OPPO Reno3 Pro สมาร์ทโฟนเครื่องล่าสุด ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ความละเอียดสูงที่สุด ระดับ 44 ล้านพิกเซล และมาพร้อมฟังก์ชั่นการกล้องสำหรับคนรักการถ่ายภาพเยอะมากที่น่าสนใจ ผมจะพามารู้จักกับมันกันครับ ในรีวิวนี้
OPPO Reno3 Pro เป็นเครื่องแรกของโลกและของ OPPO เองด้วย ที่ใช้กล้องหน้าคู่ Dual Punch-hole Cameras ความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล ทำงานคู่กันกับ Depth of Field Lens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
โดยเจ้าตัว 2 ล้านพิกเซลนี่ก็คือเลนส์สำหรับการทำรทำหน้าชัดหลังเบลอ โดยจะทำหน้าที่การวิเคราะห์ระยะวัตถุเพื่อทำภาพชัดลึกชัดตื้นนั้นเองครับ ทำให้ภาพถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าจะมีมิติชัดลึกชัดตื้นที่มีความเป็นธรรมชาติด้วยเลนส์เฉพาะตัวนี้ และทำให้โฟกัสที่ตัวแบบได้ดีและคมขึ้น ส่วนกล้องหลักก็เพื่อเก็บรายละเอียดทั้งหมด โดยสามารถใชในโหมดความละเอียดสูงสุดได้ถึง 44 ล้านพิกเซล
กล้องหน้ามีการวางไฟ LED รอบตัวกล้องเอาไว้แบบเก๋ๆ เวลาเรียกใช้งานกล้องหน้า ไฟ LED ก็จะวิ่งแสดงออกมาเป็นการแจ้งว่าพร้อมใช้งาน สวยดีทีเดียว
ในเรื่องของฮาร์ดแวร์โมดูลกล้องที่ดีก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งครับ แต่กล้องหน้าของ OPPO Reno3 Pro มีให้มากกว่านั้นก็คือซอฟท์แวร์ เพราะตัวระบบกล้องของ OPPO Reno3 Pro มีการออกแบบให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ในทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าสภาพแสงไหน เป็นกล้องหน้าที่มาพร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืนและ HDR สำหรับถ่ายภาพย้อนแสงในเวลากลางวัน ฉะนั้นไม่ว่าจะแสงตอนไหน ก็สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้เมื่อเราต้องการครับ ^^
โหมดเซลฟี่สำหรับการถ่ายตอนกลางคืน Ultra Night Selfie Mode ช่วยให้ใบหน้ายังคงคมชัดไม่เบลอพร่ามัว และระบบ HDR ช่วยในการถ่ายภาพแสงกลางวัน จะเห็นว่าภาพมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจน กลางคืนภาพไม่วุ้นไม่เละ ส่วนภาพย้อนแสงกลางวันรายละเอียดไม่หายหรือหน้ามืดคล้ำ ซึ่งระบบเหล่านี้เป็นระบบอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้เรียกใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ต้องเข้าใจอะไรยุ่งยากแค่เปิดโหมดที่ต้องการไว้ แล้วก็ถ่ายภาพเซลฟี่ได้ทันที แม้ในสภาพแสงที่มืดมากแบบนี้ ปกติกล้องมือถือถ่ายเซลฟี่ไม่ไหวแน่นอนครับ
แต่ใน Ultra Night Selfie Mode จะใช้เทคนิคการถ่ายภาพกลางคืนเพื่อดึงรายละเอียดใบหน้าขึ้นมาได้สบายๆ ถ้าอยากจะถ่ายตอนไหน อยากได้มุมเดิมเช้าหรือค่ำก็ชัดได้เสมอ
ด้วยการทำงาน AI จะคอยช่วยปรับแต่งใบหน้าของแบบที่ถ่ายให้ดูใสและเป็นธรรมชาติด้วย AI Beauty ที่ปรับแต่งได้เองตามใจเรา หรือจะให้ระบบคอยจัดการให้ก็สามารถทำได้ครับ อยากสวยใสแค่ไหนเลือกเอา หรืออยากได้ภาพจากกล้องหน้าชัดๆ ก็เลือกเปิดโหมดภาพขนาด 44 ล้านพิกเซลก็ได้ครับ
และด้วยความที่กล้องหน้าของ OPPO Reno3 Pro ใช้กล้องหน้าแบบเลนส์คู่ ที่สามารถทำภาพหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกล้องหลัง ฉะนั้นโหมด Portrait หรือการถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอด้วยกล้องหน้าก็ต้องมีแน่นอนครับ ^^
Dual Lens Bokeh การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยกล้องหน้าเลนส์คู่ ที่สามารถปรับชัดลึกชัดตื้นเพิ่มโดดเด่นให้กับภาพถ่ายเซลฟี่ของเราได้ครับ
ภาพเซลฟี่แบบพาโนรามา มาเป็นกลุ่มก็ถ่ายได้ด้วยการหมุนหน้ากล้องเพื่อการเก็บภาพ
จะเห็นว่าความพิเศษของกล้องหน้า OPPO Reno3 Pro ที่เลือกใส่กล้องหน้าคู่เข้ามา ก็จะมีฟังก์ชั่นการทำงานหลายๆ อย่างที่ทำได้เหมือนกล้องถ่ายภาพตัวหลักด้านหลังใส่เข้ามาด้วยครับ รวมทั้งความละเอียดที่สูงมากกว่ากล้องหล้งของสมาร์ทโฟนบางรุ่นซะอีก
ทีนี้มาดูกล้องหลัง 4 ตัวของ OPPO Reno3 Pro กันบ้าง กล้องตัวหลัก 64 ล้านพิกเซล, Telephoto Lens สำหรับการซูมและการถ่ายภาพบุคคล 13 ล้านพิกเซล, เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และ Mono Lens สำหรับการช่วยโฟกัส 2 ล้านพิกเซล กล้องทั่งสี่ตัวจะมี AI ที่ช่วยทำงานให้เราอยู่ตลอดเวลา ทำให้ภาพมีแสง, สี ที่เหมาะสมกับสิ่งที่กำลังจะถ่ายได้โดยอัตโนมัติครับ และเลนส์ทั้งสี่ตัวยังเพิ่มระยะถ่ายภาพได้หลากหลายระยะ ทั้งภาพมุมกว้างจากเลนส์มุมกว้างที่สามารถโฟกัสวัตถุระยะใกล้ได้ถึง 3 เซนติเมตรแบบซุปเปอร์มาโครด้วย
รองรับการซูมภาพแบบ 1x,2x และ Hybrid 5x (สามารถซูมได้สูงสุด 20 เท่าแบบ Digital ) ซึ่งเรียกใช้ง่ายๆ ด้วยไอคอนตัวเลขการซูมบนหน้าจอ
จากที่ทดสอบ การซูมภาพระดับ Hybrid 5X หวังผลได้ ยังคงความคมชัดของภาพ และในระยะ 1x และ 2x สามารถถ่ายภาพใช้งานได้ปกติ ความละเอียดจากกล้องหลัก 64 ล้านทำงานร่วมกับเลนส์ Telephoto ความละเอียดสูง 13 ล้านพิกเซล คมเหมือนที่ไม่มีการซูมแต่อย่างใดเลยครับ
รวมระยะกับการถ่ายภาพภาพมุมกว้างที่สามารถถ่ายได้คมชัดครับ เพราะให้เลนส์ไวด์มาละเอียด 8 ล้านพิกเซล และซอฟท์แวร์ทำมาดี ขอบภาพไม่บิดเบี้ยวผิดรูปมากไป กล้องสี่ตัวของ OPPO Reno3 Pro มีความละเอียดค่อนข้างสูงทุกกล้อง มีระบบที่ดีช่วย ทำให้ถ่ายง่ายในทุกระยะครับ
โหมดพิเศษ Ultra Clear 108MP Image ระบบถ่ายภาพความละเอียดสูงที่สร้างจาก Software เพื่อถ่ายภาพความละเอียดระดับ 108 ล้านพิกเซลขึ้นมาได้ครับ
เราสามารถเปิดใช้งาน Ultra Clear 108MP Image ของ OPPO Reno3 Pro ได้ในไอคอน “XHD” ในโหมด “โปร”
ด้วยความใหญ่ของภาพสามารถนำไปพิมพ์ภาพโปสเตอร์ขนาด 4.3 เมตร x 3.2 เมตร ได้สบายๆ หรือจะถ่ายเพื่อนำมาขยายเอารายละเอียดในภายหลังก็ได้ครับ ให้ผลลัพท์ไม่ต่างจากการซูมภาพก่อนถ่ายเลยครับ
และแน่นอน เมื่อมีกล้องหลายตัวก็ต้องมาพร้อมโหมดภ่ายภาพตัวเก่ง ทั้งโหมด Bokeh Effect หน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งจับโฟกัสบุคคลได้แม่นครับ ละลายหลังได้เนียนตากว่าสมัยก่อนเยอะครับ
และโหมดถ่ายภาพกลางคืน Ultra Dark Mode ที่ในเวอร์ชั่นล่าสุดสามารถโฟกัสภาพและเก็บรายละเอียดได้คมชัดแม้ในที่แสงมีความมืดมาก เมื่อกล้องหลังตรวจพบแสงสว่างโดยรอบน้อยกว่า 1 lux ฟังก์ชั่นนี้จะเปิดใช้ในโหมดถ่ายภาพกลางคืนโดยอัตโนมัติทันที
ตัวอย่างภาพถ่ายหลายๆ โหมดของ OPPO Reno3 Pro
จริงๆ แล้วตัวกล้องของ OPPO Reno3 Pro ยังมีความสามารถในด้านงานวีดีโออย่างระบบกันสั่น Ultra Steady Video 2.0 ให้เราสามารถบันทึกภาพวีดีโอได้นิ่งขณะที่เราเคลื่อนไหว เป็นคุณสมบัติที่คล้ายๆ กับกล้องแอคชั่นแคมนั้นเองครับ
และการถ่ายวีดีโอแบบใส่ฟิลเตอร์ หรือการจับโฟกัสบุคคลหน้าชัดหลังเบลอในขณะบันทึกวีดีโอได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย
จะเห็นว่าคุณสมบัติด้านกล้องบันทึกภาพของ Reno3 Pro ค่อนข้างจะเป็นระดับสูงครับ โดยเฉพาะกล้องหน้า การถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ขนาดนั้นถือว่าสุดยอดมากครับ ภาพค่อนข้างคม ไม่กลัวแสง ทำให้ผู้ใช้น่าจะใช้งานกล้องของ Reno3 Pro ได้คล่องตัวเลยละ หยิบถ่ายหยิบถ่ายไม่ต้องกังวลอะไรให้มากนัก
จุดเด่นของ Reno3 Pro นอกจากเรื่องของคุณภาพกล้องที่ดีแล้ว ผมว่าอีกเรื่องที่เด่นไม่แพ้กันคือความสวยงามของตัวเครื่องครับ ทาง OPPO มีการนำเข้ามาจำหน่ายสามสี ซึ่งทั้งสามสีมีความเกี่ยวข้องกับท้องฟ้า โดยจะมีสี Sky White Limited Edition ที่สื่อถึงช่วงเวลาเช้า, Midnight Black ท้องฟ้ายามค่ำคืน และ Auroral Blue สีจากแรงบัลดาลใจของแสงเหนือบนท้องฟ้าทางยุโรป รวมออกมาเป็นสามสีที่สวยงามตามสไตล์งานออกแบบของ OPPO ซึ่งสีที่อยู่ในมือของผมคือสี Midnight Black และ Auroral Blue นั้นเองครับ
ตัวเครื่องโค้งมนไม่หนา งานประกอบแน่นจับสัมผัสรู้สึกดี สีตัวเครื่องมีเหลื่อมเงาสะท้อนตามแสงที่เข้ามากระทบ พื้นผิวของเครื่องรุ่นนี้เคลือบมาดีนะครับ จากที่ทดสอบใช้งานมาเป็นรอยยาก แต่เป็นรอยนิ้วมือง่าย ^^ เช็ดกันบ่อยหน่อยแต่ทนรอยขีดข่วนได้ดีครับ
รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Dual 4G และช่องใส่ Micro SD Card แยกต่างหาก
หน้าจอแสดงผลของ OPPO Reno3 PRo ใช้จอ Dual Punch-hole Display ขนาด 6.4 นิ้ว FullHD+ เป็นจอ Super AMOLED ที่ให้ความสว่างสูงมากครับ สว่างถึงระดับ 800 nit และปรับได้สูงสุด 1200nit ใช้กลางแจ้งได้สบายเลย แสงสว่างจ้าแต่กลับเป็นจอที่ถนอมสายตาครับ โดยได้การรับรองจาก TÜV Rheinland บริษัทที่ตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณท์ต่างๆ เรียบร้อยแล้วว่าเป็นจอที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยต่อดวงตา และในรุ่นนี้ยังมีการใส่เทคโนโลยีที่ปกป้องสายตาจากแสงสีฟ้าใหใช้งานได้สบายตายิ่งขึ้น
หน้าจอสุดขอบ อัตตราส่วน 20:9 เว้นขอบจอไว้นิดเดียวเพราะหน้าจอกินพื้นที่ไปถึง 91.5% รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ Hidden Fingerprint Unlock 3.0 สแกนลายนิ้วมือไวครับ แม่น แค่แตะก็เข้าใช้งานได้แทบจะทันที (รองรับการสแกนใบหน้าด้วย)
จอภาพของ Reno3 Pro สีสด แสงสว่าง และเต็มขอบจอ ใช้รับชมภาพยนตร์หรือคลิปวีดีโอสวยครับ ลำโพงตัวเดียวแต่เสียงดังดีมาก มีโหมดเสียง Dolby Atmos สำหรับการใช้งานร่วมกับหูฟัง และการปรับแต่งเสียงสำหรับการใช้งานที่ต่างกันเช่นฟังเพลง ดูหนัง หรือรับชมภาพยนตร์
ในเรื่องของแบตเตอรี่ ใช้งานได้เพียงพอตลอดวันครับ การจัดสรรพลังงานค่อนข้างดี และมีแบตเตอรี่ไซด์ที่ได้มาตรฐานที่ควรจะเป็นในยุคสมัยนี้ 4025 mAh แต่ที่พิเศษคือระบบชาร์จไฟ 30W VOOC Flash Charge 4.0 ระบบชาร์จใหม่ล่าสุดของ OPPO ชาร์จแค่ 20 นาที ได้แบตเตอรี่กลับมาถึง 50% นอกจากชาร์จเร็วแล้ว จุดเด่นของระบบชาร์จ VOOC ของ OPPO ก็คือความปลอดภัยในระบบไฟ ด้วยชิปความปลอดภัยที่คอยตรวจสอบความผิดปกติเอาไว้ถึง 5 ชั้น ใช้งานไปชาร์จไปมีความปลอดภัยและอุ่นใจได้กว่ามากครับ
สเปคตัวเครื่องของ OPPO Reno3 Pro ใช้หน่วยประมวลผลเป็น MediaTek P95 หน่วยประมวลผลที่มาพร้อม AI มีการอัพเกรดในเรื่องของการ์ดจอ GPU และความสามารถของ AI ที่พัฒนามากขึ้น เป็นตัวระดับท็อปของ MTK สำหรับการใช้งานในสมาร์ทโฟน 4G ครับ มาพร้อม RAM ขนาด 8GB และ ROM 256GB ถือว่าพอสบายๆ
ทดสอบการเล่นเกม HD บนเครื่อง OPPO Reno3 Pro ต้องบอกให้รู้ก่อนว่า ภายในระบบของ OPPO Reno3 Pro จะมีระบบ Hyper Boost เวอชั่นล่าสุด เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรักษาความนิ่งของอัตราเฟรมเรต ด้วยการตรวจสอบและจัดสรรทรัพยากรของเครื่องให้เหมาะสม ตัดกระบวนการที่ไม่จำเป็นท้งไป จัดการกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนที่จะแสดงออกมาให้เห็นเป็นอาการผิดปกติ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการตอบรับสัมผัส เพื่อเพิ่มการตอบสนองให้ผู้ใช้รู้สึกทันใจในเวลาควมคุมเกมได้มากขึ้นครับ
จากที่ทดสอบชุดประมวลผลของ Reno3 Pro สามารถเล่นเกมระดับ HD ได้ลื่นๆ ครับ การประมวลภาพไม่สะดุดหรือกระตุดให้หงุิดหงิด สิ่งที่สังเกตได้คือการตอบสนองการทัชทันใจมาก แตะลงไปตัวเกมก็ตอบรับทันที เล่นเกมแนว Run หรือ Action Non-stop จะสนุกมากครับ
OPPO Reno3 Pro ใชัระบบ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS7 ซึ่งเป็นระบบ UI ตัวใหม่สุดของ OPPO ซึ่งมีการปรับสีสันของตัว UI ใหม่เพื่อลดความอิ่มตัวของสีเพื่อให้ผู้ใช้สบายตา มีการออกแบบวอลล์เปเปอร์ชุดใหม่มาให้ใช้จากศิลปินชื่อดัง พร้อมกับวอลล์เปเปอร์แบบภาพเคลื่อนไหวที่สามารถนำมาใช้ได้กับ ColorOS7 ด้วยครับ
ใน ColorOS7 จะมี Dark Mode หรือโหมดกลางคืนมาให้ใช้ ก็เป็นหนึ่งฟังก์ชั่นที่ช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตา (และจะบอกว่าการใช้ธีมสีดำจะช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วยนะ ^^) โดย Dark Mode ของ ColorOS7 จะรองรับกับแอพพลิเคชั่นตัวดังต่างๆ กว่า 200 แอพ เมื่อเราเปิดโหมดกลางคืน แอพเหล่านั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำตามไปด้วยทันที
รองรับการแบ่งหน้าจอทำงานสองหน้าจอได้ทันทีด้วยการใช้ Gesture ลากสามนิ้ว ออกแบบมาเรียกใช้ง่ายดี ปรับขนาดหน้าต่างได้แล้วแต่เหมาะสมครับ
โหมดผู้ใช้หลายคนใน ColorOS 7 เป็นฟังก์ชั่นที่สามารถแยกการใช้งานของเครื่องออกเป็นหลายบุคคล โดยจะแยกเก็บการตั้งค่าและข้อมูลแยกจากกันเหมือนเป็นคนละเครื่องกันเลยครับ ทำมาเพื่อความปลอดภัยถ้ามีความต้องการจะให้มีผู้ใช้หลายคนโดยใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกัน หรือจะใช้เพื่อแยกส่วนชีวิตและการทำงาน เราสามารถสลับบัญชีหลายบัญชีในเครื่องเดียว
ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานอีกเยอะครับสำหรับ ColorOS7 ปรับแต่งได้เยอะ ช่วยเหลือผู้ใช้ให้มีความสะดวกได้อีกหลากหลายโหมด
และยังมีบริการสโตร์เตรียมไว้ให้ผู้ใช้ ได้เป็นทางเลือกสำหรับการดาวน์โหลดเกม ดาวน์โหลดแอพ หรือจะดาวน์โหลดธีมหรือวอลล์เปเปอร์เพิ่มเติมก็ได้เช่นกันครับ มีสวยๆ เยอะครับธีมกับวอลล์เปเปอร์ของ ColorOS ^^
นอกจากฟังก์ชั่นดีๆ แล้ว ในเครื่องของ OPPO ยังมีแอพพลิเคชั่นตัวน่าใช้ใส่เข้ามาให้ด้วย อย่างเช่น Soloop แอพพลิเตชั่นที่สามารถสร้างคลิปวีดีโอจากภาพและวีดีโอขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ และรวดเร็ว สามารถใส่เอฟเฟ็กต์ ฟิลเตอร์สี ข้อความ และเพลงประกอบ กดไม่กี่คลิ๊กก็ได้คลิปวีดีโอเก๋ๆ เอาไว้แชร์ได้เลยจากการทำด้วยสมาร์ทโฟนผ่านแอพ Soloop ครับ
สรุปท้ายรีวิว
OPPO Reno3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องของกล้องถ่ายภาพครับ กล้องหลังดี กล้องหน้ายอดเยี่ยม การใช้งานกล้องทำออกมาใช้ง่าย
ตัวเครื่องสวยมากครับ คิดว่าน่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น วัยทำงาน และคนที่ชอบเครื่องที่มีความเป็นแฟชั่นในการออกแบบ
ประสิทธิภาพการใช้งานเพียงพอต่อการใช้ทุกอย่าง ทั้งการเล่นเกมและการใช้แอพพลิเคชั่นอื่นๆ ทั่วไป ใช้งานได้สบายใจครับ และจะถูกใจกับระบบชาร์จ 30W VOOC Flash Charge 4.0 ของมันแน่นอนครับ เสียบไฟแป๊บเดียว แบตก็กลับมาแล้วกว่า 50%
OPPO Reno3 Pro เปิดจำหน่ายด้วยราคา 18,990 บาท เป็นเจ้าของ OPPO Reno3 Pro ได้แล้ววันนี้
พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติมและการสัางซื้อออนไลน์สามารถดูได้ที่หน้าเว็บไซด์ https://onlineoppo.com/