบหัวข้อข้อมูลที่ฉันต้องการนำออกคือ ให้ติ๊กเลือก “ในผลการค้นหาของ Google และบนเว็บไซต์” ส่วนแถบคุณติดต่อผู้ดูแลเว็บของไซต์แล้วใช่ไหม ให้ติ๊กเลือก “ไม่ ฉันขอปฏิเสธ” หรือ “ได้” แล้วแต่ว่าเราได้ติดต่อทางเว็บไซต์แล้วหรือยัง
- จากนั้นก็ติ๊กเลือกข้อมูลที่ต้องการนำออก ซึ่งกรณีนี้ขอเลือก “ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารส่วนตัว” จากนั้นก็จะมีตัวเลือกย่อยขึ้นมาให้เราเลือกอีกครั้ง บทความนี้ขอเลือก “ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมล” เพื่อเป็นตัวอย่างในการดำเนินการนะครับ
- ระบบจะเรียกแบบฟอร์มขึ้นมาให้เรากรอกคำร้อง พร้อมให้หมายเหตุสำคัญว่า Google จะดำเนินการได้เพียงการลบออกจากผลการค้นหา แต่หากข้อมูลในเว็บไซต์ไม่ถูกลบออก มันก็ยังคงอยู่ในอินเทอร์เน็ต และสามรถค้นหาด้วยระบบค้นหาของเจ้าอื่นได้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการลบออกจากการค้นหาของ Google จะสำเร็จก็ต่อเมื่อ ข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏนั้นละเมิดกฎของ Google จริงเท่านั้น ซึ่งเมื่อส่งคำร้องไปเราต้องรอผลการพิจารณาที่จะแจ้งไปทางอีเมลอีกครั้ง
- เมื่อเลื่อนแบบฟอร์มลงมา หัวข้อแรกให้เราติ๊กที่ “ใช่ เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมยังคงเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์”
- หัวข้อต่อมา Google จะสอบถามว่าทางเว็บไซต์มีเจตนาลอบสืบและเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวหรือไม่ ให้เราติ๊กที่ “ใช่ ข้อมูลติดต่อถูกแชร์โดยมีเจตนาลอบสืบและเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว”
- ใส่ข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ช่องแรกใส่ชื่อและนามสกุล ถ้าเราส่งคำขอในนามตัวเองช่องที่สองและสามไม่ต้องใส่อะไร แต่หากเราทำให้ญาติพี่น้องช่องแรกต้องเป็นชื่อของญาติพี่น้อง ช่องสองและสามเป็นชื่อของเราครับ จากนั้นเลือกประเทศไทย และใส่ที่อยู่อีเมลให้เรียบร้อย
- ต่อมาเป็นส่วนสำคัญคือ คำขอให้นำออก ช่องแรกใส่ URL ของหน้าเว็บไซต์ที่แสดงข้อมูล[วิธีหา URL] หรือ URL ของรูปภาพ[วิธีหา URL] ช่องที่สองให้เรานำ URL ในช่องแรกไปค้นหาใน https://www.google.com/ (ไม่ใช่หน้าแรกของ Chrome นะครับ) เมื่อผลการค้นหาแสดงออกมา ให้คัดลอกลิงก์ของผลการค้นหามาวางในช่องที่สองนี้
- บันทึกภาพหน้าจอของหน้าเว็บไซต์ที่มีข้อมูลของเราปรากฏอยู่ให้ชัดเจน แล้วกดปุ่ม “เลือกไฟล์” แล้วอัพโหลด
- ระบุคำค้นหาที่จะไปเจอหน้าเว็บไซต์หรือรูปภาพที่เราต้องการลบออก ซึ่งคำค้นหาเหล่านี้ควรเป็น ชื่อเล่น ชื่อจริง นามสกุลเดิม และนามสกุลปัจจุบัน ไม่ควรเป็นข้อมูลที่เราต้องการลบอย่างเช่น เบอร์โทร ที่อยู่ อีเมล เป็นต้น
- ส่วนของลายเซ็น ให้ติ๊กเพื่อยืนยันว่าเป็นข้อมูลจริง จากนั้นกดปุ่มส่งได้เลย เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยครับ
กรณีที่สอง: เราลบข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ไปแล้วแต่ข้อมูลยังแสดงอยู่บนผลการค้นหา Google อยู่
กรณีนี้จะง่ายกว่ากรณีแรกมากครับ เป็นกรณีที่เราลบข้อมูลออกไปแล้ว ไม่ว่าจะลบเองหรือติดต่อแอดมินให้ลบออกให้ แต่ข้อมูลมันยังไม่หายไปจากผลการค้นหาของ Google สักที
- ให้เราเข้าไปที่หน้า https://support.google.com/websearch/troubleshooter/9685456#ts=2889054%2C2889099 นี้เหมือนเดิม เพียงแต่ให้เราเลือก “นำข้อมูลที่คุณเห็นใน Google Search ออก” และ “เฉพาะในผลการค้นหาของ Google” ตามลำดับ
- เลือกว่าเราจะขอให้ลบหน้าเว็บไซต์หรือรูปภาพออก กดที่ปุ่ม “ส่งคำขอนำออก” แล้วกรุณาเตรียม URL ที่ต้องการลบออกเอาไว้ด้วยนะครับ วิธีหา URL ให้กลับไปดูในกรณีแรกได้
- หน้าต่อมาให้กดปุ่ม “คำขอใหม่”
- ใส่ URL ของหน้าเว็บไซต์หรือรูปภาพแล้วแต่กรณี จากนั้นกดปุ่ม “ส่ง” ได้เลย
- ใส่คำค้นที่จะไปเจอกับหน้าเว็บไซต์หรือรูปภาพที่เราต้องการลบลงไป จากนั้นกดปุ่ม “ส่งคำขอ” เท่านี้ก็เรียบร้อย
ปัญหาใหญ่ในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างหนึ่ง คือ การเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวทั้งที่ยินยอมและไม่ยินยอมของเจ้าของข้อมูล ดังนั้นเราต้องระมัดระวังและหาทางป้องกันเอาไว้ให้ดี ไม่เช่นนั้นเราอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหรือถูกคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ได้ บทความนี้จึงได้นำเสนอวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างหนึ่งบนแพลตฟอร์มการค้นหาข้อมูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง Google หวังว่าจะช่วยเพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ติดตาม Tips and Tricks อื่น ๆ ได้ที่ : Tips and Tricks : เทคนิกน่ารู้และเรื่องราวที่น่าสนใจ