รีวิว i-Mobile DTV Link : รับชมดิจิตอลทีวี บน iPhone, iPad และ Android ได้ทุกที่ทุกเวลา
อุปกรณ์เสริมที่สุดเจ๋งและยอดเยี่ยมมากสำหรับคนที่ตามหาวิธีการรับชมดิจิตอลทีวีในอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ นั้นคือ i-Mobile DTV Link อุปกรณ์พกพาขนาดเล็กที่มีแบตเตอรี่ในตัว และสามารถทำให้เครื่องระบบ iOS (6.1 ขึ้นไป) และ Android (4.1 ขึ้นไป) รับชมทีวีได้โดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตครับ
DTV Link เป็นอุปกรณ์ที่สามารถรับสัญญาณภาพจากคลื่นดิจิตอลทีวีในเมืองไทย และสามารถส่งภาพผ่านสัญญาณ Wi-FI ไปยังอุปกรณ์พกพาที่ใช้ระบบ iOS และ Android ได้โดยไม่ต้องต่อสายใดๆ ทั้งสิ้นครับ
ด้วยขนาดตัวเครื่อง DTV Link ประมาณแบตเตอรี่เสริมขนาดเล็ก ( 82 X 55 x 18 มิลลิเมตร ) นำ้หนักเบามากไม่ถึง 100 กรัม มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ประมาณ 4 ชั่วโมงครับ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้จากที่ชาร์จมือถือหรือใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่เสริมของสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกัน มีเสาอากาศขนาดพอประมาณ ไม่ใหญ่แต่ไม่เล็กเหมือนเครื่องสมาร์ทโฟนที่รับดิจิตอลได้ จึงรับสัญญาณได้ง่ายกว่าครับ สามารถพับเก็บเข้าไปในตัวเครื่องได้ทั้งหมด
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน สีฟ้ากระพริบขณะปล่อยสัญญาณ Wi-FI และจะสว่างค้างเมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ ไฟสีส้มด้านล่างแสดงถึงการชาร์จไฟ และกลายเป็นสีเขียวเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
การใช้งานของ DTV Link จะสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น DTV Link ที่มีให้ดาวน์โหลดใน Appstore ของ iOS และ PlayStore ของ Android ครับ
โดยวิธีการเริ่มใช้งาน ก็ให้เราทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Android และ iOS ของเราเข้ากับสัญญาณ WI-FI ที่เครื่อง DTV Link ปล่อยออกมาหลัง (ต้องเปิดเครื่องซะก่อนครับ) โดยดูสัญญาณ Wi-Fi ที่มีชื่อว่า DTV-Link และใส่รหัส Password ที่แจ้งไว้ข้างกล่อง (โดยส่วนใหญ่จะเป็น “mobileDTVLink” ) ทำเหมือนการเชื่อมต่อ Wi-Fi Hotspot ทั่วๆ ไปเลยครับ
เมื่อเชื่อมต่อได้แล้วก็เพียงเปิดแอพพลิเคชั่นใช้งานได้ทันที ในการเปิดครั้งแรก ตัวเครื่องจะให้เราทำการแสกนหาช่องครับ
ทดสอบการรับชม ก็สามารถรับสัญญาณได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะถ้าอยู่ในพื้นที่โปร่ง ริมหน้าต่าง และอยู่กับที่ไม่มีการเคลื่อนย้าย
ตัวแอพพลิเคชั่นมีความสามารถในการอัดรายการทีวีที่กำลังรับชมอยู่ได้ด้วยครับ ใช้พื้นที่ประมาณ 1GB ต่อหนึ่งชั่วโมง และมีการจัดเก็บแคชไฟล์เพื่อให้เราสามารถกดย้อนกลับ เพื่อย้อนการเล่นรายการในชณะนั้นๆ กลับไปได้ในช่วงเวลาหนึ่งอีกด้วยพร้อมกับกดเดินหน้าเพื่อกลับไปยังช่วงรายการตามปกติครับ เรียกว่า Live Playback และ Time-Shifting ถ้าฟังไม่ทัน ดูไม่เข้าใจ กดย้อนหลังกับไปมาได้ครับ
ข้อดี
ด้วยการที่มันทำงานแบบไร้สาย เราสามารถวางกล่อง DTVLink ไว้แยกส่วนกับอุปกรณ์ แท็บเล็ต, มือถือ ของเราได้ไกลถึงประมาณ 5เมตรครับ โดยอาจจะวางกล่องรับสัญญาณไว้ใกล้หน้าต่างหรือพื้นที่โปร่ง เพื่อให้รับสัญญาณได้เต็มที่ และใช้งานอุปกรณ์ของเราได้ในบริเวณห้องนอนหรือห้องทำงานในระยะพื้นที่ทั้งหมดนั้นเองครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณทีวีจะหลุดจากการเคลื่อนย้ายของตัวเรา ขอเพียงอยู่ในอนาเขตก็เพียงพอ
และด้วยการทำงานที่ไร้สายจึงเกิดประโยชน์อีกด้วยว่า ไม่ต้องใช้พอร์ต USB ขณะใช้งาน สามารถทำให้เราชาร์จอุปกรณ์ของเราไปได้พร้อมๆ กันกับการรับชมดิจิตอลทีวีโดยไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่หมดครับ
ภาพที่รับได้ ในการรับชมรายการมีความคมชัดสูงตามมาตรฐานของดิจิตอลทีวี ความไวในการเปลี่ยนช่องทำได้ระดับเดียวกับกล่องที่ใข้งานตามบ้าน แล้วแต่ความแรงสัญญาณ ถือได้ว่า จิ๋วแต่แจ๋ว พอตัวทีเดียวครับ
ตัวแอพพลิเคชั่นสวยงาม ใช้งานง่าย สไลด์หน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาก็เปลี่ยนช่องรายการได้ทันที มีรายชื่อช่องรายการ จัดเรียงช่องได้ เลือกระบบเสียงและสัดส่วนหน้าจอได้เช่นกันครับ
ข้อเสีย
น่าเสียดายที่อุปกรณ์ DTVLink ไม่มีพอร์ตสำหรับการเชื่อมเสาอากาศภายนอกเพิ่มเติม จึงรับสัญญาณได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนกล่องรับสัญญาณทีวีตามบ้าน และแบตเตอรี่อยู่ได้ด้วยตัวเองประมาณ 4 ชั่วโมง อาจจะไม่เพียงในการใช้งานต่อวันถ้าไม่พกแบตเตอรี่เสริมหรือแวะชาร์จไฟระหว่างวันครับ
สรุป
เป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาการรับชมดิจิตอลทีวีนอกบ้าน หรือในสถานที่ส่วนตัวโดยผ่านอุปกรณ์ Android หรือ iOS ที่มีอยู่แล้ว มีความสะดวกสบายตรงไม่ต้องเชื่อมต่อสายใดๆ ใช้งานได้เหมือนเปืดแอพพลิเคชั่นแอพหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ประหยัด และสามารถใช้ฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี หรือไม่พลาดรายการโปรดของเราในขณะอยู่นอกบ้านครับ ข้อเสียเดียวจริงๆ ที่ทำให้มันยังตอบสอนงเราไม่เต็มที่ นั้นคือ ยังไม่เหมาะกับการใช้งานในขณะเคลื่อนที่เท่านั้นเอง
[gradeB]