True Super Talkie 4G มือถือลูกผสมวิทยุสื่อสาร เจ้าตัวนี้สำหรับผมแล้วในการรีวิว มันเหมือนกับการอธิบายความสามารถในสิ่งที่มันทำได้ซะมากกว่าครับ เพราะมันถือว่าเป็นมือถือที่แปลก!
จริงๆ แล้วสำหรับทาง True เจ้าตัว True Super Talkie 4G ที่ออกมานี่ ไม่ใช่มือถือรุ่นแรกนะครับที่เป็นลูกผสมเครื่องวิทยุสื่อสาร แต่เคยมีมาแล้วในรุ่น True SMART 4G Adventure แตตัวนั้นมันเป็นสมาร์ทโฟนระบบ Android ครับ เครื่องค่อนข้างใหญ่ หนา มีความเป็นรูปทรงของวิทยุสื่อสารอยู่ชัดเจน
แต่ True Super Talkie 4G มีความเป็นมือถือตัวปกติแบบฟีเจอร์โฟน ตัวเครื่องบาง เบา แต่ออกแบบได้แปลกใหมด้วยการใส่ความเป็นลูกครึ่งวิทยุสื่อสารเข้ามาผสม
หน้าตาของมันชินตาเราๆ ท่านๆ ครับ ปุ่มกดใหญ่ หน้าจอแสดงผลชัดเจน ด้วยรูปทรงความเป็นฟีเจอร์โฟนแบบนั้ทำให้เหมาะทุกเพศทุกวัยครับ
ตัวเครื่อง True Super Talkie 4G มีปุ่มใช้งานรอบตัวอยู่เยอะครับ เป็นปุ่มลดเสียง/เพิ่มเสียง, ปุ่ม SOS สำหรับใช้ฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือแบบด่วน และปุ่ม PTT หรือ Push to talk สำหรับการพูดสนทนาผ่านระบบวิทยุสื่อสาร และปุ่ม CH สำหรับการเปลี่ยนช่องของวิทยุสื่อสารครับ
นอกจากนั้นตัวมันเองยังมีกล้องถ่ายภาพทั้ง ด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงไฟฉายความสว่างสูง ช่องเสียบหูฟัง พอร์ตชาร์จแบบ Micro USB และลำโพงที่เสียงค่อนข้างดังมาก และยังรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 3G/4G, Wi-Fi และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก อย่างเช่นลำโพงผ่านสัญญาณบลูทูธครับ
ยังมีการออกแบบด้านหลังตัวเครื่องสำหรับติดตั้งคลิปหนีบเข็มขัดที่แถมมาให้ภายในกล่องด้วยนะครับ
ตัวเครื่องรองรับซิมการ์ด 4G และหน่วยความจำ Micro SD card สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้จากใต้ฝาหลัง แต่จะรองรับการใช้งานเพียงซิมการ์ดของ True เท่านั้นนะครับ
การใช้งาน
การใช้งานหลักๆ ของเครื่อง True Super Talkie 4G ก็เหมือนโทรศัพท์มือถือพื้นฐานทั่วไปครับ รับสายโทรเข้าโทรออกตามปกติทุกๆ อย่าง ซึ่งทางทรูได้ทำระบบตัวเครื่องเอาไว้ให้ใช้งานง่ายๆ ครับ
แต่จะมีความสามารถพิเศษใส่เข้าไปบางส่วน ให้สมกับเป็นมือถือที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi และรองรับ 4G เอาไว้ครับ
เช่น
- สามารถรับชมรายการฟรีทีวีจากช่องทีวีดิจิตอลรวมถึงช่องพิเศษของทาง True Vision ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้จากแอพ Htv ที่มีอยู่ในเครื่องได้ด้วยครับ
- สามารถเข้าใช้งานเว็บไซด์, เฟสบุ๊ค หรือหน้าเว็บเพจอื่นๆ ได้ด้วยแอพเบราว์เซอร์ OPERA ครับ
- สามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดีย รูป, เพลง, คลิปวีดีโอ จากหน่วยความจำภายในเครื่องและใน Micro SD card ที่ไส่เอาไว้ได้ครับ จากการทดสอบมันสามารถเปิดไฟล์ภาพยนตร์ความละเอียด FHD ได้ครับ
- เล่นวิทยุ FM ได้ในตัว ฟังเพลงผ่านลำโพงได้เลย ไม่ต้องเสียบหูฟัง
- ยังมีเครื่องมือออแกไนเซอร์ต่างๆ มาให้ใช้ เช่น เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย, บันทึกด่วน, เครื่องบันทึกเสียง, นาฬิกาปลุก, ปฏิทินนัดหมาย รวมถีงความสามารถในการจัดการไฟล์ในเครื่อง และบล็อคหมายเลขติดต่อที่ไม่ต้องการได้ด้วยครับ
- ระบบ SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินด้วยปุ่มเดียว (กดปุ่ม SOS ข้างเครื่องค้างไว้ 3 วินาที) ตั้งค่าหมายเลขติดต่อฉุกเฉินได้สูงสุด 3 หมายเลข พร้อมส่งข้อความและพิกัดตำแหน่งไปให้ปลายทางทันที
- ทำตัวเป็น Wi-Fi Hotspot กระจายสัญญาณเน็ตให้เครื่องอื่นใช้ได้สูงสุด 8 อุปกรณ์
การใช้งานวิทยุสื่อสาร
การใช้งานหลักๆ ก็ไม่ต่างกับอุปกรณ์วิทยุสื่อสารที่ใช้กันในกลุ่ม, องค์กร หรือการติดต่อสื่อสารที่เราเรียกกันว่า “วอ” นั้นแหละครับ “วอ 1 เรียก วอ 2 เปลี่ยน”
มันทำงานเหมือนกันเลย คือ “กดเพื่อพูด” หรือ “Push To Talk” ในภาษาอังกฤษนั้นเองครับ เราเพียงแค่กดปุ่ม PTT ข้างเครื่องแล้วพูด เสียงของเราก็จะไปดังที่เครื่องปลายทางในทันที ไม่ต้องกดปลุกเครื่อง ไม่ต้องเข้าแอพใดๆ แค่กดแล้วพูดเท่านั้น เสียงก็จะถูกส่งไปในทันที
แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากวิทยุสื่อสารในสมัยก่อน ก็คือเรื่องของเทคโนโลยีครับ แม้ผมจะเรียกว่า “ลูกครึ่งวิทยุสื่อสาร” แต่ก็เรียกเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายกันเท่านั้นครับ เพราะมันไม่ได้ใช้ระบบคลื่นวิทยุในการส่งเสียงหากันเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่มันใช้ “สัญญาณอินเทอร์เน็ต” ในการสื่อสารครับ
แทนที่เจ้า True Super Talkie 4G เวลาเราพูดข้อความลงไป แล้วมันจะส่งเสียงออกไปผ่านสัญญาณวิทยุ ตอนนี้มันส่งไปทางสัญญาณอินเตอร์เน็ตแทน ข้อดีก็คือระยะอาณาเขตในการพูดคุยกันไม่จำกัดแล้วว่าต้องอยู่ในพื้นที่ๆ สัญญาณวิทยุส่งถึงกันได้ แต่กลายเป็นใช้ได้ทุกพื้นที่ๆ อินเตอร์เน็ตเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi หรือ 3G/4G มันก็แทบจะเรียกได้ว่าทั่วประเทศเลยละครับ
วอจากกรุงเทพ ก็คุยกันได้ถึงเชียงใหม่ หรือทุกๆ ที่ ที่มีสัญญาณเน็ต
นอกจากนี้แล้ว ระบบ “True Push To Talk” ยังออกแบบมาให้เราสามารถพูดคุยกันได้เป็น “กลุ่ม” ครับ เหมือนระบบวิทยุสื่อสารเลย พูดทีเดียวได้ยินกันทั้งกลุ่ม ซึ่งรองรับคนในกลุ่มได้มากกว่าร้อยคนเลยครับ
ซึ่งเราสามารถตั้งกลุ่มขึ้นมาเองได้ โดยในระบบจะเรียกว่า “ชาแนล” ในแต่ละชาแนลก็สามารถกำหนดชื่อ กำหนดกลุ่มคน และเมื่อเราสร้างชาแนลขึ้นมาแล้ว ก็จะมีข้อดีที่พิเศษยิ่งกว่าระบบวิทยุสื่อสารทั่วๆ ไป นั้นก็คือ มันสามารถกลับเข้าไปฟังประโยคย้อนหลังได้ด้วยครับ โดยมันจะถูกบันทึกไว้เป็นไฟล์ข้อความเสียง คล้ายๆ ข้อความแชตภายในห้อง
ซึ่งภายในห้อง เรายังสามารถส่งไฟล์ภาพ ไฟล์วีดีโอ ทั้งจากภายในเครื่องและถ่ายสดจากตัวกล้องให้กันได้ด้วยครับ ประโยชน์เพิ่มพูนมหาศาลในเวลาใช้งานภายในองค์กร หรือกลุ่ม เพื่อประสานงานและแจ้งข้อมูลไปมาหากันครับ
ซึ่งแต่ละแชนแนล เราสามารถสลับใช้งานได้ง่ายๆ โดยการกดปุ่ม “CH” ด้านข้างตัวเครื่องนั้นเอง และในแต่ละครั้งที่กด ตัวเครื่องจะแจ้งชื่อกลุ่มออกมาเป็นการอ่านออกเสียงให้เราทราบด้วยว่า เรากำลังอยู่แชนแนลไหนครับ
ในการตั้งค่าของระบบ “True Push To Talk” เราสามารถกำหนดได้มากมาย เช่นการเลือกฟังเสียงจากกลุ่มที่ต้องการ ตั้งค่าสถานะให้กลุ่มทราบเช่น ยุ่งอยู่ เป็นต้นครับ
การเข้าใช้งานระบบ True Push To Talk เป็นระบบฟรีครับ ใช้เพียงหมายเลขของทรูลงทะเบียนครั้งแรกในการใช้งานเท่านั้น โดยการลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ภายในแอพ True Push To Talk ตั้งรหัสผ่าน ตั้งชื่อไอดีของเรา แล้วก็พร้อมใช้งานได้แล้วครับ
หลังจากนั้นก็พร้อมจะสร้างกลุ่ม ค้นหากลุ่ม ค้นหารายชื่อเพื่อน แล้วก็ Push To Talk ได้เลยทันที
สามารถใช้งานระบบ Push To Talk ได้ผ่านชุดหูฟังที่แถมมาให้ในกล่องได้ด้วยนะครับ ได้ทั้งฟังและพูดเมื่อกดปุ่มบนชุดหูฟัง ฉะนั้นสะดวกและปลอดภัยกว่าครับในขณะขับขี่รถ
จากการทดสอบใช้งาน ต้องบอกว่ามันเป็นมือถือที่อยากจะเอาไปให้แม่ผมใช้เลยละครับ และทิ้งอีกเครื่องไว้ข้างตัวหรือที่ออฟฟิศ เพื่อการติดต่อสื่อสารง่ายๆ ในครอบครัวผมเอง
แบตเตอรี่ของ True Super Talkie4G ในเวลาใช้งานผ่านคอนเทนต์ด้วยสัญญาณ 4G แบตค่อนข้างหมดไวนะครับ ใช้งานต่อเนื่องแบบนั้นได้ประมาณสามชั่วโมงก็ต้องชาร์จแล้ว
แต่ถ้าเป็นการแสตนด์บายการสื่อสารผ่านเสียงเพียงอย่างเดียว มันอยู่ได้เป็นวันๆ เลยละครับ
และผมว่าด้วยลำโพงที่ดังชัดเจน ความสามารถพิเศษอย่างดูหนังได้ เป็นไฟฉายได้ คุยสื่อสารได้ และใช้งานง่ายๆ แบบนี้ เหมาะมากสำหรับใช้เป็นเครื่องสำรองหรือมอบให้กลุ่ม องค์กร รวมถึงผู้ใหญ่ในบ้านใช้ครับ
“แถมราคาไม่แพง”
ทางทรูเปิดจำหน่าย True Super Talkie 4G ในราคาแค่ 1,790บาท แถมเมื่อซื้อเครื่องพร้อมเปิดเบอร์ใหม่ ขายแต่ 990 บาทเท่านั้นด้วย
ส่วนกล้องถ่ายภาพ 2 ล้านพิกเซล ไม่ต้องไปหวังมากเลยครับ แค่พอถ่ายเก็บภาพไว้ได้ในยามต้องการ ไม่ใช่กล้องคุณภาพสูงอะไรเลยครับ
สรุปท้ายรีวิว
ความสามารถของเครื่องจากแนวคิดดีของ Ture แล้วนำออกมาขายราคานี้ต้องบอกว่าถูกมาก ความสามารถแบบบ้านๆ ที่ออกแบบมาได้ถูกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งการดูทีวีฟรี ทั้งการใช้วิทยุผ่านลำโพงได้ รวมถึงมีไฟฉายและระบบ Push To Talk ใช้งานติดต่อแบบวิทยุสื่อสาร
ปุ่มกดใหญ่ ระบบใช้งานง่าย หน้าจอตัวอักษรใหญ่ชัดเจน มีระบบ SOS ขอความช่วยเหลือ เอาไปไว้กับคนที่บ้านสักเครื่องเอาไว้อยู่กับเราสักเครื่อง สร้างความอุ่นใจในราคาไม่แพงได้เลย
True Super Talkie 4G จึงเหมาะสมทั้งการใช้งานในภาคสนาม ใช้ในกลุ่ม ในทีมงาน รวมถึงนำไปใช้ในองค์กรที่ต้องติดตื่อสื่อสารกันแบบเรียลไทม์ และยังเหมาะกับการใช้งานในกลุ่มครอบครัวอีกด้วยครับ