ช่วงนี้เนื่องจากผมได้มีเวลาพักผ่อนยาว จึงตัดสินใจ ออกท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 15 วัน ผมเลย มีเรื่องมีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟังนะครับ อย่างแรกที่อยากเล่าวันนี้ ก็คือ ประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตนี่หละครับ เพราะผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรกที่ทุกคนวิ่งหาตั้งแต่ลงเครื่องกันเลย ซึ่งตัวผมเองก็เช่นกันครับ ^ ^
เมื่อเครื่องลงที่สนามบินนาริตะ ผมก็เปิดโทรศัพท์ขึ้นมา จึงสังเกตว่าที่สนามบินนาริตะมี Free WIFI ด้วยครับ เมื่อกดเชื่อมต่อเรียบร้อย เราจำเป็นต้องเข้าบราวเซอร์เพื่อ ยอมรับเงื่อนไขการใช้งานก่อน ลำดับตามภาพด้านล่างนี้เลย หลังจากนั้นเราจะนั่งรอเพื่อน หรือรอเวลาพร้อมเครือข่าย WIFI ของสนามบินนาริตะนี้ได้เลยครับ
อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องได้เดินทางออกนอกสนามบินแน่นอน ดังนั้นอย่างแรกที่ต้องตัดสินใจ ก็คือ เราจะเปิดโรมมิ่ง ซื้อซิมที่นี่ใช้งาน หรือเช่า pocket WIFI ยังไงก็ตรวจสอบโปรโมชั่นและราคาให้เหมาะสมกับเรานะครับ แต่ผมเลือกเข่า pocket WIFI เอาสะดวกเป็นหลักครับ และคำนวณแล้วว่า ผมใช้งานอินเทอร์เน็ตเยอะ เปิดโรมมิ่งคงไม่เวิร์คครับงานนี้(เราสามารถเช่าไปจากเมืองไทยได้นะครับ)
เมื่อรับกระเป๋าเรียบร้อย ผมออกมาทาง Terminal 2 ทางออก B หันซ้ายแลขวาหาป้ายสถานีรถไฟ ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ และจะเหลือบเห็นร้านให้เช่า pocket WIFI อยู่บริเวณบันได เลื่อนที่ลงไปสถานีรถไฟเลยครับ นอกจากนั้นจะมีร้าน เปิดซิม เช่าโทรศัพท์ของผู้ให้บริการเครือข่ายที่นี่ด้วย
เมื่อเดินมาถึงร้าน ก็สำรวจราคาก่อนครับ อัตราค่าเช่า pocket WIFI ดังภาพ ซึ่งผมใช้อินเตอร์เน็ตเยอะ และแต่ละแพ็คเกจก็ราคาไม่ต่างกันมากนัก จึงเลือกแบบไม่จำกัด ราคาค่าเช่าวันละ 1,300 เยน(ตอนแรกรู้สึกแพงมาก จนได้ออกมาเที่ยว จึงรู้ว่ามันถูกกว่าค่าของกินเซเว่น ที่ผมเดินเข้าครั้งนึงเยอะเลย) โดยอุปกรณ์ทั้งหมดที่จะได้ ก็คือ ตัวเครื่อง pocket WIFI สายชาร์จ ที่มาพร้อมซองใส่เรียบร้อยครับ
สิ่งที่ต้องเตรียมอีกอย่าง คือ บัตรเครดิต เพราะใช้เงินสดไม่ได้(บางร้านอาจใช้เงินสดได้ แต่ต้องจ่ายค่าประกันสินค้าก่อน) เหตุผลนั้นก็ทำให้กังวลนิดหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับเพราะเราตัดสินใจที่จะใช้บริการเขาแล้ว เหตุผลที่ว่านั้นก็คือ เขาจะได้สามารถหักยอดเงินในบัตรเครดิต ของเราได้ในกรณีที่เราไม่ส่งตามกำหนด แอบขโมย หรือลืมคืนเครื่องตอนเราเดินทางกลับ
ได้เครื่องมาเรียบร้อย เท่านี้ก็ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แบบเต็มที่ ทั้งเรื่องความเร็วและแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานข้ามวันแน่นอนครับ การใช้งานก็ไม่ยากครับ เพียงแค่เปิดเครื่อง เลือกเครือข่ายและใส่ password ตามข้อมูลที่เขียนอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง เท่านั้นก็ออนไลน์ได้เลย สำหรับเรื่องความเร็วและทั่วถึงนั้นไม่ต้องห่วงครับ ผมใช้งานกันหลายคนยังคงเร็วดีอยู่ แต่จำกัดจำนวนเครื่องที่เชื่อมต่อไว้ 5 อุปกรณ์ และเครือข่ายทั่วถึงมาก ขนาดในรถไฟใต้ดินความเร็วก็ยังดีและเสถียรเหมือนเดิมครับ เช่นเดียวกันเมื่อเดินทางออกต่างจังหวัดไกล ๆ ก็ยังโอเคอยู่ครับ
สรุปงานนี้ ผมมาเที่ยว 15 วัน ก็เสียค่าเช่าไป 19,500 เยน รวมแล้วก็อาจเยอะอยู่ครับ แต่ถ้าไปหลายคนก็คุ้มครับ หากเพื่อนไปเที่ยวบ้าง ผมก็หวังว่าประสบการณ์เล็ก ๆ ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจและใช้บริการอินเทอร์เน็ตของเพื่อน ๆ ที่ญี่ปุ่นนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับทุกการเดินทางครับ