ถึงเวลาแล้วที่ผมเตรียมแชร์ประสบการณ์ภาคการใช้งานจริง อาจจะอาจจะไม่มุ่งลงถึงพวก Application มากนัก แต่ก็เป็นการบอกให้รู้ว่ามันใช้งานเป็นยังไง ดีมั้ย เจอปัญหาอะไรมั้ย ถ้าดีแล้วมีอะไรที่เราควรโหลดใส่เข้าไปเพิ่มบ้างเพื่อเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้มันดีน่าใช้ยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมอ่านแล้วก็มาลุยกันต่อ
Review ตอนที่ 1 : ภายนอกทั้งหมดของ I-Mobile IQ 9.1 เวอร์ชั่นผู้ใช้จริง
พูดถึง Smart Gesture กันหน่อย
1.Proximity Unlock : ปัดเพื่อปลดล็อค
ใช้งานจริง : เราเลือกได้ว่าจะปลดล็อคแบบธรรมดา หรือแบบนี้ก็ได้
2.Flip to mute ringtone
ใช้งานจริง : เมื่อมีสายโทรเข้ามาให้เราคว่ำเครื่องแล้วเสียงริงโทรจะดับเอง แต่ไม่ตัดสายคนโทรเข้า เหมาะกับใช้ในที่ๆต้องการความเงียบ
3.Flip for speaker phoner
ใช้งานจริง : ตอนกำลังโทรคุยอย่างเมามัน แล้วเราเมื่อยมือหรือมือเปื้อน เราสามารถคว่ำหน้าจอ IQ9.1 เราลงแล้วมันจะเปิด speaker ให้เรา เสียงจะดังจากลำโพงหลัง
4.Proximity answer phone + dial phone
ใช้งานจริง : ถ้ามีคนโทรเข้ามาไม่ต้องไปจุ๊บเหมือนโฆษณา แค่เอามาแนบหูมันจะรับสายให้ทันที แบบเดียวกับใน Samsung Galaxy
ใช้งานจริง : เราจะโทรออกก็หาชื่อคนนั้นแล้วแนบหูเลย
5.Proximity incoming call
ใช้งานจริง : ปัดเพื่อปฏิเสธสายโทรเข้า
6.Proximity camera snap
ใช้งานจริง : เหมือนเป็นการกด shutter แบบที่ 2 ใช้งานได้ดีเมื่อถือมือเดียวแล้วกำลังเลือก filter / ปรับโหมดอยู่ก่อนจะถ่ายรูป
ตัวอย่างรูปถ่ายบางส่วนของ IQ 9.1 ครับ ผมได้รวมโหมดการถ่ายภาพที่น่าสนใจและได้ใช้งานจริงๆมาบ้าง ลองชมกันดูครับ
1.โหมด HDR
2.ทดสอบซูมเข้า ได้สูงสุด 4 เท่า
3.กล้องหน้า โหมด Beauty
เพิ่มเติม ในนี้ละเอียดกว่าเยอะ :
รวมตัวอย่างภาพถ่ายสวยๆ จาก I-Mobile IQ 9.1 (เจาะลึก ครบทุกรายละเอียด)
เทียบคะแนน Benchmark ได้ตามนี้ครับ ดูพอเป็นพิธี
การเล่นเกม : นี่ยังเป็น IQ 9.1 นะแต่เปลี่ยน Launcher ครับ ^^
โดยภาพรวมสามารถเล่นเกมที่โหลดมาได้เป็นอย่างดี ไม่มีกระตุกจริงๆนะ ยกเว้น 2เกมที่มีปัญหาอย่างหนักกับ IQ9.1 ได้แก่
1.Minion Rush : เกมนี้มีปัญหาตรงที่มันกระตุกมากอย่างที่เราเคยเห็นในหลายๆคลิป ผมคิดว่าปัญหาหลักมาจาก cpu MTK ไม่รองรับเกมจาก Gameloft ครับ
2.Real Racing 3 : ส่วนเกมนี้ปัญหาหนักยิ่งกว่า Minion เพราะว่าทันทีที่เปิดปุ๊ปมันจะโหลดแปปนึงแล้วขึ้นฉากเปิดตัวเกมที่เป็นวีดีโอ แต่มันมีแต่เสียง แล้วภาพก็ค้างตรงโลโก้ของเกมที่เป็นสีฟ้าๆอยู่นั่นแหล่ะ วิธีแก้วิธีเดียวคือ ต้องทำการรีเครื่องโดยการกด ปุ่ม home กับปุ่มลดเสียงพร้อมๆกันค้างไว้ 10วิ แล้วเครื่องจะปิดเปิดใหม่ เราไม่สามารถทำอะไรได้เลยในขณะนั้นปุ่ม home กดได้มีการตอบสนอง แต่มันไม่กลับไปหน้า home ให้ -*-
อัลบั้ม (Gallery) + กล้อง(Camera) : เหมือน Android Jelly bean ทั่วๆไปไม่มีอะไรพิเศษ
Video player : ไม่มีอะไรพิเศษเช่นกัน ก็ทำได้ตามมาตรฐานทั่วไป และเมื่อเรากลับมาเล่นคลิปเดิมที่เปิดค้างไว้ เราสามารถเลือกได้ว่าจะเริ่มเล่นตอนไหนระหว่าง 1.ตอนต้น 2.ตอนล่าสุดที่เล่น
Theme setting : มี Theme 3 แบบสวยๆติดตั้งไว้ให้ตั้งแต่ในเครื่องแล้วครับ เน้นเปลี่ยนลักษณะ Icon กับ Wallpaper เป็นหลัก ถ้าใครสามารถแต่ง Theme เองได้มีโหมดแบบ DIY ให้ลองด้วยนะ
แอปที่ติดมากับในเครื่อง ที่่นอกจากพวกเกมต่างๆ : ถ้าคุณไม่ได้ใช้แอปพวกนี้เราสามารถลบออกได้ทันทีเลย ผมลบออกไปเยอะแล้วเหมือนกันเหลืออยู่ไม่กี่ตัว กด Unstall ตามปกติ
1.บทสวดมนต์ : แอปที่มีบทสวดมนต์นั่นแหล่ะ
2.Thinkfree mobile เป็นโปรแกรมจัดการด้านงานเอกสารครับ ฟรีก็จริงแต่แก้ไขเอกสารไม่ได้ทำได้แค่กดเข้าไปดูเอกสารแค่นั้น
3.ToDo : เป็นแอปที่ช่วยเรื่องการจัดพวกตารางงานต่างๆให้เราสามารถบันทึกข้อมูลลงไปได้ เป็นการช่วยจำให้เราได้ เป็นการประหยัดกระดาษด้วย
4.Content Cafe เดี๋ยวตัวนี้มาลองดูรายละเอียดกันเล็กน้อยด้านล่าง
พูดถึงแอป Content Cafe สักนิด
ตอนเข้ามาครั้งแรกเป็นแอปที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเพราะมีหมวดให้เราเลือกเข้าไปดูมากมากเลย แรกๆนะผมคิดว่า “โอ้โหหหห i-mobile ใจดีมากๆให้พวกนี้เรามาใช้ฟรีเลยเหรอเนี่ย” พูดไม่ทันขาดคำรีบเข้าไปทันที ก็เลยพบว่า … ต้องซื้อก่อนครับ 30บาท – -* เห็นข้อความนี้ปุ๊ปไม่ย่อท้อเลยออกมาแล้วเข้าอีกตัวนึง ผลที่ออกมาก็ไม่ต่างกันคือต้องเสียตังเพื่อเข้าไปใช้งานได้ ก็เลยบอกกับตัวเองว่า “พอแล้วสำหรับแอปนี้ นี่คือการเข้ามาใช้งานครั้งสุดท้าย เตรียมโดนลบได้เลย – -”
เครื่่องเล่นเพลง Music Player
ถือว่าเป็น1แอปที่ดีเลยล่ะ ที่ผมใช้งานบ่อยสุดแล้วมั้ง? ผมชอบฟังเพลง รักในเสียงดนตรีอ่ะ ข้อดีของแอปเครื่องเล่นเพลงนี้ก็เป็นไปตามมาตรฐานเช่นกัน เสียงที่ออกมาจากลำโพงก็ไม่มีอะไรพิเศษเช่นกัน แต่อย่างน้อยๆถึงจะเปิดเสียงดังสุดๆเสียงไม่แตกนะเออ คุ้มค่าแล้ว แค่นั้นไม่พอมันยังปรับ EQ ได้ด้วยแล้วก็ยังมี Widgetของแอปตัวนี้อีกด้วยทำให้เราไม่ต้องไปโหลดใหม่ที่ไหนเลย
ข้อตินิดๆ : แอปที่เป็น widget อ่ะ ตอนที่ผมกดหยุดเพลงตอนขณะปุ๊ปแทนที่แอปมันหยุดเพลงเฉยๆแล้วค้างไว้ แต่ว่ามันหายไปเฉยเลย วัยรุ่นเซ็ง ก็เลยต้องกลับมาหน้าhomeเพื่อเรียกใช้งานแอปใหม่ (กรณีที่เรากำลังทำอย่างอื่นอยู่ ไม่ได้อยู่หน้า home ขณะนั้นแล้วเราบังคับเพลงตรงแถบ nitification bar อยู่)
ทดสอบส่งรหัสฝาชาเขียว
ผลคือสอบผ่าน ส่งได้ครับ แล้วได้รับ sms กลับมาตอนประกาศผลด้วย^^
โค้งสุดท้ายของการรีวิว รวมสิ่งที่ขอติทั้งหมดที่นึกออก
1.ผมไม่ชอบแอป Lazada นี้เลย เพราะว่ามันชอบเด้งขึ้นมาเองตอนที่ผมกำลังทำอย่างอื่นอยู่ เช่นกำลังเล่นเว็บ / ฟังเพลง / ดูคลิปวีดีโอ / เล่นเกม และแล้วแอปนี้ก็เด้งขึ้นมาเพื่อ… หลังจากที่รีวิวเสร็จนะ โดนผมกำลังจัดแน่ หึหึ
2.แอป Youtube ที่ติดมากับเครื่อง : เหตุผลง่ายๆคือมันไม่ใช่เวอร์ชั่นล่าสุด เพราะว่ามันไม่สามารถอัพเดทได้ ผมก็ไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเป็นแบบนี้ พยายามลองลบแอปแล้วก็ทำไม่ได้ก็เลยต้องจำใจใช้กันต่อไป (ถ้าอัพเดทนะจะได้ฟีเจอร์ที่ย่อหน้าคลิปขณะเล่นอยู่ให้เล็กลงได้ แล้วเราเลื่อนดูคลิปอื่นได้ในเวลาเดียวกัน)
สรุปข้อดี-ข้อเสียทั้งหมดของภาคการใช้งานจริง
สิ่งที่ปลื้ม
1.แอปลื่น เกมลื่นยังไม่เจอเกมเด้ง ยกเว้นเกมบางเกมจริงๆเช่น Minion ที่กระตุก และ Real racing 3 ที่ค้างแหงกๆจนต้องกดรีเครื่องใหม่
2.มีไฟ Notification ด้วยนะ มันจะบอกเรื่องแบต เช่น เมื่อแบตใกล้หมด จะขึ้นสีแดง/ ชาร์จแบต จะขึ้นสีขาว แล้วก็แจ้งเตือนพวก miss call กับ message ไรพวกนี้ด้วย
3.เมื่อทำการปิด-เปิดเครื่องมันจะอ่านข้อมูลในเมมไวมาก ไม่เกิน 5 วิ เพราะเมมฝังในตัวเครื่องเลย
4.เป็น Android เวอร์ชั่นที่ค่อนข้างใหม่คือ 4.2.1
5.จอใหญ่ คม ชัด ขนาดเท่า Samsung Galaxy Note 3 ยิ่งถ้าเปลี่ยน Launcher นะ ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่
6.แอปที่ชอบที่สุดคือกล้อง มันแฝงฟีเจอร์เทพมากมายอยู่ในแอปเดียว เช่น Burst shot ใช้งานโดยการกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้
7.มี Smart Gesture ที่สามารถช่วยให้การใช้งานจริงง่ายขึ้น และมีประโยชน์มากๆ
สิ่งที่ไม่ปลื้ม
1.มีแอปที่ฝังมากับเครื่องเยอะ แล้วไม่ได้ใช้งานจริง มันทำให้รกเครื่อง
2.เพิ่มเมมไม่ได้
3.ลำโพงหลังเสียงเบาลงเมื่อวางบนของที่มีลักษณะนุ่มๆ เช่นเบาะ / เตียง
4.ไม่รอบรับ Flash player ถึงจะติดตั้งได้แต่มันไม่ทำงานเพราะเป็น Android 4.2 ต้องใช้วิธีอื่นที่เค้าทำไฟล์ apk แยกมาติดตั้งแทนถึงจะแสดงผล
5.เกือบเป็น Pure Google ถึงจะใช้งานง่ายแต่ขาดลูกเล่น ไม่มีอะไรน่าดึงดูดเลยนอกจากสเปก
6.การทัชหน้าจอมีปัญหานิดหน่อยตอนที่เราเข้าแอปที่มีตัวเลือกเยอะๆ เพราะว่าการตอบสนองมีดีเกินไป จากการทัชเพื่อเลื่อนขึ้น-ลง กลายเป็นกดเข้าซะงั้น เช่นใน Google Play เจอบ่อยมาก เราจะเลื่อนลงไปหาเกมที่เราอยากได้ แล้วนิ้วไปโดนไอค่อนเกมพอดี มันคงนึกว่าเราจะกดเลือกเกมนี้มั้ง อธิบายยากหน่อยแต่นี่คือปัญหาหนักสุด
ตอบปัญหา FAQ
Q1 : I-Mobile IQ 9.1 เหมาะกับใคร?
A1 : เหมาะกับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆคมๆชัดๆ แบตอึดๆ กล้องสวยๆ ราคาไม่แพงเกินเอื้อมเพียง 9,490บาท
Q2 : แบตทนมั้ย?
A2 : ก็อยู่ได้ 1วันแน่ๆถ้าใช้งานปกติ หรือราวๆ 13-16 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานแบบ hard core ก็ได้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง
Q3 : เหอๆแค่ 16GB จะพออะไร เพิ่มเมมก็ไม่ได้
A3 : ก็ใช่ เพิ่มเมมไม่ได้แต่มันจุแอป+เกมได้เยอะมากนะ อย่างที่เห็นในรูปเกมใหญ่ๆทั้งนั้นยังไม่มีขึ้นเตือนเมมใกล้เต็มเลย
Q4 : i-mobile พังง่ายป่ะ?
A5 : ขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ ผมใช้งานไม่เคยพังอ่ะ ซื้อแอนดรอยด์ตัวแรกมาตอนนี้จะ2ปีแล้วไม่เคยงอแง เคยใช้ฟีเจอร์โฟนของ i-mobile มา4ปียังไม่พัง คิดดู?
Q5 : มีแต่ Ram 1GB เดี๋ยวนี้เค้า 2GB กันหมดแล้ววววว กั๊กสเปกไปไหน
A5 : คุณเคยใช้ Ram 1GB หมดด้วยเหรอครับ ? เอาไปเปิดอะไรเยอะแยะ? ของผมมีแอปรันอยู่เบื้องหลัง4-5ตัวได้ แล้วใช้งานปกติอีก Ram1GB ของผมไม่เคยเต็มครับ 1GB ก็ดีจะตายอยู่แล้ว
แนะนำแอปเทพๆเพิ่มเขี้ยวเล็บ
Gplayer : เหมือน pop up play ใน Samsung ที่ย่อหน้าจอวีดีโอให้เล็กลงได้
Floating app : ตอนเราเข้าเว็บเราสามารถเลือกอันนี้เพื่อทำ browser pop up แบบลอยๆได้ จะได้ทำได้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน
Apex Launcher : Launcher พื้นฐานที่จะเปลี่ยน IQ 9.1 ให้ลื่นขึ้นและสวยขึ้น
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ -/-
[gradeB]