ONINAKI ถือเป็นหนึ่งในเกม RPG ที่สร้างโดยผู้ผลิตเกมจากญี่ปุ่น ที่แม้จะไม่ได้โดดเด่นเรื่องกราฟิก แต่ก็มีคนรอเล่น เพราะการที่ทีมงานเลือกที่จะใช้รูปแบบแอ็คชั่น RPG คล้ายกับคลาสสิกของตะวันตกอย่าง Diablo มาเป็นต้นแบบแต่ในโครงสร้างของเกม RPG จากญี่ปุ่นทำให้มันพอจะน่าสนใจอยู่บ้าง
โดยเกม ONINAKI สร้างโดยทีมงาน Tokyo RPG Factory ที่เคยฝากผลงานกับเกม I am Setsuna และ Lost Sphear และจัดจำหน่ายโดยค่าย Square Enix ซึ่งคราวนี้ ONINAKI ดูน่าสนใจกว่าเดิมเพราะมันมีความเป็นแอ็คชั่นมากกว่าเกม RPG เดิมๆแบบสองเกมแรก โดยเกมวางขายบน PS4 , PC และ Nintendo Switch
กราฟิกดูเชยเรียบๆเพลงประกอบชวนหลับ
งานด้านภาพของ ONINAKI ถือว่าอยู่ในระดับธรรมดามากๆสำหรับเกมในยุคนี้ โดยเกมเป็นมุมมองด้านบน เหมือนกับ Diablo ที่มีการใช้กราฟิกแบบเฉลเชดแบบการ์ตูนญี่ปุ่น ที่คาดว่าน่าจะถูกใจแฟนๆ แต่อย่างน้อยน่าจะใส่รายละเอียดมากกว่านี้หน่อย แถมคัทซีนในเกมไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาน่าสนใจเท่าที่ควร ทำให้ทุกอย่างใน ONINAKI ดูเรียบๆไปหน่อย
ส่วนเพลงประกอบในเกม ONINAKI ก็ยังคงไร้ความโดดเด่นเหมือนกับกราฟิก ที่ไม่มีจุดอะไรให้ฟังแล้วน่าตื่นเต้นหรือชวนให้ติดหูอะไรเลย และยังคงมีเพลงที่ชวนนอนหลับเหมือนเดิม แต่ก็ถือเป็นเรื่องปรกติของเกมที่สร้างโดยทีมงาน Tokyo RPG Factory อยู่แล้ว
เกมเพลย์สนุกแต่ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่ามันคือเกมแนว Diablo ฉบับทีมงานญี่ปุ่นสร้าง ทำให้เกมเพลย์มาในรูปแบบแอ็คชั่น RPG ที่ผู้เล่นจะมีการเรียกใช้การโจมตีและท่าไม้ตายได้อย่างง่ายดาย ตามปุ่มกด โดยมีข้อจำกัดที่เมื่อใช้ท้าไม้ตายแล้วต้องรอเวลาสักครู่ให้ค่าพลังเต็มถึงจะใช้ใหม่ได้ โดยเกมเป็นมุมมองด้านบนเปลี่ยนมุมกล้องไม่ได้ ทำให้ยิ่งคล้ายเกม Diablo เข้าไปใหญ่
โดดเด่นที่ระบบ Daemon
โดยจุดเด่นของเกมคือ การเรียกใช้งาน Daemon ปีศาจที่เหมือนกับเป็น สแตนด์ แบบการ์ตูน Jojo ของตัวละครหลักที่เราสามารถเรียกออกมาช่วยโจมตีได้ผ่านการกดท่าไม้ตาย โดยผู้เล่นจะสามารถเลเวลอัพทั้งตัวละครเราและตัว Daemon ที่ใช้ระบบเดินสายและอัพเกรดค่าพลังและเพิ่มท่าไม้ตายใหม่ๆ และผู้เล่นสามารถเลือกปรับแต่งจัดวางตามปุ่มกดได้อย่างง่ายดาย และแน่นอนว่าเมื่อเล่นไปเรื่อยๆจะมีตัว Daemon ใหม่ๆมาให้ใช้งาน ที่ถือเป็นจุดแข็งที่สุดของเกมนี้
ความโดดเด่นอีกส่วนของเกมคือการดำเนิน เรื่องราวของโลกคนเป็นและโลกหลังความตาย ที่ผู้เล่นสามารถสลับเปลี่ยนไปมาได้ทั้งสองโลก เพราะตัวเอกสามารถสื่อสารกับวิญญาณคนตายได้ และใช้ในการแก้ปริศนาและดำเนินเรื่องราวไปต่อ โดยเราต้องระมัดระวังในฉากดันเจี้ยนเพราะเราต้องค่อยๆปลดล็อกเอเรียในฉากผ่านการต่อสู้กับศัตรูระดับบอสที่เมื่อกำจัดแล้วจะเปิดเอเรียของโลกหลังความตายได้
อย่างไรก็ตามแม้เกมจะดูเรียบๆดำเนินเรื่องราวที่ค่อยข้างช้า และคัทซีนชวนหลับแต่ผู้เล่นสามารถกดข้ามได้ หรือจะเร่งความเร็วได้ทำให้เกมเพลย์ดูเร็วขึ้น และเราสามารถวาร์ป ไปยังจุดต่างๆของแผนที่ได้ และยังมีการระบุว่าต้องไปทำอะไรที่ไหนทำให้เราเล่นได้ลื่นไหลไม่มีติดขัด และการย่นย่อระบบที่เข้าใจง่ายทำให้มันยังคงเล่นได้สนุก แม้รูปแบบจะดูเชยไปหน่อย
โดยรวมแล้วเกม ONINAKI ถือเป็นหนึ่งในเกม JRPG ที่มีการนำรูปแบบของเกมตะวันตกมาปรับแต่งใช้ได้ลงตัว แม้ว่าอาจจะไม่ใช่เกมฟอร์มยักษ์ที่มีกราฟิกระดับเทพ แต่ก็ถือว่าทำได้สนุกมีอะไรให้ค้นหามากมายและปรับแต่งตัวละครได้หลากหลาย แฟนๆเกมแนว RPG ก็หามาเล่นได้แบบไม่เสียดายเงินแน่นอน