เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอนนี้มีการพูดถึงกันมากที่สุดแล้ว กับ Huawei P9 เพราะด้วยความน่าสนใจในการร่วมมือกันระหว่าง Huawei กับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Leica ทำให้ P9 ที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้วด้วยเทคโนโลยีกล้องคู่ เมื่อปะยี่ห้อ Leica เข้าไป ความมั่นใจและความน่าสนใจก็มากันเต็มๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องกล้องเท่านั้นครับ สเปคเครื่อง P9 นั้นอยู่ในระดับที่ดี วัสดุการประกอบมีคุณภาพและการออกแบบทำได้สวย โดยทาง Huawei ได้มีนำเข้า P9 มาขายในเมืองไทยสามรุ่นครับ เป็นเครื่องสามขนาด สามระดับราคานั้นคือ Huawei P9, P9 Lite และ Huawei P9+ แต่ในรีวิวนี้ผมจะพูดถึงเครื่อง P9 ที่ได้รับเครื่องมาลองทดสอบใช้งานเท่านั้นครับ
Huawei P9 มีขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว แรม 3GB หน่วยความจำภายใน 32 GB และแน่นอนกล้องคู่ด้านหลังจาก Leica ที่เด่นสง่าและเสริมความน่าใช้ได้มากจริงๆ โดยเฉพาะคนที่สนใจในสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้อย่างยอดเยี่ยม
[section label=”กล้องถ่ายภาพ” anchor=”camera”]รีวิวนี้ผมจึงจะขึ้นด้วยเรื่องของกล้องถ่ายภาพก่อนเลยละกัน
ระบบการถ่ายภาพของ P9 นั้นมีการออกแบบใหม่ทั้งตัวโมดูลของกล้องที่ทาง Leica เข้ามาดูแลและออกแบบให้กับ Huawei และซอฟแวร์การถ่ายภาพตัวใหม่ที่มีการใช้งานเพิ่มเติมจากเดิมให้มีความหลากหลายมากขึ้น
แอพพลิเคชั่นกล้องมีการออกแบบเพื่อผู้ใช้งานทั่วไปเป็นแบบโหมดอัตโนมัติ ใช้สำหรับผู่ที่ต้องการถ่ายภาพแบบง่ายๆ ทั่วไป และมีโหมดสำหรับผู้ที่เข้าใจในการควบคุมกล้องแบบระดับโปรด้วยเช่นกัน ในโหมดโปรเราจะสามารถกำหนดค่า ISO ค่าสปีดชัตเตอร์ หรือการโฟกัสภาพด้วยตัวเองได้เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผู้ใช้กล้องในระดับโปรจะเข้าใจในการใช้งาน และต้องการที่จะใช้เพื่อควมคุมผลลัพท์เป็นภาพตามแนวที่เขาต้องการ ฉะนั้นมันจึงเป็นแอพพลิเคชั่นกล้องที่น่าจะถูกใจผู้ใช้งานทั้งแบบที่ต้องการความรวดเร็วและผู้ที่ต้องการเข้าถึงการปรับแต่งการทำงานของกล้องด้วยตัวเอง
และด้วยความสามารถในการเป็นเครื่องสมาร์ทโฟนกล้องคู่ ทำให้ Huawei P9 มีลูกเล่นที่สำคัญ นั้นคือการเลือกระยะโฟกัสได้หลังการถ่ายภาพ ฟังชั่นนี้ไม่ใช่แค่จะทำให้เราสามารถสร้างภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอที่นิยมกันได้แบบง่ายๆ เท่านั้น แต่ภาพที่เราถ่ายมาในโหมดนี้ เราจะสามารถมาปรับแต่งความชัดลึกชัดตื่นได้ตามต้องการในภายหลังอีกด้วยครับ
ตัวแอพพลิเคชั่นจะสร้างการปรับรูรับแสงจำลองขึ้นมา เพื่อให้เราเข้าใจได้ง่าย ปรับค่ารูรับแสงกว้างระยะโฟกัสก็ยิ่งตื้นวัตถุด้านหลังก็จะเบลอ ถ้าปรับรูรับแสงแคบระยะโฟกัสก็จะลึก ภาพก็ชัดไปทั้งภาพจนถึงแบล็คกราวด์ด้านหลังนั้นเองครับ เราสามารถเลื่อนนิ้วขึ้นลงบนหน้าจอเพื่อปรับรูรับแสงที่ว่านี้ได้เลยครับ แต่ก็ต้องรู้ไว้นะครับว่ามันเป็นการปรับรูรับแสงในแบบซอฟแวร์จำลองเท่านั้น ไม่ใช่การปรับรูรับแสงจริงเหมือนเลนซ์กล้องถ่ายภาพ ฉะนั้นความชัดลึกชัดตืนจึงไม่เด็ดขาดไปตามทรงของวัตถุที่เราโฟกัสไปซะทุกครั้ง เราต้องปรับแต่งเองในระดับหนึ่งด้วย ซึ่งจริงๆแล้วค่ารูรับแสงตัวมันเองจะอยู่ที่ f2.2 สำหรับกล้องหลัง และกล้องหน้าอยู่ที่ f2.4 ครับ
ตัวแอพกล้องสามารถแยกจุดโฟกัสและจุดวัดแสงออกจากกันได้โดยการทัชค้างที่หน้าจอ สไลด์นิ้วไปด้านซ้ายหรือขวาเพื่อเรียกใช้งานโหมดการถ่ายภาพต่างๆ
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าใครเป็นสาวก Leica ก็ต้องอยากจะลองหยิบเจ้า P9 มาถ่ายภาพ “ขาวดำ” กันอย่างแน่นอน ผมเองก็ได้ลองภาพขาวดำตามสไตล์ Leica มาด้วยเช่นกัน ซึ่งมีการใส่โหมดถ่ายภาพแบบขาวดำโดยเฉพาะมาให้แบบไม่ทำให้สาวกผิดหวังครับ ^^ ใครที่ชอบภาพแบบแนวขาวดำนุ่มๆ แบบนี้ มีให้ใช้กันแน่นอน
[section label=”ตัวอย่างภาพถ่าย Huawei P9″ anchor=”camera test”]ตัวอย่างภาพถ่าย Huawei P9
ภาพที่ได้จากการปรับค่ารูรับแสงให้กว้างจากความสามารถของกล้องคู่
ภาพจากที่แสงน้อยและในที่มืด
ภาพจากกล้องหน้า บิวตี้โหมด ^^ (ปรับแต่งความเนียนได้สิบระดับ)
โหมดการถ่ายภาพที่มากมายภายในตัวเครื่องทำให้ถ่ายสนุก คุณภาพของภาพทำออกมาได้ดีแม้ในที่ร่มภายในอาคาร ความสดของสีสันในเวลากลางวันเช่นการถ่ายภาพขนมให้น่ารับประทานก็สามารถถ่ายได้ง่ายๆ ในโหมดอัตโนมัติเลยครับ
แต่อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะสุดยอดไปมากกว่าที่มันควรจะเป็น แม้ P9 จะเป็นเครื่องที่มีกล้องตามมาตรฐานจากแบรนด์ดัง แต่มันก็ยังเป็นกล้องสมาร์ทโฟน ยังมีข้อจำกัดในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในที่มืด ภาพยังไม่คมจัดมากมาย กล้องหน้าต้องมีแสงมากพอและมือต้องนิ่งพอสมควร มีนอยส์รบกวนให้เห็นได้ชัดเจนในที่มืด และตัว Huawei P9 เองก็มีอาการช้าให้ผมเห็นเป็นบางครั้งขณะเรียกใช้งานแอพกล้องด้วยครับ
ระยะโฟกัสที่จับภาพได้อยู่ประมาณ 10 เซนติเมตร
สรุปว่าสำหรับ P9 การถ่ายภาพแบบง่ายๆ เน้นสะดวกสบาย หรือการถ่ายภาพแบบสร้างสรรค์ตามโหมดการใช้งานที่มีในแอพกล้องและการปรับแต่งได้เองในโหมดโปร ผมว่า P9 ตอบโจทย์ที่ใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนถ่ายภาพดีๆ ได้พอสมควรเลยครับ
[section label=”ตัวเครื่องภายนอก” anchor=”ิbody”]ตัวเครื่องภายนอก
ความพิถีพิถันไม่ได้ถูกใส่เข้ามาแค่เรื่องการถ่ายภาพครับ การออกแบบและการเลือกใช้วัสดุก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ตัวเครื่องโลหะพร้อมที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง และกระจกหน้าจอโค้ง 2.5D ดูมีราคาทั้งมุมมองเครื่องด้านหน้าและด้านหลัง
ใช้พอร์ตการเชื่อมต่อข้อมูลและการชาร์จแบตเตอรี่เป็น USB-C ซึ่งมีความเร็วรับส่งข้อมูลมากกว่า Micro USB แบบเดิม แถมเสียบชาร์จไฟง่ายไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบสลับบนล่าง เพราะพอร์ต USB-C เป็นพอร์ตที่มีรูปทรงรีเท่ากันทั้งสองด้าน เสียบชาร์จไฟในเวลากลางคืนไม่ต้องคลำอีกต่อไป ^^
ภายในกล่องมีเคสใสแถมมาให้ และผมว่าทำมาสวยซะด้วยครับ พร้อมที่ชาร์จแบตเตอรี่และสาย USB-C
ตัวเครื่อง P9 ดูเหมือนจะมีขอบเครื่องบนล่างซ้ายและขวาที่กว้างพอสมควรนะ แต่เครื่องไม่ใหญ่ครับ รูปทรงและขนาดจับเข้ามือเพราะขอบเครื่องโค้ง รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบไฮปริด ในช่องใส่ซิมที่สองต้องเลือกเอาระหว่างจะใส่ซิมหรือใส่ Micro SD card ครับ
[section label=”การใช้งานภายใน” anchor=”performance”]การใช้งานภายใน
ประสิทธิภาพของ Huawei P9 สูงมากพอจะใช้งานแอพพลิเคชั่นของระบบ Android ได้ทั้งหมด ตัวมันเองมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0 ความลื่นไหลดีครับ ทดสอบใช้งานมายังไม่เจออาการ กระตุก หรือ ค้าง แต่อย่างใด
การออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ยังคงเรียบๆ ง่ายๆ แต่แฝงฟังชั่นมาให้แบบเยอะเลยละในการตั้งค่า เราสามารถกำหนดลักษณะธีมการใช้งานได้มากมายทั้งจากในเครื่องและสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้เพิ่มเติม
โหมดการใช้งานที่ทำมาเพื่อผู้ใช้งานทั่วๆ ไปกับโหมดแบบง่ายในกรณีที่เราซื้อมาให้เด็กหรือคนแก่คนเฒ่าใช้ครับ จะตัดความซับซ้อนของหน้าการใช้งานออกเหลือแต่สิ่งที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น
ฟังชั่นการใช้ข้อนิ้วมือในการจับภาพหน้าจอก็ยังคงใส่เข้ามาในรุ่น P9 เคาะข้อนิ้วมือลงบนหน้าจอสองครั้งเพื่อจับภาพหน้าจอ หรือใช้ข้อนิ้วมือวาดรูปตัว S เพื่อจับภาพหน้าจอแบบเลื่อนยาวลงมา ซึ่งเราจะใช้ในการเซฟภาพหน้าเว็บเพจเป็นต้นครับ รวมทั้งการใช้ข้อนิ้ววาดเป็นวงล้อมสิ่งที่ปรากฏบนจอเพื่อเซฟเป็นภาพแบบเฉพาะจุดก็ได้เช่นกัน
ฟังชั่นที่มีประโยชน์อีกหลายตัวที่ใช้เซ็นเซอร์ในการทำงาน รวมถึงการใช้ตัวสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่องในการสั่งงานด้านอื่นๆ เช่น ใช้เป็นชัตเตอร์ในการถ่ายภาพ การใช้เรียกหน้าการแจ้งเตือนลงมาดูได้ด้วยการสไลด์นิ้วผ่านเซ็นเซอร์เป็นต้นครับ อันนี้ผมชอบนะ เพราะมันสะดวกดีครับ ทัชที่สแกนนิ้วสองครั้งเพื่อเลื่อนหน้าการแจ้งเตือนกลับขึ้นไป
ฟังชั่นที่มีมาให้ก็เยอะแล้ว แถมยังมีแอพพลิเคชั่นมาให้ใช้งานกันอีกหลายตัวที่เป็นแอพเฉพาะของทาง Huawei เอง เช่นแอพพลิเคชั่นสำหรับคนรักสุขภาพ ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง หรือการปั่นจักรยาน สามารถคำนวนค่าพลังงานที่เผาผลาญไปได้ในแต่ละวันออกมาเป็นแคลอรี่ และที่สำคัญ มันยังเทียบให้เราเห็นได้ว่าค่าพลังงานที่เราใช้ไปเทียบเท่ากับอาหารอะไรในพลังงานที่เท่าๆ กัน (เห็นแล้วเจ็บปวด เดินตั้งนานเท่ากับพลังงานกินไอติมถ้วยเดียว T_T ) รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบครับ
ในเรื่องของการจัดสรรพลังงานก็น่าพอใจครับ แบตเตอรี่ของมันสามารถอยู่ได้เต็มวันสำหรับผม ใช้งานหนักๆ ได้ประมาณหกชั่วโมงถ้าเปิดเล่นเกมหรือดูหนังต่อเนื่องไม่มีหยุด ก็เพียงพอครับสำหรับแบตขนาด 3,000 mAh
แต่ถ้ายังไม่พอใจ ภายในเครื่อง P9 จะมีฟังชั่นการประหยัดพลังงานหลายตัวที่เราเข้าไปแก้ไขได้ โดยเฉพาะโหมด ROG ที่ตัวเครื่องจะทำการลดความละเอียดหน้าจอลงจาก FullHD เหลือแค่ HD 720p เพื่อการประหยัดพลังงานที่มากขึ้นได้
[section label=”ผลทดสอบต่างๆ ” anchor=”benchmark”]ผลทดสอบต่างๆ
จับสัญญาณ GPS ได้รวดเร็วมากครับทั้งๆที่อยู่ภายในอาคาร
สรุปโดยรวมแล้ว Huawei P9 เป็นเครื่องที่น่าสนใจมากครับ สมาร์ทโฟนคุณภาพสูงที่มากับกล้องถ่ายภาพแบบคู่ แม้ไม่ใช่รุ่นแรกที่ออกผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนกล้องคู่ออกมา แต่ว่าเป็นเจ้าแรกที่ร่วมมือกันพัฒนากับทาง Leica แถมยังประกาศราคาในไทยมาได้อย่างน่าสนใจโดยเฉพาะเมื่อซื้อเครื่องผูกสัญญากับทางเครือข่ายผู้ให้บริการที่จัดโปรโมชั่นออกมาได้ชวนลิ้มลองมากๆ ครับ