Honor 10 เปิดตัวออกมาอย่างเต็มภาคภูมิกับราคาที่เรียกว่าสะเทือนตลาดตามการคาดเดาครับ ด้วยเพราะประสิทธิภาพภายในของเครื่องที่ให้มาอยู่ในระดับตัวท็อปราคาแพง แถมมาพร้อมกับประสิทธิภาพกล้องคู่ระดับท็อป ไม่มีด้านไหนเลยที่จะบ่งบอกว่าราคาขายของมันจะอยู่แค่ที่ 13,990 บาท เท่านั้น ถือว่าประกาศราคาออกมาได้ถูกมากครับ
Honor 10 มีความโดดเด่นตั้งแต่ตัวเครื่องภายนอกครับ ด้วยการทำสีตัวเครื่องแบบผิวกระจกสามมิติ เคลือบหนา 15 ชั้น เกิดโทนสีเหลือบที่สะท้อนต่างกันตามมุมมอง โดยเฉพาะสีแนวออโรร่าแบบแฟนธ่อมบลูเป็นต้นซึ่งเป็นหนึ่งในสองสีที่เข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยครับ แต่ผมได้เครื่องสีดำมารีวิว แม้จะไม่โดดเด่นฉูดฉาด แต่ก็เรียบหรูดูแพงเช่นกันครับ
สีทั้งหมดของ Honor 10 จะมี สีเทาแฟนท่อมเกรย์ (Phantom Grey) , สีดำมิดไนท์แบล็ก (Midnight Black) , สีน้ำเงินแฟนท่อมบลู (Phantom Blue) และสีเขียวแฟนท่อมกรีน (Phantom Green)
แต่จะวางขายในไทยแค่ 2 สีก่อนครับ นั้นคือ สีดำมิดไนท์แบล็ก (Midnight Black) และ สีน้ำเงินแฟนท่อมบลู (Phantom Blue)
ตัวบอดี้เป็นลักษณะกระจกโค้ง 2.5D ทั้งหน้าและหลัง เวลาเราถือจับจะรู้สึกถึงสัมผัสกระจกทั้งตัวครับ รู้สึกเย็น เรียบเนียน และแน่นหนาทั้งตัว ตัวเครื่องเวลาถือจับดูเด่นมากครับ
แต่เป็นรอยนิ้วมือง่ายครับต้องคอยเช็ดกันบ่อยหน่อย ซึ่งภายในกล่องของทาง Honor มีเคสใสซิลิโคนแถมมาให้ครับ ถ้าไม่อยากเช็ดกันบ่อยๆ ส่วนหน้าจอจะติดกระจกป้องกันมาให้เราเลยตั้งแต่ในกล่อง
หน้าจอใหญ่ในสัดส่วน 18:9 ขนาด 5.84 นิ้ว ความละเอียด FHD+ คุณภาพของหน้าจอสีสวยสดมากครับ ใต้หน้าจอเป็นที่สแกนลายนิ้วมือซึ่งซ่อนอยู่ใต้กระจกแผ่นเดียวกับหน้าจอแบบไม่มีรอยสะดุดให้ระคายนิ้ว สแกนเข้าใช้งานได้โดยไม่ต้องกดปลุกเครื่องก่อน
หรือจะสแกนเข้าใช้งานด้วยใบหน้าก็ได้นะครับ เพราะ Honor 10 รองรับทังการสแกนด้วยลายนิ้วมือและการสแกนใบหน้า แม่นยำทั้งคู่ครับ เลือกใช้ได้เลยตามสะดวก
รองรับสองซิมการ์ด แล้วจะบอกว่า Honor 10 เป็นเครื่องสมาร์ทโฟนสองซิมที่รองรับ Dual4G ด้วยนะครับ หมายถึงมันสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ 4G ได้พร้อมกันทั้งสองซิมเลย หมดห่วงเรื่องสัญญาณหดอินเตอร์เน็ตหาย พร้อมรองรับการสนทนาเสียงคมชัดแบบ VoLTE ด้วยครับ
ใช้พอร์ตชาร์ตใต้เครื่องแบบ USB Type C และมีช่องเสียบหูฟัง! (ยอดเยี่ยมมาก!) มาพร้อมระบบชาร์จไวของทาง Honor โดยใช้กับที่ชาร์จที่แถมมาให้ภายในกล่อง มันจะชาร์จไวมากเป็นการชาร์จแบบ Honor Super Charge เสียบไฟแค่ 30 นาที เราจะได้แบตเตอรี่กลับมาใช้กว่า 50% แล้วครับ
แบตเตอรี่ของ Honor 10 อยู่กับเราได้เต็มวันครับ หรือถ้าเปิดใช้งานหน้าจอต่อเนื่องกันจะอยู่ได้ประมาณ 7 ชั่วโมงครับสำหรับความสว่างหน้าจอประมาณ 45%
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีเคส สายชาร์จ และที่ชาร์จเท่านั้นครับ เครื่องที่ผมได้มารีวิวไม่มีหูฟังมาให้ ไม่แน่ใจว่าเครื่องขายจริงจะมีให้มั้ยนะครับ
ตัวเครื่องภายนอกโดยรวมแล้วหรูหรา แวววาวตา ด้วยผิววัสดุกระจก อาจจะมีรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อย แต่ตัวเครื่องยังมีความบางและโฉบเฉี่ยวครับ แม้แบตเตอรี่จะใส่เข้ามาให้เรามากถึง 3,400 mAh แต่บางแค่ 7.7 มิลเท่านั้นเอง
ก็ดูสมเป็นเครื่อง High-End ของทาง Honor นะครับซึ่งเราอย่าไปดูที่ราคาขายนะครับเพราะแบรนด์นี้เขาทำราคามาได้ค่อนข้างถูก
การใช้งานภายใน
Honor 10 ให้สเปคเครื่องมาระดับตัวท็อปเรือธงเลยครับ แรม 4GB รอม 128GB และใช้หน่วยประมวลผลที่มาพร้อมกับระบบ AI ซึ่งจะคอยช่วยเหลือในการใช้งานต่างๆ ให้กับเรา โดยเฉพาะด้านการถ่ายภาพที่จะมีความโดดเด่นมาก สอดคล้องกับฮาร์ดแวร์ตัวกล้องของ Honor 10 ที่อยู่ในระดับสูง กล้องหน้า ความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 2 เลนส์ ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และ 16 ล้านพิกเซล F/1.8 มีระบบ AI ปัญญาประดิษฐ์จะคอยตรวจจับและวิเคราะห์วัตถุหรือฉากหลังแบบเรียลไทม์ได้กว่า 22 แบบ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้อีกภายหลัง มีระบบถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ (Portrait Lighting)
ผลลัพท์ด้านภาพถ่ายจึงออกมาดีครับ เพราะมาพร้อมครบทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ดี ส่องคนรู้ว่าคน ส่องสัตว์ก็รู้ครับ ถ่ายฉากถ่ายคนกล้องรู้หมดครับ โดยจะทำการแจ้งขึ้นมาเป็นไอคอนด้านล่างครับ และจะทำการปรับภาพให้กับเราได้อย่างรวดเร็ว
มีโหมดการถ่ายภาพบุคคลแบบ 3D ที่เราจะสามารถปรับแต่งโทนสี ฉากหลัง และมุมแสงเข้าได้ ซึ่งสามารถปรับได้ภายหลังการถ่ายไปแล้วด้วยครับ
ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดูความสามารถและความฉลาดของกล้อง Honer10 ได้จากคลิปวีดีโอข้างล่างนี้ครับ ว่ามันมีกล้องที่ฉลาดมากแค่ไหน
ตัวกล้องสามารถซูมภาพได้แบบออพติคัลสองเท่า ลองดูตัวอย่างจากภาพถ่ายกลางคืนแบบซูมสองเท่าดูครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก AI
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ประสิทธิภาพด้านการใช้งานก็อยู่หัวแถวของตลาดครับ เล่นเกมกราฟิกสูงๆ ได้ทุกเกม สเปคระดับนี้เล่นได้ไหวทุกแอพใน Play Store แล้วครับ
ภายในใช้ระบบ Android ตัวใหม่ 8.1 ไม่ต้องรออัพเดท ครอบทับด้วย EMUI 8.1 ฉะนั้นธีมการปรับแต่งของ EMUI ก็ต้องมีมาให้เลือกดาวน์โหลดมาใช้ฟรีกันแน่นอน
EMUI เป็นส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ค่อนข้างเรียบง่ายครับ เน้นการออกแบบให้ใช้งานสะดวกสบาย ลดความซับซ้อน แต่ก็ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เด่นๆ หลายตัวที่ใส่เข้ามาให้ เช่นระบบการแบ่งหน้าจอทำงานเป็นสองแอพพร้อมกัน Honor 10 ก็สามารถทำได้
การแยกแอพ Social จากหนึ่งให้เป็นสองแอพ เพื่อล็อคอินใช้งานสองบัญชีในเครื่องเดียว จากที่ลองใช้ก็สามารถแยกแอพสำคัญอย่าง Line หรือ Facebook เป็นสองบัญชีได้หมดครับ
การย่อหน้าจอเพื่อใช้งานมือเดียวได้ทันที แค่เพียงรูดนิ้วผ่านปุ่มคำสั่งสามปุ่มด้านล่าง
ฟังก์ชั่นเล็กน้อยที่เป็นความใส่ใจอย่างการปิดรอยแหว่งด้านบนจอภาพตรงส่วนการแจ้งเตือนก็มีมาให้นะครับ สำหรับ EMUI 8.1 มันจะสามารถกลบเกลื่อนแถบแจ้งเตือนด้านบนให้เป็นสีดำเนียนตาไปทั้งหมดก็ได้ สำหรับคนไม่ชอบส่วนแหว่งส่วนเว้าที่เขาออกแบบมา ฟังก์ชั่นนี้คนคิดน่ารักดี ^^ เลิกบ่นกันได้เลย เพราะทำมาเนียนมากกกก
หน้า UI แบบโหมดใช้งานง่าย เผื่อใครจะซื้อเอาเครื่อง Honor 10 ไปให้ผู้ใหญ่ที่บ้านใช้งาน ก็สอนเขาใช้ได้ไม่ยากครับ
ในการทดสอบใช้งานมาตลอดอาทิตย์ ผมไม่เจออาการผิดปกติหรือข้อบกพร่องใดในการใช้งานนะครับ มีแค่อาการสะดุดเล็กน้อยแบบสะอึก แต่โดยรวมรวดเร็วลื่นไหลดีครับ
เสียงลำโพงดังดีชัดเจนเสียงไม่แตก การสนทนาชัดเจน การรับสัญญาณถือว่าดีและดีมากสำหรับ Wi-Fi ได้ระยะรับสัญญาณถึงชั้นล่างบ้านผมซึ่งไม่ใช่ทุกเครื่องที่จะรับถึง ถือว่าผ่าน ^^
ผลทดสอบต่างๆ
การจับสัญญาณ GPS สามารถจับตำแหน่งแม้เราจะอยู่ในอาคารได้โดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตช่วยครับ
สรุปท้ายรีวิว
ทำออกมาได้ดีสมเป็นเครื่องระดับสูงของแบรนด์ และกำหนดราคามาได้ประทับใจ
ตัวเครื่องสวย เด่น ประสิทธิภาพสูง และกล้องถ่ายภาพฉลาดในการใช้งานมาก แถมให้คุณภาพของภาพในระดับสูงแม้จะเทียบกับเครื่องสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีราคาแพงกว่าในตลาดก็ตาม เป็นเครื่องที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในงบประมาณ ครับ
สมาร์ทโฟน Honor 10 จะวางจำหน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ที่ลาซาด้า (Lazada) ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนนี้ ในราคา13,990 บาท และจะจัดจำหน่ายที่ร้านซีเอสซี ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี และร้านทีจีโฟน ตั้งแต่วันที่ 8มิถุนายน เป็นต้นไป
ผู้สนใจสามารถสั่งจองสมาร์ทโฟนออเนอร์ 10 ล่วงหน้า ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ลาซาด้า (https://www.lazada.co.th/products/honor-10-ai-i224258667-s342760758.html?)
หรือที่ร้านซีเอสซี ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี และร้านทีจีโฟน ได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ โดยทุกท่านที่สั่งจองสมาร์ทโฟนล่วงหน้าจะได้รับของขวัญพิเศษ นอกจากนี้ลูกค้าที่สั่งจอง 500 ท่านแรก จะได้รับลำโพงไร้สายอีกด้วย