HUAWEI MatePad Pro 13.2” แท็บเล็ตเพื่อการทำงานแบบโปร บนจอขนาดใหญ่คุณภาพสูง และปากกาสไตลัสที่ดีที่สุด
แท็บเล็ตหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 13.2 นิ้ว ที่มีความบางและเบามากที่สุด มากับหน้าจอระดับสูง Flexible OLED HDR 144Hz ความละเอียดระดับ 2K QHD+ ขอบจอเล็กมาก อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94% เป็นขอบจอที่เล็กที่สุดของอุปกรณ์แท็บเล็ต และใช้จออัตราส่วน 3:2 ทำให้ใช้งานง่าย
เป็นอุปกรณ์เพียงรุ่นเดียวที่รองรับการใช้งานกับปากกาสไตลัส M-Pen 3 ที่มีเทคโนโลยี Nearlink มีค่าความหน่วงต่ำ และสามารถรับรู้แรงกดได้แตกต่างกันถึง 10,000 ระดับ จึงปากกาสไตลัสสำหรับการวาดระดับมือโปรและเขียนหน้าจอที่ดีที่สุด
ลำโพง 6 ตัวรอบเครื่อง ระบบเสียงดังกระหึ่มด้วยมัลติไดรเวอร์ตัวแรกของวงการ ลำโพง 4 วูฟเฟอร์และ 2 ทวิตเตอร์ ใช้งานในพื้นที่ 100 ตารางเมตร ไม่จำเป็นต้องต่อลำโพงภายนอกเพิ่ม
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 10100mAh รองรับระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 88W แต่ตัวเครื่องบางมากแค่ 5.5 มม. และมีน้ำหนักรวมแค่ 580 กรัม
เป็นแท็บเล็ตที่ให้กล้องหน้าความละเอียด 16MP รองรับ TOF สำหรับความแม่นยำให้การจับโฟกัสและสแกนใบหน้า
มาพร้อม HUAWEI Smart Magnetic Keyboard พร้อมทัชแพดแบบใหม่ ถอดประกอบแยกส่วนได้ เป็นทั้งเคส ทั้งขาตั้ง และเป็นคีย์บอร์ดในตัว
The Good
- หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 13.2 นิ้ว Flexible OLED HDR 144Hz ความละเอียดระดับ 2K QHD+
- อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94% ขอบจอที่เล็กที่สุดของอุปกรณ์แท็บเล็ต
- รองรับปากกาM-Pen 3 เทคโนโลยี Nearlink รับรู้แรงกดได้แตกต่างกันถึง 10,000 ระดับ
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 10100mAh รองรับระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 88W
- ตัวเครื่องบางมากแค่ 5.5 มม. และมีน้ำหนักแค่ 580 กรัม
The Bad
- ไม่มีรูหูฟังบนตัวเครื่องโดยตรง
- ใช้ระบบสแกนใบหน้า แต่ไม่มีที่สแกนลายนิ้วมือ
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
HUAWEI MatePad Pro 13.2” เป็นอุปกรณ์แท็บเล็ตขนาดใหญ่ที่มีความบางและเบามากที่สุด สำหรับคนที่ต้องการจอแสดงผลสำหรับการทำงานที่เต็มตา แต่ว่าเครื่องเล็ก พกพาไม่ลำบาก และในรุ่นนี้ยังสามารถรองรับปากกาสไตลัสที่ดีที่สุด นั้นคือ “M-Pencil เจนเนอเรชั่นที่ 3” ซึ่งเป็นปากกาที่มาในระบบ NearLink มันมีเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าตัวอื่นใดในตลาด โดยสามารถตรวจจับแรงกดในการเขียนวาดได้มากถึง 10,000 ระดับ ซึ่งเป็นเพียงเครื่องเดียวและเครื่องแรก ที่ให้ความสามารถในการวาดหรือเขียนให้กับผู้ใช้ได้ในระดับนี้
หน้าจอขนาดใหญ่ 13.2 นิ้ว FLEXIBLE OLED DISPLAY ขอบจอเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม
สิ่งที่สำคัญที่สุดของอุปกรณ์แท็บเล็ตก็คือเรื่องของหน้าจอแสดงผลนั้นเองครับ ใครที่ต้องการแท็บเล็ตก็คือคนที่ต้องการอุปกรณ์หน้าจอใหญ่ๆ เพื่อนำมาใช้งาน และในรุ่นนี้ก็จัดเต็มมาให้แบบเต็มที่ ด้วยหน้าจอที่ดีที่สุด Flexible OLED ขนาด 13.2 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอสูงมาก เป็นจอ 2K QHD+ (2880×1920พิกเซล) และยังคงสัดส่วนหน้าจอแบบ 3:2 ไม่ยืดยาว แบ่งทำงานหลายหน้าจอได้อัตราส่วนที่ใช้งานง่ายกว่า
ให้สีสันตรงเพื่อการทำงาน ความเที่ยงตรงของสีหน้าจอ ΔE<1 รองรับ HDR แบบ Full Link คอนทราสต์สูง 1000000:1, ความสว่างสูงสุด 1000nits แสดงผลในโลก 1 พันล้านสี และมีอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz
และขอบจอเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94% สูงที่สุดแล้วในปัจจุบัน ให้แสงที่สวยดูเป็นแสงธรรมชาติ สีสม่ำเสมอทั่วพื้นที่ ได้มาตรฐาน TÜV Rheinland Eye Comfort 3.0
จอขนาดใหญ่ที่เต็มพื้นที่เครื่อง รวมถึงการเคลือบจอและการให้แสงที่สม่ำเสมอ คุณภาพของจอระดับนี้เวลาเราใช้งาน จะรู้สึกสบายตาได้อย่างชัดเจนเลยครับ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่สามารถระบุรู้ได้จากแค่ตัวเลขสเปค
รุ่นนี้กล้องด้านหน้าจะใส่มาเป็นกล้อง 16MP ที่ใช้เทคโนโลยี TOF 3D มาให้ด้วยครับ ประโยชน์ทีได้รับคือการสแกนใบหน้าที่แม่นยำอย่างมากทั้งในที่มีแสงสว่างและการสแกนใบหน้าในที่แสงน้อย รวมถึงการใช้กล้องหน้าในการประชุมวิดีโอคอลล์ จะมีความคมชัดและจับโฟกัสหน้าบุคคลได้แม่นยำ ทำภาพละลายหลังในระหว่างการประชุมได้สวยงามมากขึ้นได้นั้นเองครับ
ตัวบางเบา แบตใหญ่ 10100mAh พร้อมเต็มอิ่มทั้งภาพและพลังเสียง
HUAWEI MatePad Pro 13.2” เป็นแท็บเล็ตที่ดีไซน์เพรียวบางมากด้วยครับ แม้หน้าจอจะใหญ่ถึง 13.2 นิ้ว และภายในใส่แบตเตอรี่มาให้ 10100mAh ซึ่งถือว่าแบตใหญ่มาก แต่น้ําหนักโดยรวมของเครื่องอยู่ที่ 580 กรัมเท่านั้น และมีความบางแค่ 5.5 มม.
ตัวเครื่องสวยงามและแข็งแรงครับมีการจำหน่ายเพียงสีเดียวนั้นคือสีเขียว โดยด้านหลังจะติดตั้งกล้องคู่มาให้ เป็นกล้อง Wide 13 MP และกล้องมุมกว้างพิเศษ Ultra-wide 8MP มีโหมดกล้องถ่ายภาพไม่ต่างจากสมาร์ตโฟน ทั้งการถ่ายภาพมุมกว้าง, การถ่ายภาพบุคคลละลายหลัง และการถ่ายภาพกลางคืน
บาง เบา พกง่าย ถือใช้มือเดียวไม่ได้ลำบากอะไรเลยครับ เทียบขนาดเครื่องแล้วใหญ่กว่าแท็บเล็ตหน้าจอ 10 นิ้วรุ่นอื่นเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ได้หน้าจอที่ใหญ่กว่ามากมาย
หน้าจอขนาดใหญ่ คุณภาพสูง ภาพสวยคมชัด แสงสว่างดูเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคือ “ระบบเสียง” ซึ่งอาจจะบอกได้ว่านี่เป็นแท็บเล็ตที่มีพลังเสียงจากลำโพงที่ดีที่สุดแล้วครับในขณะนี้ เสียงดัง เสียงแน่น มีซับวูฟเฟอร์ช่วยขับเสียงให้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นออกมาจากในตัวมันเอง แม้จะมีขนาดเครื่องที่บางเพียงนิดเดียว
ทาง HUAWEI ได้ออกแบบระบบลำโพงของ MatePad Pro 13.2” จัดเต็มด้วยลำโพง 6 ตัว ลำโพงวูฟเฟอร์ 4 ชุด และทวีตเตอร์อีก 2 ชุด ให้ความดังสูงสุดที่ระดับ 82dB กระหึ่มแบบมีพลังเกินตัว พร้อมระบบเสียงเทคโนโลยี HUAWEI SOUND ที่จะปรับโปรไฟล์เสียงเปลี่ยนไปตามคอนเทนต์ที่ใช้งานอยู่โดยอัตโนมัติ เช่น เปิดภาพยนตร์, ฟังเพลง, เล่นเกม, หรือเสียงพูดของมนุษย์
พลังเสียงสุดยอดครับ ลองใช้อยู่ในห้องส่วนตัว หรือใช้ในออฟฟิสขนาดห้องไม่เกิน 100 ตารางเมตรสามารถใช้งานได้ด้วยลำโพงตัวมันเองไม่ต้องต่ออุปกรณ์เครื่องเสียงภายนอกเพิ่มเติมแล้วครับ
ภาพสวย พลังเสียงดีงาม เครื่องเบาบาง จะใช้งานในบ้านหรือพกพาไปนอกสถานที่ ก็จะเป็นอุปกรณ์เอนเตอร์เทนเมนท์ชั้นดีให้กับเราได้เสมอครับ
แบตเตอรี่อึด ใช้งานบนจอขนาดใหญ่ที่จะเปิดดูภาพยนตร์ได้นานต่อเนื่องกว่า 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว หรือแม้แต่การทำงานหลักอย่างเช่นการวาดภาพหรือเขียนบันทึก ก็ยังเปิดจอวาดภาพได้นานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงโดยไม่ต้องชาร์จแบต ฉะนั้นรุ่นนี้ชาร์จครั้งเดียวก็นำไปใช้ทำงานแบบจริงจังได้ทั้งวันแล้วแน่นอนครับ
รองรับระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 88W จากที่ทดสอบสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 70% ในเวลาประมาณ 30 นาที แต่ตัวหัวชาร์จที่นำมาใช้ต้องมีเทคโนโลยีการชาร์จไฟที่เร็วสักหน่อยนะครับ ถ้าใช้ที่ชาร์จจากแบรนด์ภายนอกแนะนำให้มีกำลังไฟอย่างต่ำสัก 40W ขึ้นไป ไม่งั้นจะชาร์จได้ช้ามากเพราะอุปกรณ์มีแบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่จริงๆ
HUAWEI MatePad Pro 13.2” จะไม่มีรูหูฟัง 3.5mm. นะครับ พอร์ตรอบตัวจะมีเพียงแต่ USB Type-C เพียงพอร์ตเดียว เพราะส่วนใหญ่ใช้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมผ่านระบบ Magnetic ที่เป็นแม่เหล็กทั้งด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง
USB Type-C จะเป็นเวอร์ชั่น 3.1 Gen 1 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมภายนอกได้ ทั้งตัว USB Hub ใช้ต่อภาพออกหน้าจอด้านนอก หรือต่ออุปกรณ์เสริมอย่าง External HDD หรือคีย์บอร์ด, เมาส์
HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 3 ปากกาสไตลัสเทคโนโลยี NearLink ล้ำหน้าและสมจริงยิ่งกว่า
พัฒนามาถึงขั้นนี้แล้วนะครับกับปากกาสไตลัสเขียนหน้าจอของอุปกรณ์แท็บเล็ต โดยมี HUAWEI MatePad Pro 13.2” นำหน้าเป็นเจ้าแรก ที่ได้นำเทคโนโลยี NearLink มาใช้งานร่วมกับปากกา M-Pencil รุ่นที่ 3 ที่รองรับการเชื่อมต่อในเทคโนโลยี NearLink ด้วยเช่นกัน
เทคโนโลยี NearLink เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสัญญาณระยะสั้นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่โดยทาง Huawei เอง มันมีจุดเด่นอยู่ที่การรับส่งข้อมูลที่เร็วขึ้น การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทำได้เร็วขึ้น ครอบคลุมกว้างขึ้น และมีความปลอดภัยพร้อมทั้งประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม สิ่งที่สำคัญคือเทคโนโลยีสามารถลดค่าความหน่วงแฝงลงไปได้ถึงในระดับแค่ 20 ไมโครวินาทีเท่านั้น! มันจึงได้เปรียบอย่างมากสำหรับการนำใช้เชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ เช่น สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต, หูฟัง และรวมถึงปากกาสไตลัสเขียนหน้าจออย่าง M-Pencil รุ่นที่ 3 นั้นเองครับ
ตัวปากกามีการตอบสนองในการเขียน วาด ที่เป็นธรรมชาติมาก อยู่ในระดับที่ไม่สามารถแยกออกได้แล้วถึงค่าความหน่วงที่มีอยู่ ลายเส้นตอบสนองเหมือนการใช้ปากกาหรือดินสอจริง ไม่มีความหน่วงใดๆ แม้จะพยายามสังเกต
สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือเทคโนโลยีของปากกาตัวนี้ สามารถรับรู้แรงกดที่แตกต่างกันได้ละเอียดมากขึ้น ได้มากถึง 10,000 ระดับ ในขณะที่เทคโนโลยีที่ใช้กันในปัจจุบันยังอยู่ที่ 4096 ระดับเท่านั้น
แต่ความแตกต่างของการรับรู้แรงกดในระดับนี้ เป็นเรื่องที่ละเอียดมากไปเกินจะทดสอบให้เห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตามมันหมายความว่า HUAWEI MatePad Pro 13.2” และปากกา M-Pencil รุ่นที่ 3 จะไม่เป็นสองรองใครในด้านการนำมาใช้สะบัดปลายดินสอเพื่องานศิลป์อย่างแน่นอนครับ
การตอบสนองที่ไร้ความหน่วง บวกกับการรับรู้แรงกดได้ละเอียดถึง 10000 ระดับ เวลาลงภาพสเก็ตช์จึงไม่ต่างไปจากการวาดลงบนกระดาษ
แตกต่างกันแค่เพียงฟิลลิ่งสัมผัส ระหว่างผิวกระจกกับผิวกระดาษ ที่คงแล้วแต่ความเคยชินของตัวบุคคลว่าถนัดแบบไหน แต่อย่างไรการวาดภาพบนอุปกรณ์อย่างแท็บเล็ตก็มีเครื่องมืดในการวาด และทางเลือกในการสร้างสรรค์ภาพที่หลากหลายและใช้งานได้สนุกไม่แพ้งานบนกระดาษอย่างแน่นอนครับ
ปากกา M-Pencil รุ่นที่ 3 ตัวนี้มีการพัฒนาซอฟท์แวร์ระบบเอาไว้ให้ใช้งานคู่กันไว้ด้วยหลายอย่างบน HUAWEI MatePad Pro 13.2” ตัวมันเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ NearLink ที่ต้องใช้พลังงานในการทำงาน สามารถชาร์จได้ด้วยระบบ Magnetic เมื่อวางประกอบร่องบนตัวปากกาให้กับตรงขอบเครื่องด้านบนของแท็บเล็ต ก็จะเป็นการชาร์จพลังงาน
เราไม่ต้องกดเชื่อมต่ออุปกรณ์แต่อย่างใด แค่วางปากกา M-Pencil ไว้ตรงตำแหน่งชาร์จบนขอบเครื่องด้านบนเท่านั้น ก็จะเป็นการเชื่อมต่อใช้งานครั้งแรกของตัวปากกากับแท็บเล็ตได้ทันทีครับ
ใช้เวลาในการชาร์จเพียงแป๊บเดียวครับ ชาร์จแบตปากกาได้เต็ม 100% ในเวลาไม่ถึง 15 นาที และสามารถใช้งานปากกาได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จเลยได้นานถึง 4 ชั่วโมง ใช้พลังงานน้อยมากๆ
ตัวปากกา M-Pencil รุ่นที่ 3 จะมีขนาดเท่ากับดินสอปากกาทั่วไป สามารถถอดสลับเปลี่ยนหัวปากกาได้ถ้าเกิดใช้งานจนหัวปากกาเริ่มสึก โดยภายในกล่องจะมีหัวปากกาสำรองมาให้จำนวน 1 ชุดครับ
แม้บนตัวด้ามเหมือนจะไม่มีปุ่มกดใดๆ แต่ว่ามันรองรับคำสั่งได้ด้วยปุ่มแบบจำลอง โดยสามารถใช้นิ้วทัชไปบริเวณปลายปากกาสองครั้ง เพื่อการเรียกใช้คำสั่งด่วนที่เรากำหนดไว้ได้ เช่น เอาไว้เรียกใช้ชุดสี, เอาไว้ใช้สลับระหว่างการเขียนและยางลบ หรือใช้กดเพื่อเรียกชุดคำสั่งด่วนในการเขียนภาพและบันทึกหน้าจอได้ทันที
ทาง HUAWEI ใส่ซอฟท์แวร์ในการทำงานร่วมกับปากกาเอาไว้ในแล้วในเครื่อง ทั้งการจับภาพหน้าจอ บันทึกภาพบนส่วนบนหน้าจอ การเขียน การวาด และการจดโน๊ตด่วน ทำได้ทันทีโดยไม่ต้องลงแอปพลิเคชั่นเพิ่ม
สามารถเรียกใช้ชุดคำสั่งด่วนโดยการสะบัดปากกาจากมุมบนขวาของหน้าจอ
โดยจะมีตัวแอปพื้นฐานสำหรับการจดโน๊ตและการจัดทำรายการใส่เข้ามาไว้ให้ด้วยเช่นกัน เช่น
แอป HUAWEI Note : เน้นใช้งานในเรื่องของการจัดทำโน๊ตที่ประกอบไปด้วยรูปภาพ ข้อความ และลายมือ ซึ่งสามารถจัดวางสิ่งต่างๆ บนหน้าของบันทึกได้อิสระและมีเครื่องมือพร้อมลูกเล่นที่ละเอียดกว่า เช่นการตัดครอบภาพใช้แค่บางส่วนได้อิสระ, การเปลี่ยนลายมือเป็นตัวอักษร, หรือการวาดรูปทรงเลขาคณิตได้แบบง่ายๆ เป็นแอปจำโน๊ตที่เหมือนเป็นหน้ากระดาษเปล่าให้เราบันทึกอะไรก็ได้เป็นอิสระ
แอป HUAWEI Notepad : แอปสำหรับจดบันทึก, ตารางการทำงาน หรือเช็ครายสิ่งที่ต้องทำ ในแอปนี้จะประกอบไปด้วยเครื่องมือแบบง่ายๆ เพื่อใช้ให้เราทำการบันทึกสิ่งต่างๆ ไว้กันลืม เป็นแอปที่ใช้ในการบันทึกแบบดูเป็นทางการมากกว่า เพราะสามารถแนบภาพ, แนบวิดีโอ หรือไฟล์เสียงลงไปในบันทึกได้
ส่วนแอปพลิเคชั่นและการทำงานร่วมกับปากกาด้านอื่นๆ เพิ่มเติม ก็สามารถติดตั้งได้ตามต้องการ โดยทาง HUAWEI ได้มีการทำหน้าแนะนำแอปเอาไว้ให้ใน “โซนปากกา M-Pen”
ประสิทธิภาพการทำงานระดับโปร
HUAWEI MatePad Pro 13.2” มีประสิทธิภาพการใช้งานที่แรงพอตัวครับ ใช้ชิปเซ็ตเป็น Kirin 9000S พร้อมกับ GPU Maleoon 910 MP4 โดยเครื่องที่ได้มารีวิว เป็นเครื่อง RAM 12GB และ ROM 215GB รันด้วยระบบ Harmony OS 4.0 ของทาง HUAWEI จะมีจำเหน่ายเป็นรุ่นรองรับ WiFi 6 แบบไม่มีที่ใส่ซิมนะครับ
จากการทดสอบใช้งานลองเล่นเกมเอฟเฟ็กต์ 3D อย่าง One Punch Man : World สามารถเล่นได้ลื่นสบาย ไม่มีปัญหาค้างช้า หรือรีสตาร์ทใดๆ ในระหว่างการทดสอบใช้งานครับ
Harmony OS 4.0 สามารถทำงานได้หลายหน้าจอพร้อมกัน ทั้งในรูปแบบแบ่งครึ่งจอ และแบบเป็นป๊อบอัพลอยเหนือหน้าจอ โดยสามารถทำได้แค่ลากนิ้วขึ้นจากขอบจอด้านล่างเท่านั้น
จะเปิดเป็นแบบ 3:2, 3:4 หรือ 18:9 ทั้งแบบป๊อบอัพ 2 แอปพร้อมกัน หรือจะเปิดการทำงาน 3 แอปพลิเคชั่นพร้อมกันก็ยังไม่มีปัญหาครับ และเราสามารถนำแอปไปเก็บไว้เป็นไอคอนรอเรียกใช้ด้านข้างจอได้ด้วย โดยที่แอปจะไม่ปิดตัวลงไปให้เรารอเรียกกลับมาใช้ได้ทุกเวลาครับ
เปิดสองแอปขึ้นมาพร้อมกัน ทำงานร่วมกันได้สะดวก เช่นแอป HAUWEI Note ก็สามารถดูดสีจากภาพของแอปพลิเคชั่นที่เปิดขึ้นมาข้ามกันได้ด้วยครับ
ระบบทำมาเพื่อการใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้ดี โดยเฉพาะโหมด “ตัวคูณแอป” ผมชอบโหมดนี้มากๆ เป็นการทำงานที่จะใช้ประโยชน์จากหน้าจอขนาดใหญ่ของเครื่องให้มีประโยชน์สำหรับแอปที่ทำงานในแนวตั้งเป็นหลัก โดยเมื่อแอปเหล่านั้นถูกเรียกใช้ในแนวนอน ระบบจะทำการแยกหน้าจอของแอปพลิเคชั่นให้กลายเป็นหน้าต่างคู่ เช่น
เราสามารถเลือกภาพยนตร์ที่ต้องการดูบนแอป TureID ได้จากหน้าจอฝั่งซ้าย และภาพยนตร์ที่เราเลือกนั้นจะไปปรากฏเล่นให้เรารับชมในหน้าจอฝั่งด้านขวาทันที โดยที่หน้าจอฝั่งซ้ายจะยังคงหน้าเมนูให้เราเลือกหนังได้อยู่เช่นเดิม จนเมื่อเราแน่ใจก็ค่อยขยายหน้าจอเล่นหนังฝั่งซ้ายให้แสดงเต็มพื้นที่
หรืออย่างในแอปสั่งอาหาร Grab เราสามารถกดเข้าร้านค้าจากฝั่งซ้ายเพื่อเข้าไปดูเมนูอาหารในร้านจากฝั่งหน้าจอด้านขวาได้ โดยที่ไม่ต้องกดเข้าและกดออกเพื่อสลับไปดูร้านอาหารอื่นอยู่ตลอดเวลา
ทาง HAUWEI ยังออกแบบระบบที่เรียกว่า “SuperHub” ซึ่งเป็นระบบที่เหมือนเป็นพื้นที่พักไฟล์, เอาไว้พักรูป ข้อความ และไฟล์ต่างๆ เพื่อให้เรานำการคัดลอกไปวางไว้ และนำไปใช้ข้ามแอปพลิเคชั่นได้ตามต้องการครับ โดยจะแสดงอยู่ด้านข้างหน้าจอ เราลากไฟล์, ลากรูป หรือข้อความที่คัดลอกไปวางไว้เพื่อเรียกใช้ภายหลังได้เลย
จะเห็นว่า HAUWEI วางระบบเอาไว้เพื่อให้เราทำงานได้สะดวกมากขึ้นในหลายๆ ด้านนะครับ ทำงานได้หลายแอป ประสิทธิภาพลื่นไหล หน้าจอใหญ่มีพื้นที่ทำงานเยอะ แบตเตอรี่อึดใช้งานได้เต็มวัน ภาพเสียง สวยเพราะ ฉะนั้นจะเป็นงานจริงจังหรืองานด้านความบันเทิง ยังไงก็เหมาะสมทั้งหมดครับ ^^
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard
HUAWEI MatePad Pro 13.2” จะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมตรงรุ่น นั้นคือเคสคีย์บอร์ด HUAWEI Smart Magnetic ซึ่งเป็นเคสพร้อมคีย์บอร์ดแบบแยกชิ้นได้ ยึดติดกับตัวแท็บเล็ตด้วยระบบแม่เหล็กที่ไม่ต้องใช้ขั้วล็อกให้ตัวเครื่องเราเป็นรอย
ชิ้นด้านบนทำหน้าที่เป็นฝาหลังปกป้องตัวเครื่อง พร้อมเป็นขาตั้งที่กางออกและพับเก็บได้ในตัว มีความแน่นหนามากพอ ไม่สามารถหลุดหรือถอดออกได้ด้วยมือข้างเดียว
เมื่อต้องการใช้งานคีย์บอร์ดก็สามารถประกอบส่วนแป้นพิมพ์ด้านล่างเข้าไป โดยส่วนที่เป็นแป้นพิมพ์จะยึดกับตัวแท็บเล็ตเอาไว้ด้วยขอด้านล่างที่เป็นแม่เหล็ก และมีการฝัง Ultra-thin Wireless Charging Coil เพื่อชาร์จพลังงานให้กับคีย์บอร์ดไปด้วยในตัว และตัวคีย์บอร์ดจะเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตและพร้อมใช้งานได้ทันที
โดยในขณะที่อุปกรณ์เชื่อมต่อกันได้แล้ว เราสามารถถอดคีย์บอร์ดออกมาจากแท็บเล็ตใช้งานต่อได้นะครับ ขยับเว้นห่างเพื่อวางตำแหน่งให้พิมพ์ได้ถนัดโดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกันตลอดเวลา มันถูกเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณบลูทูธไร้สายอยู่แล้วครับ
ตัวแป้นพิมพ์มีคีย์กดขนาดใหญ่ 16.5 มม. x 16.5 มม. พร้อมแคประยะกดที่ลึก 1.5 มม. จะเห็นว่ามีพื้นที่ให้ลงนิ้วและแรงกดได้เต็มที่ พิมพ์ได้มันมืออยู่ครับ และใส่ช็อตคัทเข้ามามากมายให้เราใช้งานแท็บเล็ตได้สะดวกมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการสกรีนตัวอักษรไทยเอาไว้ให้บนปุ่มคีย์บอร์ด
พร้อมกับทัชแพดขนาดใหญ่ที่รองรับ Gesture ควบคุมได้หลากหลายคำสั่ง ทั้งการขยาย ย่อ การสลับแอป การกลับหน้าโฮม การย่อหน้าแอปและการขยายหน้าต่างแอปกลับมาใช้งาน ทุกอย่างเรียกใช้ได้ผ่าน Gesture บนทัชแพด
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard จึงเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีครับ เป็นให้ทั้งเคสฝาปิดด้านหลังเพื่อปกป้องตัวเครื่อง เป็นทั้งขาตั้งทื่พับเก็บได้สะดวก และเป็นแป้นพิมพ์ให้ได้ในยามต้องการ ทั้งในยามพกพาก็ประกบกันหน้าหลัง กลายเป็นอุปกรณ์แล็ปท็อปสำหรับพกพาใช้งานนอกบ้านได้ไม่ต่างจากโน๊ตบุ๊คเครื่องนึงเลยครับ
ราคาและโปรโมชั่น
HUAWEI MatePad Pro 13.2″ ความจุ 12+512GB วางจำหน่ายในราคา 39,990 บาท สามารถสั่งจองและดูโปรโมชั่นของแถมได้ทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ
รวมทั้งช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee