ในยุคนี้แล้วเกมแนว RPG อาจจะไม่ได้รับความนิยมนักเพราะมันดูเชย โดยเฉพาะแบบใส่คำสั่งแล้วรอโจมตี หรือที่เรียกว่า เทรินเบส แต่ก็ยังพอมีคนสร้างอยู่บ้าง โดยมักจะอิงจากความคลาสสิกในอดีต หรือค่ายเกมอินดี้ก็ชอบเอามาใช้เพราะมีคนชอบแนวทางน้อนยุคอยู่ไม่น้อย ล่าสุดมีการเปิดตัว Cris Tales เกม RPG แนวคลาสสิกบน คอนโซล PS4 , PS5 , Xbox , Nintendo Switch และ พีซี
โดยเกม Cris Tales สร้างโดยอิงเกมคลาสสิกแนว RPG ของญี่ปุ่นที่เรียกว่า JRPG โดยทีมงานสร้างอินดี้จากประเทศโคลอมเบีย Dreams Uncorporated และ SYCK ที่สร้างเสียงฮือฮาได้ดีในตอนที่เปิดตัว เพราะมีการระบุว่าเกมสร้างจากความรักในแนว RPG และยังมีการใช้ธีมย้อนเวลามาเป็นลูกเล่นหลัก อีกทั้งทีมงานยังได้บอกว่าได้อิงเอาตำนานของวงการเกมอย่าง Final Fantasy และ chrono trigger มาเป็นต้นแบบยิ่งทำให้น่าสนใจมาก
กราฟิกมาแนว 2D ผสม 3D
ภาพในเกมสร้างโดยใช้ภาพ 2 มิติที่แบนเป็นกระดาษ คล้ายกับ Paper Mario ของนินเทนโด แต่ภาพแบน ๆ นี้ถูกเอามาเรียซ้อนกันเป็นมิติ ทำให้เวลาเดินเหมือนกับเกม 3D ที่ดูดี ถือว่าเหมาะสมกับแนวทางของเกมและไม่ต้องใช้ทุนสร้างสูงมาก อีกทั้งเฟรมเรตของเกมก็ลื่นดี แม้ว่าโดยรวมมันเหมือนเกมที่วางขายบนสมาร์ตโฟน แต่ก็ทำได้แหวกแนว ส่วนงานออกแบบตัวละครก็มาแนวการ์ตูนที่ดูน่ารัก เหมือนกับได้นั่งชมอนิเมชั่น 2D ในช่อง Cartoon network
ส่วนเรื่องราวที่เรียบง่ายแต่สนุก ตัวเอกของเกมจะเป็นสาวน้อยนาม Crisbell ที่ได้พลังพิเศษที่ทำให้ท่องไปในโลกทั้งใน อดีต, ปัจจุบัน และอนาคตพร้อมกันได้ โดยเธอต้องร่วมทีมกับเพื่อน ๆ ท่องไปในโลกที่ออกแบบมาเรียบง่าย เพื่อช่วยเหลือพลเมืองทั่วอาณาจักรของคริสตัลลิส และคืนความสงบสุข ที่มีทั้งภารกิจหลักที่เต็มไปด้วยอันตราย และเควสย่อยที่ทำมาให้เราสนุกกับเกมได้ยาวนาน รวมทั้งเรื่องราวที่มีการใส่คัทซีนเป็นอนิเมชั่นงาม ๆ มาให้ชมกันตลอดเกมด้วย เรียกว่าลงทุนมากกว่าเกมจากค่ายอินดี้ทั่วไปมาก
เกมเพลย์ RPG ที่ย้อนเวลาได้
รูปแบบการเล่นของ Cris Tales อย่างที่บอกว่ามาแนว RPG จากญี่ปุ่นแบบใส่คำสั่งแล้วโจมตี และมีฉากในเมืองฉากแผนที่ รวมทั้งการตัดเข้าฉากต่อสู้แบบสุ่ม เหมือนกับ Final Fantasy และดูเหมือนว่าทีมงานสร้างชื่นชอบไฟนอล เป็นพิเศษเพราะมีอะไรหลายส่วนชวนให้คิดถึงซีรีส์ Final มาก ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ มาแนว 2D มุมมองด้านข้าง และมีการใส่เสียงเพลงประกอบหลายส่วนที่ชวนให้คิดถึงเกมดังในอดีตด้วย ส่วนการต่อสู้ก็ไม่ยุ่งยากใช้การใส่คำสั่งง่าย ๆ เช่นโจมตี หรือใช้สกิลที่มีทั้งท่าไม้ตายและพลังเวทเพื่อโจมตี
ส่วนฉากหลักที่มีทั้งเมืองที่แม้ดูไม่กว้างแต่ก็มีอะไรให้สำรวจมากมายพอสมควร และยังมาพร้อมกับฉากแผนที่โลกที่คล้ายกับเกมแนว JRPG ในอดีตแล้วเดินเข้าหมู่บ้านหรือฉากที่เต็มไปด้วยศัตรู และแน่นอนต้องมีดันเจี้ยนให้เข้าไปตะลุยกับศัตรูที่จะอยู่แบบสุ่ม และถือว่าส่วนนี้ทำได้ดีพอสมควรเพราะมีความยาวและซับซ้อนและมีความยากพอสมควร ดังนั้นใครอยากสัมผัสความโหดของ RPG ในอดีตไม่ควรพลาด ส่วนระบบการตั้งค่าอัปเกรดตัวละครใช้ระบบเลเวลเหมือนเกมอื่น รวมทั้งยังมีสกิลใหม่ ๆ เมื่อเลเวลอัป และยังมีระบบอาวุธเครื่องป้องกัน ที่เรียบง่ายใครเคยเล่นเกมแนว JRPG มาก่อนจะเข้าใจได้ในทันที
การย้อนเวลาที่ทำได้สามยุคพร้อมกัน
จุดเด่นของ Cris Tales ที่ผู้สร้างตั้งใจใส่มาคือระบบการย้อนเวลา ที่ใช้การเลื่อนฉากที่จะเปลี่ยนช่วงเวลาได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต ที่ความยอดเยี่ยมคือทั้งหมดจะอยู่ในฉากเดียวเลย แค่กดปุ่มไม่กี่ปุ่มผู้เล่นก็สามารถเลื่อนเวลาไปยังอนาคตหรืออดีตได้ และแน่นอนมันทำเพื่อแก้ปริศนาเช่นการไปเอาของในอดีตมาช่วยชีวิตคนในปัจจุบัน และแน่นอนจะส่งผลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถือว่าเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เพราะไม่ต้องรอผลนานเห็นได้ในฉากเดียวเลย ทำให้แม้ว่าเกมจะเอาไอเดียจากซีรีส์เกม chrono trigger มาใช้แต่ก็ปรับให้ดูดีและลื่นไหลกว่า
นอกจากนี้ไอเดียการย้อนเวลาเปลี่ยนสลับยุคไปมา ยังสามารถนำมาใช้กับการเล่นในโหมดต่อสู้ได้ด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่สามารถใช้สกิลย้อนเวลาได้คือสาวน้อย Crisbell ที่จะส่งผลกับตัวศัตรูในฉากต่อสู้ด้วย เช่นการทำให้ศัตรูที่อยู่ในวัยหนุ่มตัวใหญ่ยักษ์ย้อนอดีตเป็นเด็กตัวเล็กทำให้จัดการได้ง่าย หรือการใช้การย้อนเวลาในการเพิ่มพิษหรือการติดสถานะแปลก ๆ เกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนเวลาได้ เช่นหากให้เพื่อนเขาใช้คาถาพิษให้ศัตรูติดพิษ แล้วเร่งเวลาไปในอนาคตทำให้ศัตรูตายในทันที
หรือใช้คาถาน้ำไปยังชุดเกราะของศัตรูแล้วเร่งเวลาไปในอนาคต ผลออกมาชุดเกราะศัตรูจะขึ้นสนิมทำให้โจมตีเข้า ถือว่าเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก อย่างไรก็ตาม แต่การย้อนเวลาหากใช้แบบไม่วางแผนให้ดีจะส่งผลบวกให้ศัตรูด้วย เช่นผลของยาพิษจะหายไปหากย้อนกลับไปวัยในอดีตก่อนที่ศัตรูมันจะติดพิษ หรือย้อนเวลาผิดทำให้ศัตรูที่แก่แล้วกลายเป็นหนุ่มทำให้อัดเราได้แรงขึ้น ทำให้เราต้องวางแผนการเล่นกันตลอด และส่วนนี้เองทำให้เกม Cris Tales โดดเด่นและแตกต่าง เพราะทั้งสามเวลาสามารถอยู่ในฉากเดียวกัน และสามารถสลับเวลากันได้ตลอดเวลาที่เล่นได้เลย
โดยรวมแล้ว เกม Cris Tales อาจจะไม่ได้เป็นเกมฟอร์มยักษ์ เพราะมันไม่ได้มีความอลังการด้านกราฟิก หรือเกมเพลย์ที่เหมือนของเดิมในอดีจ แต่ด้วยการที่ผู้เล่นสามารถสลับเวลาย้อนอดีตไปสู่อนาคต ได้ในฉากเดียวกันเลยทำให้มันดูแตกต่างและเป็นข้อโดดเด่นที่เหนือเกมอื่นอย่างมาก อีกทั้งมันมีความท้าทายยากพอสมควรแบบเดียวกับเกมในอดีตที่มีกัน ทำให้มันสามารถคืนชีพเกมแนว JRPG แบบเทรินเบสได้ดีเยี่ยม แม้จะมีข้อติอยู่บ้างแต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเกมที่ไม่ควรพลาด