Marvel's Spider-Man: Miles Morales สานต่อตำนานไอ้แมงมุม
ถ้าใครชอบภาคหลักก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ซื้อภาคนี้เลย เพราะถึงแม้จะเป็นเกมที่มีความคล้ายกัน แต่ก็มีจุดเด่น จุดยืน ธีม และ อารมณ์ในการเล่นที่ต่างกันไปเลย! เรียกได้ว่าคุ้มค่าราคาที่ซื้อมาแน่ๆ เพราะเกมนี้ไม่ได้ทำออกมาลวกๆ และ เต็มไปด้วยความรักอย่างแน่นอน
The Good
- หากใครที่โหยหาความรู้สึกเมื่อตอนเล่นเกมหลัก เกมนี้จะตอบโจทย์คุณ อย่างมากเลย
The Bad
- เกมนี้สั้น และ มีบัคที่ทำให้ทุกอย่างเล่นยากมากขึ้นไปกว่าเดิม เราอาจต้องรอแพชซักหน่อย เพื่อทำให้เกมสมูตรขึ้น
-
เนื้อเรื่อง
-
เกมเพลย์และการควบคุม
-
ภาพและกราฟิก
-
เพลงและดนตรีประกอบ
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
Marvel’s Spider-Man: Miles Morales คือการสานต่อเกมอย่าง Marvel’s Spider-Man โดยภาคนี้จะเหมือนเป็น Spin-Off ที่ให้เราได้มาสานต่อเรื่องราวหลังจบภาคหลัก เปลี่ยนตัวเอก และ ตัวร้าย หรือแม้กระทั้งระบบบางอย่าง โดยการเอาตัวละครยอดนิยมจากจักรวาล Spider-Man มาใช้อย่าง Miles Morales หรือ Ultimate Spider ที่อายุยังน้อยด้อยประสบการณ์ และ ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งไว้บนบ่า Miles และ เกมนี้จะสามารถสานต่อความสนุกของภาคก่อนไว้ได้ไหม? มาดูในรีวิวนี้เลย!
Story
ตัวเอกจะเปลี่ยนมือจาก ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ มาเป็น ไมลส์ มอลาเลส สไปเดอร์แมนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ยังหาแนวทางของตนเองไม่เจอเขาเป็นลูกมือให้กับปีเตอร์ โดยที่ถูกสอนเทคนิคต่างๆ ให้กับเขาจนกระทั้งวันนึงปีเตอร์ ก็เชื่อมือไมลส์ ลาพักร้อนไปทำงานที่นอกเมืองกับ MJ ทิ้งให้ไมลส์ต้องเผชิญโชคกับเมืองนี้คนเดียว
ไมลส์ต้องเผชิญหน้ากับ ศัตรูใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นที่มีชื่อว่า Underground กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่มีอาวุธไฮเทค และ พยายามจะกำจัดบริษัท Roxxon บริษัทพลังงาน แต่กลายเป็นว่า Roxxon เองก็ไม่น่าไว้ใจ Spider-Man คนใหม่คนนี้ต้องเผชิญทุกๆ อย่างด้วยตัวของเขาเองครั้งแรก
นับว่าเป็นเนื้อเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะภาคหลักเราจะได้เล่นเป็น Spider-Man ที่มีประสบการณ์มานานแล้ว ศัตรูเองก็เป็นตัวละครที่เราคุ้นเคย แต่ในครั้งนี้เราได้เล่นเป็น Spider-Man มือสมัครเล่น ที่มีอะไรหลายอย่างให้ศึกษา และ เรียนรู้ ทำให้เราสามารถอินกับตัวละคร Miles ง่ายกว่าปีเตอร์ แถมเนื้อเรื่องของเกมนี้จะเป็นส่วนต่อจากจุดพีคของเนื้อเรื่องหลักด้วย
และ เกมนี้ก็มีเนื้อเรื่องแยกเป็นของตนเองชัดเจน ไม่ต้องเล่นภาคก่อนมาก็เขาใจได้ แต่ว่ามันสั้นมากๆ ประมาณ 6-9 ชมก็จบแล้วทำให้เราอาจยังไม่ได้ซึมซับอะไรจากเกมนี้เกมก็จบซะแล้ว ทั้งๆที่เนื้อเรื่องปูมาดี และ เข้มข้นแท้ๆ
Gameplay
การต่อสู้
ในเกมนี้จะใช้การต่อสู้คล้ายๆ กับภาคก่อนแต่จะซับซ้อน และ มีลูกเล่นมากขึ้น อะไรที่ภาคก่อนต้องใช้แต้มอัพเกรดถึงจะทำได้ ภาคนี้ทำได้ตั้งแต่แรกแถบจะทั้งหมด ทำให้การอัพเกรดจะไปกองอยู่กับความสามารถใหม่แทน! หากคุณเป็นแฟนคอมมิค หรือ เคยดูอนิเมชั่นมาก่อน ก็จะรู้ว่า ไมลส์มี Venom Strike ที่เป็นความสามารถไฟฟ้าในตัวของไมล์ ความสามารถนี้จะใช้หลอดแต้มร่วมกันกับ หลอด Focus หลอดที่เราใช้ในการรีเลือดของตนเอง มันช่วยเพิ่มลูกเล่นในการเข้าทำมากขึ้นจากภาคก่อนมาก และ เราสามารถเอาแต้มอัพเลเวลของเราไปเพิ่มความสามารถให้ Venom Blast นี้ได้อีกด้วย!
นอกจากนี้ไมลส์ยังมีพลังใหม่นั้นก็คือพลังล่องหน ที่ช่วยในการ Stealth ผ่านฉากต่างๆ ทำให้เกมนี้ระบบการ Stealth สนุกขึ้นมาจากภาคแรกมากๆ เพราะมีอะไรให้เล่นมากขึ้น
แค่จากการที่มไลส์มีพลังมากขึ้นก็ต้องแลกเปลี่ยนไปกับ Gadget ที่เป็นเหมือนตัวชูของภาคที่แล้ว ภาคนีมีให้ใช้น้อยมากๆ จะมีให้ใช้แค่ 4 รูปแบบเท่านั้นทำให้ Token ที่หามาอัพเกรดของก็น้อยตาม แถมชุดในเกมนี้ก็ไม่ได้ให้สกิลเหมือนแต่ก่อนแล้ว ชุดของเราเหมือนเป็นแค่การตกแต่วตัวละครเท่านั้น แม้แต่เอฟเฟคเองก็ยังมีน้อยลงจากของภาคก่อนเลย แต่ก็เข้าใจได้ที่เกมนี้เป็นแค่ภาคเสริมจากตัวหลัก
Puzzle
เกมนี้มี พัซเซิลค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ได้ยากมากนักโดยเราจะได้ใช้ความสามารถของสไปเดอร์แมนในการแก้ไขพัซเซิลต่างๆ เช่นตรงนี้ไม่มีพลังงานเราก็ต้องใข้ Venom Blast ต่อยแกนพลังงาน หรือ บางทีอาจต้องใช้สายตาของเรามองว่าอะไรที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในตอนนี้ แต่ยอมรับเลยว่าเกมนี้คอนเท้นท์ด้านพัซเซิลน้อยกว่า และ ซ้ำเยอะก่าภาคแรกมากๆ เลย เพราะว่าภาคแรกจะมีพวกมินิเกมอย่าง Lap ของ เฮนรี่ ที่จะให้เราได้เล่นพัซเซิลที่แตกต่างกันมากขึ้น แต่เกมนี้ส่วนใหญ่ก็คือการไปหาของตรงนั้น หรือ ไปรับของตรงนี้ ไปเช็คตรงนู้น ตรงนี้ ตรงนั้นให้หน่อย เป็นต้น
Maps
Quest / Side-Questจ
เควสต่างๆของเกมนี้จะขึ้นมาในแอพบนมือถือของเรา ทำให้เราสามารถเลื่อนหาเควสที่จะทำ ลายละเอียด และ ที่อยู่ของเควสได้ ซึ่งก็สมเหตุสมผลขึ้นมาเยอะมากเลยอย่างภาคก่อนเราจะเจอไซด์เควสจากการที่มันมาร์คในแผนที่ หรือ เราผ่านมาเจอ ถึงแบบนั้นจะดูเท่กว่าแต่ว่า มันก็ดูไม่ค่อนสมเหตุสมผลที่ สไปเดอร์แมนที่ห้อยไปห้อยมาทั้งวัน จะอยู่ๆดีก็ไปเจอกับคนที่กำลังเดือดร้อนแล้วตำรวจช่วยไม่ได้แบบบังเอิญซะงั้น
การดีไซน์เควสของเกมนี้ถึงจะหลากหลาย และ น้อยกว่าภาคแรกมากๆ แต่ว่าเควสแต่ละเควสก็ดูใส่ใจในการทำ มีลูกเล่นในแบบของตัวเอง และ มีความเป็นไอคอนนิคในแบบของตัวเอง มากกว่าของเกมหลักซะอีก แต่น่าเสียดายที่อะไรแบบนี้ช่างมีน้อยมากๆ บวกกับหลายๆ เควสก็สั้นมากๆด้วย
Token
เหมือนกับภาคก่อนใน Map จะเต็มไปด้วย Token ที่เราสามารถไปทำ Chalenge เพื่อแลกกับของที่เอาไว้สร้างชุด หรือ อุปกรณ์ต่างๆได้ โดย Token ก็จะมีหลายแบบ หลายอย่างให้เราได้เล่น แต่ว่าระบบนี้ของภาคนี้กลับดูไม่ค่อยโอเท่าไหร่ เพราะด้วยความที่เกมนี้สั้นมากๆ ทำให้เนื้อเรื่องค่อนข้างจะกระชั้นชิด การที่เราไปทำอะไรแบบนี้ทำให้เราหลุดอินไปกับเนื้อเรื่อง และ บางอย่างมันก็ดูยัดเข้ามาให้มีอะไรทำเฉยๆ ไม่เหมือนกับพวกเควสรองเลยที่ดูขยันดีไซน์มากๆ
และ ชุดในภาคนี้จะไม่มีพลังพิเศษให้เหมือนภาคก่อนแล้ว แต่มี Gadget เข้ามาให้เหมือนพวก Perk มากกว่า ทำให้ความอยากสะสมชุดก็น้อยลงไปตาม เอฟเฟคอะไรก็ไม่ได้เท่เหมือนภาคแรก อย่างภาคแรก แต่ละชุดจะมีเอฟเฟคของตัวเองเช่นภาคกระตุก เอฟเฟคเตะต่อยของตนเอง แต่ในภาคนี้จะมีแค่นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง
รวมไปถึงพวก Gadget อะไรก็มีน้อยมากๆ ประมาณ 4 ชิ้นเท่านั้นการจะอัพเกรดมันก็ไม่น่าสนใจเท่าที่ควร แม้ภาคนี้เหมือนจะได้ Exp ต่อ ชาเลนจ์มากกว่า แต่ความน่าสนใจของมันก็น้อยกว่าภาคแรกมากๆ
Map Design
แมพของเกมนี้จะให้อารมณ์เดียวกันกับภาคแรก หรือ เป็นแมพเดียวกันเลยก็ได้ แต่ก็จะมีฉากบางฉาก หรือ เล่นกับฉากที่ไม่ได้ถูกเล่าในภาคแรก และ อีรุงตุงนัง มากกว่าภาคแรกอีก เป็นภาคที่ใช้แมพซะคุ้ม
การวางพัซเซิล หรือ ไอเท็ม ของต่างๆในฉากกลับดูวางได้ไม่เนียนไปกับฉากไม่เหมือนภาคแรก
Conclution
ไม่แปลกที่เกมนี้จะถูกกดลงเพราะว่าเป็น “ภาคเสริม” ด้วยความสั้นของเกมที่ทำเอาถอนหายใจ แต่ด้วยรายละเอียดที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ และ ตัวเอกที่มีสไตล์มากกว่าภาคหลัก เควสที่น่าจดจำ และ ได้เห็นการพัฒนาของ ไมลส์ที่จะกลายเป็นตัวละครสำคัญของแฟรนไชน์นี้ในอนาคตแน่นอน
ส่วนเรื่องบัคข้อผิดพลาดน่าหงุดหงิดเกมนี้จะไม่มีเลย หรือ มีน้อยมากๆ แต่มีข้อผิดพลาดนึงที่แย่มากๆ ที่เราจะได้เจอและ มันอาจทำให้เกมพังไปเลยก็ได้ คือการที่เราไม่สามารถทำชาเลนจ์ได้ บัคนี้จะเกิดกับตอนที่เรากำลังตามเควสไดซักเควสนึงอยู่ ชาเลนจ์จะไม่เปิดให้เราเล่น ในระหว่างนั้น แต่หลังจากออกจากเควสมา ถ้าเราไปกดก Interact กับชาเลนจ์ไหนก่อนหน้านั้น เราจะกลับไปเล่นไม่ได้ หวังว่าเขาจะรีบแก้เร็วๆ นี้
และ อีกบัคนึงที่น่ารำคาญเหมือนกันคือเมื่อเข้าสู่การฝึกสอนในหน้าต่างเมนูคราฟชุด เราจะติดอยู่ตรงนั้นนานมากๆ กว่าจะปล่อยให้เรากดอะไรได้ แถมตอนอยู่หน้าเมนูก็กระตุกมากๆด้วย
แถมถ้าใครชอบภาคหลักก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ซื้อภาคนี้เลย เพราะถึงแม้จะเป็นเกมที่มีความคล้ายกัน แต่ก็มีจุดเด่น จุดยืน ธีม และ อารมณ์ในการเล่นที่ต่างกันไปเลย! เรียกได้ว่าคุ้มค่าราคาที่ซื้อมาแน่ๆ เพราะเกมนี้ไม่ได้ทำออกมาลวกๆ และ เต็มไปด้วยความรักอย่างแน่นอน