iQOO Z9 5G และ Z9x 5G ขุมพลังความแรง หน้าจอขั้นเทพ แบตใหญ่สุด 6000mAh
เน้นมาเต็มที่ในด้านประสิทธิภาพ เป็นสมาร์ตโฟนที่ให้ความแรงมาเป็นอันดับหนึ่ง ใส่มาเท่าที่เครื่องในเรทราคานี้จะจัดให้ได้ ใช้งานได้ลื่นไหลมาก เล่นเกมได้อย่างดี และที่สำคัญคือราคาไม่แพง
หน้าจอมีคุณภาพสูง ภาพสวย ถนอมสายตา และลำโพงคู่สเตอริโอที่เสียงดีมากๆ หาได้ยากในมือถือระดับราคาเดียวกัน
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่มากกว่าใคร ด้วยขนาด 6000mAh แต่ผลิตมาด้วยเทคนิคพิเศษจึงมีขนาดเล็กกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องภายนอกดูไม่แตกต่างไปจากสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นที่มีแบตเตอรี่แค่ 5000mAh
ได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP64 เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำมาให้ดีกว่ามาตรฐานของตลาด
ผ่านการทดสอบด้านความทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน และทาง iQOO ยังมีความมั่นใจในสินค้าอย่างชัดเจน ด้วยโปรโมชั่นการมอบประกันตัวเครื่องให้นานถึง 2 ปี
ใส่ประสิทธิภาพมาให้สูงที่สุด เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลที่สุดในเรทราคา
The Good
- ใช้ชิปเซ็ต 5G เทคโนโลยี 4 นาโนเมตรที่เป็นตัวแรงกว่ามาตรฐานในเรทราคาเดียวกัน
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000mAh รองรับชาร์จไว 80W และ 44W
- กันน้ำกันฝุ่น IP64
- หน้าจอคุณภาพสูงมาก มีความสว่างสูงสุดถึง 4500nits สำหรับรุ่น Z9 5G ความละเอียด 1.5K AMOLED 144Hz ความถี่การหรี่แสง PWM 3840Hz
- ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดีมากๆ เสียงดังชัดและมีเนื้อเสียง
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่แต่ใช้เทคนิคการผลิตเฉพาะของ iQOO ตัวเครื่องจึงบางเท่าปกติ
- ผ่านมาตรฐานการทดสอบด้านความทนทาน ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน มีความมั่นใจด้วยการมอบโปรโมชั่นประกันเครื่องให้นานถึง 2 ปี
The Bad
- ไม่ได้เน้นจำนวนเลนส์ของกล้องหลังมาให้สักเท่าไหร่ มาเป็นเพียงกล้องหลังคู่เท่านั้น
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
iQOO ปล่อยสมาร์ตโฟนสเปกดีที่น่าสนใจออกมาพร้อมกันถึงสองรุ่นครับ iQOO Z9 5G และ Z9x 5G ทั้งสองตัวนี้ครบเครื่องมาก
มีทั้งพลังในด้านความแรง และยังใส่แบตเตอรี่ขนาด 6000mAh ซึ่งถือว่าใหญ่มาก และใช้ระบบระบายความร้อนใหญ่พิเศษ ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ทั้งวันโดยไม่โดนลดประสิทธิภาพลงเพราะความร้อน ไม่ว่าจะใช้งานในที่ร่มหรือในที่แจ้ง
และที่สำคัญมันมาพร้อมกับหน้าจอคุณภาพสูงมาก โดยเฉพาะ iQOO Z9 5G ที่เป็นหน้าจอที่มีความสว่างสูงสุดถึง 4500nits เลยทีเดียว โดยในบทความรีวิวนี้ผมจะพามารู้จักสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจทั้งสองรุ่น และเจาะจุดเด่นและจุดอ่อนในแต่ละรุ่นมาบอกให้รู้กันทั้งหมดครับ
ราคาจำหน่ายของทั้งสองรุ่น
iQOO Z9 5G : 12GB + 256GB ราคา 12,499.- / 8GB + 256GB ราคา 11,499.-
iQOO Z9x 5G : 12GB + 256GB ราคา 9,999.- / 8GB + 256GB ราคา 8,999.- / 8GB + 128GB ราคา 7,999.-
iQOO Z9 5G ขุมพลังระดับเรือธง เหนือกว่าด้วยขนาดแบตเตอรี่ หน้าจอ และระบบระบายความร้อน
iQOO Z9 5G รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวทีเด็ดเลยครับ ใครที่อยากได้สมาร์ตโฟน Android ประสิทธิแรงๆ ที่ไม่ใช่แค่แรงด้านชิปประมวลผล แต่ว่ามาครบหมดทั้งในด้านความอึดของแบตเตอรี่ ด้านจอภาพ ด้านระบบเสียง รวมถึงระบบชาร์จไฟ และระบายความร้อนของตัวเครื่อง สามารถตอบรับการใช้งานของเราได้เต็มที่ไม่ว่าจะไปใช้ทำอะไร
ตัวเครื่องภายนอก
iQOO Z9 5G ตัวเครื่องมีขนาดบาง น้ำหนักเบา ทำเครื่องมาได้ซ่อนรูปมากถ้าพิจารณาจากที่ภายในใส่แบตเตอรี่มาให้ในขนาดใหญ่ถึง 6000mAh แบตเตอรี่เยอะเกินมาตรฐานสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ไปกว่า 20% และรุ่นนี้จะรองรับระบบชาร์จไว 80W FlashCharge ด้วยครับ
ตัวเครื่องบางแค่ 7.98 มม. น้ำหนัก 194.6 กรัม ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นแบบเกรดเครื่องพรีเมี่ยม IP64 กันฝุ่นละอองได้สมบูรณ์ และกันละอองน้ำกระเซ็นใส่ได้ไม่มีปัญหา
มีนำเข้ามาจำหน่ายสองสีครับ สีแรกคือ สีเขียวบรีซ กรีน (Breeze Green) สีที่ดูสดใสกว่า ใช้แรงบันดาลใจจากความรู้สึกเหมือนลมที่พัดผ่านทุ่งหญ้าและข้าวสาลีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อีกหนึ่งสีคือ สีดำแฟนทอม แบล็ค (Phantom Black) สีเข้มที่ใช้ได้ทุกโอกาส ด้วยผิวที่ฝาหลังเคลือบฟลูออไรต์ระดับ Micro-level แม้จะเป็นวัสดุพลาสติก แต่ก็ดูสวยงามคล้ายผิวที่ทำจากกระจกหรือโลหะเวลาสะท้อนกับแสง ไม่เกิดครายมันรอยนิ้วมือ เป็นตัวเลือกที่ทำให้ iQOO Z9 5G มีน้ำหนักเบาและบาง เสริมความทนทานเข้าไปอีกด้วยโครงเครื่องที่แข็งแรง
การออกแบบกล้องหลังซึ่งเป็นสไตล์ของแบรนด์ที่ใช้ในรุ่นเรือธง iQOO 12 ก็นำมาใช้ในรุ่นนี้ด้วย
iQOO Z9 5G จะไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. บนตัวเครื่องโดยตรงนะครับ ใช้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกผ่านบลูทูธหรือพอร์ต USB Type-C ด้านใต้เครื่อง และรุ่นนี้ทาง iQOO ได้ติดตั้ง IR Infrared มาให้ด้วยที่ขอบเครื่องด้านบน สามารถใช้เครื่องเป็นรีโมตคอนโทรลเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีชาร์จ 80W FlashCharge แถมมาให้เลย แม้ iQOO Z9 5G จะมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่มากที่สุดของแบรนด์ด้วยขนาด 6000mAh แต่ก็สามารถชาร์จได้ไว แวะชาร์จแค่ 15 นาที ได้แบตมามากพอจะใช้ดูวีดีโอไปนานครึ่งวันได้แล้วครับ และไม่มีความร้อนสะสมให้ต้องเป็นกังวลเลย ตัวระบบถูกออกแบบมาให้ดูแลสภาพแบตเตอรี่ในระยะยาวเอาไว้ด้วย ทำให้สามารถรักษาสุขภาพของแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่สามารถเก็บประจุไฟได้สูงกว่า 80% แม้จะใช้งานผ่านไปนานถึง 4 ปีแล้วก็ตามครับ
โดยภายในระบบตัวเครื่องจะมีฟังก์ชั่นที่เราสามารถเข้าไปเปิดและปิด “การชาร์จด่วน” ซึ่งจะเป็นการปลดล็อคอนุญาตให้ระบบปล่อยกระแสไฟเข้าเครื่องได้เร็วขึ้นอีกหน่อย ซึ่งการเปิดโหมดนี้อาจจะมีอุณหภูมิตัวเครื่องสูงขึ้นเล็กน้อยถ้าไม่ได้ใช้งานในห้องแอร์ครับ แต่จากที่ทดสอบก็ไม่ได้ร้อนขึ้นมาให้รู้สึกแตกต่างจนเป็นกังวลนะ อุ่นขึ้นนิดเดียวเท่านั้นเอง ซึ่งผมก็เลือกที่จะเปิดไว้ตลอด แต่เชื่อว่าการปิดไว้น่าจะส่งผลกับตัวแบตเตอรี่ในระยะยาวซะมากกว่าครับ
นอกจากที่ชาร์จแล้วภายในกล่องก็จะมีสาย USB Type-C และเคสใสซิลิโคนแถมมาให้ เคสรุ่นนี้ที่แถมมาเป็นเคสที่หนาและดูแข็งแรงมากพอสมควรครับ ใช้งานกันกระแทกได้ดีโดยไม่ต้องซื้อเคสใหม่มาใช้ก็ได้นะครับ
หน้าจอแสดงผลและลำโพงคู่
นี่คือหน้าจอแสดงผลที่อยู่ระดับบนสุดของห่วงโซ่อาหารในมือถือราคาหมื่นต้นแล้วครับ หน้าจอรีเฟรชเรทระดับ 144Hz ความละเอียดสูง 1.5K AMOLED ที่มีระดับความสว่างสูงสุดถึง 4500nits ชัดเจนสดใสแม้จะใช้งานในที่กลางแจ้ง
เจาะวางกล้องหน้าที่กินพื้นที่ขนาดเล็กมาก เป็นกล้องความละเอียด 16MP สามารถสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ และรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้โดยตรง
เป็นจอแสดงผลขนาด 6.78 นิ้ว แสดงสีสันได้ในโลกของ 1 พันล้านสี คอนทราสต์เรโชสูง 8000000:1 มาพร้อมเทคโนโลยีหรี่แสงหน้าจอ Pulse Wide Modulation (PWM) ในระดับความถี่สูงถึง 3840Hz
จึงเป็นหน้าจอที่สามารถสู้แสงได้อย่างยอดเยี่ยมในที่กลางแจ้ง และยังถนอมสายตาในระดับสุดยอดในที่แสงน้อยด้วยครับ ผ่านการรับรองจากการทดสอบของ SGS ทั้งในเรื่องการลดแสงสีฟ้าและมีการกระพริบที่ต่ำ ขอบจอเล็กแทบจะเหลือเป็นเส้นบางๆ
ภาพสวย แสงสว่างดีมาก ดูหนังนอกบ้านกลางแสงแดดก็ยังมองเห็นได้ชัดครับ พอเอาเข้าร่มสียิ่งดูสด จอภาพดีจริงครับ
ในด้านระบบเสียงของ iQOO Z9 5G เป็นเครื่องลำโพงคู่สเตอริโอที่เสียงดีมากด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถยกขึ้นมาเป็นจุดขายอีกเรื่องหนึ่งได้เลยละครับ แต่ว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ก็มีข้อดีให้พูดถึงมากเกินไปจนอาจจะสื่อสารยากแค่ลำพังจะใส่เข้าไปในหัวเรื่องของรีวิว ไม่งั้นคงจะต้องพาดหัวยาวมาก ฉะนั้นถ้าใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ผมบอกได้เลยว่า ทั้งภาพและทั้งเสียง คาดหวังได้เลยว่าใส่ของดีเข้ามาให้จริงๆ
ลำโพงคู่ที่ไม่ใช่แค่ใส่มาให้เป็นลำโพงสองตัว แต่มีเนื้อเสียงที่ดีด้วย มีน้ำหนักของเสียงและไม่ได้เร่งให้ดังจนออกแหลมเพียงอย่างเดียว จัดให้อยู่ในกลุ่มลำโพงเกรดดีของสมาร์ตโฟนอีกหนึ่งรุ่นครับ วางเทียบเสียงกับเครื่องรุ่นใหญ่ราคาแพงอีกหลายรุ่นได้สบายๆ
ประสิทธิภาพสูง ระบายความร้อนได้ยอดเยี่ยม ระบบปฏิบัติการณ์ที่มีความเสถียรสูง
iQOO Z9 5G ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรของ Qualcomm ตัวแรงที่เปิดตัวมาปลายปีก่อน ภายในใส่ GPU Adreno 720 ซึ่งเทียบชั้นได้กับการประมวลผลภาพของ Snapdragon 8 Series ฉะนั้นเรื่องความแรงนี่ก็น้องๆ เรือธงที่ตามหลังมาไม่ไกล เป็นชิปเซ็ตที่ให้ผลลัพท์ในการใช้งานดูดีเกินราคากันเลยนะครับ
ทำงานต่างๆ ไหลลื่น เข้าออกแอปพลิเคชั่นได้ว่องไว ทัชติดนิ้ว โดยจะมีเข้ามาจำหน่ายในไทยให้เลือกสองรุ่นด้วยกันนั่นคือ ขนาด RAM 8GB + 256GB และ RAM 12GB + 256GB และมีความสามารถในการขยาย RAM ออกไปได้อีกเป็นเท่าตัว (8GB+8GB และ 12GB+12GB)
รันด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14 ซึ่งเป็นระบบใหม่เช่นกัน การจัดสรรพลังงานต่างๆ มีตัวควบคุมไว้ทั้งหมดทำให้เครื่อง iQOO ที่ใช้ระบบ Funtouch OS มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นไปได้กว่าที่คิดอีกนะครับ วันไหนที่เราใช้งานระดับทั่วๆ ไปอาจจะอยู่กับเราได้ถึง 2 วันโดยที่ไม่ต้องชาร์จได้เลย
ประสิทธิภาพสูงมากเหมาะสำหรับสายเล่นเกมโดยเฉพาะ ทดสอบเล่นเกมกราฟิก 3D ก็ลื่นไหลได้เต็ม 100% ครับ ให้ประสบการณ์ไม่ต่างจากเครื่องรุ่นใหญ่มากนัก แต่ราคาถูกกว่าหลายพันเลยทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้ iQOO Z9 5G สามารถเล่นเกมได้เพลินและอินไปกับตัวเกมได้นานก็คือการคงอัตราเฟรมเรทได้ดีครับ จังหวะออกสกิลหรือจังหวะตะลุมบอนที่มักจะเจอจังหวะเฟรมเรทกระตุกก็มีให้เห็นน้อยมาก และเวลาไปเล่นนอกห้องบ้านในที่ไม่มีแอร์ ตัวเครื่องก็ไม่โอเวอร์ฮีทจนเกิดอาการรวนออกมาง่ายๆ ด้วย
รุ่นนี้ภายในใช้ระบบระบายความร้อนที่ดีครับ “6K Vapor Chamber” มันมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่เป็น 2 เท่าของรุ่นอื่นๆ และรุ่นก่อนหน้า วางคลุมไว้หมดในทุกจุดที่จะเกิดความร้อน ตั้งแต่เมนบอร์ดไปจนถึงโมดูลของกล้องถ่ายภาพ เพราะความร้อนเป็นเรื่องที่ระบบจะให้ความสำคัญก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อมีการตรวจพบอุณหภูมิที่สูงมากขึ้น ตัวระบบก็จะลดประสิทธิภาพของตัวเครื่องลง ซึ่งนี้เป็นจุดสำคัญและเป็นมาตรฐานในการออกแบบระบบจัดการภายในตัวเครื่องของทุกยี่ห้อและทุกรุ่นครับ
ฉะนั้นยิ่งเน้นมาในด้านการควบคุมอุณหภูมิได้ดีมากเท่าไหร่ ตัวเครื่องก็ยิ่งแสดงประสิทธิภาพได้ดีขึ้นและใช้ได้ยาวนานมากขึ้นตามไปเท่านั้น สไลด์คลิปดูไปทั้งวันตัวเครื่องก็ยังเย็นสบายๆ
จะบอกว่าเมื่อพิจารณาจากขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ หน้าจอที่สู้แสงได้ด้วยความสว่างสูงสุดถึง 4500nits และระบบระบายความร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าจากรุ่นเดิม เหมือนเขาจะออกแบบมาให้เราไปยืนใช้งานกันกลางแดดได้เลยนะครับ ^^ ซึ่งตัวเครื่องอาจจะทนได้ดีกว่าตัวคนใช้ซะอีกถ้าเป็นแดดประเทศไทย
ระบบ Funtouch OS 14 ยังใส่ตัวปลดล็อกลิมิตการทำงานของเครื่องเอาไว้การตั้งค่าให้เราอีกนะครับ สำหรับคนที่ไม่ได้แคร์เรื่องความร้อนหรืออายุแบตเตอรี่ สามารถเข้าไปเปิดโหมด “Monster” ด้วยตัวเองได้ จะเป็นการปลดล็อคลิมิตเตอรที่คอยควบคุมด้านพลังงานและอุณหภูมิขึ้นไปอีกขั้น มันจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าเดิมตราบใดที่ตัวเครื่องยังไม่เจอความร้อนที่มากเกินไป เอาไว้ใช้ในยามที่เจ้าของเครื่องอยากลองจัดเต็ม แต่ปรับเป็นโหมด “สมดุล” ตามค่าพื้นฐานที่ตั้งไว้ก็สามารถใช้งานได้ดีในทุกๆ การทำงานแล้วละครับ
ในตัวระบบ Funtouch OS 14 ก็มีการจัดการเรื่องการสลับโหมดประสิทธิภาพให้เราอย่างเหมาะสมอยู่ เช่นในขณะที่เราเล่นเกม ก็สามารถปลดล็อกโหมด “Monster” ขึ้นมาได้ง่ายๆ ด้วยชุดเครื่องมือ Ultra Game Mode ที่เราสามารถเรียกใช้งานได้ทุกเวลาจากการสไลด์นิ้วจากขอบหน้าจอ เราสามารถปรับเปลี่ยนโหมดไปมาเพื่อใช้ในขณะเล่นเกมเท่านั้นได้ง่ายๆ ครับ
ระบบ Ultra Game Mode สามารถปรับแต่งตัวเครื่องให้เราเล่นเกมได้สนุกมากขึ้น อย่างเช่นระบบสั่น 4D Game Vibration ที่ตัวเครื่องจะสามารถสั่นแบบ Heptic สมจริงไปตามจังหวะแอคชั่นของตัวละครในเกมที่รองรับได้ เช่นเกม Genshin Impact ที่จะสั่นไปตามลักษณะของสกิลตัวละคนทั้ง 68 ตัวในเกมได้สมจริงเป็นต้น
ประสิทธิภาพเหลือเฟือที่จะเปิดแอปทำงานสองแอปพร้อมกันในขณะที่เล่นเกมไปด้วย ใช้ไปเลยครับลื่นๆ แรมเหลือๆ ชิปเซ็ตก็รันไหวแบบสบายๆ
หน้าจอสวยๆ รีเฟรชเรทระดับสูงสุด 144Hz ลำโพงคู่เสียงดี เล่นเกมได้ฟินแบบจริงจังแล้วครับรุ่นนี้ เป็นตัวจบในสายด้านประสิทธิภาพที่ไม่ต้องจ่ายแพง และอย่าลืมว่าสมาร์ตโฟนรุ่นใหญ่กว่านี้ ก็ไม่มีให้นะครับกับแบตเตอรี่ขนาด 6000mAh ไปๆ มาๆ เจ้าตัวนี้มีดีแบบที่รุ่นอื่นไม่มีเยอะนะครับ
กล้องถ่ายภาพ
iQOO Z9 5G ให้กล้องถ่ายภาพมาเป็นกล้องคู่ กล้องหลักใช้เป็น Sony IMX 882 ความละเอียด 50MP+ Depth Camera 2MP และกล้องหน้า 16MP ไม่ได้เน้นจำนวนกล้องหรือเซนเซอร์ความละเอียดสูงมามากเท่าไหร่ แต่ภายในก็ใส่เทคโนโลยีการถ่ายภาพเฉพาะตัวมาให้ใช้ไม่ขาดตกอะไรไปแน่นอนครับ
ตัวกล้องทำงานร่วมกับระบบ AI มีโหมดถ่ายภาพมาครบ ทั้งโหมดอัตโนมัติด้วย AI, โหมดแสงน้อย และโหมดถ่ายภาพบุคคล พร้อมฟิลเตอร์ที่ให้มาเล่นเยอะครับ
รุ่นนี้ถ่ายคนได้ดีเลย เพราะรองรับการซูมภาพบุคคลในระยะ 2X ได้แบบคมชัดไม่เสียรายละเอียด
ซอฟท์แวร์กล้องของ iQOO เชื่อถือได้ครับ ตัดฉากหลังได้คม จัดแสงฉลาดภาพดูสดใส ถ่ายจากจุดเดียวกันได้ภาพสองระยะที่มีความคมชัดที่ดีทั้งคู่ ในที่แจ้งหรือในที่ร่มก็ถ่ายคนออกมาได้ดูดีครับ หรือเอาไปประยุกต์ใช้ถ่ายกับสื่งอื่นเพื่อให้ได้ภาพละลายหลังก็ได้นะครับ ถ่ายกับน้องหมาก็ยังละลายออกมาได้สวย ^^
มีโหมด Snapshot ที่เอาไว้ถ่ายภาพที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ช่วยการถ่ายได้ภาพที่คม เก็บรายละเอียดได้ชัดอยู่เสมอครับ ไม่ว่าวัตถุหรือตัวเรายังมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
โหมดภาพกลางคืนก็ใส่ฟิลเตอร์คู่สีที่เข้ากันกับฉากแสงไฟในที่แสงน้อยมาให้ใช้เช่นกันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดต่างๆ
กล้องหลังที่ให้มาแม้จะเป็นแค่ระบบกล้องคู่ จำนวนเลนส์ที่ให้มาอาจจะอยู่ในระดับกลางๆ แต่ผลลัพท์อยู่ในระดับใช้งานได้อย่างดีแล้วครับ ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่อาจจะไม่ใช่จุดขายหลักของรุ่นเพียงเท่านั้นเอง
สรุปท้ายรีวิว iQOO Z9 5G
ครบอย่างมาก และมีคุณภาพสูงมากในด้านประสิทธิภาพ เป็นเครื่องระดับหมื่นต้นที่ให้ประสบการณ์ใช้งานในมาตรฐานเหมือนเครื่องเรือธง ทั้งความแรง ขนาดแรม ทั้งหน้าจอคุณภาพสูงที่มีรีเฟรชเรทสูงและความสว่างสูงมาก สีสันสดใส ขอบจอเล็ก และลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดีที่มีเนื้อเสียง ซึ่งคุณภาพโดยรวมจากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเราสามารถหาได้จากเครื่องในราคาหมื่นต้นๆ เท่านั้น ถือว่าเป็นตัวจบที่ราคาถูกมาก
ยังไม่นับเรื่องที่ iQOO Z9 5G มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000mAh ซึ่งมีขนาดแบตที่ใหญ่กว่ามาตรฐานทั่วไป ใช้งานได้ดีแล้วยังใช้งานได้นานกว่าคนอื่นอีกด้วย ยิ่งคุ้มค่าเข้าไปใหญ่เลยครับ
ราคาและโปรโมชั่น
iQOO Z9 5G มีเข้ามาจำหน่ายสองรุ่น 8GB + 256GB ราคา 11,499.- / และ 12GB + 256GB ราคา 12,499.- มีโปรโมชั่นเฉพาะลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 14 – 20 พ.ค. 67 นี้
- รับหูฟัง iQOO TWS 1e มูลค่า 1,299 บาทฟรี
- รับสิทธิพิเศษ E-VIP ประกันตัวเครื่อง 2 ปี พร้อมประกันหน้าจอแตก 1 ปีแรก 1 ครั้ง
ซื้อได้ทั้งทางออนไลน์ Shopee, Lazada หรือที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
iQOO Z9x 5G ขุมพลัง Snapdragon 6 Gen 1 ลำโพงคู่เสียงดัง 300% และแบตใหญ่เกินมาตรฐาน 6000mAh ในราคาแค่ 7,999
ถ้าจะมองหาสมาร์ตโฟนในกลุ่มราคาเริ่มต้น 7,999 บาท (ยังไม่นับรวมส่วนลดโปรโมชั่น) ในตอนนี้จับ iQOO Z9x 5G เข้าไปในใจได้เลยครับ
รุ่นนี้ทาง iQOO เลือกใช้ Snapdragon 6 Gen 1 ชิปเซ็ต 5G ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 4 นาโนเมตรอีกหนึ่งรุ่น มันมี Performance ที่ดีกว่า Snapdragon 695 ซึ่งนิยมใช้กันอยู่ในกลุ่มสมาร์ตโฟน 5G ในเรทราคาใกล้เคียงกันแถมบางรุ่นก็ยังขายแพงกว่า ฉะนั้นด้านความคุ้มค่าในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานมันสอบผ่านอย่างสวยงามเลยละครับ และก็ยังมีจุดเด่นในด้านอื่นๆ ที่ทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้คุ้มกับราคามากขึ้นอีกด้วย
การออกแบบของ iQOO Z9 5G กับ iQOO Z9x 5G จะสังเกตเห็นได้ง่ายตั้งแต่ขอบตัดเหลี่ยมของตัวเครื่อง และการออกแบบชุดกล้องหลัง (ซ้าย iQOO Z9 5G / ขวา iQOO Z9x 5G )
ตัวเครื่องภายนอก
iQOO Z9x 5G ยังคงทำตัวเครื่องได้ดีเหมือนรุ่นพี่ของซีรี่ส์ เพราะภายในแม้จะใส่แบตเตอรี่มาให้ในขนาดใหญ่ถึง 6000mAh แต่ตัวเครื่องกลับทำมาได้บางและมีน้ำหนักไม่มากครับ ตัวเครื่องบางแค่ 7.99 มม. และน้ำหนัก 199 กรัม
ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP64 เรียกได้ว่าใช้เทคนิคการผลิตตัวแบตได้เล็กและการประกอบเครื่องแบบกันน้ำกันฝุ่นที่มาในเกรดดีเลย แม้จะเป็นรุ่นน้องครับ ซึ่งถือว่ามีมาตรฐานที่สูงกว่าเครื่องอื่นในระดับราคาเดียวกัน
มีนำเข้ามาจำหน่ายสองสีครับ สีแรกคือสีเขียวนอร์ทเทิร์น กรีน (Northern Green) เป็นสีที่ทำลวดลายมาแบบพิเศษ ได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์แสงเหนือ เวลาโดนแสงสะท้อนจะให้ความรู้สึกสวยงามและมีมิติ อีกหนึ่งสีคือสีดำมิสติก แบล็ค (Mystic Black) สีดำโทนเข้มบนพื้นที่มีความระยับระยับเล็กน้อยอยู่บนตัวเอง สีนี้ได้แรงบันดาลใจจากท้องฟ้าในยามกลางคืนที่มีแสงดวงดาวระยิบระยับ เป็นผิววัสดุพลาสติกที่ทำออกมาได้ดูดี
รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างเครื่อง ทำมาได้ในขนาดที่ไม่ใหญ่แต่สแกนนิ้วได้เร็วไม่ลำบากครับ
พื้นผิวฝาหลังสีดำของรุ่นนี้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก แต่ก็มีให้เห็นบ้างนะครับ ใช้การออกแบบตัวเครื่องตัดขอบเหลี่ยนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กระชับมือมากครับ มีรูหูฟัง 3.5 มม. ตัดตั้งมาให้บนตัวเครื่องโดยตรง
ใช้การออกแบบกล้องหลังสไตล์เดียวกันกับรุ่นเรือธง iQOO 12 และรุ่นพี่ในซีรี่ส์ ดูเรียบง่ายแต่ใส่รายละเอียดลายเส้นเหมือนขอบหน้าปัดนาฬิกาเอาไว้เพิ่มความสวยงาม
รองรับ 5G ทั้งสองซิมการ์ด เป็นถาดใส่ซิมแบบไฮปริด สามารถสลับไปใส่ micro SDcard ได้แทนในสล็อตซิมที่ 2 รองรับสูงสุด 1TB
อุปกรณ์ภายในกล่องของ iQOO Z9x 5G ก็จะมีที่ชาร์จ 44W FlashCharge แถมมาให้ พร้อมกับเคสใสซิลิโคนและสาย USB Type-C
หน้าจอแสดงผลและลำโพงคู่ iQOO Z9x 5G
ให้หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ 2408×1080 พิกเซล เป็นจอชนิด LCD ที่ให้ความสว่างสูงครับ ระดับ 1000nits และรองรับรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz เป็นจอที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก TUV Rheinland ลดแสงสีฟ้าถนอมสายตาให้กับผู้ใช้งานได้ตลอดวัน ปรับตามแสงกลางวันและแสงในขณะใช้งานกลางคืน
หน้าจอคมชัดครับ แสงสว่างสูงพอตัว ขอบจอเล็ก เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 8MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน
รุ่นนี้จะให้ลำโพงคู่เสียงดังฟังชัดเจนมาให้ด้วยนะครับ เป็นระบบเสียงที่สามารถเร่งระดับความดังได้มากกว่าปกติ 300% เปิดสุดเสียงดังมาก ออกแหลมนิดๆ แต่เสียงดังสุดก็ยังไม่แตกนะครับ ถ้าเอาไว้ใช้เองในห้องเปิดแค่ 200% ก็ดังมากๆ แล้ว
เอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง ใช้งานเองในห้องส่วนตัว ก็ใช้ได้เพลินแล้วแบบที่ไม่ต้องต่อหูฟังหรือต่อลำโพงเพิ่มครับ
ประสิทธิภาพจาก Snapdragon 6 Gen 1 และ RAM ขนาดสูงสุด 12GB+12GB
เป็นเครื่องสเปกแรงดีในราคาประหยัดนะครับ โดยทาง iQOO ได้นำรุ่นนี้เข้ามาให้เราเลือกใช้ถึง 3 ระดับราคาเลยทีเดียว ทั้งรุ่น RAM 8GB + 128GB, 8GB + 256GB และตัวท็อปสุดคือ 12GB + 256GB ซึ่งมีความสามารถในการเพิ่มขนาด RAM ออกไปได้อีกเท่าตัวในทุกระดับ (8GB+8GB และ 12GB+12GB)
ระบบการใช้งานของรุ่นจะเป็น Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14 ก็มีการเปิดโหมดประสิทธิภาพ “Monster” ขึ้นมาใช้งานได้ด้วย เป็นการปลดล็อกลิมิตเครื่องโดยแลกกับการใช้พลังงานและความร้อนที่อาจจะสูงขึ้นเล็กน้อย เราสามารถเรียกใช้การสลับโหมดไดเง่ายๆ ด้วยชุดเครื่องมือ Ultra Game Mode ซึ่งจะทำงานเองอัตโนมัติเมื่อเราเปิดเกมขึ้นเล่น
จากการทดสอบ ด้วยขนาด RAM ที่ใหญ่ รวมด้วยความแรงของ Snapdragon 6 Gen 1 มันสามารถใช้งานได้ทุกอย่างบน Google Play Store ได้อย่างเพียงพอสบายๆ และสามารถเล่นเกม 3D อย่าง Solo leveling : Arise ได้ลื่นไหลดีเลยครับ แม้จะไม่เท่ารุ่นใหญ่ทีราคาสูงกว่า แต่จะบอกว่านี้ก็เพียงพอแล้วก็ได้เช่นกัน และในงบประมาณเท่านี้เจ้า iQOO Z9x 5G ดูเป็นรุ่นที่คุ้มค่าแบบพลาดไม่ได้ด้วยครับ
ไม่ใช่แค่เรื่องของความแรง แต่เรื่องของอายุการใช้งานก็ใส่ใจมาด้วยเช่นกัน มันถูกออกแบบตัวระบบการผลิตเครื่องให้สามารถทำงานได้ยาวนานถึงกว่า 4 ปีโดยไม่เสื่อมสภาพเสียหายไปง่ายๆ ซะก่อน เรียกว่าราคาดีแต่มีมาตรฐานด้วยนั่นเอง
สิ่งที่รู้สึกประทับใจอีกอย่างหนึ่งสำหรับ iQOO Z9x 5G ก็เป็นเรื่องของความอึดแบตเตอรี่ครับ เพราะแบตมันมีขนาดใหญ่มาก ในตัวระบบก็จัดสรรพลังงานได้ดี และมีการใช้ชิปเซ็ตระดับ 4 นาโนเมตรที่กินพลังงานน้อยกว่า แบตเตอรี่ของรุ่นนี้เมื่อชาร์จไฟเต็มสามารถเปิดหน้าจอทำงานต่อเนื่องได้มากกว่า 10 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ และถ้าในการใช้งานแบบทั่วไปอยู่ได้สองวันแบบสบายๆ
กล้องถ่ายภาพ
iQOO Z9x 5G ให้กล้องถ่ายภาพมาเป็นกล้องคู่ที่สเปกกล้องหลังอาจจะดูคล้ายกันกับรุ่นพี่ แต่ว่าจะใช้เซนเซอร์คนละตัวกันนะครับ โดยกล้องหลักจะเป็นกล้องความละเอียด 50MP+ Depth Camera 2MP และกล้องหน้า 8MP
ตัวกล้องสามารถซูมภาพ 2x ได้แบบไม่เสียรายละเอียด มีโหมดกลางคืนสำหรับถ่ายในที่แสงน้อยและโหมดถ่ายภาพบุคคลมาครบครับ โดยโหมดถ่ายภาพบุคคลนอกจากจะปรับความเนียนใสของใบหน้าได้แล้ว ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงของโบเก้ฉากหลังได้ด้วย เช่นให้เป็นรูปดาว หรือหัวใจ เป็นต้น
สามารถมาปรับเลือกจุดโฟกัสและระยะชัดลึกชัดตื้นได้ใหม่หลังการถ่ายได้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปท้ายรีวิว iQOO Z9x 5G
ประสิทธิภาพคือจุดขายอย่างชัดเจน พลังประมวลผลที่เลือกใช้ Snapdragon 6 Gen 1 และมี RAM ขนาดใหญ่ในเรทราคาไม่ถึงหมื่น และมีรุ่นเริ่มต้นกับ RAM 8GB ในราคาแค่ 7,999 บาท คุ้มมากครับ ให้แบตเตอรี่ใหญ่เกินใครมาด้วยในขนาด 6000mAh ลำโพงคู่ระดับเสียง 300% และชาร์จไว 44W ถือว่าครบอย่างมาก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องด้านประสิทธิภาพแบบเน้นๆ
ราคาและโปรโมชั่น
iQOO Z9x 5G มีเข้ามาจำหน่ายในสามรุ่น โดยมีราคาดังนี้
- 8GB + 128GB ราคา 7,999 บาท
- 8GB + 256GB ราคา 8,999 บาท
- 12GB + 256GB ราคา 9,999 บาท
รับสิทธิพิเศษ E-VIP ประกันตัวเครื่อง 2 ปี พร้อมประกันหน้าจอแตก 1 ปีแรก 1 ครั้ง ซื้อได้ทั้งทางออนไลน์ Shopee, Lazada หรือที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ