สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในกลุ่มระดับสูง Huawei Mate 40 Pro 5G เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มาพร้อมเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และพบกับมือถือรุ่นแรกที่ใช้หน่วยประมวลผล Kirin 9000 ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 5G SoC เทคโนโลยีขนาด 5 นาโนเมตร
HUAWEI Mate 40 Pro 5G นับเป็นสมาร์ทโฟนที่มีศักยภาพทางด้านฮาร์ดแวร์สูงมากครับ ใช้ชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่สูงที่สุดในวงการ ขนาด 5 นาโน เร็ว แรง ไม่ต้องสงสัยว่าเล่นเกมหรือใช้งานลื่นไหลมั้ยนะครับ! ดราะนี่มันแรงตัวพ่อระดับท็อป
รองรับสัญญาณ 5G ครบถ้วนทุกย่านความถี่ ทุกผู้ให้บริการ ระบบกล้องสามตัวจาก Leica ทำงานผสานกับเทคโนโลยี AI ของ HUAWEI ที่เรียกว่าเก่งที่สุด เป็นเครื่องที่ได้รับคะแนนทดสอบด้านกล้องถ่ายภาพติดอันดับท็อปของโลก ระบบชาร์จที่กำลังไฟสูงที่สุดแห่งยุคด้วย HUAWEI SuperCharge 66W
ดีไซน์ตัวเครื่องเด่นมาก ใหม่! เป็นเอกลักษณ์! สวยงาม! การวางกล้องแบบวงแหวน Space Ring Design โดยได้แรงบันดาลใจจากดวงดาวและจักรวาล วางกล้องบนวงแหวนในมุมและสัดส่วนที่สมมาตร ประทับตรา LEICA
โดยรุ่นนี้มีเข้ามาให้เลือก 2 สีคือ Black และ Mystic Silver ซึ่งเป็นสีที่เห็นในรีวิวนี้ครับ
ใช้ปุ่มพาวเวอร์เป็นสีแดงตัดกับสีตัวเครื่อง รองรับการชาร์จไร้สาย พร้อมมาตรฐานการผลิตกันน้ำกันฝุ่น IP68 งานผลิตแน่นหนา แค่จับสัมผัสก็รู้สึกความเป็นพรีเมี่ยมของรุ่นนี่ครับ หนักสักหน่อย 212 กรัม หนา 9.1 มม แต่ตัวเครื่องมันโค้งองศาสูง ฉะนั้นเวลาถือจับก็จะไม่ได้รู้สึกว่าเครื่องมันหนาครับ
สีสันจะเป็นเหลื่อมเงาเวลาอยู่กับแสง สะท้อนเป็นปรึซึมสีรุ้งสวยดี เครื่องเป็นรอยนิ้วมือยากด้วย ลูบไล้ละมุนมือ เย็นเหมือนโลหะ ลูบมันได้ทั้งวันแหละครับ ^^
ใช้หน้าจอ HUAWEI Horizon Display ชนิด OLED ขอบจอไม่มีเพราะหน้าจอเลยขอบลงไปด้านข้างตามขอบโค้ง 88 องศา เต็มตาล้นขอบ รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง รีเฟรชเรท 90Hz ความละเอียดสูง 2772 x 1344 พิกเซล เป็นหน้าจอที่รองรับการเขียนด้วยปากกา M-Pen ของ HUAWEIด้วยนะครับ
หน้าจอสวย สีสด คมชัดสูง เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับความลึก 3 มิติที่ทำงานคู่กัน และสามารถใช้งานเพื่อการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้าแบบสามมิติ 3D Face Unlock ได้ด้วยครับ สแกนใบหน้าได้ไวและสแกนได้แม้ในที่แสงน้อย
รองรับ 2 ซิมการ์ด สามารถสลับใช้งาน 5G ได้ทั้งสองสล็อตซิม และรองรับการใช้งาน e-Sim แทนซิมการ์ดที่สองได้ครับ ถ้าเปิด e-Sim ต้องปิดการใช้งานของซิมที่สองซะก่อน
ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงกว้างมีมิติทิศทาง ภายในให้แบตเตอรี่มา 4400 mAh แต่จะบอกว่าแบตอึดมากกกกกก มากกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ด้วยเหตุผลทั้งเรื่องของซอฟท์แวร์และ Kirin 9000 ประหยัดพลังงานทั้งคู่ มาพร้อมระบบการชาร์จที่ไฟแรงระดับถึง 66W เทคโนโลยีชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 66W (รองรับการชาร์จไร้สาย Wireless HUAWEI SuperCharge 50W อีกด้วย) ทดสอบการที่ชาร์จ 66W ที่แถมมาให้ภายในกล่อง ชาร์จจากแบตประมาณ 20% มาจนเต็มได้ในเวลาแค่ประมาณ 40 นาทีหน่อยๆ เท่านั้นเองครับ ชาร์จไวมากจริงๆ
อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ครบครับ ทั้งเคสใสซิลิโคน ชุดชาร์จ HUAWEI SuperCharge 66W และชูดหูฟังที่เป็น USB Type-C เพราะตัว Mate 40 Pro 5G ไม่มีรูหูฟ้ง 3.5mm ติดตั้งมาให้บนตัวเครื่อง
การใช้งานภายใน
ด้วยหน่วยประมวผลระดับ Kirin 9000 5G SoC มันเป็นชิปเซ็ตที่ประสิทธิภาพสูงสุด งานผลิตระดับ 5 นาโน ทำให้มีัทรานซิสเตอร์มากกว่า 1.53 หมื่นล้านตัวบนชิป การประมวลผลเร็วสูงสุด 3.13 กิกะเฮิร์ตซ์ และใช้ GPU 24-Core Mali-G78 ซึ่งเป็น GPU ที่ทรงพลังที่สุดของหัวเว่ยอีกเช่นกัน ROM 256 GB + RAM 8 GB พร้อมอัปเดตล่าสุดกับซอฟท์แวร์ EMUI 11 เก่งกาจเรื่อง AI และการจัดสรรทรัพยากร สิ่งที่ได้คือสมาร์ทโฟนทรงพลังที่ลื่นไหลสุดๆ ในทุกการใช้งานเลยครับ
รันด้วยเซอร์วิส HMS (HUAWEI Mobile Service) มี HUAWEI AppGallery เป็นสโตร์หลักสำหรับดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันใช้งาน ส่วนประสบการณ์การใช้งานจะลำบากมั้ย? ผมอธิบายให้ได้รู้กันชัดๆ ถึงสถานะปัจจุบันของ HMS ตามนี้ครับ
ในวันที่ผมรีวิว Mate 40 Pro 5G อยู่ตอนนี้ HUAWEIได้พัฒนาร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันตัวฮิตมากกว่า 95% ที่คนไทยนิยมใช้ได้รับการบรรจุไว้ใน HUAWEI AppGallery พร้อมแล้ว เช่น LINE, TikTok, Foodpanda, Shopee, Lazada, JD Central, เป๋าตัง, แอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ
เมื่อรวมกับการระบบค้นหาครอบจักรวาลอย่าง Petal Search ที่ HUAWEIใส่มาให้ มันสามารถค้นหาได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นข้อมูล เว็บไซด์ ข่าว หรือสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในเครื่อง รวมถึงแหล่งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เรียกได้ว่าเป็นประตูสู่แอปพลิเคชันมากมายที่มีการเปิดบริการให้ดาวน์โหลดมาติดตั้งได้ผ่านหน้าเบราว์เซอร์
ผมบอกได้เลยว่า การใช้งานของระบบ HMS ของ HUAWEIเขาใช้ระบบการจ่ายเงินผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย, บัตรเครดิต และบริการด้านการเงินอย่าง Truemoney ได้ ฉะนั้นในด้านแอพพลิเคชั่นใช้งานแทบจะไม่แตกต่างเลยครับกับระบบ Google Mobile Service
แต่! ในเรื่องของเกม ต่างออกไป ถ้าเป็นเกมที่มีอยู่ใน HUAWEI AppGallery แล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ ครับ แต่ถ้าเป็นเกมที่กำลังจะเปิดตัวใหม่ อาจจะมาช้ากว่าหรืออาจจะไม่มีมาให้เล่นบน HMS เราสามารถหาโหลดไฟล์ติดตั้งเกมผ่าน Petal Search ได้ แต่ปัญหาคืออาจจะเข้าเล่นเกมไม่ได้ หรือเติมเงินซื้อของในเกมไม่ได้ครับ จริงๆ อาจจะดีก็ได้นะถ้าเติมเงินไม่ได้แบบนี้ ^^
โดยทาง HUAWEI ได้ใส่ระบบตรวจสอบและป้องกันความปลอดภัยในการติดตั้งแอพไว้ 4 ขั้นตอน เพื่อเป็นการป้องกันให้ผู้ใช้ได้โหลดแอพจากผู้ให้บริการภายนอกได้สบายใจมากขึ้นครับ
มีธีมสโตร์ให้ดาวน์โหลดธีมและวอลล์เปเปอร์สวยๆ มาใช้งาน รวมถึงมีการให้บริการวีดีโอแบบสมัครสมาชิก ด้วยภาพยนตร์ คลิป และซีรี่ส์มายผ่านหน้าแอพ HUAWEI Video ด้วยครับ
EMUI ในเวอร์ชั่น 11 มีจุดเด่นในเรื่องของการทำงานพร้อมกันได้หลายอย่าง เช่น Multi-screen Collaboration เมื่อเชื่อมต่อแล็ปท็อปของ HUAWEIเช่นกัน ส่งหน้าจอสมาร์ทโฟนไปแสดงผลบนจอแล็ปท็อป แล้วควบคุมสมาร์ทโฟนผ่านจอแล็ปท็อปเป็นเหมือนอุปกรณ์เดียวกัน รวมถึงสามารถใช้ฟีเจอร์การแสดงผลหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน Multi-Window โดยให้แต่ละแอปพลิเคชันลอยอยู่บนหน้าจอได้อย่างอิสระ ทำงานได้พร้อมกันมากกว่า 2 แอพพลิเคชั่นเลยครับ
มีฟีเจอร์ล้ำๆ อย่าง Smart Gesture Control ที่สามารถควบคุมโทรศัพท์ เปิดหน้าจอหรือเลื่อนซ้าย-ขวา บน-ล่าง และสามารถเซฟภาพหน้าจอ รวมถึงรับสายด้วยการใช้มือโบกทำท่าแต่ไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่องเลย มือเลอะหรือไม่สะดวกจับเครื่อง ก็ยังสั่งงานได้ ^^
ยังมีฟีเจอร์ Eyes on Display อันนี้เจ๋งมากครับ เป็นตัวใหม่ที่เข้ามาแทน Always On Display การแสดงข้อมูลวัน เวลา แบตเตอรี่ และการแจ้งเตือน บนหน้าจอได้ตลอดเวลาแม้จะปิดหน้าจอไปแล้ว แต่ฟีเจอร์นี้จะตรวจจับสายตาเราได้อัตโนมัติเมื่อมองไปที่หน้าจอ และหน้าจอก็จะติดขึ้นมาแค่ตอนเรามองจอเท่านั้น ^^
ทดสอบการใช้งานในด้านต่างๆ การตอบสนองทำได้เร็ว และไม่มีปัญหาเลยในขณะทดสอบใช้งาน เล่นเกมลื่นสุดๆ ครับ
รวมถึงการจับสัญญาณไร้สายทั้ง Wi-Fi และ 5G ทำได้รวดเร็วมาก สมชื่อบริษัทที่พัฒนาด้านการเชื่อมต่อไร้สาย กดสลับใช้งาน 5G ระหว่างสองซิมหรือเปิดใช้ e-Sim ได้ในการตั้งค่เลยครับ โดยหนึ่งซิมจะใช้ 5G อีกหนึ่งจะสแตนด์บายที่ 4G ไปพร้อมกัน
กล้องถ่ายภาพ
ระบบกล้องหลังจาก Leica และ AI Camera 3 ตัว ความละเอียดสูงหมดครับ ใช้กล้องหลักเป็นกล้องเลนส์กว้างพิเศษ Ultra Vision Cine Camera ความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล มาพร้อมกล้องเลนส์กว้างตัวที่สอง Super Sensing Wide Camera 20 ล้านพิกเซล และกล้องซูม Periscope Telephoto Camera ที่ซูมแบบออปติคัลได้ที่ 5x และซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุดถึง 50x ความละเอียดอีก 12 ล้านพิกเซล
คุณภาพของภาพยอดเยี่ยมระดับโลก ด้วยระบบโฟกัสจากเซนเซอร์ TOF ยกกล้องขึ้นมาเล็งถ่าย โฟกัสแม่น ไว แยกเลเยอร์เป็นชั้นๆ แบบกล้องโปรเลยครับ
ระบบซูมภาพระยะไกลสุด 50x มีเอาไว้เพื่อซูมให้เห็นเท่านั้น ภาพไม่คมไม่สวยหรอกครับ แต่ความยอดเยี่ยมอยู่ในระดับไม่เกิน 10x เพราะภาพดีเหมือนจ่อถ่ายธรรมดาเลยทีเดียว ในขณะที่กล้องทั่วไป ซูมระดับ 10x ก็สุดความสามารถและภาพแตกไปหมดแล้ว แต่ตัวนี้ซูม 10x ยังคมๆ หรือจะฝืนซูมไป 20x ในสภาพแสงดีๆ ตัวอักษรไกลลิบๆ ยังคมชัดได้อยู่เลยครับ ซึ่งเจ้า AI ของกล้อง ตรวจจับสิ่งที่กำลังถ่ายได้ในทุกระยะการซูมอีกด้วย ช่วยได้ตลอด
การถ่ายภาพกลางคืนคือความยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยน ได้ภาพสว่าง มีความคมและไม่มีนอยส์ จริงๆ ต้องบอกว่าไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเปิดโหมดกลางคืนในการถ่ายภาพกลางคืนเสมอไปครับ เพราะในโหมดปกติ ด้วย AI และโมดูลกล้องที่มีรูรับแสงกว้าง ทำให้เจ้า Mate 40 Pro 5G สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้ดีมาก แม้แต่ถ่ายอยู่ในโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติธรรมดา และเลนส์ Ultra Wide ก็เก็บภาพในที่แสงน้อยได้ดีเหมือนเลนส์ตัวหลัก สภาพสี แสง ของสองเลนส์มุมกว้างในรุ่นนี้คุณภาพไม่หนีกันเท่าไหร่ด้วยครับ
หน้าชัดหลังละลายเนียนมาก เหมือนละลายด้วยรูรับแสงจริงจากเลนส์โปรครับ มีเอฟเฟ็กต์ลูกเล่นในการถ่ายภาพบุคคล ปรับแสง ถ่ายคนกลางคืนยิ่งมีลูกเล่น สามารถเปลี่ยนรูปร่างไฟโบเก้ด้านหลัง ให้เป็นรูปร่างน่ารักๆ เช่นโบเก้หมุน หรือรูปหัวใจหรือดวงดาว ^^
ส่วนกล้องด้านหน้าเป็น Ultra Vision Selfie Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และพร้อมกล้อง 3D Depth Sensing Camera เมื่อกล้องมันตรวจจับบุคคลได้แม่นระดับสแกนได้แบบ 3D ขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเซลฟี่ใบหน้าของแบบได้เป๊ะขนาดไหนครับ และมีลูกเล่นแสงสี คุณภาพเหมือนถ่ายด้วยกล้องหลังดีๆ สักรุ่นนึงเลยครับ
ตัวอย่างภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า
กล้องหน้าเจ้ารุ่นนี้ สามารถถ่ายวิดีโอได้ในความละเอียดสูงระดับ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที (fps) และมีโหมดวีดีโอสโลว์โมชั่นได้ด้วยกล้องหน้าครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมด Super Steady Shot ถ่ายวิดีโอไม่สั่นแม้เดินไปถ่ายไป เหมาะมากสำหรับการถ่าย VLOG และรองรับการถ่ายวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ครบทั้งความสามารถของกล้องถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายหลายๆ โหมดจากกล้องหลัง
การจำหน่าย โปรโมชั่นและราคา HUAWEI Mate 40 Pro 5G
ต้องบอกว่า HUAWEI Mate 40 Pro 5G เปิดโปรวางจำหน่ายได้น่าสนใจมากครับ มีการประกาศราคาออกมา 34,990 บาท พร้อมโปรโมชันสำหรับผู้ที่ซื้อระหว่างวันที่ 3 – 31 ธันวาคม 2563 รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่า 7,970 บาท พร้อมบริการหลังการขายสุดพิเศษ
สำหรับผู้ที่ซื้อระหว่างวันที่ 3 – 31 ธันวาคม 2563 ผ่านทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store ทุกสาขา และเว็บไซต์ HUAWEI Online Store รวมถึงร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
รับฟรีทันทีของสมนาคุณมูลค่ารวม 7,970 บาท ประกอบด้วย
- ปากกาเขียนจอ HUAWEI M-Pen 2
- เคสไฟวงแหวน HUAWEI Ring Light Case
- แท่นชาร์จเร็วไร้สาย HUAWEI SuperCharge 50W Wireless Charger Stand
พร้อมรับบริการเอ็กซ์คลูซีฟเพิ่มจากหัวเว่ย มูลค่า 1,619 บาท ได้แก่
- บริการซ่อมบำรุงถึงบ้าน (Door to Door service)
- บริการบำรุงรักษาเครื่อง 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี
- HUAWEI CLOUD STORAGE 5GB ตลอดชีพ + 50GB ให้ใช้ภายในระยะเวลา 1 ปี
- ฟรีค่าใช้บริการ HUAWEI VDO 1 เดือน
- เช่าหนังฟรี 5 เรื่องใน HUAWEI Movie Pass
สรุปท้ายรีวิว
ประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ด้าน ทั้งการตอบสนอง ความลื่นไหล นี่คือเครื่องเรือธงจากแบรนด์ใหญ่ ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการผลิตมาใช้งาน ตัวเครื่องสวยมีเอกลักษณ์ ระบบชาร์จไวยอดเยี่ยมและแบตเตอรี่อึด กล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงสุดของวงการ น่าใช้มากครับ
แต่แน่นอนต้องพูดถึงจุดที่คนส่วนใหญ่จะกังวลเรื่องระบบ HMS จะแทน GMS ได้แค่ไหน ผมบอกได้คร่าวๆ ตรงนี้ว่า ถ้าเป็นแอพพลิเคชั่นใช้งานต่างๆ แทบจะหาทำงานได้แทนกันเกือบทั้งหมดเลยครับ ผมสามารถใช้งาน HUAWEI Mate 40 Pro 5G ได้โดยไม่ต้องมี GMS ได้อย่างเต็มที่เหมือนสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นๆ
สิ่งที่ดูจะขาดไปคงเป็นเกมใหม่ๆ ที่ต้องการจะซื้อไอเทมภายในเกม เพราะจะมีการเรียกหาบริการเก็บเงินจาก GMS แต่ในอุปกรณ์ไม่มีครับ ส่วนเกมทื่มีอยู่ใน HUAWEI AppGallery แล้ว ไม่มีปัญหา ซื้อผ่านบริการเครือข่าย, True Money หรือบัตรเครดิตได้เลย