ช่วงนี้เครื่องเกมคอนโซลลูกผสมอย่าง Nintendo Switch จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีเกมดังๆออกมาอย่างต่อเนื่อง และหลายเกมออกเฉพาะ Switch และสร้างจากค่ายนินเทนโด เองทำให้รับประกันคุณภาพ และหาเล่นบเครื่องเกมอื่นไม่ได้
และล่าสุดเป็นการมาของเกม Luigi’s Mansion 3 เกมดูดผีในตำนานที่ออกภาคแรกบน Game Cube และมีภาคต่อบน 3DS และการมาครั้งที่สามออกบน Nintendo Switch แม้จะไม่ใช่ภาคหลักของซีรีส์มาริโอ แต่ก็เป็นภาคเสริมที่สร้างให้ ลุยจิ น้องชายมาริโอ กลายเป็นตัวเอกเต็มตัว
กราฟิกระดับเทพบน Switch
เชื่อหรือไม่ว่าเกม Luigi’s Mansion 3 อาจจะกลายเป็นเกมที่มีกราฟิกดูดีที่สุดบน Nintendo Switch ไปแล้ว เพราะสัมผัสแรกก็แทบตะลึงด้วยกราฟิกที่ดูดีมากๆ ทั้งแสงเงา และรายละเอียดของฉากล้วนทำได้ยอดเยี่ยม จนทำให้การเล่นเหมือนไม่ได้เล่นเกมเจนเก่า หรือเกมบน Switch และเหมือนเราได้ชมการ์ตูน CG งามๆไปพร้อมกับการเล่นเกม และก็ใช้เวลาโหลดไม่นานด้วย
ส่วนเพลงประกอบในเกม อยู่ในระดับดี มีธีมเด่นๆที่ชวนหลอนแบบการ์ตูนผีประมาณ แคสเปอร์ ไม่ได้น่ากลัวอะไร ส่วนเสียงประกอบแม้จะไม่ได้มีเสียงพากย์ แต่ก็เรียบง่ายตามรูปแบบเกมซีรีส์ Luigi’s Mansion แบบไม่เสียของเรียกว่างานภาพและเสียงอยู่ในระดับดี
เรื่องราวสุดหลอนแบบการ์ตูน
โดยในภาคนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Luigi น้องชายขี้กลัวของมาริโอ ที่จะได้เครื่องดูดผีมา โดยเรื่องราวในภาคนี้จะเกิดเมื่อ ลุยจิ มาริโอ เจ้าหญิงพีช และเพื่อนๆได้เดินทางไปพักโรงแรมที่เหมือนจะดูดี แต่เป็นกับดักของผีร้ายตัวแสบ King Boo ที่ดูดเอาเพื่อนๆเข้าไปในรูปภาพ เหลือแต่ลุยจิที่ต้องออกไปช่วย โดยฉากในเกมภาคนี้คือชั้นต่างๆของโรงแรมผีสิง ที่ฟังดูสนุกกว่าเดิม
เกมเพลย์เหมือนเดิมแต่สนุกกว่าเดิม(มาก)
รูปแบบการเล่นของเกม Luigi’s Mansion 3 ก็เหมือนกับสองภาคแรกที่เป็นเกมแอ็คชั่น 3D มุมมองถูกจำกัดให้อยู่ในกรอบแคบๆของฉากที่เน้นการสำรวจค้นหา มากกว่าต่อสู้อย่างเดียว ทำให้ฉากในเกมอยู่ในที่แคบๆ ซึ่งเข้ากับธีมเกมบ้านผีสิงอยู่แล้ว
ในส่วนของแอ็คชั่นภาคนี้ ยังคงเน้นไม่มากเพราะเกมเน้นสำรวจแก้ปริศนา แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเหมือนเดิม Luigi ยังคงใช้อุปกรณ์ดูดผี เหมือนเดิมและก็ไม่ได้ง่ายๆเพราะเราต้องสาดไฟไปที่ผีแต่ละตัวให้มันช็อคก่อน แล้วถึงจะดูดมันได้ และยังมีการจับเหวียงไปฟาดกับพื้น แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายๆเพราะผีมีหลายประเภท และมีวิธีป้องกันการดูดของเราได้ ทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนกันตลอดเกม
และนอกจากดูดแล้ว ยังมีอาวุธที่เราจะยิงกระสุนยางที่เหมือนที่ดูด ที่มีไว้ทั้งช่วยแก้ปริศนาและต่อสู้ รวมทั้งแอ็คชั่นใหม่ๆอย่างการปล่อยพลังลมจากเครื่องดูดให้ Luigi ลอยตัวเหมือนกระโดด รวมทั้งพลังดูดที่มีการเป่าลมออก เรียกว่าแอ็คชั่นมีเยอะ แต่ก็ไม่ได้มากมายจนยุ่งยากเลย
ปริศนาในเกมสนุกกว่าเดิม
ประเด็นหลักของเกมซีรีส์ Luigi’s Mansion นอกจากแอ็คชั่นแล้ว เกมยังเน้นการสำรวจแก้ปริศนาเปิดทางไปต่อ ซึ่งการกลับมาครั้งที่ 3 บน Switch ถือว่ายังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม เพราะไม่ได้แค่รักษามาตรฐานเดิม แต่ยกระดับความซับซ้อนของฉากเข้าไป ผู้เล่นต้องคิดวิเคราะห์ ว่ามีอะไรสำรวจหรือใช้ท่าที่ลุยจิมีเพื่อเปิดทางได้บ้าง ทำให้เราสนุกกับเกมได้ยาวนานและไม่อะไรให้ต้องคิดกันตลอดเกม
นอกจากนี้ Luigi’s Mansion 3 ยังเพิ่มส่วนใหม่ที่ช่วยให้การแก้ปริศนาคือร่างแยกที่เป็นสารสีเขียวเหลวเหมือนหุ่นคนเหล็ก T1000 ที่มีชื่อว่า Gooigi ที่เมื่อเรียกมาใช้งานผู้เล่นจะบังคับได้ทีละตัว และแน่นอนว่าร่างแยกจะช่วยในการแก้ปริศนาได้มาก เพราะต้องจากจะใช้เครื่องดูดผีได้เหมือนลุยจิแล้ว ยังสามารถไปยังที่ลุยจิไปไม่ได้ เช่นการเดินผ่านกรงขังได้ และโดนหนามและธนูก็จะไม่เป็นอะไรแต่จะโดนน้ำไม่ได้ ทำให้การเล่นสนุกกว่าเดิมมาก
ระบบที่หลากหลาย
ส่วนระบบการ ต่อสู้กับบอสที่ยอดเยี่ยม ไม่ซ้ำซากน่าเบื่อ เพราะมีรูปแบบการต่อสู้ที่ต้องใช้หัวคิดเพื่อหาวิธีจัดการ แต่ก็ไม่ได้ง่ายๆ แม้จะรู้วิธีจักการแล้วก็ต้องใช้ฝีมือในการเล่นด้วย ทำให้เกมมีความท้าทาย บอสบางตัวโหดพอตัวเพราะมีหลายร่างและเรียกพวกมาช่วยได้ และแน่นอนว่าการใช้ Gooigi ในการต่อสู้ด้วย
ฉากในเกมอย่างที่บอกอยู่ในโรงแรมที่มี 16 ชั้นของโดยแต่ละชั้นจะมีความแตกต่างกันหมด มีกระทั้งทะเลทราย หรือเวทีคอนเสริท หรือปราสาทยุโรป เรียกว่าไม่ซ้ำกันเลย และมีความยาวเล่นได้นาน สำหรับเกมแนวนี้ และหากจะเล่นกับเพื่อนๆก็ทำได้เพราะ Luigi’s Mansion 3 มีโหมดมัลติเพลย์เยอร์ทั้งแบบออนไลน์ ที่เราจะได้รับบทเป็นลุยจิหลากสี ที่ต้องออกสำรวจในฉาก และอีกโหมดจะไม่ต้องออนไลน์ใช้หน้าจอเดียวกันเพื่อแข่งกันทำคะแนน และผู้เล่สามารถใช้เครื่องเดียวเล่นบนหน้าจอเดียวกันได้ด้วย
Luigi’s Mansion 3 คือภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์
โดยรวมแล้ว Luigi’s Mansion 3 อาจจะเป็นภาคที่สนุกที่สุด เพราะนอกจากเกมเพลย์จะอัพเกรดขึ้นอย่างมากแล้ว การนำเสนอทั้งเรื่องราว และกราฟิกที่จัดเต็มแบบสุดๆทำให้การออกต่อสู้กับผีในโรงแรมสุดหลอนครั้งนี้สนุกหลากหลายเล่นได้ทุกวัย และบอกเลยว่ามันเป็นอีกเกมยอดเยี่ยม บน Nintendo Switch ที่ต้องมีติดเครื่องไว้