หนึ่งในคำสาปของหนังจากวีดีโอเกม นับตั้งแต่เรื่องแรกคือ Super Mario ในปี 1993 คือเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างออกมาในแง่บบ ที่ผ่านมากเกือบ 30 ปีก็ยังไม่มีเรื่องไหนทำลายคำสาปได้ แม้ว่าจะทำออกมาใกล้เคียง หรือบางเรื่องจะทำเงินจนมีภาคต่อได้ แต่ก็จะได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบ ที่มักจะโดนติเรื่องการไม่เคารพต้นฉบับ
แต่การมาของภาพยนตร์จากเกมชื่อเดียวกันอย่าง Pokémon: Detective Pikachu เพราะเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะตัวเกมต้นฉบับไม่ได้มาจากภาคหลักแต่เป็นภาคเสริม ที่มาแนวสืบสวน ที่เหมาะมากในการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์คนแสดง เพราะมีความแปลก และมีความเข้ากับโลกความเป็นจริงมากกว่า โดยตัวละครหลักยังคงเป็น Tim Goodman หนุ่มที่ต้องออกสืบสวนการหายตัวไปของพ่อ ที่ต้องร่วมมือกับ ปิกาจู พูดได้ที่คนที่ Tim เข้าใจได้เพียงคนเดียวเท่านัั้น
ความโดดเด่นของ Detective Pikachu ไม่ได้อยู่ที่เรื่องราว แต่เป็นตัว โปเกมอน ที่ผู้สร้างให้ความเคารพกับต้นฉบับอย่างมาก เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตาจะออกมามาอย่างยอดเยี่ยม สามารถจำลองเกม 2D ตั้งแต่สมัยเกมบอย มาสร้างเป็นตัวโปเกมอน ที่อยู่ร่วมกับมนุษย์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบในเมืองในฝัน แต่ก็มีการผูกกับเรื่องราวให้เข้ากับสิ่งที่เป็นตำนานของซีรีส์เกมโปเกมอน ที่แฟนๆต้องเข้าใจในทันที และทำให้การมีอยู่ของโลกแฟนตาซีของโปเกมอนสมบูรณ์
แน่นอนว่าสเปเชียล เอฟเฟค คือจุดเด่นมาก เพราะอย่างที่บอกว่าตัวละคร โปเกมอน ทุกตัวล้วนทำออกมาดูดี ผสมผสานความเป็นแฟนตาซีของเกม เข้ากับโลกความเป็นจริงได้ลงตัวมาก และดูดีที่สุดในการดัดแปลงหนังจากการ์ตูนหรือเกมจากญี่ปุ่น มาได้อย่างดีที่สุดเท่าที่มีการสร้างมาแล้ว
แต่ถึงตัวโปเกมอน จะโดดเด่น แต่เรื่องราวของภาพยนตร์ Detective Pikachu ก็ทำได้ดี เน้นโทนสืบสวนสอบสวนที่จะดูอืดๆหน่อยในช่วงแรกของหนัง แต่หนังค่อยๆแก้ปมและมีอะไรให้ประหลาดใจและหักมุมบ้างในช่วงท้าย ตัวละครอย่างหนุ่ม Tim Goodman ที่นำแสดงโดย Justice Smith ก็เป็นแกนหลักของเรื่องได้ดี ร่วมกับตัวละครโปเกมอนที่ให้เสียงพากย์เป็นพิกาจูของ Ryan Reynolds ที่เข้ากันมากทั้งสองจะค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปจนจบผ่านการผจญภัยที่สนุกเข้าถึงง่าย และ หนังเหมาะกับการดูได้ทุกเพศทุกวัย
สรุปแล้วสำหรับส่วนตัวที่เล่นเกม โปเกมอน มามากกว่า 20 ปีแล้วหนังจากเกม Detective Pikachu อาจจะไม่ใช่หนังสืบสวนสำหรับเด็กที่ดีที่สุด แต่เป็นหนังจากเกมที่สร้างได้ดีมาก มีความเคารพต้นฉบับอย่างมาก และสำหรับแฟนเกม โปเกมอน เอาคะแนนไปเลยเต็ม 10/10 แต่หากไม่ใช่แฟนเกมก็ยังสนุกไปกับความน่ารักและเรื่องราวในภาพยนตร์จากเกมเรื่องนี้ได้ (แต่จะไม่ได้เต็มสิบเอาไป 7.5/10) แฟนโปเกมอน ไม่ควรพลาด
