ช่วงที่ผ่านมานี้ถือของราคาไม่แพงครับ Asus Zenfone 2 Laser ทางอัสซุสส่งมาให้ลองใช้ มือถือแอนดรอยด์ราคาประมาณ 5,990 บาท แต่ทางผู้ผลิตได้บอกกับเราว่า สินค้าเขายอดเยี่ยมในเรื่องของการถ่ายภาพ เพราะเจ้าตัวนี้มาพร้อมกับระบบตรวจจับวัตถุบนภาพด้วยเลเซอร์ หรือระบบ Laser Focus นั้นเองครับ
ตัวเครื่องภายนอกออกแบบคล้ายกันไปหมดครับ ของ Asus ในปีนี่ ดูจะมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยตรงบริเวณตัวกล่องและปุ่มกด โดยรวมสวยดีครับ และภายในกล่องของ Zenfone 2 Laser จะมีฝาหลังมาให้สองชิ้นนะครับ ตัวที่ผมได้มาเป็นเครื่องฝาหลังขาว จะได้ฝาหลังสีดำเงินซึ่งสวยกว่า มาให้อีกหนึ่งอันด้วยครับ
แรกสัมผัสแน่นอนว่าหนักและหนาครับ ดีที่ว่าด้านหลังทำเป็นโค้งจับถือยังง่าย ผมชอบการทำพื้นผิวของลายฝาหลังครับ มันทำให้ดูดีนะเวลาใช้งานจริง ปุ่มควบคุมอยู่ด้านหลังถนัดดีเวลากดเพิ่มเสียงลดเสียงและการใช้กดเพื่อถ่ายภาพตอนเซลฟี่
ส่วนปุ่มพาวเวอร์ที่อยู่ด้านบนนั้นกดลำบากครับ เพราะเครื่องใหญ่ล้นมืออยู่เหมือนกัน
โดยรวมในเรื่องของวัสดุความแน่นหนาในการประกอบและการออกแบบถือว่าดีครับ ดีมาก ฝาหลังแกะกันยากจนเล็บจะฉีกกันเลยเพราะออกแบบมาหนาและแน่นเหลือเกิน ตัวเครื่องสวย แต่ด้วยความที่เครื่องทุกๆ รุ่นของปีนี้ ทาง Asus ออกแบบมาเหมือนๆ กันหมด จึงอาจจะขาดเสน่ห์ไปสักหน่อยสำหรับผู้ที่เคยใช้เคยจับ Asus Zenfone 2 Series มาก่อนแล้ว แต่การออกแบบแบบนี้ได้รับการการันตีด้วยรางวัลด้านการออกแบบระดับสากลอย่าง iF Design Award 2015 มาแล้วนะครับ
ก็มาลองแกะฝาหลังใส่ซิมใช้งานกันดีกว่าครับ ตัวเครื่อง Zenfone 2 Laser นั้นเป็นเครื่องมือถือสองซิม สามารถใช้งานได้่กับเครือข่ายมือถือทุกค่าย รวมถึงการรองรับ 4G ทั้งสองซิมการ์ด น่าจะง่ายสำหรับคนที่ต้องการสลับใช้งานซิมการ์ดสองหมายเลขบ่อยๆ เพราะมันไม่ต้องย้ายสลับซิมเพื่อใช้งานครับ ตั้งค่าในเมนูภายในได้เลย
ตัวผมเองใช้งานหลักๆ เพียงซิมเดียวครับ น่าเสียดายไม่ได้ทดสอบการทำงานสลับย้ายซิมสักเท่าไหร่ แต่เท่าที่ทดสอบใช้งานมาการเชื่อมต่อไม่มีปัญหาครับ คุยสนทนาเสียงชัดเจนดี แต่มีปัญหาที่เจอในวันใช้งานวันแรกก็คือเมื่อถึงตอนกลางคืนเราจะไม่เห็นปุ่มกดด้านหน้าเครื่องนะครับ เพราะทั้งสามปุ่มนั้นไม่มีแสงไฟ ใช้กดเอาตามสัญชาตญาณก็พอจะคลำถูกครับ
ด้านการใช้งานทั่วๆ ไปความลื่นไหลอยู่ในระดับกลางๆ ใช้งานไปก็พบเจออาการสะดุดเป็นระยะๆ ครับไม่ได้มาก อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้และคาดไว้อยู่แล้วว่าน่าจะประมาณนี่
หน้าจอแสดงผลสีสวย มุมมองกว้าง เป็นเครื่องราคาถูกที่ดูไม่ถูกก็เพราะคุณภาพหน้าจอนี่แหละครับ ซึ่งการใช้งานภายในทาง Asus ใส่ฟังชั่นมาให้เพียบเลยเกี่ยวกับการปรับแต่ง ทั้งการปรับหน้าตาในส่วนของเมนูและไอคอนแอพ รวมถึงปรับสีแสงของหน้าจอ ถ้าใครชอบปรับเปลี่ยนแปลงหน้าตาการใช้งานของเครื่องน่าจะถูกใจครับ มีธีม มีไอคอนให้เลือกเปลี่ยนเยอะ ฟังชั่นแยะ จะบอกว่าทาง Asus ใส่เข้ามาให้ไม่ต่างกับรุ่นอื่นๆ ที่แพงกว่าเลยครับ
หน้าจอสวยดีทีเดียว แถมยังใช้กระจกเป็น Gorilla® Glass 4 ซึ่งจะมีความแข็งของกระจกสูงมากครับ
ผมทดสอบใชัตัวเครื่อง Zenfone Laser เปิดการนำทางด้วย Google Map เพื่อไปทำงานในวันนี้ครับ การตรวจจับสัญญาณแม่นยำดี ใช้ร่วมกับสัญญาณเน็ตก็เป็นเครื่องนำทางได้สบายๆ
เปิดใช้งานต่างๆ แบบเต็มที่ เช็คอีเมล คุย Line เข้าแฟนเพจเฟซบุ๊ค เข้าหน้าเว็บ พิมพ์บันทึก อัพเดทข้อมูล ทุกการใช้งานที่ผ่านมาไม่เจอปัญหาอะไรเลย ประสิทธิภาพการทำงานก็เป็นไปตามระดับมาตรฐานของมัน มีกระตุกบ้างให้เห็น น่าจะเป็นที่แรมมากกว่าที่ CPU เดี๋ยวนี้เครื่องแอนดรอยด์แรม 2GB เริ่มจะไม่พอในการใช้ซะแล้ว
เข้าเว็บไซด์ เปิดหนัง FullHD ทำงานได้สบายๆ แต่เสียงลำโพงนี่ถ้าเปิดสุดๆ เสียงออกแหลมและแตกนิดๆ ครับ ส่วนเรื่องความดังเสียงดังดีใช้ได้ การออกแบบจุดวางลำโพงทำได้ดี วางหงายเสียงไม่โดนบัง
และมีอีกอย่าง เจ้าตัว Asus Zenfone 2 Laser ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้นะครับ เปิดกล่องมาไม่เจอไม่ต้องแปลกใจนะครับ เขาไม่ได้แถม
ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ ใช้งานในระดับเต็มที่ตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยง ผ่านไปประมาณ 7 ชั่วโมงแบตใช้ไป 41% ครับ อึดนะ เพราะผมใช้งานเต็มที่จริงๆ จะเห็นว่าจากกราฟผมเปิดใช้งานแทบตลอด เพราะนำ Asus Zenfone 2 Laser ตัวนี้มาทำคลิปประกอบการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Car AV ทั้งวันครับ จะมีการชาร์จไฟเข้าไปเล็กน้อยเพราะบางครั้งต่อพ่วงกับ USB และมีการจ่ายไฟออกแป๊บเดียวครับ โดยรวมถือว่าแบตเตอรี่อึดใช้ได้เลย
มาลองทดสอบกล้องถ่ายภาพของมันสักหน่อยครับ ระบบ Laser Focus จะทำให้กล้องถ่ายภาพของมันจับวัตถุบนภาพในระยะใกล้ได้ไวมากขึ้น ซึ่งผมยืนยันเลยว่าไวดีครับ ภาพที่ได้อยู่ในระดับกล้องมือถือที่ดี ติดตัวเอาไว้ไปเก็บภาพตอนเที่ยวได้เลย
ความละเอียดของกล้องหลังอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 และแฟลชสองสี (Real Tone Flash) ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถเก็บภาพได้มุมกว้างถึง 85 องศา ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ได้รายละเอียดฉากหลังมากขึ้นครับ
[section label=”ตัวอย่างภาพถ่าย” anchor=”photo-sample”]ตัวอย่างภาพถ่าย
เก็บภาพได้รวดเร็วดีครับ ผมให้คะแนนการถ่ายภาพดีกว่ารุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกันนะ ถ่ายสนุกและมีฟังชั่นเยอะ
ทดสอบกล้องหน้ากันสักนิด ผมว่าเลนด์กว้างดี แต่คุณภาพก็ระดับกล้องหน้าธรรมดาๆ นี่แหละ มีดีตรงมีฟังชั่นเยอะครับ หน้าเนียนแบบนี้หลายคนชอบ ^^
บอกแล้วว่าฟังชั่นของทาง Asus ใส่เข้ามาให้เครื่องของเขาเยอะมากจริงๆ ครับ ขนาดการถ่ายภาพยังมีให้แบบเต็มหน้าเลย
ลองเทียบกับเครื่อง Asus Zenfone Deluxe คล้ายกันมาก ต่างกันที่ฝาหลัง แต่ฝาหลังมันสลับใส่กันไม่ได้นะครับ อุปกรณ์บางตำแหน่งอยู่ไม่ตรงจุดกัน
สิ่งที่ผมใช้งานมาแล้วชอบอีกเรื่องหนึ่งบนเครื่องของ Asus ก็คือคีย์บอร์ดที่ทาง Asus เลือกใส่มาให้ครับ กดง่าย มีการตั้งค่าที่สำคัญครบ ปรับแต่งได้มากมาย เป็นคีย์ยบอร์ดที่พิมพ์ง่ายและกดง่านสำหรับผมมากเลย
ใช้งานมาจนครอบสามอาทิตย์ บางครั้งก็ลืมไปว่าถือเครื่องราคาสี่พันกว่าบาท เดี๋ยวนี้ให้มาระดับนี้แล้วครับแบบไม่ต้องจ่ายแพง และมีการอัพเดทระบบแก้ไขข้อบกพร่องออกมาสองครั้งแล้วที่ผมได้รับการอัพเดทครับ ส่วนในอนาคตจะได้รับการอัพเดทระบบ Android ไปได้ไกลแค่ไหนอันนี้ต้องลุ้นกัน แต่ว่าวันนี้มันก็เป็น Android 5.0 มาให้อยู่แล้วครับ
[section label=”คะแนนทดสอบอื่นๆ” anchor=”performan-test”]คะแนนทดสอบอื่นๆ
[section label=”สเปคเครื่อง” anchor=”specification”]สเปคเครื่อง
- 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100MHz
- 4G LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800)MHz
- HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat4 150/50 Mbps
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม (Micro-SIM, dual stand-by)
- ขนาดตัวเครื่อง 143.7 x 71.5 x 10.5 มม. น้ำหนัก 140 กรัม
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (294 ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 4
- Android 5.0 Lollipop
- CPU Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53
- GPU Adreno 306
- RAM 2GB
- หน่วยความจำภายใน 16GB และเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 128GB
- Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 4.0, A2DP
- Micro USB 2.0
- GPS
- เซนเซอร์ Accelerometer, proximity, compass
- กล้องความละเอียด 13MP, 4128 x 3096 pixels, Laser Autofocus, dual-LED (dual tone) flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama, HDR
- บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 30fps
- กล้องหน้าความละเอียด 5MP
- แบต 3,000 mAh
- ราคา 6990 บาท
[section label=”บทสรุป” anchor=”verdict”]บทสรุป
ราคาถูกจัดครับเมื่อเทียบกับสเปค การใช้งานอยู่ในระดับดีแล้วบนระบบแอนดรอยด์ สเปคมันทันซอฟแวร์มาได้สักระยะแล้วฉะนั้นบางทีซื้อเครื่องแอนดรอยด์ราคาไม่ต้องแพงก็ครอบคลุมการใช้งานได้เกือบครบแล้วครับ ระบบกล้องมีการพัฒนามากขึ้นชัดเจนในเรื่องของการจับโฟกัส ฟังชั่นเยอะและรองรับการใช้งานสองซิมการ์ดเต็มรูปแบบเพราะรองรับ 4G ทั้งสองสล็อตซิมการ์ด ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก ด้วยราคาแค่นี้ ฟันธงว่าถูกครับ