HyperX Pulsefire Haste และแผ่นรองเมาส์ HyperX Pulsefire Mat RGB พื้นผิวเรียบขนาดใหญ่ ควบคุมง่าย
HyperX Pulsefire Haste เมาส์ทรงรังผึ้ง เบา คล่องตัว และแม่นยำสูง ใครชอบเมาส์สายตัวเบาที่ควบคุมได้ในเกรดโปร ตัวนี้คือทางออก
นำมาใช้คู่กันกับแผ่นรองเมาส์ HyperX Pulsefire Mat RGB Pulsefire Mat RGB แผ่นรองเมาส์ชนิดผ้าทอขนาดใหญ่ ไฟ RGB แบบไดนามิคล้อมรอบ ปรับแต่งได้ผ่านซอฟท์แวร์ HyperX NGENUITY ที่เป็นตัวตั้งค่าและการจัดการได้ทั้งสองอุปกรณ์
The Good
- ราคาดี ความแข็งแรงสูง คุณสมบัติใช้งานได้ดีมากในเกรดเกมมิ่ง
- เมาส์น้ำหนักเบา สายเชื่อมต่อแบบไร้แรงต้าน และฐานรอง PTFE เกรด Virgin ควบคุมการทำงานได้คล่องมาก เบาสบายมือ
- ซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY ควบคุมได้ทั้งสองอุปกรณ์ในโปรแกรมเดียว
- มีฟังก์ชั่น Light Sync ซิงก์ไฟให้ทุกอุปกรณ์แสดงสีไฟและเปลี่ยนไปมาตามเอฟเฟ็กต์แสงได้พร้อมๆ กัน
- เมาส์ใช้งานได้ทั้งอุปกรณ์ PC, PlayStation และ Xbox One
- แผ่นรองเมาส์มีแป้นปรับโปรไฟล์แสงไฟ ที่บันทึกไว้ในตัวได้ 3 รูปแบบ เปลี่ยนได้ทันทีแค่ทัชสัมผัสแป้นควบคุมบนแผ่นรองเมาส์
The Bad
- ฝุ่นสามารถเข้าไปด้านในตัวเมาส์ได้ ต้องเป่าลมทำความสะอาด
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
HyperX Pulsefire Haste เมาส์ทรงรังผึ้ง การออกแบบที่ต้องการจะลดน้ำหนักตัวเมาส์ลงให้มากที่สุด พร้อมกับช่วยกระชับฝ่ามือจากลวดลายหกเหลี่ยมบนตัวเมาส์ เพิ่มความคล่องตัวและแม่นยำในความได้เปรียบระดับเสี้ยววินาที ดูสวยงามด้วยครับ โดยในรีวิวนี้ผมจะนำมาใช้คู่กันกับ แผ่นรองเมาส์ HyperX Pulsefire Mat RGB ซึ่งเป็นแผ่นรองเมาส์ชนิดผ้าทอขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมไฟ RGB แบบไดนามิคล้อมรอบ สีไฟปรับแต่งได้ ทั้งคู่ใช้งานคู่กันได้ดีและมีซอฟท์แวร์ HyperX NGENUITY เป็นตัวตั้งค่าและการจัดการได้ทั้งสองอุปกรณ์ครับ
HyperX Pulsefire Haste เป็นเมาส์ตัวเดียวแต่รองรับการใช้งานได้กับทั้ง PC และเครื่องเล่นเกมต่างๆ ได้ทั้งหมด เช่น PlayStation หรือ Xbox One ออกแบบเน้นที่ความคล่องตัว ทั้งคล่องตัวในการใช้และคล่องตัวในการพกพาถ้าต้องการ
ตัวเมาส์มีน้ำหนักเพียง 59 กรัม ด้วยการออกแบบพิเศษ ที่เจาะรูรูปทรงหกเหลี่ยมคล้ายรังผึ้งเพื่อลดน้ำหนักของตัวมันเองลงได้มากกว่าเมาส์ที่มีโครงเนื้อตันปกติ
ด้านล่างตัวเมาส์ใช้ขารองเลื่อน PTFE 100% เกรด Virgin จึงมีความเสียดทานน้อยมาก การเคลื่อนเมาส์บนพื้นผิวของแผ่นรองเมาส์ HyperX Pulsefire Mat RGB ไม่ต้านแรงเลย มีการเก็บขอบลบคมต่างๆ ได้ดี ไม่มีสะดุดมือแม้จะเอามือลองลูบใต้ตัวเมาส์
ภายในกล่อง ทาง HyperX ได้ใส่แผ่นเทปช่วยในการจับยึด และวัสดุรองเลื่อนให้เอาไว้สำรองเปลี่ยนทดแทนมาให้ ในกรณีที่เกิดการสึกหรอเมื่อใช้งานไปเป็นเวลานานๆ ซึ่งก็คงจะเป็นปีขึ้นไปละครับกว่าจะเริ่มสึกให้เห็นกันจริงๆ
เบา ไว แต่แกร่งครับ วัสดุชิ้นส่วนที่นำมาใช้รองรับการใช้งานกันได้ยาว ปุ่มไมโครสวิตช์ TTC Golden ออกแบบมาในมาตรฐานกันฝุ่น เขาเคลมว่ามันรองรับการใช้งานได้มากกว่า 60 ล้านคลิ๊ก ถ้าเอาแบบกะคร่าวๆ ถ้าเล่นเกมกันทุกวัน วันละ 10,000 คลิ๊ก ก็ใช้กันไปได้ 16ปี! เอาแค่ครึ่งเดียวจากที่เขาเคลมไว้ก็ใช้กันจนมือสึกแล้วละครับ เพราะส่วนใหญ่เมาส์เกรดเกมมิ่งจะทนไม้ทนมือมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
เป็นเมาส์แบบ 6 ปุ่ม พร้อมไฟ LED RGB ตรงบริเวณปุ่ม Middle Mouse Button ซ่อนอยู่ใต้ลูกเลื่อนกลางตัวเมาส์ รุ่นนี้จะมีไฟเพียงจุดเดียวครับ ไม่ใช่แนวสีสันลีลามากมาย ปุ่มเมาส์ซ้ายขวาออกแบบแยกกันกดใช้งานรู้สึกได้ชัดเจน เซนเซอร์ด้านล่างใช้เป็น Pixart 3335 จับตำแหน่งการเคลื่อนไหวได้ละเอียดสูงสุด 16,000DPI อัตราการตอบสนอง 1000Hz เกรดเกมมิ่งเต็มตัวครับ
เน้นความคล่องตัวแม้แต่การออกแบบสายเชื่อมต่อ ในรุ่นนี้จะใช้สายเชื่อมต่อแบบ HyperFlex Cable USB ผลิตจากวัสดุ Paracord เส้นใยไนลอนน้ำหนักเบา แต่ทนทานมากพอจะใช้ในการทหาร จุดเด่นคือเบาและมีความยืดหยุ่นสูง นำมาใช้เพื่อลดแรงตึงและแรงต้านในเวลาเราขยับเมาส์ บอกเลยว่าเวลาใช้ HyperX Pulsefire Haste จะไม่รู้สึกถึงสายของมันเลย เบาเหมือนไม่มีอยู่จริง ^^
การปรับค่าต่างๆ ของตัวเมาส์และสีไฟ ทำได้ผ่านซอฟท์แวร์ HyperX NGENUITY ทั้งหมดครับ ภายในซอฟท์แวร์ก็จะใช้เป็นตัวอัพเดทระบบ ตั้งค่ากำหนดหน้าที่ของปุ่มต่างๆ ทั้ง 6 ปุ่มบนตัวเมาส์ กำหนดได้หมดทั้งฟังก์ชั่นพื้นฐานของเมาส์ การใช้งานกับมัลติมีเดียร์ หรือใช้เป็นปุ่มลัดสั่งงาน Windows รวมถึงกำหนดชุดมาโครสำหรับการเล่นเกม ทำได้หมดในซอฟท์แวร์ HyperX NGENUITY ครับ
ซึ่งซอฟท์แวร์ HyperX NGENUITY เป็นศูนย์กลางในการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของ HyperX ทั้งหมด รวมถึง แผ่นรองเมาส์ HyperX Pulsefire Mat RGB ที่ผมนำมาใช้งานคู่กันด้วย
ข้อดีของการใช้งานอุปกรณ์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน คือมันใช้ซอฟท์แวร์เดียกัน และสามารถใช้งานฟังก์ชั่นพิเศษที่เขาออกแบบมาได้ด้วยครับ เช่นใน HyperX NGENUITY จะมีความสามารถที่เรียกว่า “Light Sync” การกดคลิ๊กเดียวแล้วทำให้ทุกอุปกรณ์ของ HyperX ที่มีไฟ RGB จะแสดงสีสันและรูปแบบของแสงไฟไปในทางเดียวกัน สลับสีและเปลี่ยนรูปแบบการแสดงไฟร่วมไปพร้อมกัน และกดยกเลิกเพื่อให้กลับไปแสดงสีไฟตามแต่การตั้งค่าที่เคยกำหนดไว้ในแต่ละอุปกรณ์
สีไฟของอุปกรณ์ HyperX ก็จะไปในสีเดียวกัน และแสดงแสงไปพร้อมๆ กัน สวยงามครับ
ตัวแผ่นรองเมาส์ HyperX Pulsefire Mat RGB เป็นแผ่นรองเมาส์ชนิดผ้าทอผิวเรียบ ทอแบบประกบชิดเนื้อแน่นเน้นความแม่นยำของการเคลื่อนไหว
แผ่นรองเมาส์ชนิดผ้าจะมีข้อดีคือมันไม่แข็งๆ ลื่นๆ แบบที่รองเมาส์ผิวพลาสติกครับ อันนี้จะวางมือสบายกว่า มีความนุ่มเล็กน้อย และยังสามารถม้วนเก็บเพื่อพกพาไปยังที่ต่างๆ ได้ถ้าต้องการ แต่ตัวมันมีน้ำหนักรวมประมาณ 1 กิโลกรัมนะครับ แผ่นค่อนข้างแน่น และมีความหนาพอประมาณ อยู่ที่ความหนา 4 มิล
เชื่อมต่อกับ PC ด้วยสายถักความยาว 1.8 เมตร ให้สายมายาวพอสมควรเลยครับ ด้านใต้จะใช้วัสดูที่ต่างออกไป เป็นฐานยางกันลื่นลวดลายตาข่าย วางบนโต๊ะแล้วแกะหนึบครับ ไม่เลื่อนไม่ลื่นขยับง่ายๆ
แผ่นรองเมาส์ HyperX Pulsefire Mat RGB ที่ผมนำมาใช้จะเป็นไซด์ XL ขนาดความยาว 90 เซนติเมตร/และกว้าง 42 เซนติเมตร ใช้สำหรับรองทั้งตัวเมาส์รวมถึงคีย์บอร์ดไปด้วยกันเลย หลายคนชอบแผ่นรองเมาส์ขนาดแบบนี้ เพราะชอบในความสมดุลด้านความสูงของเมาส์กับคีย์บอร์ดที่จะอยู่ในระดับความสูงเดียวกันครับ
งานขอบเย็บไร้ตะเข็บ เก็บขอบกันรุ่ย มาพร้อมไฟ RGB แบบปรับแต่งได้ผ่านซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY เช่นกัน โดยแบ่งการแสดงไฟปรับแต่งได้แยกกันเป็น 2 โซน และมีตัวรับสัมผัสสำหรับการปรับเปลี่ยนโปรไฟล์แสงไฟอยู่ด้านบน สามารถเก็บโปรไฟล์ไว้ในตัวเอง 3 รูปแบบผ่านการบันทึกด้วยซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY
ใช้งานคู่กันสวยงามดี ^^ ราคาไม่แพงด้วยครับสองตัวนี้
โดยทั้ง HyperX Pulsefire Haste และ HyperX Pulsefire Mat RGB มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,490 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากหน้าเว็บของ HyperX ด้านล่างครับ
Pulsefire Mat – แผ่นรองเมาส์ RGB | HyperX (hyperxgaming.com)
เมาส์เกมมิ่งน้ำหนักเบา Pulsefire Haste | HyperX (hyperxgaming.com)