รีวิว LeTV Lemobile Le1s
Letv ถือว่าเป็นเป็นแบรนด์ใหญ่และแบรนด์แรงจากประเทศจีนครับ ภายในปีแรกที่เข้ามาสู่ตลาด ปี 2015 พวกเขาสามารถทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านเครื่องภายในสามเดือน และทำยอดได้ 4 ล้านเครื่องภายใน 1 ปี ถือว่ายอดเยี่ยมมากในสภาพที่การแข่งขันในตลาดของสมาร์ทโฟนที่รุนแรงในขณะนี้
และในตอนนี้สมาร์ทโฟน LeTV ก็กำลังจะเขามาจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายก็เป็นบริษัทพาร์ทเนอร์ของไทย วิน ไอพีทีวี ตามกำหนดการก็จะเริ่มเห็นกันได้ในเดือนมีนาคม (2016) ซึ่งทางเว็บไซด์ Appdisqus เราโชคดีได้เครื่อง LeTVLemobile Le 1s (x500) มาลองทดสอบใช้งานกันก่อนครับ
เครื่องที่เราได้มานั้นเป็นเครื่องจากทางจีนเลย ยังไม่มีการใส่ซอฟแวร์ของไทยเข้ามาครับผม ตัวเครื่องที่ทดสอบจึงเป็นเครื่องจากทางจีน 100% เรามีติดตั้งเพิ่มแค่บริการต่างๆ จาก Google เช่น PlayStore, Gmail และ Google Service ต่างๆ เพิ่มเติมเข้าไปบางส่วนเท่านั้น จึงอาจจะมีเห็นว่าในเครื่องมีแอพจาก Google ในบางภาพประกอบ
เริ่มแรกเลยหลังการทดสอบใช้ ก็ขอเอ่ยปากชมว่าจุดขายของมันเยอะไปหมด ตั้งแต่วัสดุการประกอบตัวเครื่องภายนอกไปยังซอฟแวร์ใช้งานภายในที่มีความแตกต่างกับสมาร์ทโฟนระบบอื่นๆ มาก เนื่องจาก LeTV นอกจากจะผลิตมือถือ Lemobile แล้ว ก็ยังเป็นบริษัทที่ให้บริการรายการทีวีและภาพยนตร์ในประเทศจีนอีกด้วย มือถือของเขาจึงมีคุณสมบัติในการรับชมภาพยนตร์และช่องรายการโทรทัศน์มากมายซึ่งมีทั้งรายการฟรีและรายการที่เก็บค่าสมาชิก ฝังอยู่ในหน้า UI ของตัวเครื่องมาให้ และเขาออกแบบมาได้อย่างสวยงามมากด้วยครับ
น่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ LeTV จึงได้จับมือกับบริษัท วิน ไอพีทีวี ในประเทศไทย เพราะ วิน ไอพีทีวี เองก็เป็นผู้ที่ทำธุรกิจหลายด้านในไทยรวมถึงด้านการบริการ IPTV และตามแผนที่น่าจะเป็นเราอาจจะได้เห็นเครื่อง LeTV ที่รองรับรายการทีวีไทยและบริการการรับชมภาพยนตร์ การ์ตูน และรายการต่างๆ จากผู้ให้บริการในไทยก็ได้ครับ ซึ่งผมเองอยากให้เป็นแบบนั้น และอยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสการใช้งานระบบของมันดู เพราะส่วนตัวผมค่อนข้างชอบและประทับใจกับมันมาก มีความแตกต่าง ทำให้ไม่น่าเบื่อ และเครื่องในเวอร์ชั่นของจีนที่ผมใช้งานอยู่นี่มันทำออกมาได้ดีจริงๆ ครับ รอดูก็แต่ในตอนที่มันออกมาในรูปแบบสำหรับคนไทยแล้วก็เท่านั้น
ตัวเครื่องภายนอก
อยากที่ผมเอ่ยปากชมไปในย่อหน้าแรก ตัวเครื่องของเจ้า LeTV Le 1s มาในเกรดคุณภาพของเครื่องระดับราคาแพง วัสดุตัวเครื่องโลหะ การประกอบเนี้ยบ และขอบเครื่องข้างจอบางเฉียบ เป็นเครื่องหน้าจอ 5.5 นิ้วที่เล็กมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ส่วนเรื่องราคาจำหน่าย (ซึ่งผมคาดเดาว่าไม่น่าจะเกินหมื่น) แม้จะยังไม่ฟันธงราคาขายในไทยแต่เครื่อง LeTV Le 1s ตัวนี้ ให้คุณภาพตัวเครื่องสูสีเครื่องราคาหนึ่งหมื่นบาทขึ้นไปได้ทุกตัวครับ
ตัวเครื่องด้านหน้าเรียบ เก็บซ่อนปุ่มควบคุมสามปุ่มไว้อย่างดี ปิดเครื่องจะมองไม่เห็นถ้าไม่ทัชเปิดใช้งานจนไฟด้านล่างติดขึ้นมา ทำได้สวยงามดีครับ ด้านบนก็ซ่อนที่แสดงไฟ LED แจ้งเตือนไว้ด้วย
จอภาพสว่างไม่มากเท่าไหร่ ผมต้องเปิดใช้แสงไฟประมาณ 70% (ปกติจะใช้ 50%) สำหรับระดับแสงหน้าจอที่ผมชอบ มุมมองจอกว้าง สีสันความสดของจอปรับแต่งได้ ความละเอียด Full HD บนหน้าจอ 5.5 นิ้ว ถือว่าคมมากพอแล้ว และขอบเครื่องข้างจอบางๆ เล็กๆ ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ใหญ่ครับ
รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด รองรับ 4G ทั้งสองสล็อต (ไม่มีช่องใส่ Micro SD card)
มีฟังชั่นการสแกนลายนิ้วมือ อยู่ด้านหลังตัวเครื่องเป็นช่องวงกลม สะท้อนเงาเป็นแผงกระจก สวยแต่เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก การสแกนนิ้วแม่นยำมากระดับเครื่องราคาสูง ให้คุณภาพมาแทบไม่แตกต่างกัน สามารถสแกนนิ้วปลดล็อคตัวเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องกดปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน และสามารถใช้ได้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพในขณะเซลฟี่ได้ด้วยนะครับ
มันมีคุณสมบัติหลายอย่างเกี่ยวกับด้านทีวีแบบครบด้านเลยทั้งซอฟแวร์และตัวเครื่องด้วย เพราะเจ้าตัว LeTV Le 1s จะมีอินฟราเรดอยู่ด้านบนตัวเครื่อง สำหรับการทำตัวมันเองให้เป็นรีโมททีวีมาให้ด้วยนะครับ (พร้อมซอฟแวร์ด้านใน) จะใช้เป็นรีโมทสำหรับทีวี เครื่องเสียง รวมถึงแอร์หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ใช้งานรีโมท ถ้าสามารถเช็ตค่าต่างๆ ได้ด้วยตัวแอพใช้งานภายได้ละก็ เราก็จะสามารถใช้งานเจ้าเครื่องนี้เป็นรีโมทได้เช่นกันครับ
ลำโพงด้านล่างเจาะรูมาเหมือนลำโพงคู่ (ออกแบบแบบนี้หลายเจ้านะ) แต่จริงๆ เป็นลำโพงเดี่ยวด้านขวา เสียงดังดีครับ เสียงออกแหลมใส ฟังเพลงเย็นๆสบายๆ แต่เปิดร็อคเมื่อไหร่หนวกหนูใช้ได้ เสียงลำโพงลักษณะนี้เหมาะมากสำหรับเสียงตอนเล่นเกมส์ครับ แต่การออกแบบที่เอาลำโพงไว้ด้านล่าง บางครั้งก็สร้างปัญหาเวลาจับถือแนวนอน มือเราจะไปบังลำโพงได้ง่ายๆ
จุดเด่นที่สำคัญของเจ้ารุ่นนี้ก็คือ พอร์ตด้านใต้เครื่องไม่ได้ใช้เป็น micro USB แบบเดิมๆ แล้วนะครับ เพราะสำหรับ LeTV Le 1s เป็นเครื่อง Android รุ่นแรกๆ ที่เปลี่ยนมาใช้พอร์ตแบบ USB-C แล้ว ข้อดีคือการรองรับการเชื่อมต่อหลายอย่างในพอร์ตเดียวและจุดดีของ USB Type-C อีกอย่างหนึ่งก็คือมันไม่มีด้านบนและล่างเหมือน Micro-USB เราสามารถเสียบด้านไหนเข้าไปก็ได้ครับ สะดวกดีในที่มืดหรือเสียบชาร์จตอนเวลานอน แต่ข้อลำบากคือมันยังใหม่และแตกต่าง ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เดิมๆ ของเราที่เป็นพอร์ต micro USB ไม่ได้ถ้าไม่ได้พอสายแยกติดตัวไว้ด้วย สรุปสำหรับด้านตัวเครื่อง ผมให้มันอยู่ในระดับเทียบเท่าเครื่องราคาสูงกว่ามันขึ้นไปได้สบายๆ
อุปกรณ์ภายในกล่องที่มีมาให้นั้นผมเจอของดีคือตัว Adapter ชาร์จไฟ เขาให้ตัวแรงดันไฟฟ้าขนาด 2.7 มาเลยครับ แรงมาก ชาร์จแบตได้เต็มเร็วมาก แบต 3,000 mAh ของมัน เต็มได้ในประมาณชั่วโมงครึ่ง
แกะกล่อง LeTV Lemobile Le 1S
การใช้งานภายใน
ลื่นไหล ไว เพราะเจ้า Le 1s สเปคมันไม่ต่ำ ภายในมันใช้หน่วยประมวลผลตัวระดับสูงของ MediaTek นั้นคือตัว MT6795T Helio X10 octa-core 2.2GHz กับแรมขนาด 3GB มันแรงพอจะให้ผลลัพท์ที่อยู่ในระดับสูงครับ ผมทดสอบใช้งานแล้วก็พอใจมากครับ มันตอบสนองการใช้งานได้ไวและราบลื่นมาก สิ่งที่จะเจอเป็นข้อบกพร่องก็จะเป็นเรื่องของบริการ Google ที่ผมติดตั้งลงไปเองเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับระบบเครื่องดั่งเดิมแต่อย่างใดครับ
หน้า UI ของเจ้า Le 1s มีความโดดเด่นในเรื่องของความแตกต่างจากชาวบ้าน ตั้งแต่การเน้นการใช้งานรับชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่มีมาให้ในเครื่อง ปุ่มกลางของชุดคำสั่งเป็นปุ่ม LIVE สำหรับการเข้าไปรับชมช่องรายการต่างๆ ที่ทาง LeTV ถ่ายทอดมา (รองรับความละเอียดสูงกันถึง 4K กันเลยครับในบางรายการ) ซึ่งจรงจุดนี้ผมหวังว่าในเวอร์ชั่นขายไทย บริษัท วิน ไอพีทีวี จะหาช่องรายการของไทยดีๆ มารองรับให้เราได้เช่นกัน มันจะสวยงามและน่าใช้งานมาก
สไลด์หน้าจอมาหน้าแรกสุด จะพบกับรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ล่าสุดขึ้นมาแนะนำอย่างสวยงาม (ภาพปกแต่ละภาพเขาทำสวยจริงๆ) หน้านี้สามารถปิดได้นะครับ โดยการทัชค้างที่หน้าว่าง แล้วเลื่อนมาหน้าแรกสุดนี้ กดปิดที่ไอคอนด้านบนครับ
การตั้งค่าเปิดปิดฟังชั่นต่างๆ จะอยู่ที่ปุ่ม Recent App ซึ่งเป็นหน้าที่รวมไว้หมด ทั้งการเรียกใช้งานฟังชั่นต่างๆ การเปิดปิดการใช้งานสำคัญๆ แบบด่วน และหน้าแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานก่อนหน้านี้ ทั้งหมดจะรวมแสดงอยู่ในหน้านี้หน้าเดียวครับ
หน้าการแจ้งเตือนจะทำหน้าที่แค่แจ้งเตือนอย่างเดียวเท่านั้น สามารถเข้าไปกำหนดค่าการแจ้งเตือนของแต่ละแอพพลิเคชั่นได้ครับ ว่าจะให้แจ้งเตือนเป็นตัวเลขที่ไอคอนหรือไม่และให้มีการแจ้งเตือนในหน้าแจ้งเตือนหลักด้วยหรือไม่ เราสามารถกำหนดค่าตรงนี้ได้ทั้งจากหน้าแจ้งเตือนโดยตรงหรือในเมนูการตั้งค่าตัวเครื่องก็ได้ครับ สะดวกดีเวลาเจอแอพที่มันปิดการแจ้งเตือนด้วยตัวมันเองไม่ได้ เราก็ใช้ความสามารถในการกำหนดค่าของตัวเครื่องเข้าไปปิดมันแทนได้ครับ และสามารถสไลด์หน้าจอขึ้นเป็นการเปิดการค้นหาแต่ในเวอร์ชั่นเครื่องจากจีนนี้ จะเป็นหน้าคำสั่งในชุดภาษาจีนเต็มๆ ครับ น่าจะมีการปรับเปลี่ยนในเวอร์ชั่นขายไทยภายหลัง
รองรับ 4G LTE ทั้งสองสล็อตซิมการ์ดครับ สามารถกำหนดค่าการใช้งานได้จากในเมนูการตั้งค่าภายในเครื่อง ซึ่งตัวที่ผมนำมาใช้รองรับ 4G ของบ้านเราด้วยครับ แต่ตัวที่ขายไทยจะเป็นอย่างไรต้องลองดู
ตัวระบบของ LeTV จะมีธีมให่เราเลือกใช้ในเครื่องและมีเปิดให้ดาวน์โหลดใช้งาน ซึ่งจะมีการเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ นะครับ รวมถึงแอพที่คอยจัดการวอลล์เปเปอร์ ซึ่งจะมีให้ดาวน์โหลดและจัดการเปลี่ยนภาพพื้นหลังของเครื่องรวมถึงหน้าล็อกสกรีน โดยจะสามารถกำหนดให้มันเปลี่ยนให้เราเองตามเวลาได้ด้วยนะครับ
แอพพลิเคชั่นภายในเครื่องที่เป็นของ LeTV ก็มีมากมายครับ แต่ส่วนใหญ่ถ้าอยากจะใช้ความสามารถแบบเต็มจะต้องสมัครสมาชิกของทาง LeTV ซะก่อน แต่เขายังรับเฉพาะผู้ใช้ในประเทศจีนเท่านั้น แต่เอาแค่การใช้งานที่ไม่ต้องเป็นสมาชิกผมก็อิ่มแล้วครับ
LeTV รวมถึงแบรนด์สมาร์ทโฟนอื่นๆ ในจีนก็จะคล้ายๆ กัน คือมีการบริการต่างๆ เป็นของตัวเองให้ใช้ภายในประเทศ ด้วยกฏหมายในประเทศจีนบริการบางอย่างจึงแตกต่างกับที่นิยมในบ้านเราครับ เริ่มตั้งแต่แอพสโตร์ของทาง LeTV เอง และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกมากครับ
ตัวเด่นๆ ก็จะเป็นแอพเล่นหนังและเพลง ที่ผมบอกเลยว่า คงจะมีแอพแบบนี้แต่ในประเทศจีนเท่านั้นแหละครับ เพราะแอพพลิเคชั่นฟังเพลงของมันสามารถดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ในเครื่องของเราได้แบบยอดชาร์ตเพลงฮิต เพลงสากลดังๆ แทบทุกเพลงมีให้ดาวน์โหลดมาได้หมด พร้อมปก เนื้อเพลง ทั้งหมดแสดงอย่างสวยงามโดยเราไม่ต้องเสียตังค์สักหยวนเดียว แถมมีเพลง Lossless ความละเอียดสูงเตรียมแยกไว้ให้อีกด้วย นี่มันแอพเทพในตำนานชัดๆ ครับ
ประสิทธิภาพการทำงานในด้านการเข้าเว็บไซด์ การเล่นหนังและเล่นเกม เหลือๆ ครับ สามารถเล่นเกม HD ได้ เล่นหนัง FullHD ได้ แม้การเล่นเกมในบางครั้งจะมีอาการสะดุดเล็กๆ แต่ก็น้อยมากครับ โดยรวมแล้วประสิทธิภาพมากพอจะใช้งานแอพและเกมบนระบบ Android ได้ทั้งหมด
การสแกนลายนิ้วมือเป็นแบบทัช ไว แม่นยำ เหมือนระบบการสแกนลายนิ้วมือของพวกรุ่นใหญ่ๆ ไม่ต่างกันเลยครับ สามารถใช้ปลดล็อกเครื่องได้และสามารถใช้เป็นการทัชเพื่อถ่ายภาพเซลฟี่ได้ด้วย
ผลทดสอบต่างๆ
การจับสัญญาณ GPS สามารถจับตำแหน่งได้ไว หน่วยความจำภายใน 32GB (ใช้ได้จริง 25GB) ไม่รองรับ Micro SD card ผลทดสอบ Benchmark ผ่าน AnTuTu ได้ 51289 คะแนน
เรื่องของแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ให้ผลลัพท์การใช้งานที่ไม่อึดมากครับ ใช้งานได้จากเช้าถึงเย็น ค่ำๆ หน่อยแบตก็หมดแล้วในการใช้งานแบบปกติของผม ซึ่งในตัวเครื่องจะมีโหมดการประหยัดพลังงานเข้ามาช่วยเราได้ครับ มีหลายระดับในการเลือกใช้เพื่อประหยัดแบต
สำหรับการชาร์จพลังงาน มันสามารถชาร์จกลับได้ไวครับ เพราะตัว Adapter ที่มีมาให้มีแรงดันไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงมาก สามารถชาร์จแบตจาก 20% จนเต็มได้ในเวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นครับ
การถ่ายภาพ
ตัวกล้องถ่ายภาพอยู่ในระดับดีปานกลาง คุณภาพใช้ได้ โฟกัสได้ไว และสามารถแยกจุดวัดแสงกับจุดโฟกัสออกจากกันได้โดยการทัชจุดโฟกัสค้างไว้แล้วลากแยกออก ภาพกลางวันยอดเยี่ยม ภาพในที่แสงน้อยพอไหว ภาพถ่ายกล้องหน้ามีโหมดฟรุ้งฟริ้งมาให้ 5 ระดับตามความอยากเนียนใสของผู้ใช้ครับ (กล้องหลังก็มีโหมดบิวตี้เช่นกัน) มีโหมดการถ่ายภาพ HDR, พาโนรามาม บิวตี้, และโหมดถ่ายภาพกลางคืน ส่วนการถ่ายภาพวีดีโอ รองรับการถ่ายวีดีโอแบบสโลโมชั่น และรองรับการบันทึกวีดีโอความละเอียดระดับ 4K คุณภาพวีดีโอที่ได้ก็ถือว่าใช้ได้เลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง ในที่แสงน้อย
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า(เซลฟี่โหมด)
สรุปท้ายรีวิว
คุ้มมาก! สมกับที่เติบโตไวและได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็วมากสำหรับสมาร์ทโฟน LeTV มีความโดดเด่นเป็นของตัวเองในเรื่องการบริการด้านวีดีโอ Le 1s มีประสิทธิภาพสูงทั้งการใช้งานและตัวเครื่องเมื่อเทียบกับราคาที่จำหน่าย คุณภาพที่ได้เกินคุ้มรอบตัว แต่เครื่องที่ทดสอบยังเป็นซอฟแวร์ของรุ่นที่จำหน่ายในจีน ฉะนั้นสิ่งสุดท้ายที่ต้องรอดูคือเมื่อถึงเวลาในการวางจำหน่ายจริงในเมืองไทย จะสามารถทำได้ดีแค่ไหนและมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง