รีวิว OPPO A38 จอสดใสสว่างชัด 720nits ชาร์จไว 33W SUPERVOOC คุ้มค่ากับความจุ 128GB

OPPO A38 สมาร์ตโฟนตัวใหม่ มากับ ROM ขนาดใหญ่ 128GB และ RAM 4GB ที่สามารถขยายเพิ่มได้อีก 4GB ใช้งานได้ลื่นไหลด้วยหน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz แสงสว่างสูง สู้แสงได้ดีด้วยหน้าจอ Sunlight Display พร้อมโหมด Ultra Volume ที่สามารถเพิ่มเสียงลำโพงได้ดังกว่าปกติถึง 300% ใช้งานได้สนุกพร้อมทุกงานเอ็นเตอร์เทนที่มาในราคาไม่แพง 5,499 บาท

เครื่องสวย งานดี เป็นสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคาสุดคุ้มจากทาง OPPO ที่น่าสนใจครับ

OPPO A38 เป็นสมาร์ตโฟนที่ดูเหมาะกับการใช้งานด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ อย่างมากครับ ด้วยราคาเบาๆ แต่มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาดใหญ่ (ROM) 128GB และ RAM 4GB ที่สามารถขยายเพิ่มเติมได้อีก 4GB และหน้าจอ Sunlight Display 6.56 นิ้ว เป็นจอสีสวยสดใส แสงสว่างดีมาก ใช้งานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้านภาพก็ยังชัดเจน รีเฟรชเรทสูง 90Hz ความละเอียด HD+
ขอบจอบาง วางกล้องหน้าความละเอียด 5MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งาน และกินพื้นที่ติดตั้งกล้องเพียงนิดเดียวเท่านั้น ด้านหน้าเครื่องเป็นจอเต็มๆ ด้วยสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ 89.8% ดูหนังเล่นเกมได้อย่างเต็มที่แน่นอน

สู้แสงได้ในเวลานำไปใช้งานภายนอกบ้าน ด้วยความสว่างสูงสุดถึง 720nits เลยทีเดียว

ในด้านระบบเสียงก็ดังชัดได้เต็มที่ครับ ด้วยการใส่ระบบ Ultra Volume ที่สามารถเพิ่มเสียงลำโพงได้ดังกว่าปกติถึง 300% เสียงดังมาก เปิดดังเสียงไม่แตก ใช้งานในห้องส่วนตัว ทั้งเสียงเรียกเข้าหรือเสียงเล่นมีเดีย ชัดเจนเกินจะพอ

ตัวเครื่องตัดเหลี่ยมออกแบบมาทันสมัย พกพาง่ายด้วยความบางตัวเครื่องเพียงแค่ 8.16 มม. น้ำหนัก 190 กรัม โดยภายในใส่แบตเตอรี่เข้ามาให้ใหญ่เต็มสูตร ขนาด 5000mAh

OPPO A38 ยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กราคาเบาที่ใส่ระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC เอามาให้ใช้ด้วยครับ สามารถชาร์จแบตเต็มได้ในเวลาไม่เกิน 75 นาที

กล้องหลักด้านหลัง เป็นกล้อง AI 50MP ทำงานร่วมกับกล้องโบเก้ช่วยในการถ่ายภาพบุคคล 2MP การออกแบบส่วนบริเวณกล้องทำได้สวยงาม เป็นพื้นที่แบบลายเส้น กับชุดกรอบเลนส์กล้องที่เวลาสะท้อนกับแสงจะเกิดลวดลายคล้ายแผ่น CD มีรายละเอียดที่ดี และดูใส่ใจในการออกแบบครับ

OPPO A38 โดดเด่นด้วยการผลิตในแบบฉบับของ OPPO Glow สวยงาม ผิวสัมผัสดี และไม่มีลายนิ้วมือ โดยจะมาใน 2 สีให้เลือก ได้แก่สีทอง Glowing Gold สีที่ดูแวววาวและให้แสงสีทองที่จะเปลี่ยนเป็นเหลือบส้มเมื่อโดนแสงมากระทบ เป็นสีโทนสว่างแบบยามเช้า และอีกหนึ่งสีโทนเข้มนั้นคือ สีดำ Glowing Black สีดำที่ไม่ใช่ดำเรียบๆ ธรรมดา แต่มีพื้นผิวแวววาวเล่นกับแสงได้ด้วยเทคนิคการผลิตของ OPPO Glow ซึ่งเป็นสีเครื่องที่เห็นในรีวิวบทความนี้ครับ

ขอบตัดเหลี่ยมจับกระชับเข้ามือ มีที่สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่องตรงปุ่มพาวเวอร์ รองรับ 2 ซิมการ์ด และใส่ micro SD Card ได้พร้อมกันในสล็อตที่สาม

การออกแบบดี ใส่ใจมาในทุกรุ่นอยู่แล้วสำหรับสมาร์ทโฟน OPPO สีสวย ตัวเครื่องบาง ขอบตัดเหลี่ยมดูกระชับ งานประกอบแน่นหน้าครับ จับสัมผัสรู้สึกทนทาน โดยทาง OPPO ได้มีการทดสอบความทนทานอุปกรณ์ของเขาในทุกๆ รุ่นอยู่แล้ว แม้จะเป็นเครื่องราคาเบาๆ อย่าง OPPO A38 ก็ผ่านมาตรฐานการทดสอบจาก OPPO Lab มาอย่างดีครับ ทนทานต่อแรงบิด แรงกด และพอร์ตต่างๆ ก็ทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีมาก

OPPO A38 ได้ผ่านมาตรฐาน “36-Month Fluency” หรือการทดสอบอย่างเข้มงวดจากห้องปฏิบัติการของ OPPO ว่าตัวโทรศัพท์จะสามารถทนทานและมีความเสื่อมถอยของประสิทธิภาพน้อยกว่า 10% เมื่อมันถูกใช้งานไปในทุกๆ วัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 36 เดือน หรือประมาณ 3 ปี ไม่เสื่อมหรือชำรุดเสียไปง่ายๆ ก่อนเวลาอันควร และการประกอบก็อยู่ในมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 มาอีกด้วยครับ

เรียกได้ว่าเป็นรุ่นเล็ก แต่มาจากแบรนด์ใหญ่ OPPO มาตรฐานชัดเจนว่าได้เครื่องที่ทนทานอย่างแน่นอนครับ \ พร้อมเคสใสซิลิโคน และสาย USB Type-C

ประสิทธิภาพการใช้งาน

OPPO A38 เลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 ตัวประมวลผลระดับเริ่มต้นที่มีความแรงพอตัวและได้ราคาที่ดี มาพร้อมกับ ROM ขนาดใหญ่ 128GB และ RAM 4GB ที่สามารถขยายเพิ่มเติมได้อีก 4GB ระบบภายในใช้ Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13.1

รวมกันแล้วก็เป็นสเปคเครื่องที่ใช้งานทั่วไปได้ดีครับ เล่นเกมทั่วไปได้ และมีแรมขนาดใหญ่ทำให้เข้าออกแอปพลิเคชั่นได้ไว ไม่ติดขัดอะไรสมราคาครับ แต่ภายในได้มีการใส่ระบบ Dynamic Computing Engine ซึ่งเป็นระบบเฉพาะของ OPPO มันถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเข้ามาช่วยเร่งให้ระบบของเขา มีความเร็วและความเสถียรมากขึ้นไปมากกว่าปกติ

Dynamic Computing Engine จะถูกวางไว้เป็นศูนย์กลางของระบบ โดยจะเข้ามาแก้ไขความผิดพลาดในเรื่องการจัดสรรทรัพยากรเครื่อง ที่ปกติแต่เดิม ตัวระบบจะยังมีการจัดสรรทรัพยากรเพื่อนำไปเตรียมใช้ประมวลผลมากเกินจำเป็น ทำให้สูญเสียทั้งทรัพยากรเครื่องและเสียพลังงานเปล่าประโยชน์มากไป และอีกหนึ่งหน้าที่คือการลดเวลาในการเรียกใช้หน่วยความจำเมื่อเราสลับแอปใช้งาน

ซึ่งจุดนี้จะเป็นเหตุผลที่สมาร์ทโฟนในแต่ละรุ่นแม้จะใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวหรือสเปคเท่าๆ กันแล้ว แต่ก็จะมีการใช้พลังงานของแบตที่แตกต่างกัน และให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่แตกต่างกันนั้นเองครับ และด้วยเทคนิค Dynamic Computing Engine ของ OPPO จะทำให้แน่ใจได้ว่า พวกเขาจะสามารถรีดประสิทธิภาพการทำงานและการตอบสนองของเครื่องออกมาได้อย่างดีที่สุด และช่วยประหยัดพลังงานในการใช้งานในแต่ละวันอีกด้วยครับ

จากทดสอบใช้งาน OPPO A38 ระบบมีความลื่นไหลและเสถียรดีมากครับ ไม่ค้าง ไม่ช้า ไม่แลค หรือมีอาการรีสตาร์ทให้เจอเลยตลอดการทดสอบ และตัวเครื่องยังมีระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องที่ยาวนานอย่างมากอีกด้วย เพราะสเปคเครื่องไม่ได้กินพลังงานมากนัก รวมกับแบตเตอรี่ที่ให้มาก้อนใหญ่ พร้อมกับระบบที่จัดสรรพลังงานได้ดีมาก ทำให้เราสามารถใช้งาน OPPO A38 ได้ข้ามวันสบายๆ สำหรับวันทำงานทั่วไป อยู่ได้ 2 ถึง 3 วัน และสามารถชาร์จแบตเตอรี่กลับมาได้ไวมากด้วยเทคโนโลยี 33W SUPERVOOC  อีกด้วยครับ หมดห่วงได้เลยเรื่องพลังงานของมือถือรุ่นนี้

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh หน้าจอลื่นไหล 90Hz สู้แสงด้วย Sunlight Display และโหมด Ultra Volume เพิ่มเสียงลำโพงดังขึ้นได้อีก 300% เปิดดูหนังหรือเล่นเกมได้ทั้งวัน เห็นภาพได้ชัดทั้งในบ้านและนอกบ้าน ถูกใจสายเอ็นเตอร์เทนแน่นอน

มีระบบปรับแต่งเสียง Dirac 3.0 ปรับจูนเสียงให้เหมาะกับคอนเทนต์ที่เรากำลังใช้งานได้อัตโนมัติ

มีขนาด Ram ที่ใหญ่ เวลาเปิดทำงานสองแอปพลิเคชั่นพร้อมกันก็จะทำได้ลื่นอยู่ครับ สามารถแบ่งทำงานได้ทั้งแบบเป็นหน้าต่างป๊อบอัพ และแบบแบ่งครึ่งหน้าจอ ไม่มีปัญหาในการเข้าออกแอปสลับใช้งานใดๆ

ประสิทธิภาพดีครับ เล่นเกมได้ไม่ช้าหรือแลคเกินไป เกมกราฟิกทั่วไปเล่นได้ลื่นเลย มีโหมดเกมที่คอยปรับระบบและเร่งประสิทธิภาพเครื่องให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมมาให้ด้วย

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหลัง AI 50MP ความละเอียดสูงดีครับ ทำงานด้วยเทคโนโลยี Four-in-One Pixel Binning หรือการรวมสี่พิเซลให้กลายเป็นพิกเซลรับแสงที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น เก็บแสงได้มากขึ้น ทำงานร่วมกับกล้องโบเก้ 2MP ช่วยจับโฟกัสบุคคลเพิ่มความฉลาดในการตัดภาพฉากหลังออกจากบุคคลได้คมสวยมากขึ้น

มากับ AI Portrait Retouching ฟังก์ชั่นการปรับแต่งใบหน้าตัวเก่งของ OPPO ที่สามารถปรับใบหน้าได้เนียน ใส ดูสวยเป็นธรรมชาติด้วยการเลือกปรับระดับรีทัชได้ละเอียดมากถึง 100 ระดับ โดยรองรับการใช้งานได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าความละเอียด 5MP ของตัวเครื่องด้วย และยังรองรับการปรับใบหน้าได้แบบเรียลไทม์ในการถ่ายภาพวีดีโอด้วยเช่นกัน ปรับหน้าเนียนให้กับเราได้ทั้งหมดเลย

ตัวกล้องมีทั้ง AI และ HDR คอยช่วยในการปรับสีและแสงของภาพ โฟกัสได้ไว รองรับการซูมภาพแบบดิจิทัลได้ 5X ภาพออกดูสดใสดีครับ จัดการ WB ได้ดีสีไม่เพี้ยน มีโหมดภ่ายภาพกลางคืน ช่วยลดนอยส์และลดการสั่นไหวของภาพให้ด้วยเช่นกัน

โหมดถ่ายภาพบุคคล เลือกระดับชัดลึกชัดตื้นและใส่ฟิลเตอร์ปรับสีภาพได้หลายฟิลเตอร์ครับ

และกล้องหน้าสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ละลายหลังได้ มากับ AI Portrait Retouching ฟังก์ชั่นการปรับแต่งใบหน้าได้เหมือนกล้องหลังด้วยเช่นกัน

สรุปท้ายรีวิว

OPPO A38 สมาร์ทโฟนใช้ง่าย ราคาไม่แพง 5,499 บาท ตัวเครื่องสวยงามและมีความคงทน ด้วยการผ่านมาตรฐาน 36-Month Fluency ใช้งานนาน 3 ปีเครื่องไม่เสื่อมสภาพไปมากกว่า 10% กันน้ำกันฝุ่น IP54 ระบบดี มีความเสถียรสูง ไม่รวน ไม่ค้าง ไม่ช้า ใช้งานได้อีกยาวนาน

ประสิทธิภาพการใช้งานเหมาะกับด้านความบันเทิงอย่างมาก หน้าจอ Sunlight Display ขนาดใหญ่ 6.56 นิ้ว สู้แสงได้ดีด้วยความสว่างสูงสุด 720nits รีเฟรชเรทสูง 90Hz และลำโพงเสียงดังชัดด้วยความสามารถในการเร่งเสียงให้ดังมากกว่าปกติถึง 300%

ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh จัดสรรพลังงานได้ดี อยู่ใช้งานได้เต็มวัน และรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W SUPERVOOC ชาร์ตเต็มได้ในเวลาแค่ 75 นาทีเท่านั้น

ครบเครื่องในราคาไม่แพงครับ และได้ของมาตรฐานดีจากแบรนด์ใหญ่อย่าง OPPO อีกด้วย มั่นใจได้ทั้งในเรื่องความทนทานและความปลอดภัยในการใช้งาน

OPPO A38 วางจำหน่ายในราคา 5,499 บาท มีให้เลือกสองสี สีทอง Glowing Gold และสีดำ Glowing Black สามารถไปสัมผัส ไปทดลองได้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เปิดจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป