มีหูฟังรุ่นใหม่มาให้รีวิวกันอีกแล้วกับ Samsung Galaxy Buds 2 หูฟัง True Wireless ที่มีการปรับดีไซน์ใหม่มาในรูปแบบทูโทน 2 สี และขนาดของตัวหูฟังที่เล็กลงใส่ได้กระชับร่องหูใส่สบายมากขึ้น พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling (ANC) เชื่อมต่อง่าย เสียงดี และน้ำหนักที่เบาเพียง 5 กรัมเท่านั้น มีจำหน่ายในไทย 3 สี ได้แก่สีเขียวมะกอก Olive สีม่วง Lavender และสีดำ Graphite วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท ตัวที่เราจะมารีวิวก็คือสี Olive เขียวมะกอกค่ะ
ดีไซน์ใหม่
ตัว Galaxy Buds 2 ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ใหม่แต่ก็ยังคงความเป็นพี่น้องตระกูล Buds อยู่ค่ะ กับผิวมันเงา สีเกลี้ยงสกรีนโลโก้ Samsung อยู่ตรงกลาง เพิ่มเติมคือเผยให้เห็นขอบด้านในที่เป็นสีเดียวกับหูฟัง ออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสโค้งมนไม่มีเหลี่ยมคม ตัวผิวที่เป็นมันเงาดูเรียบหรูก็จริงแต่ก็เป็นคราบมันรอยนิ้วมือได้ง่ายเช่นกันค่ะ
วัสดุประกอบที่แม้จะเป็นพลาสติกแต่ก็ดูแข็งแรงทนทน ฝาปิดเปิดดูไม่ง๊อกแงกปิดเปิดได้ไม่ต้องปราณี มีขอบยางบนฝาด้านในช่วยรับแรงกระทบ ด้านหน้าจะเป็นไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ของตัวเคสชาร์จค่ะ
ด้านหลังเป็นพอร์ตชาร์จ USB Type C
ด้านในจะเป็นสีทูโทนสี Olive ที่เรารีวิวกัน สีเขียวมะกอกอมเทา ด้านในเคสชาร์จจะเป็นผิวด้านนะคะ ส่วนตัวหูฟังเอียบัดเป็นสีเดียวกันกับด้านในตัวเคสชาร์จ แต่ผิววัสดุจะเป็นผิวมันเงาเหมือนด้านนอกตัวเคส การออกแบบให้เป็นสีทูโทนก็ดูไม่น่าเบื่อดีค่ะ พร้อมสัญลักษณ์ Sound by AKG นั่นหมายถึงหูฟังรุ่นนี้ได้รับการปรับจูนโดย AKG มั่นใจเรื่องคุณภาพได้เลยค่ะ
ด้านในจะเป็นไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ของตัวเอียบัด และขั้วชาร์จของตัวหูฟัง ตัวนี้รองรับการชาร์จไร้สายด้วยนะ ด้านในจะมีแม่เหล็กดูดตัวหูฟังให้ไม่หลุดง่าย
โดยรวมก็ดูสวยเก๋ดีค่ะ กับสีใหม่ สี Olive ที่น่าจะถูกใจหลายๆ คน
แกะกล่องอุปกรณ์
ตัวกล่องทั้งด้านนอกและด้านในใช้วัสดุที่ทำมาจากกระดาษล้วนค่ะ ลดการก่อขยะที่ทำมาจากพลาสติกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
มาดูกันค่ะว่าภายในกล่องให้อะไรมาบ้าง
- หูฟัง Galaxy Buds 2
- เคสชาร์จ
- สาย USB Type C
- ชุดจุกยางซิลิโคนสำหรับเปลี่ยน อีก 2 ไซส์
- คู่มือการใช้งานหลายภาษาฉบับเร่งด่วน
การเชื่อมต่อ
และด้วยความที่เป็นหูฟังซัมซุง ย่อมไม่ใช่แค่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้วหยิบออกมาเสียบเข้าหูเพื่อฟังเพลงเพียงอย่างเดียว ก่อนการเชื่อมต่อหูฟังเอียบัดกับสมาร์ทโฟนให้เราโหลดแอปพลิเคชั่น Galaxy Wearable ก่อนค่ะ เพื่อเข้าถึงการใช้งานที่เต็มรูปแบบ จากนั้นเปิดกล่องเคสชาร์จที่มีตัวหูฟังอยู่ด้านใน บนหน้าสมาร์ทโฟนเราก็จะขึ้นป๊อปอัพการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นก็จะขึ้นคำแนะนำต่างๆ ให้เราทำตามคำแนะนำบนหน้าจอสมาร์ทโฟนได้เลยค่ะ
แอพ Galaxy Wearable ช่วยให้เราเข้าถึงฟังก์ชั่นและความสามารถอื่นๆ ที่มีในตัวหูฟัง เข้าไปตั้งค่าการใช้งานตัวหูฟัง และยังสามารถปรับอีควอไลเซอร์ได้ 6 แบบตามรสนิยมในการฟังของเรา รวมถึง SmartThings Find ฟังก์ชั่นการช่วยตามหาหูฟัง เผื่อเราไปทำตกหล่นไว้ที่ไหนอีกด้วย
รีวิวการใช้งาน
หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาสักพักใหญ่ รู้สึกว่าเจ้าตัว Buds 2 ใส่สบายขึ้นกว่ารุ่นก่อนมากค่ะ เพราะขนาดที่เล็กลงทำให้ใส่ได้นานขึ้นไม่เจ็บหู ซิลิโคนที่มีความอ่อนนุ่มยืดหยุ่น ดีไซน์โค้งมนรับใบหูไม่ร่วงหลุดง่าย สำหรับใครที่ชอบใส่หูฟังตอนออกกำลังกายตัวนี้ได้เลยค่ะ ถึงจะเล็กลงแต่ก็ไม่หลุดง่ายใส่วิ่งได้เลยค่ะ กันน้ำกระเซ็นกันเหงื่อได้
คุณภาพเสียงในการฟังเพลง คุณภาพเสียงคมชัดทุกย่านเสียงทั้งสูง กลาง ต่ำ ได้ AKG มาจูนเสียงให้ฟังเพราะทุกแนวเพลงแทบจะไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเลย นอกจากนี้เรายังสามารถปรับอีควอไลเซอร์เพิ่มได้ถึง 6 แบบ ตามรสนิยมการฟังเพลงของเรา
วิธีการใช้งานโดยตรงจากตั้งหูฟัง โดยไม่ต้องเปิดเข้าไปเลือกในสมาร์ทโฟน ก็จะเป็นการแตะเพื่อเลือกให้ เปิด/ปิด เพลง แตะสองครั้งเพื่อเล่นเพลงถัดไป หรือ 3 ครั้งสำหรับการแบ็คกลับ นอกจากนี้ยังกดค้างเพื่อเปิด Active Noise Canceling เป็นการตัดเสียงรบกวนจากภายนอก
ดูหนังผ่านสตรีมมิ่งต่างๆ เสียงกับปากตรงกัน ไม่รู้สึกถึงความดีเลย์เลยค่ะ รวมถึงการเล่นเกมด้วย เอฟเฟ็คเสียงมาเต็ม ฟีเจอร์ Auto Switch ใน Galaxy Buds2 ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับใช้งานหูฟังระหว่างกาแลคซี่ดีไวซ์ได้ทันที เช่น ขณะที่กำลังสวมหูฟังเพื่อดูซีรีส์จากแท็บเล็ตอยู่แล้วมีสายเรียกเข้า Galaxy Buds2 จะสลับให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงจากสมาร์ทโฟนแทน และเมื่อวางสายแล้วหูฟังก็จะสลับกลับมาเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตโดยอัตโนมัติ
การสนทนาผ่าน Galaxy Buds 2 ตัวนี้จะมีไมโครโฟน 3 ตัวค่ะ และหน่วยตรวจจับเสียงพูดในตัว ช่วยให้คุยสายได้ด้วยเสียงที่คมชัดกว่าเดิม แม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีคนเยอะ หรือริมถนน ก็ได้ยินเสียงสนทนาชัดเจน
ในขณะที่โซลูชันแบบ Machine learning ช่วยกรองเสียงที่ไม่ต้องการออกไปเพื่อให้สนทนาได้ดีขึ้น สามารถเรียนรู้และจดจำ เพื่อเลือกกันเสียงรบกวนภายนอกได้ ช่วยให้ปลายสายได้ยินเสียงพูดชัดเจนมากยิ่งขึ้นแม้ว่าผู้พูดจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมากแค่ไหนก็ตาม การดีไซน์ที่แทบจะไม่มีส่วนยื่นออกมาช่วยลดการกระทบกับลมเพื่อทำให้การคุยสายขณะอยู่ข้างนอกนั้นคมชัดขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในอาคารหรือในที่มีคนพลุกพล่านพร้อมกับเทคโนโลยี VPU (Voice Pickup Unit) ทำหน้าที่ตรวจจับเสียงเวลาพูดและขจัดเสียงรบกวนในกรณีที่ไม่มีการพูด
ไมโครโฟน 2 ตัว จะตรวจจับเสียงรบกวนรอบข้างในขณะที่ Active Noise Canceling จะช่วยกำจัดเสียงที่ไม่ต้องการออกไป ซึ่งทำให้เสียงรบกวนภายนอกนั้นลดลงได้ถึง 98% รับรองโดย UL Verification รับฟังหรือตัดเสียงภายนอกด้วยตัวเลือกรับเสียงภายนอกที่ปรับระดับได้อย่างง่ายดายถึง 3 ระดับ
มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการใช้งาน เมื่อเราถอดหูฟังทั้ง 2 ข้าง เพลงก็จะหยุดอัตโนมัติ เราสามารถแยกใช้งานหูฟังเพียงข้างเดียวได้ด้วยค่ะ แต่ปริมาณแบตที่เหลือก็จะไม่เท่ากันจนกว่าเก็บเข้ากล่องชาร์จ
การใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน เล่นเพลงได้นานถึง 7.5 ชั่วโมง(เมื่อปิด ANC) และอีก 21.5 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสที่ชาร์จไฟจนเต็มรองรับการชาร์จเร็ว เพียงชาร์จแค่ 5 นาทีก็ใช้งานได้ถึง 60 นาที!
สรุปการใช้งาน
การปรับดีไซน์ใหม่แบบทูโทนทำให้ Galaxy Buds 2 ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ในขณะที่คุณภาพเสียงก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม รวมถึง Active Noise Canceling ก็ทำได้เงียบกว่ารุ่นก่อนแบบรู้สึกได้ การใช้วัสดุที่จับแล้วดูแข็งแรงทนทานไม่พังคามือรวมถึงฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ ที่มีให้ใน Galaxy wearable ในราคา 3,990 บาท ถือว่าคุ้มค่าค่ะ