ในยุคนี้เกมคอนโซลโดยเฉพาะบน PS4 เริ่มมีการรองรับ ภาษาไทยมากขึ้น เพราะการตอบรับแผ่นแท้ของชาวไทยทำให้ตลาดเกมมีการลงทุนใส่ภาษาไทยเข้ามาในเกมฟอร์มยักษ์หลายเกม ก่อนหน้านี้ก็มี The Last Of Us 2 และไม่เพียงแค่นั้นเกมเล็กๆหลายเกมก็เริ่มมีการลงทุนใส่ภาษาไทยมาให้ด้วย
ล่าสุดกับการเปิดตัวเกม Ary and the Secret of Seasons บน PS4 , Nintendo Switch , Xboxone และ พีซี ที่มาพร้อมกับการรองรับภาษาไทยด้วย ถือว่าน่าสนใจมากเพราะแม้เกมอาจจะไม่ได้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่แต่รูปแบบของเกมจากสัมผัสแรกถือว่าน่าสนใจ กับเกมจากค่ายอินดี้เล็กๆ ที่มีการพัฒนาลงคอนโซล ที่มีการใส่โลกกว้างๆให้เราได้สัมผัสกัน รีวิวนี้ ผู้เขียนเล่นบน PS4 แต่บน Nintendo Switch จะมีภาษาไทยด้วยเช่นกันครับ ได้รับการยืนยันแล้ว
ภาพในเกมดูธรรมดาและขาดรายละเอียด
อย่างไรก็ตามเกม Ary and the Secret of Seasons ก็ยังคงอยู่ในกรอบของเกมค่ายเล็กๆที่ไม่ได้โดดเด่นนัก แต่มาแนวการ์ตูนที่ดูดีในระดับหนึ่ง แต่ความต่อเนื่องของภาพในบางส่วนดูไม่ลื่นแม้เฟรมเรตจะลื่นไหลก็ตาม แต่เกมมี Bug ในส่วนของกราฟิกอยู่พอสมควรไม่ว่าจะเป็นการโหลดที่นาน และมีอาการโหลดฉากไม่ทันอยู่ แต่โดยรวมแล้วหากคุณไม่คิดมากก็เล่นได้เพราะตัวละครของเกมออกแบบมาดีอยู่
เรื่องราวเหมือนนิทานเด็ก แต่แปลไทยไม่ดีพอ
ตามชื่อของเกม เราจะได้รับบทเป็นเด็กสาวนาม Ary ที่โลกในเกมจะเกิดในดินแดน มหัศจรรย์ Valdi โดย Ari ได้เข้าร่วม Guardians of Seasons ซึ่งเป็นองค์กรเก่าแก่ และต้องออกตามหาพี่ชายที่หายตัวไป ทำให้เราต้องหาข้อมูล และยังต้องแก้ไขความผิดเพี้ยนของฤดูกาลของดินแทน Valdi ผ่านโลกกว้างๆที่ทำออกมาได้ดีพอตัวเมื่อเทียบกับฟอร์มเกม
โดยรวมเรื่องราวนำเสนอแบบการ์ตูนหรือนิทานสำหรับเด็ก เพราะไม่ค่อยมีความรุนแรง แต่เขียนออกมาได้น่าติดตามและมีการใส่มุขตลกมาตลอด ส่วนการแปลภาษาไทยที่ถือเป็นไฮไลท์ของเกม กลับทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร มีการแปลแปลกๆเหมือนใช้โปรแกรมแปลในบางจุดของคำพูด และยังมีอาการสระลอย หรือมาไม่ครบทุกตัวอักษรอยู่แต่ก็ทำให้เราเข้าใจเรื่องราวได้แบบไม่มีอะไรติดขัดและเล่นไปได้จนจบเกมแบบรู้เรื่องราว 100%
เกมเพลย์นี่มัน เซลด้า ชัดๆ
รูปแบบการเล่นของเกม Ary and the Secret of Seasons คล้ายกับเกมดังของนินเทนโด อย่าง The Legend of Zelda ภาค 3D โดย เฉพาะภาคหลังๆที่มีโลกกว้าง ๆ แบบเกม Openworld ที่ผู้เล่นต้องออกค้นหาดันเจี้ยน แล้วหาทางเข้าไปและในฉากดันเจี้ยนจะมีปริศนาให้แก้โดยใช้ท่าพิเศษหรือไอเทม และเมื่อผ่านฉากก็จะได้อุปกรณ์เสริม เพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ๆได้เหมือนกับเกมแนวเซลด้า
ซึ่งบอกไว้ก่อนมันไม่ใช่การเลียนแบบแต่เป็นแนวทางที่หลายเกมนำไปใช้ เซลด้าเป็นต้นแบบ เช่นเกม Darksiders ที่เหมือนเซลด้าฉบับฮาร์ดคอร์ ส่วนเกม Ary and the Secret of Seasons จะมาแนวน่ารักเหมือนการ์ตูนเด็กที่ไร้ความรุนแรง และในแง่ของการแก้ปริศนาในเกมถือว่าทำออกมาได้ดีมาก เหมือนกับการผสานเอาความสามารถพิเศษของตัวละครมาเข้ากับฉากได้ลงตัว และหากใครเคยเล่นมีความคล้ายกับบางฉากในเกม The Legend of Zelda: Skyward Sword
ความสามารถแห่งฤดูกาลคือจุดเด่น
อย่างที่บอกไปว่าความโดดเด่นของเกมนี้คือการแก้ปริศนาของฉากในเกม และความสามารถของ Ary คือการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลได้ โดยเมื่อกดปุ่มเลือกฤดูด้วยพลังแห่งคริสตัลแห่งฤดูกาลที่มี 4 แบบให้เลือก และเมื่อใช้บริเวณใกล้ๆตัวละครจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลที่เราเลือก เช่นเรียกหน้าหนาวมาก็จะมีน้ำแข็งและหิมะ และหากเรียกหน้าร้อนมาในดินแดนหิมะจะเป็นการละลายน้ำแข็งรอบๆตัวแทน
แน่นอนว่าการใช้การเปลี่ยนแปลงฤดูกาล จะใช้คริสตัลเพื่อเปลี่ยน โดยจะมีสี่ชิ้นตามที่บอก และเราต้องออกไปค้นหาทั่วดินแดนแบบค่อยๆปลดล็อกไปเรื่อยๆ โดยเกมนะมีอิสระในการเล่นอย่างมาก เราจะไปไหนก่อนก็ได้แต่หากไม่มีไอเทมที่เกมกำหนดก็จะไม่สามารถเข้าไปได้ที่เป็นรูปแบบของเกมเซลด้าที่ใช้มาตลอด และเกมถอดแบบมาได้ดีพอสมควร แม้ฉากจะออกแบบมาแปลกๆอยู่แถมยังมี Bug ในเกมอยู่หลายจุด และบางจุดอาจจะทำให้เราไม่สามารถเล่นไปต่อได้ต้องระวังกันหน่อย แต่คาดว่าผู้สร้างเกมจะอัปเดทตัวแก้มาให้ใช้เร็วๆนี้
ระบบอาวุธที่เรียบง่าย
อาวุธหลักของเกมก็คือดาบของพี่ชายที่ มีรูปแบบการต่อสู้และล็อกเป้าโจมตีที่เข้าใจง่าย และไม่อยากบอกว่ามันก็เหมือนกับเซลด้าอีกนั้นแหละ เพราะมีการใส่ดนตรีเข้าจังหวะมาตอนโจมตีโดนตัวศัตรู นอกจากนี้ยังมีอาวุธระยะไกลอย่างหนังสติ๊กง่ามไม้ ไว้ยิงลูกหินใส่ศัตรูด้วย และยังมีเครื่องป้องกันที่หลากหลายทั้งชุดและหมวก หรือหน้ากาก ที่เสริมพลังป้องกันได้จากการซื้อของในร้านที่เรียบง่ายมากๆ ส่วนระบบอัปเกรดตัวละครก็ง่ายๆแค่เก็บสะสมเงินมาซื้อในร้านก็แค่นั้น โดยเราสามารถเลือกอัปเกรดค่าพลังโจมตี และเพิ่มพลังท่าไม้ตายได้ด้วยเช่นกัน
สรุปมันคือเกมเซลด้าที่น่ารัก เล่นง่าย
เกม Ary and the Secret of Seasons มันคือความทะเยอทะยานของค่ายเกมเล็กๆ ที่จะสร้างเกมที่มีขนาดใหญ่ และใช้รูปแบบการเล่นที่เป็นหนึ่งในต้นแบบของวงการเกมอย่างเซลด้า และสร้างออกมาได้ดีพอสมควรแม้จะมีอะไรติดขัดอยู่ เช่นรูปแบบการเล่นที่ยังไม่ลื่นมาก จุดหมายของเกมไม่ชัดเจน ยังดีที่มีภาษาไทยทำให้เราสามารถเข้าใจง่ายๆว่าเราไปไหนต่อได้จากการอ่านคำบอกใบ้ที่มีมาตลอดเกม แถมยังมีภารกิจย่อยมากมาย และเกมมีความยาวในระดับน่าพอใจ ยิ่งเมื่อเทียบกับราคาขายที่ไม่แพงเลย ใครอยากเล่นเกมแนว The Legend of Zelda ที่มีภาษาไทยไม่ควรพลาด เพราะหากจะรอเซลด้าของปู่นินมีภาษาไทย ก็อาจจะรอกันอีกยาวนานมากๆ