แบรนด์ Infinix อาจจะไม่คุ้นหูในบ้านเราสักเท่าไหร่นะครับ แต่จริงๆ แล้วเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมามากในตลาดโลก โดยเฉพาะทางตะวันออกกลางและแอฟริกาครับ ประสบการณ์ไม่ธรรมดา ซึ่งมาหนนี้ เขาได้จับมือกับทาง LAZADA นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ ซึ่งทางผมก็ได้รับเครื่องมาทดสอบการใช้งาน ก็ลองมาดูกันครับว่า จะให้ความรู้สึกในการใช้งานอย่างไรสำหรับเจ้าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคา 4,190 บาท ตัวนี้ครับ
แรกเริ่มเลยต้องบอกว่าการกำหนดสเปคมาในระดับที่ฉลาดมาก ทุกอย่างอยู่ในระดับพอใช้ ไม่มีอะไรที่ด้อยหรือเป็นจุดอ่อนมากไป กำลังพอดีกับยุคสมัยนิยมครับ หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด HD แรม 2GB หน่วยความจำภายใน 16GB กล้องหน้า 2ล้านและกล้องหลัง 8ล้านพิกเซล พร้อมแบตเตอรี่ที่ใส่เข้ามาเป็นจุดเด่น ขนาดความจุ 4,000 mAh รองรับสองซิมการ์ด และจุดอ่อนเดียวที่เจอก็คือไม่รองรับ 4G ครับ
ดูเหมือนเครื่อง Infinix Hotnote ตัวนี้จะทำออกมาเพื่อรองรับการใช้งานกับเครือข่าย AIS เป็นพิเศษ เพราะคลื่นความถี่ที่ใช้งาน 3G ได้ ก็เป็นคลื่น 900 / 2100 ซึ่งเป็นคลื่นหลักของทางเครือข่าย AIS
จะนำไปใช้งานกับ True หรือ Dtac ก็ได้ แต่การรับสัญญาณ 3G จะไม่สามารถรับได้ในทุกพื้นที่ครับ
ตัวเครื่องการออกแบบเรียบง่าย และถือว่าน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับขนาดแบตเตอรี่ที่ใส่เข้ามาอยู่ภายใน การประกอบดี การจับสัมผัสถนัดมือ ลายฝาหลังทำให้ดูไม่น่าเบื่อครับ
หน้าจอเป็นจอ HD ที่มีมุมมองกว้างดี ให้สีที่สวยครับ ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วเป็นขนาดหน้าจอแบบสมัยนิยม ใช้งานกันได้สบายตาแต่ไม่ใหญ่จนเกินไป
การใช้งานภายใน
ต้องชมทาง Infinix สำหรับการใช้งานภายใน ไหลลื่น และแน่น หรืออาจจะเป็นเพราะเครื่อง Infinix Hotnote เป็นเครื่องที่มาพร้อมกับ Android 5.1 ซึ่งทำให้การใช้งานทันใจมากครับ หน้าตา UI ต่างๆ ทาง Infinix ไม่ได้ปรับแต่งมากนัก แต่มีการใส่แอพพลิเคชั่นและการบริการเพิ่มเติมมาให้กับทางผู้ใช้อยู่เช่นกัน
มีธีมการใช้งานเตรียมไว้ให้อยู่ภายในถึง 10 ธีมด้วยกันครับ น่ารักทีเดียว
XWallpaper สำหรับการดาวน์โหลดภาพพื้นหลังมาใช้งานกันได้ฟรีๆ
XContacts สำหรับบริการการสำรองรายชื่อติดต่อภายในเครื่องเอาไว้อย่างง่ายๆ ผ่านบริการคลาวน์หรือจัดเก็บลงหน่วยความจำเครื่อง
แอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็มีมาให้ภายในเครื่องเกือบครบเหมือนกันครับ มีภาครับวิทยุ FM ด้วย ต้องใช้งานคู่กับหูฟังนะครับ
ภายในการตั้งค่าตัวเครื่องก็จะมีความสามารถเพิ่มเติมที่เราสามารถกำหนดได้เองหลายอย่าง เช่นการกำหนดแอพพลิเคชั่นที่จะใช้ข้อมูลอินเตอร์เน็ต เราสามารถกำหนดอนุญาตได้ด้วยตัวเองครับ ว่าต้องการให้แอพใดสามารถแอบใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตของเราได้บ้าง
การจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ซึ่งมาให้ใช้งานจริงอยู่ที่ประมาณ 11.83 GB โดยเราสามารถใส่หน่วยความจำภายนอกเพิ่มเติมเข้าไปได้ 32GB ครับ ด้วยการ์ด Micro SD และสามารถกำหนดได้ว่าต้องการใช้หน่วยความจำภายในหรือภายนอกในการติดตั้งแอพพลิเคชั่นเป็นหลัก
ในเรื่องของแบตเตอรี่นี่ถือเป็นจุดขายเลยครับ ใครต้องการเครื่องที่สามารถแสตนด์บายอยู่กับเราได้นานๆ รับรองไม่ผิดหวังครับ ผมทดสอบใช้งานจริงจัง อยู่ข้ามวันได้สบายๆ
และถ้าเปิดเครื่องทิ้งไว้ แค่เช็คอีเมล ข้อความต่างๆ สามารถอยู่ได้นานหลายวันครับ เพราะส่วนใหญ่แบตเตอรี่จะสูญเสียไปกับการแสดงผลหน้าจอซะมากกว่าอย่างอื่นอยู่แล้ว ที่สำคัญ Infinix HOTnote รองรับการชาร์จพลังงานแบบไว ซึ่งสามารถชาร์จได้เร็วกว่าปกติสามเท่า แต่ต้องใช้กับที่ชาร์จของทาง Infinix ที่ทำออกมารองรับเท่านั้นนะครับ
นอกจากแบตเตอรี่ขนาดความจุสูง ทาง Infinix ยังใส่ฟังชั่นการประหยัดพลังงานเข้ามาให้ใน HOTnote อีกสองตัวครับ ตัวหนึ่งสำหรับการประหยัดพลังงานแบบพื้นฐาน ลดแสงหน้าจอ ปิดการสั่น ยึดอายุแบตเตอรี่ได้อีกนิดหน่อย
กับอีกหนึ่งฟังชั่น คือการประหยัดพลังงานแบบพิเศษ ที่จะตัดการทำงานต่างๆ ของเครื่องออกทั้งหมด เหลือเพียงการติดต่อโทรศัพท์พื้นฐานและการใช้งานแค่บางแอพพลิเคชั่นเท่านั้น จะยึดอายุแบตเตอรี่ไปได้อีกหลายชั่วโมงเลยครับแม้จะเหลือแบตเตอรี่แค่เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นเท่านั้น
แม้เจ้า HOTnote จะเป็นเครื่องแอนดรอยด์ราคาไม่แพง แต่ก็มีฟังชั่น Gesture เท่ๆ หลายอย่างมาให้ใช้นะครับ การเคาะสองครั้งบนหน้าจอเพื่อล็อกเครื่องและปลดล็อกเครื่องก็มีมาเช่นกัน
รวมถึงการใช้สัญลักษณ์การวาดนิ้วลงบนหน้าจอเพื่อเรียกใช้งานแบบด่วนตั้งแต่หน้าจอปิด วาดนิ้วเป็นตัวอักษรแล้วการทำงานที่เรากำหนดไว้ก็จะเรียกใช้งานขึ้นมาได้ในทันทีเลยครับ
ด้านการใช้งานในเรื่องของหน้าจอและการรับชม หน้าจอ 5.5นิ้ว ผมคิดว่าหลายคนคงชอบขนาดหน้าจอนี่นะ ผมเองก็รู้สึกลงตัวครับ และหน้าจอของ Infinix HOTnote ก็เป็นหน้าจอที่ดี แสงสวย สีสวย และมีระบบ ClearMotion สำหรับการเพิ่มความลื่นไหลในการแสดงผลวีดีโอครับ
เข้าเว็บไซด์ก็สบายตาอยู่ครับ ตัวหนังสือเห็นชัดเจนดี
แต่เรื่องของลำโพง เสียงค่อนข้างแหลม ลำโพงเสียงบางมากครับ แต่ก็ไม่ได้เบา เสียงเรียกเข้าได้ยินชัดเจนดี
ทดลองเล่นเกม HD บนเครื่อง HOTnote ถือว่าเอาอยู่ครับ กราฟฟิคหนักๆ อย่าง Asphalt 8 ก็ยังเล่นได้ การควบคุมถือว่าดี แต่จะมีอาการแลคให้เห็นเหมือนกันนะครับบางจังหวะ
เล่นหนังระดับ HD ได้แบบสบายๆ อยู่แล้วครับ
ผลทดสอบต่างๆ ของ Infinix HOTnote x551
การจับสัญญาณ GPS ถือว่าว่องไวดีครับ ทดสอบแบบไม่ใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตช่วยเหลือก็ยังจับสัญญาณได้
การถ่ายภาพ
กล้องถ่ายภาพของ Infinix HOTnote มีลูกเล่นในการถ่ายภาพติดมาให้เหมือนกันครับ เป็นกรอบน่ารักๆ และกรอบใบหน้าสวมบทบาทเป็นบุคคลต่างๆ หลายคนเลย
มีฟังชั่น Gesture ถ่ายภาพโดยการชูสองนิ้ว เพื่อให้กล้องถ่ายภาพให้เราโดยอัตโนมัติครับ ซึ่งใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีฟังชั่นการถ่ายภาพแบบพาโนรามา HDR และแบบบิวตี้โหมดด้วยนะครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
สำหรับการถ่ายภาพด้วยกล้อง Infinix HOTnote กล้องหลังถือว่ากล้องม่ซอฟแวร์ที่ช่วยปรับแต่งภาพออกมาได้คมมากครับในสภาพแสงตอนกลางวัน ในที่แสงน้อยก็จะมีน้อยส์รบกวนเยอะหน่อย ส่วนกล้องหน้านั้นอยู่ในระดับธรรมดาๆ กล้องหลังถือว่าสอบผ่านเลยครับ
สรุปท้ายรีวิว
เป็นเครื่องแอนดรอยด์ตัวหนึ่งที่แนะนำครับ หลังจากทดสอบแล้วระบบลื่นไหลดี มีจุดเด่นที่ควรค่าแก้การใช้งานนั้นคือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ให้มาความจุสูงแต่เครื่องไม่หนักไม่หนา สเปคการใช้งานกำลังดีสำหรับการทำงานทั่วๆ ไปบนระบบแอนดรอยด์ ราคาถูกดีด้วยครับ แต่อาจจะเหมาะสำหรับคนใช้เครือข่าย AIS ซะมากกว่าผู้ใช้เครือข่ายอื่นๆ
[gradeB]