Lenovo K4 note ((A7010) คือสมาร์ทโฟนที่เป็นไฮไลค์ตัวหนึ่งในวาน Mobile Expo ครั้งที่ผ่านมาครับ เปิดตัวมาได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาจำหน่ายแค่เพียง 7,590บาท แต่คุณจะได้เครื่องสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ระดับน่าใช้งานที่มาพร้อมกับหน้าจอ 5.5 นิ้วแบบ Full HD แรมขนาด 3GB ลำโพงคู่ แบตเตอรี่ 3,500 mAh มี NFC และตัวสแกนลายนิ้วมือ ครบ จบ ซื้อเถอะครับ และขอจบรีวิว ^^
แต่ยังจบไม่ได้ เพราะมันจะต้องมีการทดสอบในเรื่องอื่นๆ กันต่ออีก เพราะสเปคมันก็ยังบอกอะไรมากไม่ได้หรอกครับ โดยเฉพาะผมยังไม่ได้พูดถึงระบบ TheaterMax ของมันเลย ซึ่งมันเด็ดมาก เพราะเจ้าระบบตัวนี้มันจะทำให้ทุกๆ การทำงานของเครื่อง K4 Note สามารถใช้งานกับแว่น VR ได้ทั้งหมด ตั้งแต่หน้า UI ไปจนถึงทุกๆ การทำงานเลยทีเดียว
ตัวเครื่องภายนอก
Lenovo K4 note ออกแบบมาในรูปทรงใหม่ของ Lenovo ครับ หน้าตาจะละม้ายคล้ายกับเครื่อง Lenovo Vibe 3x ตัวเรือธงที่ออกมาพร้อมกันมาก แต่วัสดุหลักของมันจะเป็นพลาสติก ลำโพงคู่สเตอริโออยู่ด้านหน้าบนและล่างระบบเสียง Dolby Atmos ตัวเครื่องเบา หน้าจอขนาด 5.5นิ้ว มีปุ่มควบคุมหลักสามปุ่มด้านล่างจอ เสียดายที่ปุ่มสามปุ่มนี้ไม่มีแสงไฟแต่ใช้สกรีนเส้นสีเงินเอาไว้ให้เห็นแทน
ด้านหลังก็ยังสวย โค้งมน เกลี้ยงๆ มีที่สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้กล้องหลัง ผิวสัมผัสลื่นๆ สบายมือดีครับ ไฟแฟลชคู่แบบทูโทน และด้านล่างสกรีนคำว่า Dolby Atmos ซึ่งเป็นระบบเสียงของเครื่อง
รองรับสองซิมการ์ดแบบ Micro Sim และเพิ่ม Micro Sd Card ได้ แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้นะครับ มีปัญหาในประกันเข้าศูนย์เปลี่ยนให้ได้ครับ
Lenovo ตัวนี้ผมบอกเลย งานดีน่าใช้ มีไมค์ร้บเสียงสามตัว ภายนอกดูสวยกว่าราคามันมากครับ ตัวเครื่องเบาด้วยผมชอบมาก ถือจับสบายหน้าจอ 5.5 นิ้วไม่ใหญ่ไม่เล็กกำลังดี
อุปกรณ์ภายในกล่อง ทาง Lenovo จัดมาให้ครบ ทั้งเคสใส และฟิล์มกันรอย ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีก
ในประเทศไทย ทางผู้จำหน่าย จัดชุด Bundle วางขายพร้อมอุปกรณ์ VR ในราคาโคตรถูกครับ ซึ่งเจ้าแว่น VR ตัวนี้แหละที่เราจะเอาไปใช้กับระบบ TheaterMax ของมัน รับรองสนุกครับ แว่นตัวนี้ เป็นทางผู้ผลิต AntVR ผลิตออกมาเพื่ออุปกรณ์ Lenovo โดยเฉพาะเลย ก็หยิบติดเอามาเถอะรับรองว่าคุ้มแน่นอน
การใช้งาน
เปิดเครื่องมาแรกพบสบหน้าลองสไลด์นิ้วไปมา ถือว่าใช้ได้ ลื่นไหล เอาความรู้สึกแรกไปว่าดี และเพราะหน้าจอสีสันสวยด้วย
UI ของทาง Lenovo K4 note จะมีให้เลือกสองแบบครับ ระหว่างรูปแบบเดิมๆ ของ Android และแบบ VibeUI ซึ่งจริงๆ จะบอกว่ามันเรียบๆ ทั้งคู่ ไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อนมาก ต่างกันหลักๆ แค่ VibeUI จะไม่มีหน้า Appdrawer หรือหน้ารวมแอพ แต่จะเอาไอคอนแอพท่ีมีในเครื่องทั้งหมดออกมาแสดงในหน้าแรกแทน
สิ่งที่พิเศษจริงๆ คือคำสั่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามา นั้นคือ VR mode ระบบที่ผมบอกว่า มันจะเปลี่ยนทุกๆ การทำงานของเครื่อง ให้รองรับกับการใช้งานร่วมกับแว่น VR มันคือตัวนี้ครับ มันจะแยกการแสดงผลออกเป็นสองหน้าจอ ซ้ายและขวา ตลอดเวลา ทำให้เราสวมใส่เครื่องเข้ากับแว่น VR ก็จะได้ภาพแสดงผลที่การเป็นเครื่องหน้าจอกว้างขนาดใหญ่ มีมิติ พร้อมใช้งานในทุกๆ โหมดอไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ดูหนัง รับชม Youtube ทุกๆ อย่างใช้งานได้หมด มันทำให้โลกธรรมดาๆ ของการใช้งานมือถือ กลายเป็นโลกของ VR ด้วยความสามารถในโหมดนี้นั้นเองครับ
ปกติในการใช้งาน VR เราจะต้องใช้งานกับแอพพลิเคชั่นหรือเกมที่ออกแบบมาเพื่อ VR โดยเฉพาะ แต่เจ้าตัวนี้ไม่ใช่ ฉะนั้นเพื่อนๆ ก็คงน่าจะจินตนาการออกแล้วว่า มันจะนำไปใช้งานได้ในรูปแบบใดได้บ้าง และน่าจะสนุกแค่ไหนครับ ^^
ตัวเครื่องแรมขนาด 3G ใช้ CPU เป็น ประสิทธิภาพคื รันได้ทุกอย่างบนระบบ Android แล้วละ เล่นเกมได้ทักเกม เล่นแอพได้ทุกแอพ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่อาจจะมีแลคช้ากระตุกบ้างในเวลาเปิดเกมใหญ่ๆ แล้วเจอฉากสามมิติโหดๆ ซึ่งเป็นปกติครับ เครื่องแพงๆ บางรุ่นยังไม่รอด เอาว่าสเปคก็ใช้งานได้ดีแล้วละกันบนระบบ Android
ตัวสแกนลายนิ้วมือ ฉับไว มาตรฐานเดียวกันกับเครื่องราคาแพง มีการใส่มาไว้ให้เช่นกัน แต่ที่มันติดใจคือมันดันเก็บลายนิ้วมือไว้ได้แค่สองนิ้ว ของผมมือซ้ายและมือขวา จะใส่นิ้วภรรยาไปเพิ่มก็ควเพิ่มไม่ได้อีก เก็บข้อมูลลายนิ้วมือได้น้อยไปหน่อย แต่ความแม่นยำและความเร็วถือว่าผ่านเลยครับ สแกนเอียงสแกนกลับหัวก็ได้ ไม่ต้องเปิดหน้าจอก่อน แค่เอานิ้วแตะตัวสแกนเครื่องก็เปิดจอพร้อมใช้งานได้ทันที
มันใช้เป็นปุ่มถ่ายเซลฟี่ขณะใช้กล้องหน้าได้ด้วยนะ และยังเซ็ตค่าได้อีกหลายอย่างว่าจะให้มันใช้ทำอะไร เช่นแตะเพื่อใบ้เป็นปั่มโฮม ทัชค้างเพื่อใช้เป็นปุ่ม Recent App ก็ได้ครับ
ถึงมันจะไม่มีลูกเล่นปรับแต่งอะไรมากนักในตัว UI แต่มันก็ยังมีธีมและรูปแบบล็อกหน้าจอให้เราเลือกใช้ได้จากใน “ศูนย์ธีม” ของมัน
ในเรื่องของฟังชั่นการใช้งาน ทาง Lenovo ก็มีมาให้ภายในเครื่องอยู่ไม่น้อยนะครับ เช่นฟังชั่นโหมดปลอดภัย ที่สามารถปิดเก็บความลับของผู้ใช้ได้ทั้งรายชื่อ ข้อความ และแฟ้มเอกสารต่างๆ ของเครื่องได้ครับ
ตัวเครื่อง Lenovo K4 Note เ็นเครื่องลำโพงคู่ครับ เสียงที่ให้เป็นแบบสเตอริโออยู่แล้ว ความดังอยู่ในระดับกลางๆ มิติเสียงดี แต่ลำโพงไม่ได้เทพมาก ภายในจะมีระบบ Dolby Atmos ซึ่งเป็นตัวปรับแต่งเสียงชื่อดัง เป็นแอพพร้อมให้ใช้เพื่อปรับแต่งเสียง โดยจะมีโหมดการใช้งานที่เหมาะสมกับการรับชมภาพยนตร์ ดนตรี เกม
ฟังชั่นปุ่มโฮมสมือนและฟังชั่นที่ใช้เซ็นเซอร์ในการทำงานต่างๆ
ผลทดสอบต่างๆ ของตัวเครื่อง
ทดสอบการจับตำแหน่งด้วยการนำทาง ก็จับตำแหน่งได้แม่นยำครับ ไวดี มีหลุดสัญญาณบ้างเวลาอยู่ในที่อับ
การใช้งานโดยรวมมันอยู่ในระดับที่น่าพอใจครับ แถมการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 3,300 mAh ของมันก็ทำได้ดีด้วยนะ แบตค่อนข้างอึดครับ
กล้องถ่ายภาพ
ตัวกล้องถ่ายภาพของ Lenovo K4 Note มีระบบการโฟกัสแบบ Phase Detection เข้ามาทำให้มันสามารถจับโฟกัสภาพได้ไวครับ แต่โฟกัสบางครั้งไม่เข้าเป้า ต้องถ่ายเพื่อๆ สักหน่อยนะครับ เพราะจากที่ผมทดสอบใช้ ภาพเอามาขยายมันไม่คมเท่าที่มองจากบนจอของมันเอง
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปท้ายรีวิว
ดีครับ ราคาคุ้มแน่ๆ สเปคไม่ได้แรงล้ำแต่ครบและเพียงพอ มีสแกนลายนิ้วมือ แรม 3GB แบตเตอรี่ 3,300 mAh ลำโพงคู่ รองรับสองซิมแบบ 4G ทุกค่ายในไทย ไอ้ที่ควรมีก็มีหมด แถมยังมีฟังชั่นน่าสนใจที่ผมอยากให้ทุกๆ คนได้เล่นกัน นั้นก็คือ TheaterMax ระบบแบ่งจอภาพที่ทำให้ทุกการใช้งาสามารถทำงานได้กับแว่น VR ทั้งหมด
จุดด้อยแบบชัดเจนไม่มี ด้วยเพราะราคาขายมันไม่ได้แพง จึงขอยกเป็นตัวแนะนำสำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 8,000 บาทในช่วงนี้อีกหนึ่งตัวครับ