รีวิวหูฟังไร้สาย Nokia E3500 Essential True Wireless หูฟังไร้สายเสียงดีในราคาไม่เกิน 3 พันบาท พร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม. ใช้งานได้สุงสุด 25 ชั่วโมง มาพร้อมไมโครโฟนถึง 4 ตัว และยังมี Ambient Mode ที่จะรับเสียงรอบตัวเข้ามาในหูฟังโดยไม่ต้องถอดหูฟัง น้ำหนักเบาเพียง 5 กรัม หนักเทียบเท่ากับกระดาษ A4 เท่านั้น โดย บริษัท มอร์ทูไลฟ์ จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์เสริมสมาร์
แกะกล่อง
มาดูกันว่าในกล่องมีอะไรมาให้บ้าง ตัวกล่องเป็นกล่องกระดาษหน้ากล่องเกลี้ยงๆ มีเพียงชื่อรุ่นกับรูปของหูฟังและเคส Nokia E3500 Essential True Wireless ตามที่บอกไปข้างต้นว่าตัวหูฟังรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 สี น้ำเงิน /ดำ / ขาว ตัวที่เราจะมารีวิวให้ชมกันเป็นตัวสีดำค่ะ
ด้านในบุฟองน้ำกันกระแทก ด้านข้างกล่องก็จะเป็นคุณสมบัติต่างๆ ที่มีในของตัวหูฟังรุ่นนี้
- ใช้งานได้สูงสุด 25 ชั่วโมง
- เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0
- ระบบสัมผัส Touch Controls
- กันน้ำ IPX5
- มีโหมด Ambient
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวหูฟัง Nokia E3500 สีดำ
- เคสชาร์จสีเดียวกับตัวหูฟัง
- จุกหูฟังสำหรับเปลี่ยนอีก 2 ขนาด
- สาย USB Type C
- คู่มือการใช้งาน
ตัวหูฟังไร้สายเป็นแบบ In ear ออกแบบเรียบๆ สีพื้นดำล้วนบริเวณก้านเคลือบเงาสกรีนโลโก้ Nokia ส่วนที่ด้านเป็นผิวด้าน ตัวจุกซิลิโคนนิ่มใส่ได้นานไม่ระคายหู ตัวหูฟังน้ำหนักเบามากหนักเพียงข้างละ 5 กรัมเท่านั้น
ตัวเคสชาร์จสีเดียวกับตัวหูฟังใช้วัสดุที่เป็นผิวด้านแต่ก็แอบเปื้อนและเป็นรอยง่ายอยู่เหมือนกันค่ะ ด้านหน้าเคสชาร์จมีไฟบอกสถานะและช่องเสียบสาย USB Type C ตัวเคสก็น้ำหนักเบาขนาดกระทัดรัดเช่นกันค่ะ
การใช้งาน
ในส่วนของการใช้งานจะเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 แตะบริเวณหูฟังทั้ง 2 ข้างเพื่อเข้าสู่ Pairing Mode เปิด Bluetooth ในสมาร์ทโฟนเพื่อทำการเชื่อมต่อการใช้งาน
การควบคุมโดยการสัมผัสบริเวณก้านของตัวหูฟังทั้ง 2 ข้างที่เป็นตุ่มนูนขึ้นมา
ควบคุมเสียงเพลง
- แตะ 1 ครั้งด้านใดก็ได้ เป็นการหยุดและเล่นเพลง
- แตะ 2 ครั้งด้านขวา เป็นการเลื่อนเพลงถัดไป
- แตะค้างด้านขวา เป็นการเพิ่มเสียง
- แตะค้างด้านซ้ายเป็นการลดเสียง
- แตะ 2 ครั้งด้านซ้าย เพื่อเข้าสู่ Ambient Mode
ควบคุมการโทร
- แตะ 1 ครั้ง ด้านใดก็ได้เป็นการรับสาย
- แตะ 2 ครั้ง ด้านใดก็ได้เป็นการวางสาย
- แตะค้างเป็นการปฏิเสธสาย
หรือเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการสั่งงานหรือขอความช่วยเหลือด้วยเสียงกับ Google Assistant หรือ Siri โดยการแตะ 3 ครั้ง สามารถสั่งงานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการขอเส้นทาง หาร้านอาหาร หรือขอให้เปิดเพลงโปรดที่ต้องการได้ง่าย ๆ เชื่อมต่อได้ทุกที่
หูฟังไร้สาย Nokia Essential True Wireless มาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม. ช่วยเพิ่มมิติและเสียงเบสที่ชัดเจน ในขณะที่ composite diaphragm สร้างความถี่เสียงกลางและเสียงสูงได้อย่างกลมกลืนพอเหมาะ รองรับ aptX ลดการดีเลย์ระหว่างหูฟังเครื่องเล่นเพลง การดูหนังดูคลิปทางยูทูปจะไม่หงุดหงิดกับเสียงที่ไม่ตรงปาก
คุณภาพเสียงของ Nokia E3500 โดยรวมจะปรับมาแบบนุ่มนวล เสียงจะดูละมุน ทั้งเสียงสูง หลาง ต่ำ เสียงสูงก็จะไม่แหลมปรี๊ด ให้นึกถึงเวลากินต้มยำเราสามารถกินเป็นซุปเปล่าได้แบบไม่ต้องราดบนข้าวเพื่อลดเค็ม ฟังเพลงบัลลาด์ได้เพราะเวอร์วังมาก
ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีโดยติดตั้งไมโครโฟนรุ่นพิเศษข้างละ 2 ชุด ทำหน้าที่ตรวจจับคลื่นเสียงจากภายนอก พร้อมเทคโนโลยี Qualcomm cVc ในการประมวลผลที่แม่นยำ และรวดเร็วในการตัดเสียงรบกวน เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม หรือสามารถเปิดโหมด Ambient เพื่อได้ยินเสียงรอบข้าง เช่น ฟังเพลงในขณะทำงานหรือเดินบนท้องถนน
การสนทนาผ่านตัวหูฟังชัดเจนค่ะ เพราะ E5300 มีไมโครโฟน 4 ตัว ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงของเราชัดเจน ใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวัน เหมาะกับเป็นเพื่อนเดินทาง ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ 25 ชั่วโมงเมื่อชาร์จผ่านเคส สามารถชาร์จแบตเตอรี่กับเคสแบบพกพาได้ประมาณ 3 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นเวลามากพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน
หูฟังมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษเพียง 5 กรัม น้ำหนักเท่ากับกระดาษ A4 นอกจากนี้ยังมีการกระจายน้ำหนักให้มีความสมดุลพอเหมาะทำให้สวมใส่ได้สบาย และแข็งแกร่งทนทานด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX5 ใส่ออกกำลังกายอย่างวิ่งหรือทำกิจกรรมออกกำลังกายอื่นๆ หูฟังใส่กระชับไม่หลุดง่ายค่ะ
สรุปการใช้งาน
ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายคุ้มค่ากับราคาค่ะ ในเรตราคาไม่เกิน 3,000 มีทั้งโหมด Ambient คุณภาพเสียงดี ใครที่ชอบหูฟังที่ให้เสียงนุ่มละมุนไม่ผิดหวังกับเจ้าตัว Nokia E3500 แน่นอน น้ำหนักเบาใส่ได้นานทั้งวันไม่เจ็บหู มีให้เลือก 3 สี น้ำเงิน /ดำ / ขาว จำหน่ายในราคา 2,790 บาท
ติดต่อซื้อสินค้าได้ที่ https://www.facebook.com/MoretoLifeGadget