สำหรับ LG G Flex เป็นมือถือที่หลายๆคนจับตามองกันมานาน โดยมีจุดเด่นที่หน้าจอ OLED (P-OLED) ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นและโค้งงอได้ ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นแรกที่ผลิตออกมาวางจำหน่ายในตลาดโลก โดยคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy Round วางจำหน่ายเฉพาะในเกาหลีใต้เท่านั้น ในสัมผัสแรกผมตื่นเต้นมากๆเลยครับ เพราะตัวเครื่องของเจ้า LG G Flex มันโค้งงอได้อย่างน่าทึ่งมากๆ ตัวเครื่องดุสวยหรูในแบบ LG นั่นคือดูเท่และสง่างาม และจอโค้งๆแบบนี้มันดูโดดเด่นมากจริงๆนะครับ ขนาดผมไปซื้อใส้กรอกพ่อค้ายังทักเลยละว่าแปลกมากๆ ซึ่งนอกจากความแปลกแล้ว LG G Flex มีดีอย่างไรบ้างเชิญอ่านรีวิวกันได้เลยครับ ก็มาเริ่มจากสเปคกันก่อนนะฮะ ซึ่งแน่นอนครับแรงระดับเรือธงของวันนี้เลยละ (กล่องของเจ้า LG G Flex เท่มากๆครับโค้งเข้ากับเจ้า LG G Flex เลยละ)
สเปคของ LG G Flex
2.5G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
3G HSDPA 900 / 2100
4G LTE 800 / 1800 / 2600
ตัวเครื่องมีขนาด 160.5 x 81.6 x 8.7 มม. น้ำหนัก 177 กรัม
หน้าจอ Curved P-OLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (245 ppi)
กระจกป้องกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 2
CPU Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 Quad-core 2.26 GHz Krait 400, GPU Adreno 330, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ 24GB)
Android 4.2.2 Jelly Bean
WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0, NFC, USB 2.0, Infrared Port, GPS รองรับ GLONASS
กล้องความละเอียด 13MP, Simultaneous video and image recording, geo-tagging, face detection, panorama, HDR
บันทึกวีดีโอ 4K 2160P 30fps และ Full HD 1080P 60fps
กล้องหน้า 2.1MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P
แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh
ราคาเปิดตัว 24900 บาท
ในกล่องจะมีตัวเครื่อง LG G Flex, คู่มือ, หูฟังระดับพรีเมี่ยม QuadBeat 2 (มาพร้อมจุกยางหูฟัง 2 ขนาด), หัวปลั๊ก, สาย USB และเข้มจิ้มซิมรูปตัว G
ตัวเครื่อง LG G Flex มีขนาดใหญ่ครับเพราะหน้าจอขนาดตั้ง 6 นิ้วแนะแต่ขอบจอบางเฉียบทำให้ดูตัวเครื่องเล็กกว่าแบรนด์คู่แข่งที่ขนาดจอ 6 นิ้วทั่วไป ก็เหมือนกับ LG G2 นะครับที่หน้าจอใหญ่แต่ตัวเครื่องดูเล็กมากๆ ตัวเครื่อง LG G Flex ค่อนข้างบางและน้ำหนักกำลังดีครับครับ ไม่หนักเกินไปวัสดุจะเป็นพลาสติคโพลีคาบอร์เนตทั้งหมดสวยงามมาก ผิววัสดุจะมีลายคล้ายโลหะ สีตัวเครื่องจะเป็นสีเทาอมน้ำตาลมีชื่อว่า Titan Silver ส่วนตัวผมว่าสีสันดูหรูหราและให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ครับ แต่ผมชอบสีดำแบบ LG G2 มากกว่าแหะมันดูวัยรุ่นมากกว่า
หน้าจอ Curved P-OLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (245 ppi) ดูสวยงามครับสีสันสดใสและมีฟังก์ชั่นปรับแต่งโทนสีหน้าจอมาให้ แต่ความละเอียดไม่สูงครับเพียง HD 720P แต่ก็เป็นขีดสุดของนวัตกรรมหน้าจอบิดงอได้ในวันนี้แล้ว ซึ่งมันเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นครับ เป็นการทะลุขีดจำกัดแห่งความเป็นไปได้มากมายในอนาคต ผมว่าผู้ที่ซื้อเจ้า LG G Flex ไม่ใช่แค่การซื้อโทรศัพท์มือถือซักเครื่องนึง แต่มันคือการได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมล่าสุดในปัจจุบันด้วยนะครับ (อืม….ผมเวอร์ไปไหมหว่า แต่รู้สึกอย่างนั้นเลยละครับ^^)
แต่ว่าหน้าจอ Curved P-OLED มีจุดอ่อนนะครับถึงสีสันจะสวยงาม แต่ความละเอียดยังถือน้อยไปหน่อยกับหน้าจอขนาดตั้ง 6 นิ้วและหน้าจอดูมีรอยๆครับคล้ายๆหน้าจอมือถือเมื่อก่อนนี้เลย ดูไม่คมกริบเนียนตาอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งคงต้องรอให้เทคโนโลยีพัฒนาไปมากกว่านี้
สำหรับความรู้สึกในการใช้มือถือจอโค้งผมว่าการปัดนิ้วต่างๆถนัดมากกว่าบนจอเรียบแบบปกติอีกครับ รวมทั้งมุมมองหน้าจอก็ดูสบายตามากกว่าเดิม โดยเฉพาะการรับชมวีดีโอในแนวนอน ผมว่ามันให้ความรู้สึกและมุมมองดีกว่าแบบปกติมากๆเลย ชักจะตื่นเต้นในวันที่มันสามารถอัดความละเอียด Full HD 1080P ลงไปมากจริงๆครับ ของแบบนี้แนะนำว่าต้องลองฮะ อ่านจากที่ผมเขียนมันไม่เท่าไปลองเองแน่นอน เพราะมันเป็นของใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน^^ และสำหรับการพกพาผมว่าสะดวกครับเพราะตัวเครื่องใหญ่แต่บางและการที่โค้งแบบนี้ก็ไม่มีปัญหากับการใสในกระเป๋านะครับ เพราะทรงมันจะเข้ารูปไปกับต้นขา และตัวเครื่องจะยืดหยุ่นเล็กน้อยครับ ใครที่กลัวมันจะหักไม่ต้องกลัวนะครับมันไม่หักหรอกฮะ5555
Design โดยรวมของ LG G Flex จะเหมือนๆ LG G2 มากครับ แตกต่างกันก็ตรงรายละเอียด ด้านหน้ามีเซนเซอร์และ Notification Light ส่วนลำโพงสนทนาผมว่าใน LG G2 สวยกว่านะแต่แบบใน LG G Flex ผมว่าดีกว่าครับฝุ่นมันไม่เข้าไปขังดี เสียงสนทนาดังและชัดเจนดีมาก
ด้านหลังเหมือน LG G2 เลยครับผิววัสดุถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นว่าเคลือบสารบางอย่างอยู่ และมีสามารถซ่อมแซมรอยขีดข่วนเล็กๆน้อยด้วยตัวเอง แต่ว่ามันซ่อมแซมได้แค่รอยขนแมวจางๆนะครับ รอยที่เกิดจากการตกหรือขูดขีดลึกๆไม่สามารถหายไปได้ ลำโพงตัวเครื่องจะอยู่ด้านล่าง และเนื่องจากตัวเครื่องเป็นทรงโค้งทำให้ลำโพงไม่โดนบัง เสียงที่ได้ดังและเพราะมากครับ เสียงไม่แตกเลย
ปุ่มด้านหลัง Rear Key ออกแบบใหม่ดูดุดันกว่าเดิม มีเพิ่มจุดนูนขึ้นมาเพื่อให้กดได้แม่นยำมากขึ้น และปุ่ม Power ตรงกลางจะเปลี่ยนเป็นปุ่มพลาสติคใส เพราะตรงจุดนี้มันจะเป็น Notification Light ด้วยครับโดยจากเดิมจะมีแสงรอบๆ (ซึ่งผมว่าเท่กว่าอีกนะเนี่ย) มาเป็นแสงไฟเต็มๆและมีหลากหลายสีเหมือนใน LG Optimus G Pro ด้วยนะครับ
จะเป็นแบบนี้เลยครับสวยดีนะฮะ และด้านหลังจะมีตัวหนังสือ 4G LTE อย่างใหญ่เลยละ (กลัวคนไม่รู้5555) แต่น่าเสียดายไม่รองรับ 4G LTE 2100 ที่บ้านเราใช้ในตอนนี้แต่รองรับคลื่นที่จะประมูลในอนาคต แถมเรื่อง 3G ก็รองรับ 900 / 2100 ครับไม่รองรับ 850 อ่ะ=__=
และสังเกตุดีๆนอกจากแฟลช LED และจะมี Infrared Port ย้ายจากด้านบนลงมาตรงด้านหลังครับซึ่งเป้นตำแหน่งที่ผมว่าเหมาะสมกว่าเดิมนะ เพราะเราไม่ต้องเอียงมือถือชี้แบบรีโมทแล้วครับ เวลาใช้งานก็ถือในท่าทางปกติใช้งานรีโมทได้ถนัดมือมากกว่าเดิม
มองมุมนี้จะเห็นว่าโค้งสุดยอดเลยฮะ^^ รอบตัวเครื่องแน่นอนครับตามฉบับ LG ไม่มีปุ่มใดๆให้รกเครื่องทุกอย่างไปรวมอยู่ที่ด้านหลัง ด้านซ้ายจะมีถาดและช่องสำหรับจิ้มซิม ด้านบนมีไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะมีช่องหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟน และพอร์ท Micro USB
LG G Flex มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh จากการทดสอบพบว่าอึดมากๆครับ ไม่แตกต่างจาก LG G2 นักใครที่ประทับใจเรื่องแบตเตอรี่ของ LG G2 ก็น่าจะพอใจแน่นอน (ซึ่งจริงๆน่าจะอึดกว่าด้วยซ้ำครับ เพราะหน้าจอมีความละเอียดน้อยกว่า แต่มันก็มีขนาดจอที่ใหญ่กว่ามากครับ) และแบตเตอรี่ของ LG G Flex จะเป็นทรงโค้งซะด้วยนะ รุ่นนี้แกะฝาหลังไม่ได้ครับ
คะแนนทดสอบของ LG G Flex
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 20232 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 35922 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 59.5fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
หน้า Lockscreen แบบเฉพาะของ LG G Flex จะออกแบบให้เข้ากับหน้าจอโค้ง โดยสามารถเอียงตัวเครื่องเพื่อเลื่อนภาพพื้นหลังได้ผมว่าน่ารักดีนะ ตอนเช้าจะมีลูกโป่งตอนกลางคืนจะมีดาวตกครับ ส่วนตัวเลขจะตกลงไปในน้ำด้วยนะน่ารักมากๆ และมีลูกเล่นใช้ 2 นิ้วแตะที่หน้าจอแล้วถ่างนิ้วออกเพื่อลัดเข้าแอพพลิเคชั่น Quick Theater
Quick Theater เป้นแหล่งรวมภาพถ่ายในเครื่อง และวีดีโอ รวมทั้งทางลัดเข้าสู่ Youtube ครับซึ่งก็ไม่มีอะไรดดดเด่นครับนอกจากความสะดวก และสวยงาม^__^และผมว่ามันเหมาะกับเวลาใช้งานแนวนอนนะครับ จะดูเท่มากๆเลยเพราะ LG G Flex เหมาะกับการรับชมภาพและวีดีโอแนวนอนมากๆครับ
UI โดยรวมจะเหมือนเจ้า LG G2 เลยครับสามารถปรับขนาดของไอค่อนรวมทั้งปรับเปลี่ยนไอค่อนเป็นรูปถ่ายต่างๆได้ตามใจชอบ แต่จะมาพร้อมธีมเฉพาะสำหรับ LG G Flex ซึ่ง Widget ต่างๆออกแบบมาดูสวยมากเลยและหน้า AppDrawer สามารถปรับได้ 2 ขนาดครับ
แถบ Notification จัดเต็มทั้ง QuickMemo, Q Slide และ Quick Remote และสามารถปรับแต่งเรียงคำสั่งลัดต่างๆได้ตามใจชอบ และปรับเปลี่ยนปุ่มสัมผัสด้านหน้าได้ตามใจชอบมีให้เลือกมากถึง 6 แบบเปลี่ยนสีสันได้อีกด้วย
แน่นอนครับ LG G Flex มาพร้อมฟังก์ชั่นขายของอย่าง KnockON แตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิด-ปิดหน้าจอ และจอโค้งๆแบบนี้รองรับ QuickWindow ด้วยนะเออซึ่งน่าจะแถมสำหรับผู้ที่จองในงาน TME ครับ (ได้ยินว่าของแถมเพียบเลย)
QuickMemo พัฒนาขึ้นกว่าเดิมนอกจากสามารถตัดภาพได้แล้ว (ภาพที่ตัดมาจะจดจำ URL ของภาพที่เราตัดมาว่ามีที่มาจากไหนได้ด้วย) แล้วยังสามารถปรับแต่งพื้นหลังได้ด้วยนะครับ
Notebook ของ LG G Flex มีเพิ่มปากกามาหลายแบบมากขึ้นครับ มีตรายาง และการตัดภาพเพิ่มเข้ามาด้วย ดูน่าใช้กว่าเดิมเยอะเลย แต่ก็ยังเป็นรองคู่แข่งมากเลยครับ
Memo จะเป็นการจดบันทึกและสามารถแนบทั้งภาพและเสียง รวมทั้งตำแหน่งแผนที่เก็บเอาใว้ได้
ระบบ Backup ข้อมูลสามารถเลือกสำรองข้อมูลได้อย่างละเอียด และเลือกช่วงเวลาได้อีกด้วยใครไม่เคยลอง ผมว่าน่าลองซักหน่อยนะครับ^^
Q Slide คือการเปิดใช้งานหน้าต่างแอพลิเคชั่นขึ้นมาซ้อนทับบนหน้าจอและสามารถปรับให้โปร่งใสได้ สามารถเลื่อนไปมาบนหน้าจออย่างอิสระ และเปิดขนาดเต็มจอได้ด้วยนะ สามารถเปิดใช้งานได้สูงสุด 2 แอพพลิเคชั่นโดยมีให้เลือกใช้ได้ 10 อย่างได้แก่ Videos, Internet, การโทร, ข้อความ, ปฏิทิน, Email, จดบันทึก, File Manager, เครื่องคิดเลข, Voice Mate
ทีเด็ดครับ5555 ในที่สุด LG ใส่ความสามารถ Multi Windows มาด้วยนะ งานนี้คู่แข่งมีค้อนแหงมๆ อิอิ วิธีใช้ก็แตะ Back ค้างเอาเอาใว้ครับ
LG G Flex มาพร้อม Infrared Port ใช้งานร่วมกับฟังก์ชั่น Quick Remote หน้าตาสวยงามกว่าเดิม การปรับจูนทำได้ง่ายและรวดเร็วมาก และรองรับแบรนด์เครื่องใช้ได้มากกว่าเดิมด้วยครับ รวมทั้งปรับแต่งให้เป็น Universal Remote ได้ด้วย ประกอบกับการย้าย Infrared Port มาที่ด้านหลังผมว่าเป็นการออกแบบที่เหมาะสมและสร้างสรรค์มากๆครับ
โปรแกรม Dictionary ที่มากับโทรศัพท์มือถือ LG สามารถเลือกการแปลภาษาที่เราต้องการได้ฟรี แต่หลังจากนั้นถ้าต้องการโหลดเพิ่มจะต้องซื้อครับ และ Quick Translator สามารถแปลศัพท์โดยกรเอากล้องไปโฟกัสที่ตัวอักษร หรือประโยคยาวๆได้ด้วย ความแม่นยำทำได้ระดับกลางๆครับ
GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วและแม่นยำดีครับ
Browser ดีเยี่ยมครับเปิดหลายๆหน้า ใช้งานสลับอ่านไปมาก็ไม่เจอปัญหาอะไรเลย
เครื่องเล่นเพลงสามารถปรับ EQ แบบสำเร็จรูปหรือปรับแต่งด้วยตัวเองก็ได้ รวมทั้งพิเศษตรงสามารถค้นหาคลิปวีดีโอเพลงที่เรากำลังฟังอยู่ใน Youtube ได้เลยด้วยครับ แต่น่าเสียดายที่ LG G Flex ตัดวิทยุออกไป
เครื่องเล่นวีดีโอเล่น Full HD 1080P ได้สบายๆครับรวมทั้งรองรับวีดีโอ 4K ได้ด้วยนะครับ (แหงละเพราะตัวมันถ่ายได้นี่นา^^และใช้งานร่วมกับ Q Slide และมีโปรแกรมตัดต่อวีดีโออย่างง่ายๆติดมาด้วย
ระดับนี้เล่นเกมอะไรก็ได้สบายๆครับ และด้วยหน้าจอโค้งผมว่าทั้งการจับถือและมุมมองมันช่วยให้เล่นได้สนุกกว่าเดิมแหะ
เรื่องกล้องของ LG G Flex ถอดด้ามมาจาก LG G2 เลยครับรองรับฟังก์ชั่นจับ Focus 9 จุด
ฟังก์ชั่นถ่ายภาพแบบจัดเต็มตามในภาพเลยครับ
ความละเอียดภาพสูงสุด 13MP และบันทึกวีดีโอ 4K 2160P 30fps และ Full HD 1080P 60fps กล้องหน้า 2.1MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P คุณภาพใช้ได้ครับ แต่รวมๆผมว่ายังเป็นรอง LG G2 อยู่นะครับ แต่ที่เจ๋งมากๆก็คือบันทึกวีดีโอ 4K 2160P 30fps และ Full HD 1080P 60fps รวมทั้งมีฟังก์ชั่น Audio Zoom และระบบกันสั่น OIS
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง LG G Flex
LG G Flex : Video 4K : Parks : AppDisqus Chanel
LG G Flex : Video 4K : Bands : AppDisqus Chanel
ข้อดีของ LG G Flex
1. หน้าจอโค้ง Curved P-OLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (245 ppi) นวัตกรรมล่าสุดที่น่าสนใจ
2. ปุ่มควบคุมด้านหลัง Rear Key มีการปรับปรุงเล็กน้อยช่วยให้ใช้งานได้ถนัดยิ่งขึ้น
3. สเปคสุดแรง CPU QQualcomm MSM8974 Snapdragon 800 Quad-core 2.26 GHz Krait 400, GPU Adreno 330, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ 24GB)
4. กล้องความละเอียด 13MP ฟังก์ชั่นเพียบและ บันทึกวีดีโอ 4K 2160P 30fps และ Full HD 1080P 60fps พร้อมฟังก์ชั่น Audio Zoom และระบบกันสั่น OIS
5. แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh อึดดีมาก
ข้อด้อยของ LG G Flex
1. หน้าจอ Curved P-OLED มีจุดอ่อนถึงสีสันจะสวยงาม แต่ความละเอียดยังถือน้อยไปหน่อยกับหน้าจอขนาดตั้ง 6 นิ้วและหน้าจอดูมีรอยๆคล้ายๆหน้าจอมือถือเมื่อก่อนนี้เลย ดูไม่คมกริบเนียนตาอย่างที่ควรจะเป็น
2. ไม่รองรับ 4G LTE 2100 ที่ใช้กันในตอนนี้
3. เพิ่มหน่วยความจำภายนอกไม่ได้
4. เปลี่ยนแบตเตอรี่เองไม่ได้
5. ตัวเครื่องเงาวับเป็นคราบนิ้วมือได้ง่าย
สรุปแล้วผมตื่นเต้นนะสำหรับ LG G Flex ที่มาพร้อมหน้าจอโค้งรุ่นแรกที่วางจำหน่ายในตลาดโลก สเปคทุกอย่างล้วนระดับเรือธงมาเลย การใช้งานลื่นไหลรวดเร็วมากๆ แต่ด้วยข้อด้อยอย่างความละเอียดหน้าจอ และหน้าจอดูไม่สวยเท่าไหร่รวมทั้งเรื่องที่ 4G LTE ไม่รองรับความถี่บ้านเราตอนนี้ และราคาเปิดตัว 24900 บาทที่หลายๆคนบ่นว่าแพง (แต่มันแพงด้วยเทคโนโลยีนะครับ หน้าจอบิดงอได้ผลิตได้ยากทำให้มีต้นทุนที่สูง แต่มันคือนวัตกรรมครับที่มาอยู่ในมือเราจริงๆ) ถ้าใครที่งบไม่สูงส่วนตัวผมจะแนะนำ LG G2 มากกว่าครับเพราะราคาต่างกันมาก แต่ถ้าเป็นคนที่เสพติดเทคโนโลยี หรืออยากเป็นเจ้าของนวัตกรรมล่าสุด หรือไม่ก็คนที่ชอบความแตกต่างและงบประมาณไม่ใช่เรื่องสำคัญผมว่า LG G Flex เป็นโทรศัพท์มือถือที่น่าสนใจครับ^__^
[gradeA]