“Ghost Of Tsushima คืองานศิลปะที่คุณสามารถเล่นได้”
เมื่อย้อนไปในปี 2020 เกมที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดคือ Ghost Of Tsushima เกมแนวโลกอิสระ Open World ฉบับซามูไร ที่ดูเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่มาก ด้วยรูปแบบการเล่นที่ทำได้ราวกับว่าผู้สร้างเป็นซามูไรจริง ๆ พร้อมกับเรื่องราวที่เข้มข้นระดับหนังของ อากิระ คูโรซาวะ ทำให้ไม่แปลกใจที่มันจะประสบความสำเร็จขายดีและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก
และเมื่อขายดีทำให้มีการต่อยอด โดยทาง Sony ได้ปล่อยเกม Ghost Of Tsushima Director’s Cut ภาคเสริมที่ปรับปรุงใหม่หลายจุด โดยจะเพิ่มฉากใหม่ขนาดใหญ่เข้าไปในเกม ส่วนก่อนจะเข้าเนื้อหาก็ขอบอกไว้ก่อนว่า หากใครมี Ghost Of Tsushima ฉบับเต็มบน PS4 แล้วก็เสียเงินเพิ่มเล็กน้อยเพื่ออัปเกรดเป็นภาค Director’s Cut และหากคุณต้องการอัปเกรดเป็นเวอร์ชั่นของ PS5 ก็ทำได้เช่นกัน โดยต้องเพิ่มเงินอีกเล็กน้อยเท่านั้น แต่ใครสงสัยว่าจำนวนหลักร้อยบาทจะคุ้มค่าหรือไม่ก็ต้องลองอ่านรีวิวดู โดย รีวิวนี้จะเล่นบน PS5 และได้อัปเกรดมาจาก PS4
กราฟิกจัดเต็มกว่าเดิมบน PS5
แม้ว่าโดยรวม Ghost Of Tsushima Director’s Cut จะเหมือนเดิมเพราะมันเป็นภาคเสริมไม่ใช่ภาคใหม่หากคุณเล่นบน PS4 แต่ของเดิมก็ถือว่าเป็นเกมที่กราฟิกสวยระดับต้น ๆ ของยุคแล้ว เพราะทั้งงานออกแบบที่จำลองเกาะ Tsushima มาได้อย่างสมจริง และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่มีชีวิตชีวา มีวิวที่สวยงามมาก ๆ จนแทบจะหยุดชมและถ่ายภาพเก็บ (ด้วยโหมด Photo) ไว้ตลอดการเล่นเกม เรียกว่าเหมือนได้ท่องไปในญี่ปุ่นโบราณที่สวยงามสมจริงแบบไม่มีที่ติ
ส่วนความโดดเด่นของ Ghost Of Tsushima Director’s Cut บน PS5 คือการรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K และเฟรมเรตลื่นไหลระดับ 60FPS แบบจัดเต็มและเมื่อเล่นบนความจุบนเครื่องจะโหลดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก ทำให้การเล่นในเวอร์ชันนี้ดูดีลื่นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด นอกจากส่วนของเกมเพลย์จะปรับให้ดูดีขึ้นแล้ว ทีมงานยังใส่ใจส่วนของการเล่าเรื่อง เพราะได้มีการแก้โมเดลของตัวละครเวลาเราเลือกเป็นภาษาญี่ปุ่น ตัวละครจะทำปากตรงกับเสียงพูดแล้ว ถือว่าเป็นการใส่ใจที่ดีมากใครชอบที่จะเล่นเสียงญี่ปุ่นแล้ว ต้องชอบ แน่นอนว่ายังคงมีเมนูและซับไตเติ้ล เป็นภาษาไทยเหมือนเดิม และยังแปลได้ดีมาก ๆ เหมือนเดิมด้วย
เรื่องราวเสริมที่ยาวคุ้มค่า
โดยต้นฉบับเกม Ghost of Tsushima เรื่องราวจะเกิดที่เกาะสึชิมะ ในประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงจาก การรุกรานญี่ปุ่นของมองโกล ในช่วงปี 1200 ส่วนเวอร์ชัน Director’s Cut เรายังคงได้เล่นเป็น Jin Sakai ซามูไรผู้ปกป้องเกาะจากมองโกล ที่คราวนี้จะได้พบกับศัตรูใหม่ที่น่ากลัวกว่าเดิม และดินแดนใหม่คือ “เกาะ Iki” ที่เป็นหมู่เกาะที่อยู่ใกล้กับสึชิมะ ที่เนื้อเรื่องยังคงเข้มข้นและผู้กับเนื้อเรื่องหลักได้อย่างลงตัว เราจะพบกับสิ่งที่รบกวนจิตใจ Jin Sakai ที่มีเรื่องราวให้ประหลาดใจตลอดการเล่น
โดยเนื้อเรื่องเสริมนั้นหากคุณเล่นจบแล้วหรือผ่านช่วงแรกก็จะมีในระบบเมนูให้เลือกไปเกาะ Iki ส่วนหากเริ่มเกมใหม่ต้องเล่นไปพักหนึ่งก่อนถึงจะสามารถปลดล็อกได้ แน่นอนว่าเราสามารถโอน Save จาก PS4 ไป PS5 ได้อย่างง่ายดายทำให้เล่นได้ต่อเนื่องทันทีหากคุณมีเวอร์ชันเดิมมาก่อนส่วนหากใครกังวลว่าเนื้อเรื่องเสริมบนเกาะ Iki จะไม่คุ้มค่า เพราะมันมีความยาวพอสมควร และได้ลงทุนสร้างสิ่งใหม่เข้าไปมากมาย ทำให้เมื่อมาเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มไปแล้วถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
เกมเพลย์เหมือนเดิมเพิ่มเติมสิ่งใหม่
ส่วน รูปแบบการเล่น Ghost of Tsushima ยังคงเหมือนเดิมเพราะเป็นเกมเดิม ยังคงมาแนวโลกอิสระทั่วไปที่ผู้เล่นจะได้ท่องไปในโลกกว้างๆได้ทั่วอย่างไม่จำกัด แต่จะมีภารกิจให้ทำทั้งเควสหลักและเสริม ส่วนระบบนำทางก็ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมเพราะใช้ลม ในการบอกว่าเราต้องเดินไปทางไหนตลอด และยังมีม้าให้เราขี่ท่องไปด้วยความเร็วสูง ส่วนระบบการต่อสู้ของเกมไม่ใช่แอ็คชั่นธรรมดา แต่ เกมเน้นความสมจริง ที่ต้องหลบหลีกปัดป้องจับจังหวะสวนกลับศัตรู ทำให้ต้องวางแผนให้ดีเพราะเกมไม่ง่ายหากเราไม่ระวังก็จะโดนฆ่าตายได้ง่าย ๆ เช่นกันแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไปและมีโหมดง่ายให้เล่นกัน ส่วนของใหม่อีกอย่างที่ต้องชมคือศัตรูที่มารูปแบบใหม่ด้วย ที่จะสร้างความลำบากในการเล่นเพิ่มเข้ามาแน่ เราต้องฝึกฝนและหาทางรับมือกับศัตรูที่น่ากลัวจากมองโกลกันด้วย
ในด้านของการพัฒนาตัวละครยังคงใช้ระบบเดิม ที่ปรับแต่งได้เยอะมาก ที่มีทั้งสกิลที่ของเดิมก็มีเยอะจนปลดล็อกแทบไม่หมด ที่ฉบับ Director’s Cut ได้เพิ่มเติมเรื่องราวการสร้างตำนานใหม่ บนเกาะ Iki เข้าไปให้เราสานต่อเพื่อสร้างชื่อเสียงให้เป็นตำนาน แน่นอนว่าเกมจะมึไอเทมใหม่ รวมทั้งชุดเกาะใหม่ ที่สามารถอัปเกรดเพิ่มค่าพลังได้โดยการเก็บสะสมวัตถุดิบที่อยู่ในเกาะ แม้ว่าโดยรวมอาจจะไม่ได้เพิ่มมากมายจนเป็นเกมใหม่ แต่ก็เพิ่มให้มาเข้ากับจำนวนฉากและความยาวที่เพิ่มเข้ามาแล้ว แน่นอนว่าระบบยังคงใช้เมนูเดิมทั้งหมดดังนั้นใครเล่นต้นฉบับมาแล้วก็แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยเล่นต่อได้ทันที
ส่วนใครไม่เคยเล่นมาก่อนและไม่มีต้นฉบับก็บอกไว้ได้เลยว่า Ghost Of Tsushima Director’s Cut คุ้มค่าราคาเกมเต็ม ๆ อย่างมากเพราะมันคือหนึ่งใน Open World ที่แตกต่างจากเกมอื่น ที่มีการเล่าเรื่องที่ดีมีงานออกแบบที่สวยงามมีโลกใบใหญ่ ๆ ที่มีอะไรให้ทำมากมายเพียบ และยังมีเรื่องราวเข้าข้นน่าประทับใจตลอดการเล่น แถมคุณจะได้เรื่องเสริมไปด้วยในแผ่นเดียวอีกเรียกว่าคุ้มค่าราคาแผ่นแท้สุด ๆ
โดยรวมแล้วการกลับมาปกป้อง เกาะสึชิมะของซามูไรหนุ่ม Jin Sakai ใน Ghost Of Tsushima Director’s Cut ถือว่าเป็นอีกเกมฟอร์มดีที่ไม่ควรพลาด แม้ว่ามันจะไม่ใช่เกมใหม่ 100% แต่ของที่เพิ่มเข้ามาก็มากเพียงพอ และคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มไปแล้ว และยิ่งเล่นบน PS5 ก็จะพบกับความลื่นไหลและความละเอียดกราฟิกแบบ 4K แท้ ๆ ที่ทำให้โลกบนเกาะสึชิมะ ยิ่งสวยงามสมจริงขึ้นไปอีก และเป็นอีกเกมที่แนะนำให้ต้องมีติดเครื่อง เพราะมันเป็นมากกว่าแค่เกมธรรมดา “Ghost Of Tsushima คืองานศิลปะที่คุณสามารถเล่นได้” ที่ไม่อยากให้พลาดไป