DooGee Turbo 2 DG900 เป็นสามาร์ทโฟนระดับเรือธงของแบรนด์น้องใหม่ในบ้านเรา DooGee ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเรือธงของแบรนด์แต่ก็มีราคาเบาๆครับเพียง 7990 บาทเท่านั้น สำหรับแบรนด์ DooGee เป็นแบรนด์จากประเทศจีน แต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในจีนครับ เพราะเขาเน้นทำตลาดในแถบยุโรป โดยเฉพาะในประเทศสเปน และ ฮอลแลนด์ โดยทาง Doogee ได้เป็น Sponsor ในสโมสรฟุตบอลในสเปนทีม Villarreal ทีมใน League เดียวกับ Real Madrid และ Barcelona อีกด้วย
ซึ่ในบ้านเรา DooGee ก็จะเน้นทำตลาด Online ครับไม่เน้นจำหน่ายตาม Shop โดยจะมีศูนย์ซ่อมอยู่ในกรุงเทพ ใครที่อยู่ต่างจังหวัดทาง DooGee รับซ่อมผ่านทางไปรษณีย์ครับ และรับรองในเรื่องซ่อมเสร็จในเวลาไม่เกิน 7 วัน (อันนี้ทาง DooGee บอกมาเองนะ^^)
สเปคของ DooGee Turbo 2 DG900
- รองรับ 3G HSDPA 850/2100
- ขนาดตัวเครื่อง 143 × 72.6 × 6.9 มม. น้ำหนัก 134 กรัม
- หน้าจอ IGZO LCD ขนาด 5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (441 ppi) กระจก Gorilla Glass 3 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- Android 4.4.2 KitKat
- CPU MTK6592 Cortex-A7 Octa Core 1.7 GHz
- RAM 2GB
- หน่วยความจำภายใน 16GB เพิ่มภายนอกได้สูงสุด 64GB
- Wi-Fi b / g / n, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot
- Bluetooth 4.0
- GPS
- microUSB 2.0, รองรับ OTG
- กล้องความละเอียด 18 MP
- กล้องหน้าความละเอียด 8MP
- แบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh
- ราคาเปิดตัว 7990 บาท
DooGee Turbo 2 DG900 มาพร้อมกล่องที่ Design ได้น่ารักดีครับเหมือนใน Doogee Valencia DG800 ในกล่องจะมีตัวเครื่อง DooGee Turbo 2 DG900, คู่มือ, หูฟัง, สาย Micro USB แบบสายแบน, หัวปลั๊ก และกระจกนิรภัยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถือว่าเป็นจุดเด่นนะครับ เพราะแบรนด์อื่นปกติแล้วอย่างมากก็แถมกันรอยแบบธรรมดาๆ
ตัวเครื่อง DooGee Turbo 2 DG900 สวยดีนะครับ วัสดุดีและงานประกอบแน่นดีมาก แต่ก็ดูคล้าย Nokia Lumia 920 อยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวครับ ตัวเครื่องดูหรูหราใช้ได้เลย วัสดุจะเป็นพลาสติคสีทองอ่อนๆตัดกับกระจกสีขาว
หน้าจอสวยมากครับสีสดและสว่าง รวมทั้งมีหน้าจอที่มุมมองกว้างมาก และเป็นสมาร์ทโฟนราคาเบาๆที่มาพร้อมหน้าจอ IGZO LCD ของ Sharp ขนาด 5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P และใช้กระจก Gorilla Glass 3 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ลำโพงสนทนาดังชัดเจนดี และกล้องหน้าความละเอียดจัดเต็ม 8MP
จริงๆ DooGee Turbo 2 DG900 จะมาพร้อมฟังก์ชั่นเท่ๆอย่าง Back Touch เหมือน OPPO N1 หรือ Doogee Valencia DG800 ด้วยนะครับแต่ว่าในงานเปิดตัวทีม DooGee บอกว่ามันไม่เสถียรมีปัญหาในการใช้งาน เขาเลยเอาออกไปในการอัพเดทล่าสุด และตัวเครื่องผมว่าร้อนพอสมควรนะเนี่ย
บริเวณกล้องด้านหลังจะนูนขึ้นมามีความละเอียดถึง 18MP (เซนเซอร์จริงๆ 13MP) และไฟแฟลช LED ผมว่าตรงนี้สวยดีนะ แต่ไม่ชอบที่พิมพ์ชื่อรุ่นใว้ตรงนี้เลยครับเพราะเลือกใช้ Font ได้ไม่สวยเลยสู่ไม่พิมพ์จะสวยกว่า ถัดลงมาจะเป็นลำโพงตัวเครื่องเสียงไม่เพราะ แตกๆนิดหน่อยด้วย ไม่สมกับหน้าตาหล่อๆของมันเลย
ด้านบนมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ส่วนด้านล่างจะมีพอร์ท microUSB 2.0, รองรับ OTG และช่องไมโครโฟน
ด้านซ้ายจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Power ส่วนด้านขวาจะมีช่องใส่ซิมและ Micro SD Card ซึ่งเป็นแบบมาตราฐานใหม่ที่ให้เลือกว่าช่องที่สองเราจะใส่ซิมที่สอง หรือจะเลือกเพิ่มหน่วยความจำ
DooGee Turbo 2 DG900 จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh ไม่สามารถถอดเปลี่ยนเองได้เพราะงานประกอบจะเป็นแบบ Unibody ซึ่งจากการทดสอบผมว่าแบตเตอรี่อึดดีมากครับ เกินคาดจริงๆ ทั้งๆที่ความจุแบตไม่ได้มากมายอะไร อันนี้ต้องขอชมเลยครับ
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 13163 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 28409 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 54fps
รองรับ Multi Touch 5 จุด
GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วดี
DooGee Turbo 2 DG900 มาพร้อม Android 4.4.2 KitKat และ UI แบบเดิมๆไม่มีการปรับแต่งอะไรมาก แต่ก็จัดเต็มลูกเล่นมาเยอะสมเป็นแบรนด์จากจีนนะครับ มีทั้ง Gestures ต่างๆและ HotKnot รวมทั้งการสั่งงานโดยการโบกมือผ่านหน้าจอ DooGee Turbo 2 DG900 เพื่อให้เปลี่ยนหน้าต่างๆนั้นก็มีมาให้ครบเลยทีเดียว
การใช้งานจากการทดสอบความลื่นไหลอยู่ในระดับที่ดีครับ แต่ก็ยังมีอาการหน่วงๆอยู่นิดหน่อย ซึ่งน่าจะพอแก้ไขได้โดยการลองเปลี่ยน Launcher ดูนะครับ ซึ่งใน Play Store มีให้เลือกเล่นกันอย่างจุใจเลย
ลูกเล่นน่าสนใจใน DooGee Turbo 2 DG900 ได้แก่ HotKnot การถ่ายโอนข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพียงนำจอแสดงผลมาสัมผัสกัน จะสามารถถ่ายโอนข้อมูลทุกอย่างไปยังสมาร์ทโฟนอีกเครื่องได้อย่างง่ายดาย (แต่เครื่องนั้นๆก็ต้องมี HotKnot ด้วยนะครับ)
Gestures ต่างๆเช่นการปาดนิ้วบนหน้าจอเป็นอักษรเพื่อเปิดใช้งานสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆบนตัวเครื่อง หรือการแตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อให้หน้าจอติดขึ้นมา รวมทั้งคำสั่งโบกฝ่ามือเหนือหน้าจอเพื่อสั่งงานโดยไม่ต้องสัมผัสเครื่อง ฟังก์ชั่นเท่ๆแบบนี้ล้วนมีมาให้บน DooGee Turbo 2 DG900 ครบถ้วนเลยครับ
DooGee Turbo 2 DG900 รองรับการอัพเดตผ่านทาง OTA ด้วยนะครับ ส่วนเรื่องการอัพเดตในอนาคตทาง DooGee บอกว่ามีอัพเดตตามบริษัทแม่ที่เมืองนอก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไปครับสำหรับแบรนด์หน้าใหม่อย่าง DooGee
เครื่องเล่นเพลงและวีดีโอเป็นแบบมาตราฐาน สามารถปรับ EQ และบันทึกรายการวิทยุใว้ฟังได้ คุณภาพเสียงผ่านหูฟังอยู่ในระดับธรรมดาๆไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่แย่ครับส่วนวีดีโอรองรับการชม Full HD 1080P ได้ลื่นไหลดีมาก
เรื่องเกมเล่นได้ลื่นไหลดีมากครับ เกมที่นำมาทดสอบคือ GT Racing 2 และ Asphalt 8 : Airborne
DooGee Turbo 2 DG900 มาพร้อมกล้องความละเอียด 18MP (เซนเซอร์จริงๆ 13MP) และกลองหน้าความละเอียด 8MP ซึ่งจะมีโหมด Beauty Effect มาให้ใช้งานด้วย คุณภาพผมว่าธรรมดาๆครับไม่โดดเด่น แต่การถ่ายภาพในระยะใกล้ๆทำได้ดีสีสันอาจจะไม่สดนักแต่เก็บรายละเอียดภาพได้ดีกว่าที่คิด เหมาะกับการนำไปแต่งต่อ ส่วนการถ่าย Selfie ผมว่าทำได้โอเคนะครับ อาจจะไม่ปรับแต่งจนสวยเด้ง แต่ดูเป็นธรรมชาติดีครับ น่าจะถูกใจหลายๆคน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง DooGee Turbo 2 DG900
ข้อดีของ DooGee Turbo 2 DG900
1. ตัวเครื่องสวย วัสดุและการประกอบทำได้ดี
2. หน้าจอ IGZO LCD ขนาด 5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P สวยงามมาก
3. สเปคน่าสนใจ MTK6592 Cortex-A7 Octa Core 1.7 GHz, RAM 2GB และหน่วยความจำภายใน 16GB (เพิ่มได้อีก 64GB)
4. ลูกเล่นน่าสนใจมากมายตามสไตล์สมาร์ทโฟนจากประเทศจีน
5. กล้องความละเอียด 18MP และกล้องหน้า 8MP
6. แบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh อึดเกินคาด
ข้อด้อยของ DooGee Turbo 2 DG900
1. คุณภาพเสียงลำโพงไม่ดี
2. กล้องคุณภาพควรปรับปรุง
DooGee Turbo 2 DG900 เป็นสามาร์ทโฟนที่น่าสนใจอีกรุ่นในช่วงราคานี้นะครับ โดดเด่นที่ Design สวย วัสดุดี และเลือกใช้หน้าจอคุณภาพสูง IGZO การใช้งานโดยรวมถือว่าทำได้ดีไม่เลว จะติก็ตรงเสียงลำโพงทำได้ไม่ดีและกล้องยังควรต้องปรับปรุง ที่น่าสนใจก็คือ DooGee รับประกันซ่อมเสร็จภายใน 7 วัน (นับจากวันที่เครื่องถึงศูนย์ซ่อม) ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่ต้องจับตาดูกัน โดยเฉพาะช่องทางจำหน่ายที่เน้น Online ถือว่าต้องทำการบ้านมาดีๆเลยละ
[gradeB]