OPPO Reno7 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สายถ่ายภาพ มากับคำนิยามของรุ่นว่า “The Portrait Expert” ด้วยความสามารถในการถ่ายพอร์ตเทรตใหม่ ไม่ใช่แค่เปิดหรือปิดการละลายฉากหลังของภาพเท่านั้น แต่ในรุ่นนี้เราจะสามารถปรับรูรับแสงได้เองถึง 25 ระดับ กำหนดได้ตั้งแต่ F0.95 ถึง F16 กำหนดระยะชัดลึกชัดตื้นได้เองเสมือนใช้กล้อง DSLR และสามารถใช้ได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอพอร์ตเทรตเลยครับ
พร้อมกับความสามารถในการถ่าย Bokeh Flare Portrait หรือการสร้างดวงไฟโบเก้ขึ้นมาให้สวยงามเสมือนใช้กล้อง DSLR ซึ่งก็รองรับทั้งในโหมดภาพนิ่งและวิดีโออีกเช่นกัน ฉะนั้นผลลัพท์การใช้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถ่ายภาพและวีดีโอพอร์ตเทรตละลายหลัง จึงทำได้คล้ายกับการใช้กล้องที่มีเลนส์รูรับแสงขนาดใหญ่ แต่เราถ่ายได้จากมือถือเครื่องเล็กๆ ของเรานี้เองครับ ^^
OPPO Reno7 5G ยังมาพร้อมกับสเปคที่ดี และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบ OPPO Glow design อีกด้วย ความสวยงามของตัวเครื่องมาในมาตรฐานงานผลิตของ OPPO ที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง ทั้งด้านความสวยงามและคุณภาพความทนทานครับ
สำหรับ OPPO Reno7 5G มาใน 2 สีใหม่ ผลิตด้วยเทคนิค OPPO Glow ที่มีความพิเศษในการไล่เฉดสีสันและผิวสัมผัสแบบด้านกึ่งเงา สีแรกคือ Startrails Blue เป็นสีหลากเฉดที่ไม่หยุดนิ่งตามแสงที่มากระทบ มีเอฟเฟกต์ระยิบระยับของลายเส้นที่จะดูคล้ายฝนดาวตก เป็นการใช้เทคโนโลยี LDI มาใช้ในการผลิตสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกของโลกครับ (เทคนิค LDI หรือ Laser Direct Imaging นิยมใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์) ลวดลายแกะสลักด้วย micro-rasters ที่ใช้จำนวนมากถึง 1.2 ล้านตัว ซึ่งแต่ละตัวสร้างด้วยความละเอียดเพียง 20 ไมครอน ลวดลายฝาหลังของสี Startrails Blue จึงดูพิเศษมากๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะ รู้สึกได้ถึงความแตกต่างในทันทีที่แรกสัมผัสเลยครับ เป็นสีเครื่องที่เหมาะสำหรับคนชอบสีที่สดใสครับ
และอีกหนึ่งสีคือ Starry Black เครื่องเฉดสีดำที่ไม่ดำธรรมดา เป็นสีดำที่ไล่เฉดดำไปน้ำเงิน และมีการผสมกริตเตอร์เพิ่มเข้าไปในพื้นผิวสร้างความระยิบระยับให้ดูหรูหรามากขึ้น เวลาสะท้อนกับแสงก็จะเห็นเงาสีดำ-น้ำเงิน ที่เปลี่ยนไป พร้อมเกล็ดระยิบระยับดูมีมิติ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเครื่องในโทนสีเข้มๆ
งานประกอบของเครื่องมีความพรีเมียม แน่นหนา จับถือแล้วก็รู้สึกได้ถึงความทนทานครับ ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่บางและเบาอีกด้วย บางเพียง 7.81 มม. และน้ำหนักแค่ 173 กรัม พกพาง่าย ถือใช้งานมือเดียวได้สบายสำหรับคนมือเล็กครับ แต่แบตเตอรี่ภายในใหญ่ 4500mAh และรองรับ 65W SUPERVOOC อีกด้วย รองรับการใช้งาน 5G สองซิมการ์ดแบบ 3 สล็อตครับ ใช้ถาดใส่ซิมแบบสองด้านจึงออกแบบถาดใส่ซิมมาได้ในขนาดเล็กครับ
ฝาหลังออกแบบโค้ง 3D เข้ารูปมือ ไม่มีเหลี่ยมไม่คม และผิววัสดุของเครื่องรุ่นนี้ก็ให้ผิวสัมผัสแบบด้าน ฉะนั้นในการใช้งานก็จะไม่เกิดคราบมันของนิ้วมือให้ต้องเช็ดกันบ่อยๆ และลดการเกิดรอยขีดข่วนได้อีกด้วยครับ วัสดุการผลิตแบบนี้ของ OPPO จึงช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่ชอบเครื่องที่เกิดรอยได้ง่ายหรือมีคราบมือติดทุกครั้งที่จับ ให้ได้ใช้งานกันเต็มที่โดยไม่ต้องคอยกังวล
หน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว AMOLED Display 90 Hz รองรับ Touch Sampling Rate 180 Hz เพื่อใช้งานได้เต็มที่ในการเล่นเกม สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง และรองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานด้วยกล้องหน้าด้วยเช่นกัน เป็นกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลครับ
ด้านหลังจะติดตั้งชุดกล้องที่ล้อมกรอบด้วยพื้นสีเดียวกันกับตัวเครื่อง โดย OPPO Reno7 5G จะให้กล้องหลังมาเป็น AI 3 กล้องหลัง ความละเอียดกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล และเลนส์ที่สองเป็นเลนส์มุมกว้าง Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สุดท้ายคือกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
อย่างที่นิยามไว้ในชื่อรุ่น OPPO Reno7 5G “The Portrait Expert” เพราะด้วยความสามารถในการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถูกจัดเต็มมาครับ มีการใช้ AI ขั้นสูงที่พัฒนามาใหม่ของ OPPO สำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ให้เราสามารถกำหนดระยะชัดลึกชัดตื้นได้เองถึง 25 ระดับ โดยการเลือกค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ F0.95 ไปจนถึง F16 ทำให้ OPPO Reno7 5G สามารถถ่ายภาพบุคคลได้เสมือนใช้กล้อง DSLR โดยในความสามารถนี้รองรับการใช้งานได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
Portrait Mode บน OPPO Reno7 5G จะช่วยทำพื้นหลังดวงไฟโบเก้แบบกล้อง DSLR ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่ ปรับเลือกระดับรูรับแสงที่ต้องการ สร้างภาพถ่ายและภาพวีดีโอ
โดยตัวกล้องทำงานร่วมกับเอฟเฟ็กต์ปรับแต่งทั้งฟิลเตอร์แนวภาพต่างๆ และ Portrait Retouching ที่ช่วยคงพื้นผิวและโทนสีผิวของแบบ ปรับได้ 100 ระดับ และปรับโครงส่วนของใบหน้าแบบได้ทั้งหมด สามารถทำงานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยครับ ฉะนั้นรุ่นนี้ถ่ายภาพออกมาสวยทั้งหน้าคนทั้งฉากหลังครับ ^^
เอฟเฟ็กต์ฟิลเตอร์สำหรับการถ่ายภาพบุคคลนั้นมีมากมายเลย ที่โดดเด่นก็จะเป็น Bokeh Flare Portrait Video เราสามารถเน้นดวงโบเก้ด้านหลังของแบบให้โดดเด่นมากขึ้นกว่าความเป็นจริง ไม่ว่าจะแสงรอดจากต้นไม้ แสงสะท้อนจากผิวน้ำ หรือดวงไฟในยามค่ำคืน ภาพออกมาเหมือนนำเลนส์กล้องระดับ f1.8 ลงไปมาใช้งานเลยครับ รองรับทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
เอฟเฟ็กต์ AI Color Portrait Video ตัดสีฉากหลังออก ให้เหลือแต่แบบของเรา เพิ่มความโดดเด่นด้วยการเล่นสี ทำงานได้ง่ายๆ แค่เปิดโหมดที่ต้องการและให้ AI ช่วยจัดการให้ เลือกตัดสีฉากหลังให้หมดหรือเลือกคงไว้แค่ แดง, น้ำเงิน, เขียวก็ได้นะครับ และแน่นอนฟังก์ชั่นนี้ก็อยู่ในความสามารถของการถ่ายวีดีโออีกเช่นกัน
ตัว AI ยังถูกพัฒนาให้มาช่วยงานด้านวีดีโอเหมือนการถ่ายภาพนิ่งด้วยนะครับ สำหรับคนที่ไม่รู้หลักการของมุมกล้องและทิศทางแสงสักเท่าไหร่ โดยตัว AI Highlight Video จะปรับการถ่ายภาพที่ถูกต้องให้เราได้โดยอัตโนมัติบนกล้องหลัง เช่นในกรณีเราถ่ายวิดีโอตอนกลางคืนหรือบังเอิญหันทิศทางหน้ากล้องย้อนแสง
Live HDR จะทำงานทันทีในกรณีตรวจพบการถ่ายในมุมที่ย้อนแสง เพิ่มคงความสว่างของใบหน้าแบบไม่ให้ดำคล้ำ โดยการทำงานเหล่านี้จะทำให้เราโดยอัตโนมัติ เราไม่ต้องไปคอยสังเกตหรือปรับแต่งเองใดๆ เลยครับ
และตัว AI Highlight Video จะยังช่วยตรวจจับแสงโดยรอบ เมื่อสภาพแสงรอบตัวมีน้อยเกินไป Ultra Night Algorithm ของ OPPO จะเปิดใช้งานเข้ามาช่วยโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เราได้ภาพวิดีโอที่มีความสว่างมากขึ้นในที่แสงน้อย เพิ่มภาพสว่างของหน้าแบบให้ดูสดใสสว่างขึ้นได้ครับ
ความสามารถในการถ่ายวีดีโอแบบ Dual-View Video สามารถบันทึกวิดีโอทั้งจากกล้องหน้าและหลังได้พร้อมกัน และปรับเฟรมการแบ่งหน้าจอได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ เอาไว้ใช้ถ่ายวีดีโอเก็บภาพสถานที่ คนที่มาด้วยกัน หรือจะใช้ในการถ่ายเพื่อรีวิวสินค้าก็ได้เช่นกันนะครับ
กล้องหน้าก็สามารถเล่นกับฟังก์ชั่นการปรับค่ารูรับแสงและฟิลเตอร์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกับกล้องหลังครับ เพราะรุ่นนี้งานวีดีโอจัดเต็มทุกเลนส์กล้อง ^^ และคุณภาพทำออกมาได้ดีด้วยครับ
จะเห็นว่าความสามารถในการถ่ายวีดีโอของ OPPO Reno7 5G ใส่ตัวช่วยเข้ามาเยอะมาก ทั้งในด้านลูกเล่นและคุณภาพมาตรฐานในการถ่ายวีดีโอทั่วๆ ไป เพราะมี AI ที่ฉลาดและซอฟท์แวร์กล้องที่ออกแบบมาดีมากครับ การจับโฟกัสทำได้ไว จับโฟกัสใบหน้าบุคคลได้แม่นยำมาก และมีระบบ Focus Tracking ผู้ใช้งานสามารถเลือกโฟกัสติดตามวัตถุในขณะถ่ายวิดีโอได้เพียงแค่แตะเลือกบนวัตถุที่ต้องการให้จับโฟกัสไว้ตลอดบนหน้าจอ กล้องจะโฟกัสติดตามวัตถุนั้นไปโดยอัตโนมัติ และ Ultra Steady Video เป็นระบบกันสั่นที่ช่วยทำให้วิดีการถ่ายวีดีโอมีความนิ่ง เสถียร ชัดเจน เหมือนใช้อุปกรณ์เสริมช่วยลดการสั่นในขณะถ่ายวีดีโอ เป็นสองฟังก์ชั่นที่เหมาะสำหรับการถ่ายในขณะที่ผู้ถือเครื่องต้องมีการเคลื่อนไหวครับ
ขอทิ้งท้ายใส่ส่วนของความสามารถในการถ่ายวีดีโอพอร์ตเทนต์ของกล้อง OPPO Reno7 5G ในคลิปด้านล่างกันดีกว่า คลิปที่เรารวมความสามารถที่น่าสนใจมาให้ดูกัน ว่าในแต่ละความสามารถนั้นมันทำงานอย่างไรในขณะใช้งานครับ
การถ่ายภาพนิ่งก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกันครับ OPPO Reno7 5G รองรับการถ่ายภาพตั้งแต่มาโครระยะใกล้ 4 เซนติเมตร ถ่ายภาพมุมกว้าง 0.6x ไปจนถึงการซูมภาพแบบดิจิทัลที่ 20x จากการทดสอบการซูมภาพของรุ่นนี้ในระดับ 2x ภาพจะคมและเก็บรายละเอียดได้ดีมากครับ
มี AI ช่วยจับซีนที่ถ่ายและปรับแนวสีและแสงของภาพให้เหมาะสมกับสิ่งที่ถ่ายได้อัตโนมัติ เราสามารถล็อคแสงและโฟกัสได้ด้วยการทัชค้างไปบริเวณจุดวัดแสงที่ต้องการได้ด้วยตัวเองเช่นกันนะครับ
และมีฟังก์ชั่นที่เหมือนกับการถ่ายภาพวีดีโอในการถ่ายภาพบุคคลที่เราปรับค่ารูรับแสงได้เองเช่นกัน เพื่อกำหนดระยะชัดลึกชัดตื้นเหมือนใช้เลนส์กล้องใหญ่ถ่าย ตัดภาพบุคคลออกมาได้คมครับ เลือกระดับละลายตามที่ต้องการได้ตามใจ
ฟังก์ชั่นที่เล่นกับฉากหลัง AI Color Portrait ตัดสีฉากหลังออกให้เหลือแต่สีของตัวแบบ ก็ตัดตัวบุคคลได้คมเช่นกัน ถ่ายออกมาสวยและใช้สนุกครับฟังก์ชั่นนี้
Bokeh Flare Portrait สำหรับการเพิ่มเน้นดวงไฟโบเก้ฉากหลังให้เด่นมากขึ้นกว่าปกติ ความสามารถนี้ที่มีในการถ่ายวีดีโอ ก็มีในกล้องถ่ายภาพนิ่งเช่นกัน เหมาะกับการเอามาใช้ถ่ายทั้งกลางวันและกลางคืนเลยครับ ^^
Ultra-Clear 108MP โหมดที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 108MP ได้ด้วยกล้อง 64 ล้านพิกเซล ด้วยอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ แค่เปิด HD พิเศษ ในเมนูกล้อง เราก็สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงไปใช้งานได้ อาจจะใช้เพื่อพิมพ์ภาพขนาดใหญ่หรือถ่ายเพื่อไปตัดขยายบางส่วนของภาพมาใช้งานในภายหลังภาพก็ยังคมชัดครับ
โหมดถ่ายภาพกลางคืนสำหรับการถ่ายเล่นกับแสงไฟโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย รุ่นนี้ภาพคมครับ AI และซอฟท์แวร์พัฒนามาไกลมากแล้วสำหรับกล้องของ OPPO Reno7 5G รองรับทั้งเลนส์มุมกว้างและการซูมเหมือนการถ่ายตอนกลางวันครับ
กล้องถ่ายภาพด้านหน้า 32 ล้านพิกเซล ตรวจจับใบหน้าบุคคลได้แม่นยำครับ และมีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพจัดเต็มมาไม่แพ้กล้องหลังเลย สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ละลายหลังแบบเลือกระยะชัดลึกชัดตื้นได้ด้วยการกำหนดขนาดรูรับแสงได้เช่นกัน ทำงานคู่กับ Portrait Retouching ที่จะช่วยเข้ามาปรับให้ภาพสวยเป๊ะเหมือนผ่านการ Retouch มาเลย
มีโหมด Bokeh Flare Portrait สำหรับการเพิ่มความจัดเจนของไฟโบเก้ด้านหลังในขณะที่เราเซลฟี่ได้ด้วย หามุมแสงสวยๆ แล้วจัดดวงใหญ่ๆ กันไปเลยครับ ^^
ตัวอย่างภาพจากโหมดต่างๆ ของ OPPO Reno7 5G
การใช้งาน OPPO Reno7 5G
OPPO Reno7 5G แรงพอสมควรครับ ขับเคลื่อนด้วย MediaTek Dimensity 900 5G SoC รองรับทั้ง 5G และ Wi-Fi 6 การเชื่อมต่อไร้สายรวดเร็วครับ มาพร้อม RAM 8GB และเทคโนโลยี RAM Expansion ที่จะมาช่วยขยายขนาดแรมออกไปได้อีก 2GB, 3GB หรือ 5GB แล้วแต่เรากำหนดในการตั้งค่า โดยจะเป็นการดึงส่วนของหน่วยความจำ (ROM) ที่ยังไม่ได้ถูกใช้งานมาเพิ่มเป็นแรมพิเศษ ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องหน่วยความจำที่ถูกนำมาใช้เลยครับ เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ให้ ROM มาเยอะมาก ด้วยขนาด ROM 256GB ใช้งานกันได้เต็มที่แถมยังรองรับ micro SD card เพิ่มเติมได้อีกด้วย
OPPO Reno7 5G ใช้ระบบ ColorOS 12 ครอบทับบน Android 11 ทาง OPPO ได้ใส่ระบบ HyperBoost system optimizer ที่อัปเดตใหม่เอาไว้ในระบบ เป็นตัวที่คอยดูแลช่วยเร่งความเร็วในการใช้งาน ตั้งแต่เร่งการประมวลผล ความเร็วในการส่งข้อมูล รวมถึงความเร็วในการเชื่อมต่อไร้สายต่างๆ และยังดูแลด้านการใช้พลังงานของเครื่องด้วยครับ ให้ใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสมและดูแลความร้อนของตัวเครื่อง ทำงานควบคู่กับระบบ Multi-cooling System เพื่อประสิทธิภาพการระบายความร้อนเพื่อลดผลกระทบต่อตัวเครื่องในขณะใช้งาน ไม่ว่าจะเป้นการเล่นเกมหรือการสตรีมสื่อมีเดียต่างๆ แบบใช้งานต่อเนื่อง เกิดความร้อนน้อยเครื่องก็เสื่อมช้า และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดนั้นเองครับ
การทำงานของเครื่อง OPPO จะไม่เกิดปัญหาคอขวดในการใช้เลยไม่ว่าเราจะใช้ในงานด้านไหนก็ตามครับ และไม่เกิดความร้อนสะสมขึ้นมาจนต้องเป็นกังวลแม้จะใช้งานไปพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกันด้วยก็ตาม จากที่ผมทดสอบใช้งานมา ไม่เคยเจออาการแปลกๆ แบบรีสตาร์ทเครื่องเองหรือค้างการทำงานใส่เราสักครั้งเดียว ระบบเสถียรดีมากครับ
และผมจะบอกว่า OPPO Reno7 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลก ที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV SÜD 36-month fluency rating A การการันตีนี้หมายถึงการรับรองว่า สมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะทำงานได้อย่างราบรื่นรวดเร็ว หลังจากใช้งานไปแล้ว 36 เดือนก็ตามครับ มาตรฐานที่บอกกับเราว่า เครื่องจะไม่เสื่อมไม่ทรุดจากกันไปง่ายๆ ^^
ถ้าจะสังเกตก็ต้องบอกว่า ระบบ ColorOS 12 มีการใส่ใจในด้านดูแลคุณภาพตัวเครื่องมากๆ ครับ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีการใส่ระบบดูแลแบตเตอรี่ AI Night Charge เป็นระบบชาร์จที่จะปล่อยไฟเข้าแบตเตอรี่ไปจนระดับ 80% แล้วจะพักไว้ ภายในเวลา 60 นาทีก่อนที่เราจะตื่นจึงค่อยชาร์จที่เหลืออีก 20% เป็นการถนอมอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน ไม่เสื่อมไวก่อนเวลาอันควรครับ
มีโหมดฉุกเฉิน Super Power Saving Mode ยืดระยะเวลาของแบตเตอรี่ที่กำลังจะหมด เพื่อเอาไว้ใช้ในงานจำเป็นจริงๆ เช่นเพื่อใช้เรียกรถกลับบ้าน หรือใช้ติดต่อสายสำคัญที่เรารออยู่ ในโหมดนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตออกไปได้ประมาณสามเท่าเลยครับ ตัวระบบจะให้เรากำหนดการทำงานที่สำคัญและจะปิดการใช้งานอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปทั้งหมด แม้จะมีแบตเหลือประมาณแค่ 5% เราก็ยังสามารถใช้โทรสนทนาได้กว่า 2 ชั่วโมง หรือใช้แอพแชตกับคนสำคัญได้อีกเป็นชั่วโมง
แบตเตอรี่ของ OPPO Reno7 5G ถือว่ามีขนาดใหญ่ครับ ยิ่งเมื่อมองจากความบางของตัวเครื่อง ภายในใส่แบตขนาด 4,500mAh เอามาให้ พร้อมรองรับระบบชาร์จไว 65W SUPERVOOC ระบบชาร์จที่ไวและปลอดภัยสูงมาก สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ได้ในเวลาประมาณแค่ 30 นาทีเท่านั้นเองครับ และไม่เกิดความร้อนใดๆ ขึ้นมาจนให้เราเป็นกังวล อุ่นใจในการใช้งานได้มากกว่าครับสำหรับ 65W SUPERVOOC
ประสิทธิภาพการใช้งานของ OPPO Reno7 5G ก็อยู่ในระดับ Mid-High End ครับ ทำงานต่างๆ ได้ไหลลื่นใช้งานสบาย เล่นเกมกราฟิกสวยๆ ได้แม้จะไม่ 100% เท่าตัวรุ่นท็อป แต่ก็เล่นได้ไม่มีปัญหาครับ
มีโหมดเกม ที่จะเป็นตัวเร่งประสิทธิภาพเครื่อง ให้ทำงานได้แบบเต็มที่ที่สุดครับ Ultra Touch Response จะช่วยเพิ่ม touch sampling rate สูงสุด 1000Hz ในบางสถานการณ์ของการเล่นเกม มี AI Frame Rate Stabilizer ช่วยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโทรศัพท์ล่วงหน้า เพื่อช่วยควบคุมชดเชย frame rate ในขณะเล่นเกมให้เกิดความเสถียร เฟรมเรทไม่ดรอป ไม่แลค เล่นเกมได้ลื่นไหลคงที่มากขึ้น การเข้าออกแอพพลิเคชั่นและเกมทำได้รวดเร็ว เพราะมีแรมขนาดใหญ่ และมีระบบช่วยเหลือสำหรับคนเล่นเกมให้เราสามารถเข้าออกเกมที่เราเล่นบ่อยๆ ได้ไวมากขึ้น ในฟังก์ชั่น “เรียกใช้งานด่วน” เพราะระบบจะคงการทำงานของเกมนั้นๆ ไว้บนพื้นหลังเมื่อเราออกจากเกม เพื่อให้เราสามารถเปิดเกมและตรงไปที่หน้าแรกของเกมได้อย่างรวดเร็ว
โหมดเกมยังช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับเกมได้มากกว่าเดิม ด้วยการปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ที่เข้ามา ให้อยู่ในรูปแบบที่ไม่ขัดจังหวะการเล่นของเราได้ครับ
ปรับการแสดงผลหน้าจอ ให้เราได้เปรียบด้วยการมองได้ง่ายมากขึ้นในเกมที่รองรับอย่าง PUBG ครับ เลือกแนวภาพที่เหมาะดับสภาพแมพที่เราจะไปสิงอยู่ได้เลย ^^
และยังสามารถเปิดหน้าต่างแอพพลิเคชั่นซ้อนขึ้นมา เพื่อทำงานสองแอพไปได้พร้อมกันในขณะเล่นเกม คุย Discord กับเพื่อนในขณะเล่นเกมไปพร้อมกันได้สบายๆ ^^ การเรียกใช้งานชุดเครื่องมือสำหรับคนเล่นเกมก็ง่ายครับ แค่สไลด์เรียกใช้จากขอบจอด้านข้าง เรียกใช้งานได้ทุกเวลา
หน้าจอแสดงผลสีสัดสด คมชัด รีเฟรชเรทดีครับ ขอบจอบาง ใช้งานเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์ได้เต็มตา เสียงลำโพงดังฟังชัด ไม่มีปัญหาใดๆ ในการใช้งานด้านความบันเทิงแน่นอนครับ
หน้าจอปรับแต่งได้มากมาย ทั้งลดแสงสีฟ้าในเวลาใช้งานกลางคืน หรือเปิดโหมดสีขาวดำเพื่อการใช้งานที่ยาวนานเช่นการอ่านหนังสือ ตั้งค่าระดับรีเฟรชเรทหน้าจอได้ด้วยตัวเอง เปิดที่ 60Hz เพื่อประหยัดพลังงาน แต่แนะนำให้เปิดไว้ที่ 90Hz ดีกว่าครับ ^^ ภาพสวยงามกว่าเวลาใช้ และแบตเตอรี่ของเครื่องรุ่นนี้ก็มากเพียงพอต่อการใช้งานได้เต็มวันในการเปิดทำงานบนรีเฟรชเรท 90Hz ครับ
ระบบ ColorOS 12 ยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยเหลือในด้านการใช้ชีวิตของเราในแต่วันได้เพิ่มเติม อย่างเช่น PC Connect เป็นความสามารถที่จะเชื่อมต่อโทรศัพท์ของเข้าเข้ากับ PC ได้แบบไร้สายต่อ ติดตั้งโปรแกรม PC Connect บนอุปกรณ์โน๊ตบุ๊ค/PC ในระบบ Windows จากหน้าเว็บของ OPPO
หลังจากนั้นติดตั้งโปรแกรมและทำตามวิธีการบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วยการสแกน QR Code หลังจากนั้นตัวโทรศัพท์กับ PC จะเชื่อมต่อกันด้วย Bluetooth การแสดงผลของหน้าจอโทรศัพท์ของเราก็จะไปปรากฏบนหน้าจอ PC ทันทีครับ และเราก็จะสามารถควบคุมโทรศัพท์ได้ผ่านทาง PC ครับ
เมื่อเชื่อมต่อกันแล้ว เราสามารถดึงไฟล์จากในโทรศัพท์ของคุณ ไปใช้งานหรือแก้ไขได้บน PC โดยตรง และในทางกลับกัน เราสามารถลากและวางไฟล์บันทึกไฟล์ลงในโทรศัพท์ได้แบบอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังถ่ายโอนคลิปบอร์ดระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ด้วยเช่นกันครับ ทำให้เราไม่ต้องจับโทรศัพท์เลยในระหว่างใช้งาน PC Connect ^^
และอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่เราสามารถควบคุมสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องจับตัวเครื่อง ก็คือ Air Gestures เป็นการใช้ท่าทางของฝ่ามือเพื่อเลื่อนหน้าแอพพลิเคชั่นได้โดยไม่ต้องสัมผัส ใช้งานได้กับแอพโซเชียลหรือแอพวิดีโออย่าง Youtube หรือ Tiktok ไม่ต้องจับครับ หยิบขนมกินไปด้วยดูคลิปไปด้วย เครื่องไม่เลอะ ^^ รวมถึงสามารถใช้ท่าทางของมือในการรับสายเรียกเข้า หรือปิดเสียงเรียกเข้าเมื่อได้ด้วยเช่นกันครับ
การปรับแต่งด้านความสวยงามของระบบก็เปิดให้เราเข้าไปปรับได้เยอะครับ เปลี่ยนธีม เปลี่ยนสีสันของไอคอนและเมนู เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์ของการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ใน ColorOS 12 ตัวเครื่องจะสามารถเปิดหน้าจอ Always-On Display หรือหน้าจอแสดงผลตลอดเวลา เอาไว้ดูเวลา การแจ้งเตือน โดยไม่ต้องปลดล็อคเครื่องก่อน เราสามารถปรับแต่งหน้าจอ Always-On Display นี้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่นการนำภาพถ่ายของเรามาทำเป็นลายเส้นเหมือนภาพวาดจิตรกร และนำมาใช้เป็นหน้าจอล็อคหรือวอลล์เปเปอร์ได้ด้วยครับ ^^
รวมถึงการใช้ OPPO Omoji ที่เป็นฟีเจอร์อิโมจิแบบเคลื่อนไหว 3 มิติแบบใหม่ ที่เราสามารถใช้งานได้แล้วบน ColorOS 12 ครับ ตัวอีโมจินี้จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของใบหน้าเรา เพื่อให้มันสามารถแสดงแทนตัวเราเองได้ครับ
เราสามารถสร้าง Omoji ของเราเองได้ด้วยโครงหน้าและลักษณะตา จมูก ผม และเครื่องประดับต่างๆ รวมแล้วกว่า 200 รายการ เพื่อสร้าง Omoji ที่เราถูกใจหรือดูเหมือนตัวเราเองให้มากที่สุด และสามารถตั้ง Omoji นั้น ให้เป็นรูปโปรไฟล์บนแอคเคาท์ของเรา หรือจะนำมาตั้งเป็น Always-On Display ได้ด้วยเช่นกันครับ
สรุปท้ายรีวิว
OPPO Reno7 5G สมาร์ทโฟนที่อัปเกรดด้านการถ่ายภาพมาใหม่ ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในอารมณ์ใช้งานคล้ายกล้อง DSLR ปรับระดับรูรับแสงเพื่อสร้างภาพละลายหลังในระดับที่ต้องการได้แตกต่าง 25 ระดับ รองรับการใช้ทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอ
พร้อมความสามารถอื่นๆ อีกมากมายในการถ่ายบุคคลครับ อย่างเช่น ฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ถ่ายภาพบุคคลออกมาสวยงามด้วยโบเก้ที่เหมือนกับการถ่ายด้วยกล้องที่มีเลนส์รูรับแสงขนาดใหญ่ ก็เป็นสมาร์ทโฟนสายถ่ายภาพที่ทำมาได้สมกับคำนิยาม “The Portrait Expert” ใครชอบถ่ายภาพและงานวีดีโอสวยๆ มีความแปลกใหม่ และใช้งานง่าย รุ่นนี้มีกล้องที่ดี ฟังก์ชั่นเยอะ ใช้กันสนุกแน่นอนครับ
ประสิทธิภาพตัวเครื่องถือว่าแรงดี รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 ระบบทำมาได้เสถียร ไม่มีปัญหาในการใช้งาน และผ่านมาตรฐาน TÜV SÜD 36-month fluency rating A การการันตีว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะทำงานได้รวดเร็วเช่นเดิมหลังจากใช้งานไปแล้ว 36 เดือน ฉะนั้นสบายใจได้ครับ เหมาะกับนำไปใช้งานทั่วไปรวมถึงการเล่นเกม แบตเตอรี่ใหญ่อยู่กับเราได้ทั้งวัน พร้อมรองรับระบบชาร์จไว 65W SUPERVOOC ชาร์จไวและมีความปลอดภัยสูง ไม่มีความร้อนให้กังวลใจในขณะชาร์จ ตัวเครื่องสวยด้วยครับ บาง เบา งานประกอบและการผลิตเป็นของยุคใหม่ แน่นหนาและทีสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ข้างในดี ข้างนอกสวย กล้องยอดเยี่ยม OPPO Reno7 5G เปิดตัวพร้อมราคาจำหน่าย 16,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Startrails Blue และสีดำ Starry Black และพิเศษเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย ซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจจะมีโปรโมชั่นราคาเริ่มต้นเพียง 6,990 บาทเท่านั้นครับ
สามารถไปทดลองสัมผัสหรือเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยผู้ที่สนใจสามารถจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 18 กุมภาพันธ์ พร้อมรับโปรโมชั่นและเซ็ตของพรีเมี่ยม
- E-VIP CARD ประกันจอแตกและประกันตัวเครื่อง
- OPPO Enco BUDS หูฟัง TWS
- ของแถมรวมมูลค่า 6,999 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://bit.ly/3Jcufxz