ไมค์ Maono PD200X และมิกเซอร์ C2 NEO เสียงชัด! งานดีครบเครื่อง
Maono PD200X เป็นไมค์ที่มีคุณสมบัติระดับชั้นยอดตัวนึงเลยครับ มีคุณภาพเสียงที่ดี หน้าตาไมค์ก็สวยงาม มาในราคาไม่แพงมากไปอีกด้วยครับ ทาง Maono เปิดจำหน่าย PD200X อยู่ที่ราคาประมาณสองพันกว่าบาทเท่านั้นเอง
Maono C2 NEO เ ราคาเบาๆ แต่ความสามารถครบถ้วน มีทุกอย่างที่มิกเซอร์ควรมีแต่อยู่ในขนาดที่เล็ก ใช้ส่วนตัวที่บ้านหรือพกพาไปใช้นอกสถานที่ก็ได้เช่นกัน ใช้ร่วมได้เหมาะสมกับทั้งไมค์แบบไดนามิคและไมค์แบบคอนเดนเซอร์ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสียงเสริมได้ทั้งบลูทูธไร้สายและแบบเสียบสาย สตรีมเอาได้ทั้งการใช้กับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน มีลูกเล่นแต่งเสียง แปลงเสียง และตัดเสียงรบกวน รวมถึงความสามารถในการลดเสียงเพลงลงขณะพูดได้อัตโนมัติ ครบถ้วนทุกอย่าง การออกแบบก็สวยงามน่าใช้ครับ ในราคาเบาๆ แค่ราวๆ สองพันบาทเท่านั้น
จุดเด่น
- คุณภาพเสียงดี เก็บเสียงพูดได้ชัดเจนมีน้ำหนัก ตัดเสียงรบกวนรอบข้างไดเงียบ ใช้งานในห้องทั่วๆ ไปก็สามารถได้คุณภาพเสียงที่ดีได้
- การออกแบบดูสวย ใช้งานง่าย
- มีคุณสมบัติครบในราคาไม่แพง
- โปรแกรม Maono Link ทำให้ตัวไมค์มีความสามารถที่มากขึ้น ทำงานได้คุ้มราคายิ่้งกว่าเดิม และตัวแอปออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งในคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน
ต้องปรับปรุง
- ตัวอุปกรณ์หลักส่วนใหญ่เป็นพลาสติก ไม่ทนทานต่อการกระแทก
ไมโครโฟน Maono PD200X และมิกเซอร์ C2 NEO Streaming Mixer & Sound Card สองอุปกรณ์ที่ใช้คู่กันในงานบันทึกเสียง, ไลฟ์สด หรือการทำสตรีมรวมถึงการทำพอดแคสต์
เป็นสองอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพงเกินไป และไม่ถูกมากไปจนไม่มีคุณภาพครับ เด่นที่คุณสมบัติครบด้วย การออกแบบทำมาให้ควบคุมง่ายๆ โดยไมค์และมิกเซอร์ตัวนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทั้งสมาร์ทโฟน, อุปกรณ์คอมพ์พิวเตอร์, PC โน๊ตบุ๊ค ไม่ว่าจะใช้งานเดี่ยวแค่ตัวไมโครโฟนหรือใช้งานคู่กันกับมิกเซอร์ โดยในบทความนี้เราจะพารู้จักกับอุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้กันครับ ว่ามันมีความสามารถอะไรอยู่บ้าง
ในบทความนี้
Maono PD200X ไมโครโฟนไดนามิก รองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB และ XLR
Maono PD200X เป็นไมโครโฟนชนิดไดนามิคครับ แต่ถูกปรับแต่งมาให้รับเสียงได้ค่อนข้างลึกในโทนเสียงต่ำ และรับเสียงกลางได้ชัดเจนซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานที่เน้นการใส่อารมณ์ด้วยโทนเสียงที่แตกต่างขึ้นลงตามอารมณ์ระหว่างบันทึก เช่นการร้องเพลง หรืองานบันทึกเสียงที่อาจจะมีอารมณ์ร่วม ทั้งเสียงทุ่มนุ่มลึก หรือมีฟิลลิ่งเฮฮามากกว่าปกติ
มันมีความสามารถในการรับความถี่เสียงได้กว้างพิเศษ ตั้งแต่ 40Hz-16KHz ใช้ขั้วรับเสียงชนิด Cardioid เพื่อเน้นการรับเสียงจากด้านหน้าไมค์โดยตรง และลดเสียงรบกวนที่มาจากทิศทางอื่นรอบข้างลงไป ยังไม่นับการที่ตัวไมค์ของ Maono สามารถใช้งานได้ร่วมกับแอปพลิเคชั่น Maono Link ซึ่งจะปรับแต่งเสียงพูดของเราได้ในหลายย่านเสียงมากขึ้น อยากจะทุ่มต่ำเสียงเข้ม หรือเสียงสดใสดูร่าเริง ตัวไมค์ PD200X และระบบของ Maono Link ช่วยได้หมดครับ
จากที่ทดสอบการรับเสียงของไมค์ตัวนี้ ค่อนข้างให้เสียงออกมาในโทนต่ำที่ลึก แน่น และรับเสียงกลางที่เป็นเสียงร้องหรือพูดของมนุษย์ได้ชัดเจนมากครับ และด้วยความเป็นไมโครโฟนแบบไดนามิค จึงมีคุณสมบัติในการรับเสียงรบกวนเข้าไมค์น้อย ห้องไม่ต้องเงียบมากก็ยังใช้งานได้สบาย
คุณสมบัติและการออกแบบ
Maono PD200X จะมีปุ่มและลูกบิดที่ทำงานแบบ 2-in-1 ใช้ปรับระดับเสียงไมโครโฟนและปรับระดับเสียงของหูฟังได้ในปุ่มเดียวเพราะเราสามารถมอนิเตอร์ฟังเสียงตัวเองได้แบบเรียลไทม์ด้วยแจ็ค 3.5 มม. ที่ด้านหลังตัวไมค์
ตัวไมค์จะใช้ไฟ LED บอกสถานะ กดปุ่มควมคุมเสียง 2-in-1 หนึ่งครั้งเพื่อสลับโหมดควบคุม และสามารถปิดเสียงไมค์ได้ทันทีด้วยปุ่มเฉพาะ โดยสีของไฟ LED จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อมีการปิดไมค์
Maono PD200X มีการประดับด้วยไฟ RGB ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ 8 สีด้วยกันครับ และมีโหมดแสดงไฟแบบ Wave ที่วนเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เข้ากันกับสายเล่นเกมโดยเฉพาะ เราสามารถเปลี่ยนสีไฟได้เองด้วยปุ่มกดด้านหลังตัวไมค์ครับ และกดปิด RGB ได้ด้วยการกดค้างไว้เป็นเวลา 2 วินาที
Maono PD200X เป็นไมค์ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ USB และ XLR ทำให้เราสามารถใช้ไมค์ตัวนี้กับอุปกรณ์ที่รองรับ Input ด้วย USB ได้ อย่างเช่นเดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อป อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ PC, โน๊ตบุ๊ค รวมถึงอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่รองรับ USB OTG อีกด้วยนะครับ ซึ่งก็หมายถึงสมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่นที่ใช้ USB Type C ในปัจจุบัน
โดยภายในกล่องก็จะมีสาย USB A -to- USB C ที่สามารถถอดหัวกลายเป็น Type C -to- Type C ไดด้วย เป็นสายความยาว 8.2 ฟุตแถมมาให้ และตัวแปลงขั้วต่อน็อตยึดไมค์จากไซส์ 5/8″ ไปเป็น 3/8″ และก็ตัวเมาส์กันสั่นที่ติดมากับตัวไมค์มาให้ด้วยครับ
รวมถึง Maono PD200X เป็นไมค์ที่มีช่องเอาต์พุตแบบอะนาล็อก XLR ที่เอาไว้สำหรับเชื่อมต่อกับอินเทอร์เฟซ มิกเซอร์ หรือระบบ PA แบบพกพา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในระดับมืออาชีพได้ในตัวด้วย
นั้นหมายถึงมันรองรับการใช้ร่วมกับ C2 NEO Streaming Mixer & Sound Card ที่เราเอามาแนะนำรวมกันในบทความนี้ได้นั้นเองครับ ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่น หรือมืออาชีพขึ้นมาสักหน่อย ไมค์ตัวนี้ก็พร้อมจะรับใช้ได้ในทุกงานแล้วครับ
Maono Link แอปและโปรแกรมเสริมความเทพ คุ้มค่ามากขึ้น 200%!!
Maono PD200X มีความสามารถเบื้องต้นในการควบคุมด้วยปุ่มต่างๆ บนตัวไมค์เอง แต่จะยอดเยี่ยมมากขึ้นอย่างมากเมื่อใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Maono Link ซึ่งแอปตัวนี้ก็รองรับทั้งบนอุปกรณ์ Windows, MAC OS, Android สามารถติดตั้งใช้งานได้ทุกระบบ :>> ดาวน์โหลด Maono Link
ในระดับที่ Advance ขึ้นไปอีก เราสามารถเปลี่ยน EQ แนวเสียง พร้อมเปิดฟีเจอร์ Limiter หรือ Compressor ที่จะควบคุมไดนามิกของเสียง ให้มีความนิ่ง รักษาระดับความดังเฉลี่ยให้ใกล้เคียงกัน ไม่ให้เกิดอาการ Peak หรือ Clip ในขณะที่เราบันทึกเสียงได้นั้นเองครับ
และตัว Maono Link ก็ทำมาได้ดีมาก มีความสามารถที่ไม่ต่างกันเลยระหว่างตัวแอปและโปรแกรมซึ่งอยู่ต่างกันคนละระบบ ไม่ว่าจะใช้งานบน Windows หรือใช้งานบนสมาร์ทโฟน ก็มีความสามารถที่เหมือนๆ กัน
จุดเด่น: จะเห็นว่าเมื่อ Maono PD200X ทำงานร่วมกับ Maono Link ก็จะเป็นไมค์ที่มีคุณสมบัติระดับชั้นยอดตัวนึงเลยครับ มีคุณภาพเสียงที่ดี หน้าตาไมค์ก็สวยงาม มาในราคาไม่แพงมากไปอีกด้วยครับ ทาง Maono เปิดจำหน่าย PD200X อยู่ที่ราคาประมาณสองพันกว่าบาทเท่านั้นเอง
จุดอ่อน: ปุ่มกดต่างๆ บนตัวไมค์เป็นปุ่มพลาสติกที่ใช้สวิตช์แบบยางสปริง จะมีเสียงกดปุ่มเข้าไมค์ระหว่างใช้งานได้ ถ้าต้องการการทำงานที่เงียบสนิทควรควบคุมตัวไมค์ผ่านอทางแอปพลิเคชั่น Maono Link
Maonocaster C2 NEO มิกเซอร์สารพัดประโยชน์ สำหรับมืออาชีพในระดับเริ่มต้น
อุปกรร์มิกเซอร์ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มสีสัน ความสนุก การควบคุม และการรวมเสียงจากหลายแหล่งเข้ามาอยู่ในอุปกรณ์เดียว ซึ่งตัวที่เราเอามารีวิวแนะนำก็คือ “Maonocaster C2 NEO” มิกเซอร์ตัวขายดีที่สามารถหาซื้อได้ในราคาประมาณแค่สองพันบาท
Maonocaster C2 NEO เป็นมิกเซอร์ที่มีแบตเตอรี่ในตัวครับ น้ำหนักเบา สำหรับใช้ในสถานที่หรือติดตัวพกพาไปทำงานภายนอกได้คล่องตัว จากที่ทดสอบสามารถใช้งานพลังงานแบตเตอรี่ได้มากถึงกว่า 6 ชั่วโมงโดยที่แบตเตอรี่ยังไม่หมด และสามารถชาร์จไฟออกไปยังสมาร์ทโฟนที่มาเชื่อมต่อเพื่อทำการสตรีมได้ด้วย โดยการเสียบไฟเข้าที่ช่อง DC 5V บนตัว C2 NEO เพื่อชาร์จไฟไปพร้อมๆ กัน
การเชื่อมต่อ IN, OUT ที่ครบถ้วน ในกล่องขนาดเล็ก
มีความสามารถเชื่อมต่อ Strame Out ออกได้ทั้งทางพอร์ต USB และในรูปแบบรูหูฟัง 3.5 มม. ฉะนั้นนำมิกเซอร์ตัวนี้ไปใช้งานสตรีม, ไลฟ์, พอดแคสต์, หรือบันทึกเสียง ได้กับแทบทุกอุปกรณ์ครับ ทั้งกับคอมพิวเตอร์และใช้กับสมาร์ทโฟนก็สตรีมออกไปได้ทั้งหมด
รองรับ IN Put หลากหลายช่องทางมากเช่นกันครับ มีช่องต่อไมค์แบบอะนาล็อก XLR มาให้ 1 ช่อง เป็นมิกเซอร์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับไมค์จำนวน 1 ตัว ซึ่งตัวมันเองมีความสามารถในการจ่ายไฟ Phantom Power 48V (เปิดปิดได้ด้วยปุ่ม 48V ) ใช้เสริมไฟให้กับไมค์คอนเดนเซอร์เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น และมีปรีแอมป์ที่สามารถปรับเกนได้สูงสุดถึง 60dB มีพลังเสริมฉะนั้นจึงเหมาะรองรับกับการใช้ไมค์แบบไดนามิคด้วยเช่นกัน ตัวเดียวเอาอยู่ทุกไมค์ครับ
สามารถอินพุตเสียงจากแหล่งเสริมได้ทั้งแบบไร้สายด้วยสัญญาณ Bluetooth และแบบเสียบสายผ่านช่อง AUX 3.5 มม. เช่น เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนมาเชื่อมต่อกับ C2 NEO ด้วยสัญญาณบลูทูธ (เปิดการเชื่อมต่อโดยกดปุ่ม BT ค้างไว้) เพื่อเปิดเพลงคลอเข้าไปได้ หรือจะเสียบผ่านสาย 3.5 มม. จากอุปกรณ์อื่นๆ ก็ได้เช่นกันครับ
โดยมีช่องเสียบ Headphones 3.5 มม. ที่ด้านหลัง เป็นช่องสำหรับเสียบหูฟังเพื่อเอาไว้มอนิเตอร์เสียงพูดของเราได้ โดยในกรณีที่เราไม่ต้องการได้ยินเสียงพูดของตัวเอง ก็สามารถเปิดและปิดเสียงพูดของเราที่เข้าสู่หูฟังมอนิเตอร์ได้ด้วยปุ่ม Direct Monitor
ตัวอุปกรณ์ควบคุมระดับเสียงแยกกันได้ทั้งหมด ทั้งระดับเสียงเข้าของไมค์, ปรับระดับเกน, ปรับระดับเสียงจากแหล่งเสริม, ปรับระดับเสียงหูฟังมอนิเตอร์, และการปรับระดับเสียงสตรีมเอาท์หลักที่ถูกส่งออกไป เป็นกล่องมิกเซอร์เล็กๆ ที่ครบและไม่ขาดอะไรเลยครับ
จะเห็นว่ามีช่องเข้าและออกมาให้ครบ และการปรับระดับเสียงที่ครบถ้วนแบบมิกเซอร์ตัวโปรนะครับ แต่เน้นมาสำหรับการต่อไมค์เข้าหลักเพียง 1 ไมค์เพื่อให้ตัวเล็ก พกพาง่าย และเหมาะกับใช้งานส่วนบุคคลได้มากที่สุดครับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง ก็จะมีตัวมิกเซอร์ Maonocaster C2 NEO พร้อมกับสาย USB A -to- USB C และสาย Audio 3.5 TRRS มาให้ครับ
การควบคุมคุณภาพเสียง และลูกเล่นเพิ่มความสนุก
Maonocaster C2 NEO ยังมีความสามารถที่จะเข้ามาเพิ่มความสะดวกและความสนุกให้กับการใช้งานอยู่ด้วย เช่นเครื่องมือการเปลี่ยนเสียง และเครื่องมือที่จะช่วยให้การสตรีมของเราสนุกได้มากขึ้น โดยความสามารถทั้งหมดมีดังนี้ครับ
เสียงรีเวิร์บ 6 รูปแบบ
Maonocaster C2 NEO มีความสามารถในการปรับแต่งเสียงพูดของเราไปในแบบต่างๆ โดยจะมีรูปแบบรีเวิร์บเสียงที่ตั้งเอาไว้มาให้ล่วงหน้า สามารถกดใช้และเวียนรูปแบบเสียงได้ด้วยปุ่ม Reverb Presets มีทั้งหมด 6 รูปแบบนั้นคือ
- KTV (เสียงแบบห้องทีวีคาราโอเกะ)
- Church (เสียงสะท้อนในโบสท์)
- Hall (เสียงสะท้อนในโถงกว้าง)
- Valley (เสียงสะท้อนในหุบเขา)
- Room (เสียงสะท้อนแบบอยู่ในห้อง)
- Original (เสียงปกติ)
เปลี่ยนเสียง
และโปรแกรมเปลี่ยนเสียง 4 ตัว เพื่อเพิ่มความสนุกในการสตรีม โดยสามารถกดหมุนเปลี่ยนรูปแบบได้ด้วยปุ่ม Pitch Presets โดยจะมีเป็นเสียง
- ผู้ชาย
- ผู้หญิง
- เสียงเด็ก
- เสียงปกติ
ตัดเสียงรบกวน
มีความสามารถในการลดเสียงรบกวนได้สองระดับ กดเปิดได้ด้วยปุ่ม Noise Reducer แต่เสียงของเราเองก็จะหายไปบางส่วนเช่นกัน แต่ช่วยลดปัญหาเสียงที่ไม่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้อย่างมากทีเดียว
Side Chain ลดเสียงดนตรีลงอัตโนมัติเมื่อพูด และตัดเสียงนักร้องจากเพลงให้ได้อัตโนมัติ
Maonocaster C2 NEO มีความสามารถในการลดเสียงดนตรีจากแหล่งเสริมลงให้เราได้อัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่าเรากำลังพูดเข้าไมค์ครับ โดยการกดปุ่ม Side Chain ใช้ในเวลาที่เราจัดสตรีมประกอบดนตรีไปพร้อมกัน เสียงดนตรีจะได้ไม่มากลบเสียงพูดของเรา
และยังมีความสามารถที่เรียกว่า Music Only เป็นการตัดเสียงคนร้องออกจากเพลงให้กับเราได้อัตโนมัติ เอาไว้ใช้ในกรณีเราอยากร้องเพลงคลอไปกับดนตรี จากที่ทดสอบระบบนี้ ไม่สามารถตัดเสียงคนร้องออกไปได้ 100% นะครับ จะยังเหลือไว้เล็กน้อย แต่ก็น้อยจนพอที่เสียงเราจะกลบเสียงร้องเดิมของเพลงได้ไม่ยาก สามารถเรียกใช้ได้โดยการกดปุ่ม Side Chain ค้างไว้ 2 วินาที
ปุ่มซาวด์เอฟเฟ็กต์แบบบันทึกได้เอง 3 ปุ่ม
Maonocaster C2 NEO มีหน่วยความจำในตัว ที่จะบันทึกเสียงซาวด์เอฟเฟ็กต์ลงไปได้ใน 3 ปุ่มกดด้วยกัน ซึ่งจะเป็นปุ่ม A, B และ C ที่อยู่ด้านขวาล่างของอุปกรณ์ เราสามารถบันทึกเสียงใดก็ได้ลงไปในส่วนนี้เป็นจำนวน 3 เสียงด้วยกัน ในความยาวสูงสุด 20 วินาที สามารถบันทึกได้ไม่ว่าจะมาจากแหล่งเสียงไหน จะใช้ไมค์พูด หรือเปิดผ่านอุปกรณ์ที่ส่งเสียงเข้าตัวมิกเซอร์ หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับสัญญาณบลูทูธ จะทางไหนก็บันทึกไว้ได้ทั้งหมด
วิธีการใช้งานทำออกมาง่ายๆ ครับ กดค้างที่ปุ่ม A, B หรือ C จนไฟบนตัวปุ่มกระพริบถี่ๆ จะเป็นการล้างไฟล์เสียงเก่าทิ้งเพื่อเตรียมบันทึกใหม่ รอจนไฟที่กระพริบถี่ดับลงก็หมายถึงลบไฟล์เก่าและพร้อมจะบันทึกไฟล์ใหม่แล้ว ให้ทำการกดปุ่ม A, B หรือ C อีกครั้งเพื่อเริ่มบันทึก ตัวปุ่มจะมีไฟกระพริบช้าๆ เพื่อแสดงว่าอยู่ในขั้นตอนการบันทึก กดอีกครั้งเพื่อหยุดการบันทึก และสามารถเรียกใช้เสียงที่บันทึกไว้ได้ทันทีที่กดปุ่มนั้นในภายหลังครับ
จุดเด่น: ราคาเบาๆ แต่ความสามารถครบถ้วน มีทุกอย่างที่มิกเซอร์ควรมีแต่อยู่ในขนาดที่เล็ก ใช้ส่วนตัวที่บ้านหรือพกพาไปใช้นอกสถานที่ก็ได้เช่นกัน ใช้ร่วมได้เหมาะสมกับทั้งไมค์แบบไดนามิคและไมค์แบบคอนเดนเซอร์ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสียงเสริมได้ทั้งบลูทูธไร้สายและแบบเสียบสาย สตรีมเอาได้ทั้งการใช้กับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน มีลูกเล่นแต่งเสียง แปลงเสียง และตัดเสียงรบกวน รวมถึงความสามารถในการลดเสียงเพลงลงขณะพูดได้อัตโนมัติ ครบถ้วนทุกอย่าง การออกแบบก็สวยงามน่าใช้ครับ ในราคาเบาๆ แค่ราวๆ สองพันบาทเท่านั้น
จุดอ่อน: ออกแบบมาเพื่อใช้กับไมค์ตัวเดียว วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติก ไม่ทนต่อการตกกระทบหรือกระแทกในขณะพกพาไปใช้ภายนอก
รายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม : https://www.maono.com/
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้า
แพ็คคู่ Maono AMC2 NEO และ PD200X : https://www.maono.com/products/amc2-neo-and-pd200x-all-in-one-streaming-audio-production-studio
Maono AMC2 NEO : https://th.xiapibuy.com/product/339662882/23976157949/
Maono PD200X : https://th.xiapibuy.com/product/339662882/23533682119/