อีกหนึ่งรุ่นของมือถือ Android จากแบรนด์ Nokia ที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทย ซึ่งเราได้แนะนำรุ่นพี่ใหญ่ (ในขณะนี้) Nokia 6 ในบทความรีวิวนี้ไปแล้ว วันนี้เรามาดูน้องรอง Nokia 5 กันอีกหนึ่งรุ่นครับ
Nokia 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่ประกาศราคามาไม่แพงครับ 6,490 บาท จุดเด่นของเครื่องยังคงเป็นเรื่องของวัสดุงานประกอบภายนอก ที่ทำมาได้เนี้ยบและดูแพงเกินราคา ซึ่งเป็นจุดขายหลักของ Nokia 6, Nokia 5 และ Nokia 3 ภายใต้การดูแลของ HMD Global
ตัวเครื่องภายนอกใช้การขึ้นรูปด้วยบล็อคอลูมิเนียมซีรีย์ 6000 ประกอบเข้ากับกระจอจอแบบลามิเนต Corning Gorilla Glass ขนาดแสดงผล 5.2 นิ้ว IPS ความละเอียด HD ใช้พอร์ต Micro USB รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ OTG และมีพอร์ตหูฟัง 3.5mm ที่ด้านบนของตัวเครื่อง
รองรับการใช้งานสองซิมการ์ดแบบ Dual Sim Dual Stand-by เชื่อมต่อใช้งาน 4G และ 3G พร้อมกันทั้งสองซิม พร้อมช่องใส่ Micro SD Card แยกต่างหากอีกหนึ่งสล้อต มีที่สแกนลายนิ้วมือพร้อมทำงานเป็นปุ่มโฮม สามารถสแกนเข้าใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องกดปลุกเครื่องก่อนครับ
ด้านหลังเครื่องเรียบๆ ง่ายๆ เน้นโชว์เนื้อวัสดุ ที่ให้ความรู้สึกดี มีน้ำหนัก โค้งมนถือสบายครับ ตัวเครื่องภายนอกทำได้ดีจริงๆ แม้จะเป็นเครื่องราคาหกพันกว่าบาท นี่คือจุดขายของเครื่อง Nokia 5 ที่ดูเด่นที่สุดครับ
ภายในแพ็กเกจขายในไทย ดูแหมือนว่าจะมีการแถมฟิล์มกันรอย และเคสใส มาให้ด้วยเป็นแพ็คนะครับ
คลิปแกะกล่อง Nokia 5 และ Nokia 6 เครื่องขายไทย
การใช้งานภายใน
สเปคเครื่อง Nokia 5 ถือว่าเป็นเครื่องสเปคค่อนข้างต่ำครับ ใช้หน่วยประมวลผลตัวเล็กของทาง Snapdragon 430 มีแรมขนาด 2GB และหน่วยความจำภายใน 16GB สำหรับคนที่มองหาเครื่องสเปคแรงคุ้มราคา ตัว Nokia 5 คงไม่ใช่คำตอบครับ เพราะว่า Nokia ในตอนนี้มีแต่รุ่นเล็ก ที่เน้นตัวเครื่องภายนอกมาเป็นสำคัญส่วนสเปคเป็นเรื่องรองครับ ใส่เข้ามาในระดับแค่พอใช้งานทั่วๆ ไปเท่านั้น
แต่ทดสอบกับเกมระดับ ROV มันก็ยังเรียกว่าเล่นได้นะครับ จอสวย แสงจอค่อนข้างสว่าง และมีเสียงลำโพงที่ชัดเจนดีครับ
ระบบภายในของ Nokia 5 เรียกว่าเป็น Android บริสุทธิ์ เกลี้ยงๆ Pure Android แทบไม่มีบริการแอพพลิเคชั่นใดๆ จากทาง Nokia หรือ HMD ใส่เข้ามาเพิ่มเติมเลยครับ ข้อดีคือในอนาคตน่าจะได้อัพเดทระบบใหม่ๆ จากทาง Google ได้ค่อนข้างเร็วครับ
ในเครื่องนอกจาจะมีแอพพลิเคชั่นพื้นฐานสำหรับการใช้งานทั่วไปจากทาง Google แล้ว ก็มีเพียงแอพบริการหลังการขาย Nokia Care เพื่อการเช็คประกันใส่เข้ามาให้เท่านั้นครับ และแอพสำหรับการใช้งานวิทยุ FM เท่านั้นครับ
ฟังก์ชั่นตรวจจับการเคลื่อนไหว ยกเครื่องเพื่อปิดเสียงแจ้งเตือน คว่ำเครื่องเพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า และมีฟังก์ชั่นการแบ่งหน้าจอเป็นสองจอทำงานพร้อมกัน โดยการทัชปุ่ม Recent App ค้างไว้
ประสิทธิภาพของเครื่องนับเป็นรุ่นเล็กตามสเปคครับ เล่นเกมระดับ HD แค่พอได้ครับ แต่เล่นแล้วมีอาการกระตุกให้เห็นเป็นระยะ ด้วยหน่วยประมวลที่เป็นรุ่นเล็กและแรมเครื่องเพียง 2GB คงจะเหมาะกับการใช้งานแบบทั่วๆ ไป เช่น Social แชต หรือมินิเกมมากกว่าครับ
แบตเตอรี่ถือว่าอึดใช้ได้ ใช้งานได้ตั้งแต่เข้าจรดค่ำครับ ด้วยหน้าจอแสดงผลไม่ใหญ่ สเปคเครื่องไม่กินแบต ฉะนั้นแบตขนาด 3,000 mAh ใช้งานได้สบายๆ ทั้งวันครับ
ผลทดสอบต่างๆ
การจับสัญญาณ GPS ทำได้ไวครับ จับสัญญาณได้แม้ไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตช่วย
กล้องถ่ายภาพ
กล้องของ Nokia 5 ก็ถือว่าพอได้ครับ ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ได้โดดเด่นมากมายอะไรแต่ผมถือว่าให้คุณภาพที่ดีกว่าเครื่องอื่นๆ โดยส่วนใหญ่ในราคาใกล้เคียงกัน มีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพมาไม่เยอะครับ HDR, พาโนรามา และทัชอัพสำหรับถ่ายภาพบุคคลให้หน้าเนียนกว่าปกติ
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปท้ายรีวิว
ก็ไม่มีอะไรมากครับ Nokia 5 เป็นจุดเริ่มต้นของก้าวเดินแรกๆ ในการกลับมาของมือถือแบรนด์ Nokia รุ่นนี้เน้นความพรีเมี่ยมของตัวเครื่องภายนอกครับ แม้ราคาจะถูกแต่เครื่องดูดีมากทีเดียว ส่วนสเปคเครื่องเป็นเพียงสมาร์ทโฟน Android รุ่นเล็กๆ ในปัจจุบันเท่านั้น
ฉะนั้นสำหรับ Nokia 5 ก็น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้สนใจในเรื่องสเปคเครื่องกันสักเท่าไหร่ เน้นความสวยงามภายนอก และความเป็นเครื่อง Android แบบเกลี้ยงๆ ที่น่าจะได้รับการอัพเดทระบบในอนาคตค่อนข้างแน่นอนกว่าเครื่องราคาถูกจากแบรนด์อื่นๆ ครับ