ในปัจจุบันที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้การใช้ชีวิตของเราสะดวกสบายและดีขึ้นตามไปด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเราก็พัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากขึ้น จากโทรศัพท์ที่เคยใช้ในการพูดคุยเท่านั้น ตอนนี้ก็กลายเป็น Smartphone ที่ทำได้แทบทุกอย่าง จากคอมพิวเตอร์ที่เครื่องใหญ่ๆ สายระโยงรยางค์ ตอนนี้ก็กลายเป็น UltraBook เครื่องบางเบาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา และเช่นเดียวกันจาก TV ธรรมดาที่เราเคยดูกัน ตอนนี้ก็มี Smart TV ออกมาให้เราใช้งานกันแล้ว ซึ่งแน่นอนครับ ผู้นำเทรนด์ย่อมเป็นเจ้าตลาด TV ในปัจจุบัน นั่นคือ LG นั่นเอง
สำหรับบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่า LG Smart TV นั้นคืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง? และมันเจ๋งสักแค่ไหน? ซึ่งสำหรับ LG Smart TV ที่ใช้ในการรีวิวครั้งนี้ ถือว่าเป็น Smart TV เครื่องแรกที่ผมได้สัมผัสเลยครับ ดังนั้นการรีวิวครั้งนี้ผมขอรีวิวในฐานะมือใหม่ จากผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ TV แบบธรรมดาที่หันมาใช้ LG Smart TV สุดเจ๋งเครื่องนี้
[box_light]รูปลักษณ์และตัวเครื่อง[/box_light]
สำหรับตัวเครื่องภายนอกของ LG Smart TV นั้นถือว่าออกแบบมาสมกับคำว่า Smart มากครับ เพราะมีความสวยงามและทันสมัย บางเบาเป็นอย่างมากครับ สามารถถือไปมาได้แบบสบายๆ เลย LG Smart TV รุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 32 นิ้ว มีความบางเป็นพิเศษ หน้าจอเป็น LED ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล
ส่วนภาพนี้เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ ด้านหลังตัวเครื่อง ที่มีครบถ้วนตั้งแต่ช่องเสียบต่อกับเสาอากาศจนถึงช่องเสียบสาย LAN สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งสมกับที่เป็น Smart TV เลยครับ
ส่วนด้านข้างมีก็ช่องเสียบ HDMI ถึง 3 ช่อง ให้เราก็เลือกเสียบเชื่อมต่อกับกล่องรับสัญญาณหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ตามใจชอบเลยครับ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบสาย USB อีก 3 ช่อง สำหรับการเชื่อมต่อ Smartphone และ Tablet ต่างๆ
และนี่คือส่วนขาตั้ง ซึ่งตอนได้เครื่องมาเราต้องประกอบเอง แต่ง่ายดายมากครับ ผมไม่มีไขควงก็ยังหมุนๆ ประกอบได้ง่ายๆ และแข็งแรงทนทานดีครับ
สรุปว่าสำหรับตัวเครื่องภายนอกของ LG Smart TV ตัวนี้ มีการออกแบบที่ทันสมัย เรียบง่ายและบางเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและสะดวกมากครับ มีช่องหรือพอร์ตการเชื่อมต่อครบถ้วนจนเรียกได้เลยว่าเหลือเฝือในการใช้งานด้านต่างๆ ส่วนข้อเสียนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ครับว่าชื่นชอบการออกแบบลักษณะที่เรียบง่ายแบบนี้หรือเปล่า และหน้าจอ 32 นิ้ว ส่วนตัวแล้วถือว่าจอเล็กไปหน่อยครับ
[box_light]สเปคและคุณสมบัติ LG Smart TV[/box_light]
สำหรับ LG Smart TV เครื่องที่เราทำการริวิวครั้งนี้มีชื่อเต็มว่า LG Smart TV CINEMA 3D รุ่น 32LB65 มีสเปคหรือคุณสมบัติเด่นๆ สรุปได้ดังต่อไปนี้
- หน้าจอ: LED
- ขนาด: 32 นิ้ว
- ความละเอียด: 1920×1080 พิกเซล
- Dynamic MCI (Hz): 500 (100Hz)
- ระบบปฏิบัติการ: webOS
- รองรับการแสดงผลภาพ 3 มิติ Cinema 3D
- รองรับ Magic Remote
- รองรับการเล่นไฟล์ DivX HD ที่สามารถรองรับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1080p
- ลำโพงคู่ 20W พร้อมระบบเสียง Virtual Surround Plus
- มีพอร์ท HDMI 1.4 จำนวน 3 ช่อง, USB 2.0 จำนวน 3 ช่อง
- ราคา 19,990 บาท
ส่วนสเปคโดยละเอียดของ LG Smart TV เข้าชมได้ที่นี่ครับ >> http://www.lg.com/th/tv/lg-32LB650T
[box_light]ระบบปฏิบัติการ webOS และประสบการณ์การใช้งาน[/box_light]
ระบบปฏิบัติการ webOS เป็นระบบปฏิบัติการที่เดิมทีนั้นพัฒนาขึ้นสำหรับใช้บนเครื่อง Palm จากนั้น LG ก็นำมาประยุกต์ใช้บน LG Smart TV ของตัวเอง เป็นระบบที่ใช้งานได้ง่ายมาก หากเพื่อนๆ ใช้ Smartphone ได้ เพื่อนๆ ก็จะสามารถใช้งาน webOS ได้แบบสบายๆ เลยครับ
ระบบปฏิบัติการ webOS จะมีลักษณะการใช้งานไม่ต่างจากระบบปฏิบัติการของ Smartphone มากนัก นั่นคือ จะมีหน้าหลักก็คือหน้า Home (บนรีโมทเป็นรูปบ้าน) ซึ่งเป็นหน้ารวมแอพพลิเคชันต่างๆ ซึ่งแอพพลิเคชั่นเหล่านี้เราจะสามารถเพิ่มลด หรือย้ายตำแหน่งได้ตามใจชอบ โดยควบคุมได้ง่ายๆ ผ่านรีโมทคอนโทรล ที่มีทั้งรีโมทธรรมดาและ Magic Remote ที่ช่วยให้การควบคุมง่ายขึ้น
แต่การควบคุมจะง่ายขึ้นไปอีกหากเราใช้ Smartphone ร่วมด้วย นั่นคือ การใช้แอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า LG TV Remote ซึ่งมีทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS มันทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นไปอีกครับ สามารถสลับโหมดการใช้งาน LG Smart TV ได้ง่ายขึ้น ควบคุมเคอร์เซอร์บนหน้าจอ Smart TV ได้ง่ายพอๆ กับ Magic Remote เลยครับ แต่ที่ง่ายมากกว่าก็คือการพิมพ์ ที่แอพฯ LG TV Remote จะเด้งแป้นพิมพ์ขึ้นมาให้เราเลยหากเราจะพิมพ์อะไรบนหน้าจอ LG Smart TV ไม่เหมือนกับตัวรีโมทคอนโทรลที่เราต้องค่อยๆ เลื่อนหรือกดเลือกตัวอักษรแต่ละตัวเพื่อพิมพ์
ดาวน์โหลด:
LG TV Remote >> Google Play
LG TV Remote >> Apps Store
สำหรับการตั้งค่าของ webOS จะมีทั้งเมนูการตั้งค่าแบบเต็มและแบบ Quick Setting หรือการตั้งค่าด่วน ซึ่งแต่ละเมนูการตั้งค่าหากเราไล่ดูก็จะเห็นว่า LG Smart TV ทำได้หลากหลายอย่างมากครับ ได้แก่ การตั้งค่าอย่างรวดเร็ว, ภาพ, เสียง, เครือข่าย, ความปลอดภัย, ทั่วไป และการเข้าถึง แต่สิ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษก็คือ เราสามารถใส่รหัสผ่าน LG Smart TV ของเราได้ สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และเล่นอินเทอร์เน็ตได้เหมือนคอมพิวเตอร์หรือ Smartphone ได้เลยสมกับที่ใช้คำว่า Smart TV เลยครับ และเมนูการตั้งค่าอื่นๆ อีกมาก ซึ่งไม่สามารถไล่เมนูการตั้งค่าได้หมด ยังไงเพื่อนๆ ไปลองดูด้วยตัวเองนะครับ จะได้เห็นว่าความสามารถของ LG Smart TV มันสมกับเป็น TV แห่งอนาคตจริงๆ
สำหรับการใช้งานนั้น หลักๆ LG Smart TV ก็จะทำงานผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งแสดงอยู่ในหน้า Home ที่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ที่ LG Store ที่มีทั้งแอพฯ เกม ดูหนัง ฟังเพลง และอื่นๆ อีกมากมาย หรือแม้กระทั่งคอนเทนต์สามมิติ!!!
ส่วนแอพพลิเคชั่นที่ผมชื่นชอบมากที่สุดตัวนึงก็คือ Youtube …. เอ๊ะๆ !! หลายคนคงกำลังคิดว่า กับอีแค่แอพฯ Youtube ทำไมต้องชื่นชอบเป็นพิเศษด้วย นั่นก็เพราะว่า มันไม่ใช่แค่เอาไว้เปิดดูคลิปวีดีโอที่มีอยู่บน Youtube เท่านั้น แต่มันมีความโดดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ เราสามารถควบคุมและเข้าถึง Youtube บน LG Smart TV นี้ผ่าน Smartphone หรือคอมพิวเตอร์ได้ด้วยครับ เพียงเราเข้าไปในแอพฯ Youtube บน LG Smart TV แล้วทำการล็อคอินเข้าบัญชี Youtube ของเราที่เมนู “ลงชื่อเข้าใช้และการตั้งค่า” จากนั้นที่เมนูเดียวกันนี้ให้เราเลือกเมนุย่อย “จับคู่อุปกรณ์” แล้วระบบก็จะบอกวิธีการจับคู่อุปกรณ์ให้เรา
วิธีการที่ว่านี้ก็คือ ให้เราเปิดอุปกรณ์ที่เราจะจับคู่กับ LG Smart TV แล้วเข้าไปที่ Youtube.com/pair จากนั้นก็ป้อนรหัสการจับคู่ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ หรือใช้อุปกรณ์นั้นๆ สแกน QR Code ที่ปรากฏอยู่บน LG Smart TV ก็ได้ครับ(จับคู่อุปกรณ์แค่ครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น) เมื่อดำเนินการเรียบร้อยเราก็จะสามารถควบคุมแอพฯ Youtube ของ LG Smart TV ด้วย Smartphone หรือคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆ ครับ
หากเราต้องการใช้งาน Youtube ของ LG Smart TV ก็เปิดแอพฯ Youtube ทิ้งไว้ แล้วเปิด Youtube ใน Smartphone หรือคอมพิวเตอร์ที่เราจับคู่ไว้แล้ว ทีนี้บนอุปกรณ์นั้นๆ คลิปที่เราดูอยู่จะมีปุ่ม Smart TV โผล่ขึ้นมาด้วย หากเรากดปุ่มนั้น คลิปที่เราดูอยู่ก็จะไปปรากฏอยู่บน LG Smart TV ของเราเลยครับ ซึ่งไม่ใช่แค่ดูเท่านั้น เรายังสามารถควบคุมได้ตามใจชอบเลยครับ ในระหว่าง LG Smart TV เล่นคลิปนั้นอยู่เราก็สามารถใช้งาน Smartphone หรือคอมพิวเตอร์ได้ปกติ โดยไม่ต้องเปิด Youtube ทิ้งเอาไว้เลยครับ
นอกจาก Youtube แล้ว ก็มีแอพฯ เจ๋งๆ อีกหลายตัวครับ ทั้ง Mthai, Zab Movie, Doonung(ดูหนัง), Thai TV3, Web Browser, เกม, ฟังเพลง และอื่นๆ อีกมากมายเลยครับ ซึ่งทำให้ LG Smart TV สมกับความคำว่า Smart จริงๆ ครับ
นอกจากเชื่อมต่อ LG Smart TV กับคอมพิวเตอร์หรือเชื่อมต่อผ่านบัญชีออนไลน์อย่าง Youtube แล้ว เรายังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่นิยมใช้คู่กับโทรทัศน์ เช่น เครื่องเล่นบลูเรย์, อาร์ดดิสก์ และอื่นๆ ได้ง่ายๆ ส่วนรูปแบบการเชื่อมต่อก็สามารถทำได้ผ่านช่องเสียบต่างๆ ที่มีอยู่อย่างครบถ้วน ดังที่เราได้กล่าวไปแล้ว แต่สิ่งที่เราชื่นชอบมากที่สุด ก็คือ ฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อสมาร์ททีวีกับโทรศัพท์มือถือที่ทำได้ง่ายดาย อย่างเช่น MHL, Miracast และ NFC ซึ่งเราก็ได้ทดลองใช้งานดูแล้ว ถือว่าแจ่มมากครับ ทั้งการดูหนัง เล่นเกม และใช้งานโทรศัพท์มือถือให้ไปแสดงผลบน LG Smart TV โดยที่ไม่ต้องเสียบสายอะไรเลย
** หมายเหตุ:
- MH: MHL ย่อมาจากคำว่า MOBILE HD LINK ช่วยให้คุณเชื่อมต่อและรับชมคอนเทนต์HD ที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของคุณบนหน้าจอทีวีได้ด้วยสายเคเบิ้ล MHLและสามารถชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ขณะเชื่อมต่อได้อีกด้วย
- Miracast: เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับสมาร์ททีวีแบบไร้สาย ผ่านสัญญาณ wifi
- NFC: เพียงแตะ (Tagging) สมาร์ทโฟนบนสติกเกอร์ NFC ที่เตรียมไว้บนทีวี สมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบัติการ Android ก็จะเชื่อมต่อกับสมาร์ททีวีทันที
การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านสาย USB ที่เราสามารถเข้าถึงไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ผ่าน LG Smart TV ตัวนี้ได้เลยครับ
ฟีเจอร์หรือฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอีกอย่างที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย ก็คือ Time Machine ที่เป็นตัวช่วยให้เราสามารถตั้งเวลาอัดรายการทีวีที่เราอยากดูทีหลังได้ครับ ซึ่งเหมือนกับที่เคยเห็นในหนังต่างประเทศเลย แจ่มมากๆ :D
นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น Time Machine สามารถช่วยให้ย้อนกลับไปชมรายการที่พลาดไปได้ซึ่งออกอากาศไปไม่เกิน 60 นาที แม้จะไม่ได้กดบันทึกไว้ก็ตาม
เรื่องสุดท้ายสำคัญที่สุดก็คือ CINEMA 3D ที่เป็นมากกว่า CINEMA เพราะสามารถสร้างภาพ 3D ได้แม้จะเป็นช่อง TV ปกติ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชม ซึ่งทำได้ง่ายๆ ก็คือ กดปุ่มที่รีโมทคอนโทรล ตรงคำว่า “3D” ที่หน้าจอก็จะมีรูปแบบ CINEMA 3D ให้เราเลือกครับ ขนาดช่องหรือรายการปกติยังทำได้ยิ่งถ้าเป็นหนังหรือคลิปวีดีโอที่เป็น 3D อยู่แล้วก็ยิ่งเจ๋งเข้าไปอีกครับ ยังไงอย่าลืมไปลองดูด้วยตัวเองนะครับ
แว่น 3D ให้มาเป็นกล่องเลยครับ รวมแล้วทั้งหมด 4 อัน เอาไว้ดูด้วยกันทั้งครอบครัวได้เลยครับ
[box_light]สรุปการรีวิว LG Smart TV[/box_light]
สำหรับ Smart TV เราต้องยกให้ LG เป็นที่หนึ่งเลยครับ ด้วยระบบปฏิบัติการ webOS ที่ใช้งานง่าย ลื่นไหล มีฟีเจอร์และแอพพลิเคชั่นเด่นมากมาย ทำให้คนที่ได้สัมผัส Smart TV ครั้งแรกอย่างผมตื่นเต้นมากครับ และเมื่อมันทำงานกับ Magic Remote ด้วยแล้ว ยิ่งใช้งานได้ง่ายขึ้นมากครับ จะมีข้อเสียก็ที่การพิมพ์ข้อความที่ลำบากมากหากเราใช้รีโมทคอนโทรล แต่หากเราใช้แอพพลิเคชั่น LG TV Remote ผ่าน Smartphone ทั้ง Android และ iOS ก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการพิมพ์ได้ครับ อีกเรื่องก็คือแอพพลิเคชั่นที่ยังถือว่าน้อยอยู่ ซึ่งอีกหน่อยหากมีคนใช้งานกันเยอะขึ้น แอพพลิเคชั่นก็คงเยอะขึ้นตามไปด้วย