OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟนตัวใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กับนิยาม The Portrait Expert ก็นับเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เด่นด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟนในซีรี่ส์ OPPO Reno7 Series ทุกรุ่นเลยครับ จากความสามารถของโหมดถ่ายภาพ Bokeh Flare Portrait ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสวยของดวงไฟโบเก้ฉากหลัง ให้สวยเหมือนถ่ายภาพด้วยกล้องโปรที่ใช้เลนส์รูรับแสงขนาดใหญ่ พร้อมการเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า ที่รองรับ Selfie HDR ถ่ายเซลฟี่ได้สวยแม้จะเผลอถ่ายย้อนแสง หน้าเราก็ยังสวยงามได้ตลอดครับ
อย่างที่เห็นการออกแบบของ OPPO Reno7 Z 5G เป็นรุ่นที่นอกจากจะมีกล้องคุณภาพสูงแล้ว ก็ยังมีการออกแบบบริเวณกล้องหลังออกมาได้เป็นพิเศษอีกด้วย โดยมีการติดตั้งไฟ Dual Orbit Lights หรือไฟวงแหวนรอบกล้องหลังทั้งสองตัว และใช้เทคนิคการผลิตฝาหลังแบบ OPPO Glow สวยงามไม่เหมือนใคร ^^
การออกแบบภายนอกสวยแต่จุดที่ทำให้ใช้คำนิยามว่า The Portrait Expert มาจากความสามารถการถ่ายภาพบุคคลของรุ่น ด้วย AI สามกล้องหลัง ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล มีเลนส์ Depth สำหรับช่วยจับระยะโฟกัสและจับภาพบุคคล ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และสุดท้ายคือกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
โหมดทีเด็ดสำหรับคนชอบถ่ายภาพพอร์ตเทรต คือ Bokeh Flare Portrait เป็นฟังก์ชั่นที่ผมได้ลองแล้วก็ชอบมากจริงๆ ครับ มันเป็นการถ่ายภาพที่จะสร้างผลลัพท์ออกมาได้สวยเกินกล้องสมาร์ทโฟน เพราะเราจะได้ดวงไฟโบเก้ดวงใหญ่กลมสวย คล้ายการใช้กล้อง DSLR มาถ่ายคนเลยครับ
จับคนแม่นมากครับ แบบของเราจะซนแค่ไหน โฟกัสก็ตามไปจับเจออยู่ดี และตัดฉากหลังได้ออกมาสวย เนียน ดูดีมากครับ ^^
ภาพที่มีแสงรอดจากฉากหลัง เช่นเงาต้นไม้ แสงสะท้อน ดวงไฟ หรืออะไรก็ตามที่ระบบตรวจจับได้ว่าเป็นแสงโบเก้ด้านหลัง อัลกอริธึมเฉพาะของ OPPO ที่พัฒนามา มันจะเร่งเพิ่มความสว่างให้กับตัวแบบ และเพิ่มความเด่นให้โบเก้เหล่านั้นดูสวยงามมากขึ้นทันที ผู้ใช้ไม่ต้องเข้าใจเทคนิคใดๆ ให้มากครับ แค่เปิดโหมด Bokeh Flare Portrait แล้วปล่อยให้กล้องของ OPPO Reno7 Z 5G ทำงานไป และเชื่อในคุณภาพของภาพได้เลยว่าเราจะถูกใจกันแน่นอน ^^
ออกมาสวยงามทุกรูป ใช้งานได้ดี
ในการถ่ายภาพบุคคลของเครื่องรุ่นนี้ ผมจะบอกว่าแม้โหมด Bokeh Flare Portrait จะถ่ายภาพออกมาได้ค่อนข้างมหัศจรรย์ แต่การถ่ายภาพแบบละลายหลังธรรมดาของ OPPO Reno7 Z 5G ภาพก็ออกมาสวยงามด้วยเช่นกันครับ
ทำโหมดการถ่ายภาพบุคคลออกมาได้ดี รองรับการใช้งานทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และมีระบบปรับแต่งใบหน้าที่ดีใส่เข้ามาให้ด้วยครับ Portrait Retouching ให้เราสามารถปรับแต่งระดับหน้าเนียนใสได้ 100 ระดับ และเลือกปรับทุกส่วนของใบหน้าแบบได้หมด ภาพออกมาเหมือนผ่านการรีทัชโดยไม่ต้องปรับแต่งกับแอพไหนเพิ่มเติม ซึ่งระบบ Portrait Retouching ตัวนี้จะรองรับทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายภาพวิดีโอพอร์ตเทรต และยังใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยครับ ครบ!
ภาพถ่ายบุคคลแบบละลายหลังแบบปกติ ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกันครับ ถ่ายภาพคนสวยทุกโหมดรุ่นนี้
กล้องถ่ายภาพมี AI ช่วยตรวจจับสิ่งที่จะถ่าย และปรับโทรสีภาพให้เราโดยอัตโนมัติ ทำงานกับ HDR ในเวลาที่ตรวจเจอการถ่ายภาพย้อนแสง ทั้งหมดทำงานให้เราได้อัตโนมัติรองรับการถ่ายภาพตั้งแต่ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตรในโหมดมาโคร ไปจนถึงการซูมภาพดิจิทัลที่ 6x ครับ
ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ทั่วไป ก็ให้สีที่ออกโทนสว่างครับ กล้องรุ่นนี้ดูจะมีนิสัยวัยรุ่นนะครับ ^^ สีกับแสงสดใสดีครับ
การถ่ายภาพคนกลางคืนก็ยังเอาอยู่เช่นกัน จะละลายหลังเบาๆ หรือจะหยิบเอาโหมด Bokeh Flare Portrait มาถ่ายเพื่อเล่นกับแสงไฟโบเก้ฉากหลังให้เป็นดวงโตก็เหมาะนะครับ ^^
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มากับฟังก์ชั่นสำหรับการเซลฟี่โดยเฉพาะ รองรับระบบ Selfie HDR ที่จะช่วยเร่งแสงในบริเวณที่มืดให้มีความสว่างและเพิ่มรายละเอียด ฉะนั้นต่อให้เราไม่ได้สังเกตไปหันมุมถ่ายเซลฟี่แบบย้อนแสง หรือเซลฟี่ในที่แสงน้อย ฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยเพิ่มแสงและคงรายละเอียดของใบหน้าเรา ให้การเซลฟี่สามารถถ่ายได้ทุกเวลาทุกมุมที่เราต้องการมากที่สุดครับ ถ่ายยังไงหน้าก็ไม่มืดและยังเก็บองค์ประกอบด้านหลังมาได้ครับด้วย
ภาพเซลฟี่ออกมาสวย คม คุณภาพยอดเยี่ยมครับสำหรับระบบกล้องหน้าของ OPPO Reno7 Z 5G จับใบหน้าคนอย่างแม่น และกล้องหน้าของรุ่นนี้ก็ยังมี Bokeh Flare Portrait Selfie ให้เราถ่ายเซลฟี่ละลายหลังแบบเร่งโบเก้สวยๆ ได้เหมือนกล้องหลังด้วยครับ และฟีเจอร์ AI Color Portrait สำหรับการตัดสีฉากหลังของเราให้กลายเป็นขาวดำ เหลือแต่สีของตัวเราที่กำลังถ่ายเซลฟี่ เพิ่มความเด่นแปลกตาด้วยการเล่นกับสีสันครับ พร้อมกับฟิลเตอร์แนวสีต่างๆ เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของภาพให้เป็นสีที่เราต้องการอีกเยอะมากครับ
บวกรวมกับความสามารถ HDR Selfie ถ่ายเซลฟี่ย้อนแสงเล่นกับแดดได้ และรวมกับการปรับแต่งใบหน้า Portrait Retouching ผลลัพท์ออกมาแต่ละภาพของการเซลฟี่ ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน หน้าสวย ตาใส ออกมาเนียนเชียวครับ ^^
เมื่อแสงหมดตกกลางคืน ก็ไม่ต้องห่วงถ้ายังอยากจะเซลฟี่ จัดเต็มมากับระบบ AI ที่จะช่วยเติมแสงและรายละเอียดให้หน้าของเราได้ เมื่อตรวจจับเจอค่าแสงรอบตัวที่น้อยเกินไป ตัว AI จะเปิดแสงหน้าจอเพื่อเพิ่มความสว่าง และเราก็แชะ!! ถ่ายคนได้สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน ^^
เซลฟี่กลางคืนยังเอาอยู่ เพราะหน้าจอทำหน้าที่เหมือนไฟสตูดิโอคอยช่วยเหลือให้ครับ และอย่าลืม กับโหมด Bokeh Flare Portrait สำหรับกล้องหน้า ใช้ตอนกลางคืนก็ได้อารมณ์โบเก้ไปอีกแบบครับ
และสำหรับคนที่ชอบเซลฟี่หรือถ่ายภาพพอร์ตเทรต หลายคนก็อาจจะชอบการบันทึกวีดีโอรีวิวเวลาเราไปเที่ยวที่ไหน ใน OPPO Reno7 Z 5G มีโหมดการถ่ายวีดีโอแบบกล้องคู่มาให้ใช้งาน เปิดถ่ายพร้อมกันได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เอาไว้ใช้รีวิวสถานที่หรือเก็บภาพบรรยากาศรอบตัวไปพร้อมๆ กัน ปรับรูปแบบกรอบได้สามแบบครับ
ตัวเครื่องภายนอก
OPPO Reno7 Z 5G มีความเป็นตัวเองสูงมากไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบไฟรอบกล้องหลัง Dual Orbit Lights ที่จะสว่างขึ้นและสลับหรี่แสงลงโดยไล่เฉด สีน้ำเงิน ฟ้าอ่อน และฟ้าคราม หรือเบบี้บลู ไฟกล้องหลังตรงนี้ทำงานแทนการแจ้งเตือนครับ โดยเราสามารถกำหนดการทำงานตามเวลาที่ต้องการ และกำหนดสถานการณ์ที่เราต้องการให้ไฟ Dual Orbit Lights ติดขึ้น
เช่นจะติดขึ้นเมื่อเราเปิดเครื่องโทรศัพท์ แจ้งเราให้รู้ว่ามีสายเรียกเข้า หรือมีการแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้อ่าน รวมถึงติดขึ้นให้ทราบในขณะกำลังชาร์จไฟ หรือจะตั้งค่าให้ส่องสว่างเมื่อเราเปิดใช้งานเกมก็ได้เป็นต้นครับ กำหนดได้ในการตั้งค่า ใช้แล้วเก๋ไม่เบาเลยครับ
พื้นฝาหลังสวย มีความเงาบนพื้นผิวด้าน เครื่องที่ผมได้มาจะเป็นโทนสีดำแต่เมื่อดูก็จะเห็นว่าไม่ใช่ดำธรรมดา มันคือสี Cosmic Black เป็นดำที่มีประกายระยิบระยับ สะท้อนเงาแสง เป็นเทคนิคการผลิตแบบ OPPO Glow นั้นเองครับ ผลิตด้วยการเคลือบผิวไว้ 2 ชั้น ใช้พื้นผิวซ้อนกัน 3 เลเยอร์
2 เลเยอร์แรกที่เป็นแบบด้าน และเลเยอร์ที่ 3 เป็นแบบเงาวางทับด้านบนอีกครั้งหนึ่ง โดยเราจะเห็นว่าพื้นหลังมีการผสมกันระหว่างผิวมันเงาและผิวด้าน มีความสวยงามและใช้งานได้เต็มที่เพราะไม่มีคราบรอยนิ้วมือใดๆ ขึ้นมาให้เราต้องเช็ดเลย บริเวณรอบกล้องถูกตัดองค์ประกอบฐานรอบๆ ของชุดกล้องออกไปทั้งหมด เป็นพื้นเรียบเนียนไปกับตัวเครื่องแบบไม่มีรอยต่อ
โดย OPPO Reno7 Z 5G จะมีเข้าในสี Cosmic Black และอีกสีคือ Rainbow Spectrum ซึ่งเป็นที่เปลี่ยนไปมาได้ตลอดเวลาตามมุมแสงที่กระทบ สวยงามทั้งสองสีเลยครับ งานออกแบบเครื่องบาง เบา Ultra-Slim Retro Design แบบใหม่ทรงตัดเหลี่ยม เครื่องบางแค่ 7.49 มม. (สี Rainbow Spectrum จะบาง 7.55 มม.) น้ำหนัก 173 กรัม เบาบางพกพาง่ายมาก และทำให้ถือจับใช้งานไม่เมื่อยมือเมื่อยนิ้วด้วยครับ
OPPO Reno7 Z 5G ใช้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.4 นิ้ว AMOLED Display FullHD+ สีสันสดแสงสว่างดี เป็นจอที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือโดยตรง เจาะวางกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล สามารถสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน การสแกนทำได้ไวครับ ทั้งการสแกนนิ้วและสแกนใบหน้า
และรองรับ 5G เต็มรูปแบบทั้งสองสล็อตซิม สามารถสลับใส่ระหว่างซิมกับ micro SD Card ได้จากสล็อตซิมที่สองซึ่งเป็นแบบไฮปริดครับ
แบตเตอรี่ภายในใส่ขนาด 4,500 mAh มาให้ ทดสอบใช้งานอยู่ได้เต็มวันครับ การจัดสรรพลังงานค่อนข้างดี มีโหมดสำหรับการดูแลแบตเตอรี่ได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ใช้ระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC มาตรฐานชาร์จไฟตัวเก่งขที่เราไว้ใจได้ ชาร์จแบตเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 63 นาที หรือถ้าฉุกเฉินมีเวลาแวะชาร์จสัก 5 นาที เราก็สามารถนำไปใช้คุยสายต่อได้ประมาณ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ ชาร์จไว ไม่ร้อน และมีอุปกรณ์ชาร์จ 33W SUPERVOOC แถมมาให้เลยภายในกล่องเลยครับ
การใช้งานภายใน
OPPO Reno7 Z 5G รันด้วยระบบ Android 11 ครอบทับไว้ด้วย ColorOS 12 ซึ่งเป็นระบบใหม่ของ OPPO ซอฟท์แวร์ของแบรนด์นี้มีความเสถียรสูงครับ จากที่เคยทดสอบใช้งานมา ผมยังไม่เคยเจออาการรีสตาร์ท ค้าง หรือรวนให้เห็นเลย ทำดีมาหลายรุ่นต่อเนื่องแล้ว
และย้ำการันตีความมั่นใจผู้ใช้ได้เลยครับว่า นี้คือสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นของ OPPO ที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV SÜD 36-month fluency rating A หรือการการันตีว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้แม้จะใช้งานไปแล้วนาน 36 เดือน ก็ยังทำงานได้อย่างรวดเร็วและราบลื่นเช่นเดิม การทดสอบขององค์กรระดับการันตีมาให้ขนาดนี้เลยครับ
ประสิทธิภาพแรงพอสมควร ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G Mobile Platform เทคโนโลยี 6 นาโน แรงและกินพลังงานน้อย หน่วยความจำภายใน 128GB ให้แรมมาขนาด 8GB พร้อมความสามารถในการขยายแรม RAM Expansion ขยายออกไปได้ด้วยหน่วยความจำที่ยังไม่ได้ใช้อีก 5GB รวมเป็น 12GB เหลือๆ ครับสเปคระดับนี้ บนซอฟท์แวร์ที่ทำมาได้ดียิ่งทำงานได้ดั่งใจ
มีบริการพิเศษให้กับผู้ใช้ มีธีมสโตร์ วอลล์เปเปอร์ให้ดาวน์โหลด มีคลาวด์เซอร์วิสสำหรับการสำรองข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้ให้ เกิดกรณีเครื่องหาย เปลี่ยนเครื่องใหม่ เราก็สามารถย้ายข้อมูลที่สำรองไว้จากเครื่องเก่า มาใช้ใน OPPO เครื่องใหม่ได้ครับ
การเล่นเกม ดูหนัง เหมาะสมครับ หน้าจอสวย สีสันสดใส สเปคแรง ไม่มีปัญหาใดๆ ในการใช้ครับ เล่นเกมได้ลื่น ดูหนังได้เต็มตาสีสันสดใส
เวลาใช้งานกลางคืน เราสามารถตั้งหน้าจอให้เปลี่ยนใช้ธีมสีดำ หรือการลดแสงสีฟ้าในเวลากลางคืนไว้ได้ล่วงหน้าครับ ให้เปิดปิดการทำงานเองในแต่ละวันตามเวลา มีทั้งโหมดสีดำ โหมดปรับลดแสงสีฟ้าของหน้าจอ หรือจะเปลี่ยนการแสดงผลให้กลายเป็นโทนขาวดำเลยก็ได้ครับ เพื่อใช้อ่านหนังสือกันแบบจริงจัง
ระบบภายในใส่ความสามารถในการช่วยเหลือผู้ใช้เอาไว้ให้ เช่นโหมดการเล่นเกม ที่จะเร่งประสิทธิภาพเครื่องและเคลียทรัพยากรเพื่อให้เราสามารถเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด ทันทีที่เรากดเปิดเกมจากในโหมดนี้ครับ พร้อมปิดกั้นการแจ้งเตือนที่อาจจะเข้ามารบกวนในจังหวะสำคัญ เราเปิดปิดการใช้งานได้แค่สไลด์กล่องเครื่องมือเข้ามาจากด้านข้าง
ประสิทธิภาพเครื่องดีมากพอที่จะใช้งานได้ทุกอย่างในระบบ การจับสัญญาณต่างๆ ทำได้ดี รองรับ WiFi 5.0, Bluetooth 5.0, NFC และการจับตำแหน่งทำได้ไว จับพิกัดได้เร็วโดยไม่ต้องมีสัญญาณเน็ตช่วยครับ การออกแบบเสาสัญญาณทำมาได้ดีครับ
สรุปท้ายรีวิว
OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟนเครื่องสวย มีกล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมครับสำหรับโหมดการถ่ายภาพบุคคล ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า คุณภาพกล้องดีทั้งคู่ ตัวเครื่องบางเบา การออกแบบมีเอกลักษณ์ ถือใช้ดูสวยงาม เด่นด้วยการออกแบบใส่ไฟวงแหวนรอบกล้องหลัง Dual Orbit Lights เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนและบอกสถานะกำลังชาร์จไฟ
คุณสมบัติรอบตัวดี แบตเตอรี่ 4,500 mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G Mobile Platform รองรับ 5G แรงและใช้พลังงานน้อย มีแรมขนาด 8GB ที่ขยายได้อีก 5GB และได้การการันตี มาตรฐาน TÜV SÜD 36-month fluency rating A ใช้งานได้ดีวันนี้ จนถึงอีกสามปี ก็ยังใช้งานได้ดีเช่นเดิม
คุ้มครับ และน่าใช้ สำหรับ OPPO Reno7 Z 5G วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 12,990 บาท ที่ OPPO Brand Shop และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ