OPPO A17 สมาร์ตโฟนใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่หัดใช้ สวยงามสดใสตั้งแต่การออกแบบภายนอก รวมถึงสีสันที่นำมาเลือกใช้ แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh และกล้องถ่ายภาพความละเอียด 50MP และมาพร้อมกับราคาคุ้มค่าครับ
OPPO A17 เปิดตัวมาพร้อมกับฝาหลังตัวเครื่อง Premium Leather-Feel design จากเทคนิคการผลิตพิเศษที่ให้สัมผัสเนื้อผิวคล้ายวัสดุหนัง ผิวฝาหลังเคลือบด้วยรังสียูวีโดยมีการทำลวดลายเม็ดนูนให้คล้ายหนังแท้ จับถือรู้สึกสบายมือ โดดเด่นครับ มีความสวยงามในตัวเองไม่ซ้ำใคร และพื้นผิวรุ่นนี้ยังมีความทนทานมากกว่าเทคนิคการเคลือบผิวแบบอื่นๆ อีกด้วย
ใช้งานไม่เกิดคราบรอยนิ้วมือ ไม่เกิดความชื้นในขณะถือใช้ และการประกอบก็มาในมาตรฐานกันน้ำ IPX4 อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งรุ่นราคาเบาจาก OPPO ที่ยังคงใส่ใจในการผลิตตัวเครื่องอย่างมาก โดย OPPO A17 มีความบางและเบา ตัวเครื่องมีขนาด 164.16 X 75.55 X 8.29 มิลลิเมตร และหนักแค่ 189 กรัม แม้ภายในจะใส่แบตเตอรี่มาให้ใหญ่ถึง 5,000mAh ก็ตาม
การออกแบบตัดขอบเหลี่ยมดูสวยงามมากทีเดียว โดย OPPO A17 มีเข้ามาจำหน่ายในไทยสองสี คือสีดำ Midnight Black และสีฟ้า Lake Blue ซึ่งเป็นสีที่เห็นในรีวิวนี้
ฝาหลังคล้ายหนังสีฟ้าดูละมุนตาสวยครับ ติดตั้งกล้องหลังความละเอียดสูง 50MP ให้กล้องหลังความละเอียดที่สูงพอสมควรในเรทราคานี้ของ OPPO และมากับกล้อง VGA อีกหนึ่งตัวช่วยจับโฟกัส ในเรื่องของโหมดการถ่ายภาพยังคงมากับ Portrait Retouching ที่จะเสริมความสวยหล่อในเกรดงานของ OPPO ให้เราอยู่อย่างแน่นอนครับ ^^
หน้าจอขนาดใหญ่ IPS LCD 6.56นิ้ว HD+ สีสันสวย สดกำลังดีไม่แสบตา มาตรฐานขอบเขตสี DCI-P3 100%, NTSC Color Gamut 96% ภาพที่เห็นสวย แสงสบายตา ความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 600 nits แต่ในยามใช้ในที่แสงน้อย ก็ลดความสว่างลงมาได้ถึงต่ำสุดแค่ 2 nits ลดความเมื่อยล้าของสายตาในเวลาใช้งานกลางคืน
ขอบจอเล็กมากโดยมีสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 89.8% เมื่อรวมกับการออกแบบขอบเครื่องที่ตัดพอดีกับหน้าจอเลยดูกระทัดรัดด้วย ใช้การออกแบบจอแบบ Waterdrop วางกล้องหน้าความละเอียด 5ล้านพิกเซล รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งาน
และในด้านของคุณภาพเสียง ก็ต้องบอกว่า OPPO A17 มีเสียงลำโพงที่ดังมาก มันมีระบบ Ultra-Volume ที่จะเพิ่มเสียงจากลำโพงให้ดังมากขึ้นกว่าปกติไปได้ถึง 200% เลยทีเดียว เสียงดังมากครับ โดยจะรองรับระบบเสียง Dirac 3.0 ที่อัปเกรดมาให้อีกด้วยครับ
สมาร์ตโฟนรุ่นนี้แบตอึดมากครับ จากที่ทดสอบใช้งานมาจะสามารถอยู่ได้ข้ามวันเลยทีเดียว จัดสรรพลังงานได้ดี ตัวเครื่องเองก็ไม่กินพลังงานมากเกินไป และมีฟังก์ชันการจัดการแบตเตอรี่หลายตัวครับ ทั้งการเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในระหว่างวันเช่น Super Power Saving Mode ที่จะยืดอายุแบตเตอรี่ในขีดจำกัดสุดท้าย ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นถึงประมาณ 3 เท่า จะปรากฏมาให้เราเปิดใช้งานได้เองอัตโนมัติ หรือเราเข้าไปเปิดได้ตามต้องการในการตั้งค่าแบตเตอรี่ โดยโหมดนี้จะปิดการทำงานเบื้องหลัง และเหลือไว้แค่สิ่งสำคัญและสิ่งที่เราเลือกไว้เท่านั้นครับ เอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่นเหลือแบตไว้ติดตามหาคนมารับกลับบ้านเป็นต้น
และฟังก์ชันที่ตัวเครื่องจะทำงานให้เราเองในยามกลางคืน เช่น Super Nighttime Standby การใช้พลังงานในระดับน้อยนิดเพื่อการสแตนด์บายข้ามพ้นหนึ่งคืนด้วยการใช้พลังงานแค่ไม่เกิน 2-3% เท่านั้น ในกรณีเราลืมเสียบชาร์จแบต หรือไปเที่ยวแล้วลืมที่ชาร์จไว้ที่บ้าน ฟังก์ชันนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง ไม่ให้สิ้นเปลืองแบตไปโดยไม่จำเป็นในยามที่เรานอนหลับครับ
และฟังก์ชันสำหรับการยืดอายุแบตเตอรี่ในระยะยาว ตัวระบบจะทำการกำหนดแผนการชาร์จพลังงานเข้าแบตเตอรี่ โดยจะคงเหลือบางส่วนเอาไว้แล้วค่อนชาร์จจนเต็มก่อนที่เราจะตื่นนอน เพื่อให้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด โดยไม่เสื่อมสภาพไปก่อนเวลาอันควร เราสามารถเลือกเปิดหรือปิดฟังก์ชันนี้ได้เองในการตั้งค่าหัวข้อ “แบตเตอรี่” ได้เช่นกันครับ
รองรับการเชื่อมต่อ 4G Dual Standby ใช้ถาดใส่ซิมแบบสามสล็อต สามารถเพิ่มเติมความจำได้ด้วย micro SD Card และรองรับสัญญาณ Wi-Fi ทั้ง 2.4GHz และ 5.0GHz และมีที่สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่องด้วยครับ เป็นปุ่มเพาวเวอร์ในตัว
ในการผลิตตัวเครื่องของ OPPO เขาจะมีมาตรฐานการผลิตที่เรียกว่า OPPO Enduring Quality ซึ่งเป็นการทดสอบความทนทานของตัวเครื่องในหลายๆ ส่วนก่อนการผลิตออกมาจำหน่ายจริงครับ เช่นความทนต่อแรงบิด, แรงกด ทดสอบความทนทานของปุ่มกดต่างๆ ให้ใช้งานได้เป็นแสนๆ ครั้งโดยต้องไม่เสียหาย ทดสอบความทนทานต่อความชื้นสูงหรืออุณหภูมิที่สูง การทดสอบของ OPPO ครอบคลุมปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการใช้งานมากกว่า 320 รายการ จัดเต็มมากกับงานด้วยการผลิต ซึ่งรวมถึงมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ที่ได้มานี่ก็เช่นกัน ฉะนั้นอุปกรณ์ของ OPPO ในทุกรุ่นจึงรู้สึกได้ถือความแข็งแรงทนทานครับ แม้จะเป็นเครื่องที่ทำราคามาได้ดีแบบ OPPO A17 ด้วยเช่นกัน ได้จับตัวจริงจะรู้สึกได้ถึงความมั่นใจในด้านความทนทานเลยครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีเคสใสซิลิโคน พร้อมกับที่ชาร์จ 10W และสายดาต้ามาให้ภายในกล่องนะครับ ซึ่งรุ่นนี้จะไม่แถมชุดหูฟังมาให้และพอร์ตชาร์จด้านล่างตัวเครื่องจะใช้เป็นพอร์ท Micro USB ครับ
การใช้งานภายใน
OPPO A17 รันบนระบบ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1 ใหม่สุดไม่ต้องรออัปเดต ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G35 ชิปเซ็ตระดับ Entry-Level เน้นประหยัดพลังงานและการใช้งานทั่วๆ ไป จากที่ทดสอบสามารถเล่นเกมที่กราฟิกไม่สูงมากอย่างเกม MOBA เช่น ROV หรือ LOL และเกมที่เด็กนิยมกันอย่าง PUBG หรือ Roblox ก็ถือว่าพอไหว แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่ต้องการจะนำไปเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ภาพตระการตา สเป็กนี้ไม่เหมาะครับ
มากับ ROM ขนาด 64GB และ RAM 4GB แต่ OPPO A17 จะมีฟีเจอร์ RAM Expansion หรือการขยายแรมออกไปได้อีกสูงสุด 4GB ด้วยขนาดรวม 4GB+4GB ถือว่าใช้งานสบายใจครับ ไม่หนืดไม่ช้า และระบบค่อนข้างเสถียรอยู่แล้วสำหรับ ColorOS 12.1 ของ OPPO
ในระบบของ ColorOS 12.1 จะมีฟังก์ชันอย่างการเปิดแอปซ้อนกันหลายแอป ทั้งแบบแบ่งหน้าจอใช้งานหรือเปิดเป็นหน้าต่างป๊อบอัพ ด้วยแรมขนาด 4GB+4GB อยากทำงานสองแอปพร้อมกันก็สบายๆ ครับ
มีการออกแบบมาเพื่อครอบคลุมผู้ใช้งานหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นใช้งานเองก็มีการปรับแต่งเพื่อความสวยงามอย่างเช่นธีมสโตร์ ปรับสีไอคอน หรือความเป็นส่วนตัวและความคล่องตัวในการใช้ เช่นการล็อคแอปพลิเคชั่นไว้ด้วยรหัส หรือการโคลนแอปให้สามารถใช้งานได้สองบัญชีในเครื่องเดียวเป็นต้นครับ
รวมถึงระบบยังคำนึงถึงการใช้ชีวิตของวัยรุ่น ที่ชอบถ่ายภาพและชอบแชร์ภาพออกไปซึ่งอาจจะเผยข้อมูลส่วนตัวที่เราไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้ เช่นตำแหน่งที่เราเคยไปถ่ายภาพหรือข้อมูลต่างๆ ของอุปกรณ์ถ่ายภาพ สิ่งเหล่านั้นปกติมันจะถูกฝังอยู่ในข้อมูล meta ของรูปครับ เราสามารถสั่งให้เครื่องทำการลบออกก่อนการแชร์ได้ทันที
ฉะนั้นเหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่มากๆ โดนเฉพาะเสียงจากลำโพงที่ดังเป็นพิเศษ หน้าจอใหญ่ ราคาไม่แพง ตัวเครื่องทนทานทนไม้ทนมือ แบตเตอรี่อึดใช้งานได้นาน มีมาตรฐานที่ดีของเครื่องจากแบรนด์ใหญ่อย่าง OPPO และตัวระบบก็ทำมารองรับทุกเพศและทุกวัยครับ ค่อนข้างครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ได้กว้างดีทีเดียว
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังตัวหลักความละเอียดสูง 50MP มีเซนเซอร์เสริมช่วยกล้อง VGA อีกหนึ่งตัว รองรับการซูมภาพดิจิทัลได้สูงสุดที่ 5X โดยตัวกล้องมีตัวปรับเร่งสีด้วย AI ให้ภาพสีสดใสขึ้นโดยยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ และมากับโหมดถ่ายภาพกลางคืนครับ
มีโหมดการถ่ายภาพที่ช่วยปรับใบหน้าเนียนใสของบุคคล Portrait Retouching ซึ่งรองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวีดีโอเลยครับ และ Portrait Retouching ทำงานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ก็ยังปรับแต่งหน้าเนียนใสให้เราได้ทั้งสองโหมดเช่นกัน
และแม้ผู้ถ่ายจะไม่เข้าใจมุมกล้องและทิศทางแสงก็ยังมี HDR เข้ามาช่วยครับ เกลี่ยสีและแสงเพื่อให้ภาพยังคงมีรายละเอียด และใบหน้าในภาพถ่ายบุคคลก็จะดูสว่างไม่มืดคล้ำด้วย
ตัวกล้องมีการใส่ฟิลเตอร์ปรับอารมณ์ภาพมาให้ทั้งโหมดภาพนิ่ง 15 ฟิลเตอร์ และการถ่ายวีดีโออีก 10 ฟิลเตอร์ ปรับแต่งอารมณ์ภาพได้ตามแต่จะสร้างสรรค์ครับ เพิ่มความสนุกให้การถ่ายภาพ
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ความละเอียดไม่สูงนัก แต่แน่นอนไม่ใช่เรื่องที่จะมาลดคุณภาพของกล้องหน้า OPPO ได้ ^^ เพราะอย่างที่บอก กล้องหน้าของ OPPO A17 มาพร้อมกับ Portrait Retouching ที่จะคอยปรับความเนียนใสแบบสวยหล่อจบหลังกล้องได้ในทันที และกล้องหน้าของรุ่นนี้มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพบุคคลละลายหลังครับ ที่ปรับระยะชัดลึกชัดตื้นได้ 100 ระดับ
ภาพจากกล้องหน้าของ OPPO A17
สรุปท้ายรีวิว
ราคาดี เครื่องสวย ฝาหลังออกแบบมาได้โดดเด่นมาก สวยงามและให้ความรู้สึกแบบเครื่องพรีเมียม งานประกอบแน่นหนาในมาตรฐาน OPPO Enduring Quality ทนทานครับน่าจะใช้งานได้ยาวนาน ได้มาตรฐานกันน้ำ IPX4 ทนต่อความชื้นและน้ำกระเซ็นไม่เสียหายง่ายๆ
หน้าจอใหญ่สีสันจอสวย และปรับระดับแสงได้สบายตาแม้ใช้งานในที่แสงน้อย ให้เด็กหรือผู้ใหญ่ในบ้านใช้ก็เหมาะสมเพราะมีโหมดต่างๆ ทำมารองรับไว้ ลำโพงเสียงดังฟังชัด สามารถเร่งเสียงให้ดังมากกว่าปกติได้ 200% โดยเสียงไม่แตก
กล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียดสูง สำหรับการเก็บภาพในการท่องเที่ยวได้ชัดเจน มาพร้อมกับ Portrait Retouching การปรับแต่งใบหน้าเนียนใสตัวเก่งของ OPPO ทำงานให้กับเราได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า รวมถึงการถ่ายวีดีโอ คุณภาพกล้องทั้งหน้าและหลังถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ
OPPO A17 เปิดจำหน่ายในราคา 5,499 บาท
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/oppothai
รายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่ : https://bit.ly/3SG7hUA
