Mio Mivue 792 ผลิตภัณฑ์ใหม่จากผู้ผลิตกล้องติดรถยนต์ที่เป็นแบรนด์ขายดีในแถบยุโรปและเอเชียแปซิฟิกครับ เปิดตัวในไทยพร้อมจำหน่ายแล้ว ซึ่งรุ่นนี้มีข้อเด่นที่ควรมีของกล้องติดรถยนต์ในยุคนี้แบบครบ จบ ในตัวเดียวครับ
Mio Mivue 792 (อ่านว่า มีโอ ไมวิว 792) เป็นกล้องติดรถยนต์อีกตัวหนึ่ง ที่ใช้เลนส์กล้อง Starvis จาก Sony นับเป็นเลนส์กล้องติดรถที่ดีที่สุดในปัจจุบันครับ รูรับแสง f1.8 เก็บภาพกลางคืนได้สว่างเห็นรายละเอียดมากกว่าตามนุษย์ปกติ 4 เท่า พร้อมบันทึกไฟล์ภาพวีดีโอระดับ FullHD ที่ 60 เฟรมเรต ฉะนั้นภาพที่ได้ตอนกลางวันจะเหมือนกล้องวีดีโอชั้นดีเลย และยังเห็นรายละเอียดคู่กรณีได้แม้จะเกิดเหตุในที่มืด มุมมองกว้าง 140 องศา เก็บภาพด้านหน้าได้ซ้ายจรดขวาของหน้ากระจกรถ
อุปกรณ์ในกล่องของ Mio Mivue 792 ก็มีตัวกล้อง มีสายเชื่อมต่อไฟกับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ซึ่งให้มายาวประมาณ 4 เมตรครับ พร้อมขายึดติดกะจกด้วยกาว 3M ติดแล้วแน่นมากกาวตัวนี้ ฉะนั้นเล็งให้ดีๆ ^^
การติดตั้งของ Mio Mivue 792 ก็ติดตั้งไม่ยากครับ ติดเองได้ แค่ลากสายเสียบเข้าช่องไฟจุดบุหรี่ของรถ แล้วซ่อนสายไว้ใต้แผงขอบรถ เปิดเครื่อง ใส่ Micro SD card (รองรับสูงสุด 128 GB แนะนำให้ใช้ SD card ความเร็วระดับ Class 10 ขึ้นไป) เท่านี้ก็พร้อมใช้งานเบื้องต้นแล้วครับ
สตาร์ทรถเมื่อไฟเข้ากล้อง ตัวกล้องก็จะเปิดการทำงานของมันเองอัตโนมัติ และเมื่อเราดับเครื่องรถ ไฟตัด ตัวกล้องก็จะหยุดทำงานเองในประมาณ 5 วินาทีครับ
แต่ทาง Mio เขาก็มีบริการติดตั้งซ่อนสายให้ได้เมื่อซื้อสินคัาของเขา และเรายังสามารถเพิ่มเติมอุปกรณ์เสริมพิเศษได้ด้วยถ้าต้องการ เช่นตัว Smart cable เป็นตัวชุดสายไฟเพื่อการใช้ฟังก์ชั่นบันทึกภาพขณะจอดดับรถ (Parking mode) โดยตัวกล้องจะสามารถบันทึกภาพวีดีโอ 20วินาทีได้อัตโนมัติเมื่อมีคนเดิมมาใกล้รถหรือเมื่อมีการกระแทกรุนแรงครับ เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้เซ็นเซอร์ของตัวกล้องรุ่นนี้เพียวๆ แต่ตัว Smart cable ต้องต่อไว้เพื่อใช้ดึงไฟจากแบตเตอรี่เข้าสู่กล้องโดยตรงเมื่อเราดับเครื่องจอดรถนั้นเองครับ แต่ Smart cable ก็ยังมีหน้าที่ควบคุมพลังไฟของตัวแบตให้อยู่ในสถานะพร้อมใช้สตาร์ทรถให้กับเราด้วย มันเลยชื่อว่า Smart cable นั้นเอง ^^
หรือใครที่ต้องการกล้องมองหลัง ตัว Mivue 792 ก็พร้อมใช้งานคู่กันกับ A30 กล้องมองหลังของ Mio ด้วยนะครับ MiVue A30 ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS จากโซนี่ Full HD 1080p ใช้เลนส์กระจกคุณภาพสูง เลนส์กล้องมุมมองกว้าง 130 องศา รูรับแสงกว้าง F1.8 เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจของ Mivue 792 ถ้าใครต้องการ
Mivue 792 เป็นกล้องติดรถยนต์ที่พร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 2.7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานและการตั้งค่าได้ในตัวมันเอง แต่จุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือมันเป็นกล้องติดรถยนต์ที่มี Wi-Fi ครับ และมีแอพพลิเคชั่นสำหรับการใช้งานคู่กันในระบบ Android และ iOS ด้วย
เรามาดูกันที่ตัวมันเองก่อนจะไปดูความสามารถในแอพพลิเคชั่นบนมือถือนะครับ
Mivue 792 ไม่ใช่เป็นแค่กล้องติดรถยนต์ถ่ายเหตูการณ์ไปวันๆ เท่านั้นนะ ^^ เพราะมันมีความฉลาดจากฟังก์ชั่นหลายอย่างที่จะช่วยผู้ขับขี่ได้ตลอดการเดินทาง
ตัวกล้อง Mivue 792 มีระบบ GPS ติดตามตำแหน่งและความเร็วของเราได้ในตัว
เมื่อมันสามารถระบุตำแหน่งตัวมันเองได้แล้ว ก็พร้อมจะรองรับกับฟังก์ชั่นเช่น “การแจ้งเตือนเมื่อเข้าใกล้พิกัดกล้องตรวจจับความเร็ว” และเมื่อมันตรวจพบว่าความเร็วของเราเกินกว่ากฏหมายกำหนดแล้วกำลังวิ่งเข้าสู่พิกัดตำแหน่งของกล้องตรวจจับความเร็วบนทางหลวง มันจะเตือนเราก่อนให้ทราบครับ โดยจะคำนวนการเตือนให้สัมพันธ์กับความเร็วรถและระยะทางที่กำลังเข้าใกล้ในขณะนั้นๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัยในการชลอรถของเรา มันเก่งตรงนี้ครับ
มีระบบแจ้งเตือนจากการตรวจจับการขับขี่คร่อมเลนส์ถนน ตรวจจับวัตถุที่เข้ามาด้านข้างหรือคนข้ามถนน เรียกว่าใช้เซ็นเซอร์ของกล้องครบครันเลยในความสามารถ
รวมถึงตั้งให้มันเป็นเพื่อนคู่ใจ คอยเตือนให้เราตื่นตัวตลอดการขับขี่ โดยตั้งเวลาให้มันเตือนกระตุ้นเราได้ทุกๆ ช่วงเวลาที่เรากำหนดได้ในการตั้งค่าครับ รวมถึงเตือนการเปิดไฟรถเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ^^
ที่สำคัญ ตัวไฟล์วีดีโอของ Mivue 792 จะแสดงพิกัด วัน, เวลา และความเร็วรถ ขึ้นมาให้เห็นในไฟล์เลย โดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมอะไรในการถอดพิกัดเหล่านี้ก่อนครับ
สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลให้ไม่รำคาญสายตาได้ เช่นให้ปิดหน้าจอไปเลย หรือเปิดภาพจากตัวกล้องแบบเรียลไทม์ และแบบ HUD หรือการแสดงผลแต่สิ่งที่จำเป็นเช่นความเร็วรถ วันที่ และนาฬิกาเป็นต้นครับ
แน่นอนว่าทุกอย่างที่ผมว่ามา เราสามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ แต่จะเห็นว่า Mio ออกแบบความสามารถของ Mivue 792 ให้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่ทำได้มากกว่าแค่การบันทึกภาพไปวันๆ เท่านั้นครับ ^^
จริงๆ แล้ว Mio ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกหนึ่งตัว นั้นคืออุปกรณ์ TPMS หรือจุกวัดลมยางอัจฉริยะ ที่จะแสดงผลแรงดันลมคงเหลือของยางขึ้นที่จอกล้อง Mio ได้โดยตรง แต่อุปกรณ์เสริมตัวนี้ผมยังไม่เห็นตัวจริงและไม่ได้มาในการรีวิวครับ
ปุ่มต่างๆ บนตัวเครื่องของ Mivue 792 มีไม่กี่ปุ่มครับ มีปุ่มพาวเวอร์ที่ใช้เปิดปิดหน้าจอ ปุ่มเมนู และปุ่มควบคุมเมนูสามปุ่ม (ขึ้น, ลง และ ย้อนกลับ) เรียนรู้การใช้งานไม่ยากเลยครับ สามารถเข้าไปเซ็ตค่าต่างๆ ภายในใช้เวลาเล่นเรียนรู้ไม่นานประมาณสามสิบนาทีก็เข้าใจได้ทั้งหมด
แต่ปุ่มสำคัญคือปุ่มสีส้มด้านข้างหน้าจอ มันคือ “ปุ่มบันทึกเหตุการณ์” มีเอาไว้ให้กดทันทีที่เราต้องการเก็บภาพที่เรากำลังเห็นในขณะๆ นั้นเอาไว้ในกล้อง
แม้ต้ว Mivue 792 จะมี G-Sensor เอาไว้ตรวจจับแรงกระแทกเมื่อเราเจออุบติเหตุและทำการเก็บไฟล์วีดีโอในช่วงเกิดเหตุให้เราเอาไว้โดยอัตโนมัติ แต่ในบางจังหวะเราก็อาจจะอยากบันทึกภาพที่กำลังเกิดขึ้นโดยไม่ได้เกี่ยวกับตัวเรา เจ้า Mivue 792 ช่วยได้ครับ
เพราะเมื่อเรากด “ปุ่มบันทึกเหตุการณ์” ตัวกล้อง Mivue 792 จะทำการเก็บไฟล์วีดีโอในขณะนั้นไว้ทันที 20 วินาที โดยจะย้อนไปเก็บภาพเหตุการณ์ก่อนเรากด 5 วินาที และเก็บต่อไปอีก 15 วินาที ทำออกมาเป็นคลิปสั้น 20 วินาทีโดยอัตโนมัติ ล็อคไฟล์เอาไว้ให้เราสามารถใช้มือถือเชื่อมต่อผ่าน Wi-FI ดึงวีดีโอในช่วงดังกล่าวออกมาได้ทันทีครับ
ทั้งไฟล์วีดีโอที่ตัวกล้องตรวจจับเจอแรงกระแทก หรือไฟล์วีดีโอที่เรากดบันทึกไว้เอง จะทำการโอนไฟล์ลงมือถือของเราให้อัตโนมัติเมื่อเราเชื่อมต่อ Wi-Fi กับมือถือของเราผ่านแอพพลิเคชั่น MiVue Pro ครับ
ตัวแอพพลิเคชั่น MiVue Pro จะอยู่ใน App Store ทั้งในระบบ Android และ iOS เราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดและติดตั้งมาใช้งานได้เลยครับ
ตัวแอพพลิเคชั่นจำมีเอาไว้สำหรับการสำรองไฟล์วีดีโอโดยดึงออกมาจากตัวกล้อง MiVue ได้โดยอัตโนมัติ หรือจะใช้ดูภาพสดๆ จากตัวกล้องได้แบบเรียลไทม์ โดยตัวมือถือยังคงโทรศัพท์ติดต่อได้ตามปกตินะครับ เพราะมันใช้เพียงสัญญาณ Wi-Fi และตัวกล้องก็ยังบันทึกภาพต่อเนื่องได้ แต่จะส่งไฟล์เข้าอุปกรณ์ของเราช้าลงนะครับ โดยเราเลือกให้กล้องหยุดบันทึกก่อนเพื่อการส่งไฟล์ที่รวดเร็วได้มากขึ้น (ไฟล์ความละเอียดสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 420 MB ต่อ 3 นาที จะใช้เวลาส่งประมาณนาทีเศษๆ )
ลองดูตัวอย่างไฟล์วีดีโอจากตัวกล้องของ Mio Mivue 792 ทั้งกลางวันและกลางคืนดูครับ จะเห็นว่าภาพมีเฟรมเรทสูง เห็นรายละเอียดรถคันหน้าได้ชัดครับ
หลังการขาย Mio Mivue 792 มีรับประกัน 1 ปี และการอัพเดทซอฟท์แวร์หรือจุดพิกัดกล้องตรวจจับความเร็วให้ เป็นกล้องรถตลาดพรีเมี่ยมราคาก็จะสูงหน่อยถ้างบถึงก็แนะนำครับ ฉลาดน่าใช้ คุณภาพสูง ราคา 8,900 บาท เปิดจำหน่ายในไทยแล้วครับ