ใครจะอัพเกรดเครื่องเล่นในรถยนต์ตอนนี้ ให้ดูเป็นเครื่องมัลติมีเดียรองรับอนาคตไปเลยครับ ซึ่งตอนนี้ Pioneer เปิดตัวออกมาชุดใหญ่ในรุ่นปี 2016 เครื่องเล่นซีรีย์X8 ซึ่งเป็นรุ่นที่ผมเดินทางไปทดสอบใช้งาน (AVH-X5850BT, AVH-X4850DVD สำหรับเครื่องหน้าจอ 7 นิ้ว 2Din และ AVH-X2850BT, AVH-X1850DVD เครื่องหน้าจอ 6.2 นิ้ว 2Din)
เครื่องมัลติมีเดียสำหรับใช้งานในรถก็คือเครื่องที่ไม่ใช่แค่จอทีวีกับเครื่องเสียง แต่จะรองรับการทำงานต่างๆ ได้อีกมากมาย เช่นรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่เราใช้งานได้ทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสายครับ มีความสามารถในการเรียกใช้งานฟังชั่นต่างๆ จากอุปกรณ์เชื่อมต่อ การใช้แอพพลิคชั่นร่วมกันกับมือถือ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับเครื่องระบบ Android และ iOS ครับ
ที่แนะนำให้ลองใช้เครื่องมัลติมีเดียแบบนี้แทนเครื่องเสียงระบบเก่าๆ นั้นเพราะอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ ถือว่าเป็นศูนย์กลางความเป็นตัวตนของเราเลยครับ มันมีครบหมดทั้งข้อมูลส่วนบุคคลของเรา รายชื่อติดต่อคนรู้จัก สังคมออนไลน์ รูปถ่ายที่บอกเรื่องราวชีวิต เพลงที่เราชอบฟัง และหนังที่เราชอบดู ยังไม่นับรวมความสามารถในการเป็นผู้ช่วยในสถานะการณ์ต่างๆ เช่นการใช้ค้นหาข้อมูล การใช้เป็นแผนที่นำทาง ทั้งหมดทั้งมวลนั้นโดนรวบรวมอยู่อุปกรณ์พกพาชิ้นเล็กๆ ชิ้นเดียวครับ
ฉะนั้นการที่เครื่องเล่นมัลติมีเดียภายในรถยนต์ของเรา สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่เราใช้งานอยู่ได้นั้นจึงเกิดประโยชน์มากๆ ในเรื่องของฐานข้อมูล เพราะประโยชน์แรกหลังการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนของเรากับเครื่องเล่นภายในรถยนต์ก็คือการดึงไฟล์ข้อมูล ภาพ เพลง วีดีโอ หนังภาพยนตร์ และสมุดรายชื่อติดต่อทั้งหลายในมือถือของเรา ดึงไปใช้บนจอและชุดเครื่องเสียงรถยนต์ได้นั้นเองครับ
โดยเครื่องมัลติมีเดีย Pioneer 2016 ที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับสมาร์ทโฟนได้ (รุ่นที่ลงท้ายว่า BT) จะมีความสามารถดังกล่าว และยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองตัวได้พร้อมๆ กันอีกด้วยนะครับ (Full Time Connection) สลับการเชื่อมต่อระหว่างสองอุปกรณ์ได้ง่ายๆ รองรับการสนทนาโทรศัพท์การรับสายวางสาย ผ่านชุดลำโพงและไมค์ของเครื่องเล่นในรถยนต์สายเรียกเข้าโทรมาเครื่องไหนก็กดสลับรับสายได้เลยโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อกับมือถือเครื่องเก่าเพื่อมาเชื่อมต่อเครื่องใหม่ครับ จะสั่งงานโทรออกจากเครื่องไหนก็ทำได้ตลอดเวลาเช่นกัน
ดึงรายชื่อติดต่อจากภายในเครื่องมาแสดง พร้อมประวัติการติดต่อโทรเข้าโทรออก ที่สำคัญมีปุ่มรองรับคำสั่งเสียงด้วยนะ ^^ ทดสอบใช้งานกับ SIRI แล้ว ก็เหมือนใช้งานจากเครื่อง iPhone โดยตรงเลยละครับ
ส่วนการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนของเครื่องมัลติมีเดีย Pioneer ก็ง่ายมากครับซึ่งจะมีทั้งแบบไร้สาย (ใช้อุปกรณ์เสริม) และเชื่อมต่อแบบใช้สาย โดยการเชื่อมต่อด้วยสายนั้นเราไม่จำเป็นต้องไปหาสายที่ไหนไกลเพียงใช้สาย USB ที่แถมมาเอาไว้ชาร์จแบตเครื่องโทรศัพท์ทั่วๆ ไปนั้นแหละครับ หยิบนำมาใช้ได้ทันที ให้เราเสียบสาย USB เข้ากันกับเครื่องมัลติมีเดีย Pioneer ทั้งสองอุปกรณ์ก็จะรู้จักกัน พร้อมใช้งานผ่านฟังชั่นต่างๆ ได้ทันทีผ่านแอพพลิเคชั่น AppRadio Mode ที่เราต้องติดตั้งลงเครื่องไว้ก่อนการใช้งาน
เจ้าแอพ AppRadio Mode ตัวนี้ดูแล้วมีลักษณะเด่นในเรื่องของการออกแบบหน้าตาให้เหมาะสมกับการใช้งานในขณะขับขี่ครับ ไอคอนใช้งานใหญ่ๆ เรียกใช้คำสั่งสำคัญได้ง่ายๆ
ถ้าในเครื่องสมาร์ทโฟนของเรามีแอพพลิเคชั่นหรือบริการใดที่ตัวมัลติมีเดียของ Pioneer รองรับ ในหน้าแอพ AppRadio Mode ก็จะแสดงไอคอนเรียกใช้แอพนั้นขึ้นมาบนหน้าจอให้เรียกใช้งานได้ครับ เรียกว่าเป็น Launcher ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในรถโดยเฉพาะ การสั่งงานทั้งหมดสามารถทำได้ผ่านหน้าทัชสกรีนของเครื่องมัลติมีเดียในรถยนต์ของ Pioneer ครับ ไม่ต้องไปแตะเครื่องโทรศัพท์อีกต่อไป
***แอพนำทางออฟไลน์ขั้นเทพอย่าง Guild & Go ก็ดึงเอามาใช้งานบนเครื่อง Pioneer ได้สบายๆ เลยครับ นำทางแบบไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตได้ทั่วไทย ถ้ามีลงไว้ใช้บนสมาร์ทโฟนก็เอามาใช้ต่อได้ในรถทันทีเช่นกัน
ในเรื่องของการเล่นเพลง เครื่่องมัลติมีเดีย Pioneer ในปี 2016 นี่ก็อัพเกรดความสามารถขึ้นมาเช่นกัน เพราะตอนนี้รองรับไฟล์เสียงความละเอียดสูงแล้วครับ (FLAC) ที่ให้เสียงคุณภาพสูงและขนาดไฟล์ที่เล็กกว่าไฟล์ประเภท WAV (24-bit/48 KHz) พร้อมระบบมิกส์เพลงอย่าง Mixtrax ซึ่งจะเป็นโปรแกรมที่ช่วยมิกซ์เพลงของเราให้เล่นต่อเนื่องกันได้แบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเล่นเพลงจากแหล่งข้อมูลไหน ผ่านเครื่อง iPhone, iPod หรือ Android รวมทั้งเล่นจากไฟล์ใน USB Flashdrive ที่เสียบอยู่ก็ได้เช่นกัน แสดงแสงสีเสียงตามจังหวะ สามารถแสดงเสียงเพลงที่เปิดไว้พร้อมกับเสียงแผนที่นำทางควบคู่กันไปได้โดยไม่ตัดแหล่งเสียงให้หายไปทางใดทางหนึ่ง และกำหนดระดับความดังของเสียงให้แตกต่างกันได้ครับ
ข้อมูลเพลงก็แสดงได้ครบถ้วนครับ ทั้งหน้าปก รายชื่อเพลง รายชื่อศิลปิน รองรับทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ทาง Pioneer ยังแอพพลิเคชั่นเสริมอีกหนึ่งตัว ที่เข้ามาเพิ่มความสามารถของแอพพลิเคชั่น AppRadio Mode นั้นคือแอพที่ชื่อว่า AppRadio Live เป็นแอพที่จะทำให้หน้าจอของเครื่องเล่น Pioneer แยกแสดงผลการทำงานออกไปได้เป็นสี่ส่วนครับ เพื่อเข้าถึงการเล่นเพลง รายงานสภาพอากาศ ตารางนัดหมาย หรือแผนที่นำทาง โดยทั้งหมดดึงมาแสดงได้จากการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเรานั้นเอง
ความสามารถใหม่และประสิทธิภาพที่เพิ่มเข้ามาในเครื่องเล่นของ Pioneer ปี 2016 นี่ยังมีอีกมากครับ เช่นเรื่องของการแสดงผล ระบบการปิดหน้าจอตัวเครื่อง Pioneer โดยไม่ต้องดับเครื่องยนต์ และมีการปรับมาใช้หน้าจอแบบ Clear Type Resistive ที่ชัดกว่าเดิมในแสงตอนกลางวัน และมุมมองกว้างกว่าหน้าจอติดรถยนต์รุ่นเก่า สดสวยและคมกว่าแบบเห็นได้ชัดครับ
สำหรับการสั่งงานทั่วๆ ไปผ่านตัวเครื่อง Pioneer ในรุ่นใหม่นี่ จะมีความสามารถในการเรียนรู้ปุ่มสั่งงานควบคุมบนแผงพวงมาลัยด้วยนะครับ กำหนดได้ว่าจะให้ปุ่มใดบนพวงมาลัยของเราทำหน้าที่อะไรบ้างครับ (แต่อาจจะไม่รองรับในรถทุกรุ่นนะครับ) มีหน้า UI ที่ใช้งานเข้าใจง่ายๆ ให้ทัชบนหน้าจอ และมีปุ่มควบคุมที่สำคัญๆ บนตัวเครื่องครบครัน
- ปุ่มโฮมเพื่อกลับหน้าแรก
- ปุ่ม DISP เพื่อปิดหน้าจอ หรือเป็นการเรียกใช้ปุ่มคำสั่งเพิ่มเติมในกรณีที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
- ปุ่ม MODE เพื่อเลือกโหมดการทำงานหลัก
- ปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง ปุ่มเลื่อนหน้าและย้อนหลัง และปุ่มเปิดถาดดิสก์
รุ่น X58 และ X48 เปิดถาดดิสก์เท่มากครับขอบอก ^^
ปุ่ม Mode เป็นปุ่มเรียกการทำงานหลักๆ ของเครื่อง (ตัวหนังสือใหญ่จิ้มง่ายดีมากๆ ^^) เปิดโหมดวิทยุ หรือเล่นไฟล์จากแผ่นดิสก์ เชื่อมต่อเสียงกับอุปกรณ์ภายนอกผ่านบลูทูธหรือ AUX เลือกได้ทั้งหมดจากในหน้านี่ครับ (มีคำสั่ง Power OFF หรือการปิดเครื่องโดยไม่ต้องดับเครื่องยนต์ก็ปิดเครื่องได้ในหน้านี่)
ส่วนปุ่มบนหน้าจอให้หน้าแรก จะมีปุ่มเลือกแหล่งสัญญาณเข้า (AV) ซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่ใช้งานกันบ่อยๆ แน่นอน ทำปุ่มให้เรียกขึ้นมาเลือกได้ง่ายๆ ต้องการใช้งานประเภทใดก็ทัชแค่คลิ๊กเดียว สำหรับในการใช้งานเช่นเล่นเพลง เล่นหนัง ตัวเครื่องเล่น Pioneer จะรองรับไฟล์ทั้งจากแผ่น DVD และผ่านพอร์ต USB อยู่แล้วครับ โดยเราสามารถกำหนดแหล่งสัญญาณเข้าที่ใช้งานบ่อยๆ โดยการลากไอคอนขึ้นมาไว้ด้านบนได้ด้วยนะครับ
ส่วนปุ่มที่เป็นไอคอนรูปโทรศัพท์จะมีแค่สำหรับรุ่นที่รองรับบลูทูธ เพื่อเอาไว้เข้าหน้าการใช้งานโทรศัพท์นั้นเองครับ
คลิปรีวิวการทำงานของเครื่องมัลติมีเดีย Pioneer ปี 2016
มาลองดูคลิปทดสอบการใช้งานจริงๆ ของตัวเครื่องมันกันดีกว่าครับ ลองทดสอบใช้ทั้งเครื่องสมาร์ทโฟนในระบบ Android และ iPhone สามารถทำการเชื่อมต่อได้ง่ายๆ ทั้งผ่านสาย USB ธรรมดาๆ และผ่านการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธทั้งสองระบบ จากการทดสอบผมว่าประสิทธิภาพการประมวลผลของมันดีกว่าเครื่องเล่นหน้าจอทัชในสมัยก่อนเยอะครับ มีความไว ทัชสกรีนตอบสนองได้ดีกว่าเดิมเยอะมาก
ถ้าใครต้องการที่จะเชื่อมต่อการรับชมกับทีวีดาวเทียมใน้บานเราด้วยละก็ ทาง Pioneer ก็มีอุปกรณ์เสริมสำหรับการรับสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียมออกมาให้ใช้งานคู่กันด้วยครับ (GEX-2850DVB2 Dual Diversity DVB-T2) มีความสามารถในการรับสัญญาณทีวีดิจิตอลและการบันทึกเป็นไฟล์วีดีโอในตัว ซึ่งเขาว่ารองรับสัญญาณจากที่ที่ห่างไปได้กว่า 80 กิโลเมตร ในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รูปสินค้าในรุ่นต่างๆ
Pioneer มัลติมีเดีย Car AV 2016 มีการเปิดตัวเครื่องออกมาหลายขนาดจอ หลายรุ่น หลายหน้าตาครับ ที่เอามาแนะนำและลองทดสอบใช้งานนี่เป็นแค่เครื่องรุ่นปี 2016 ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปไม่นาน แต่ยังมีรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายมีให้เลือกเพียบ เพราะแบรนด์นี่เป็นเจ้าใหญ่ของวงการชุดเครื่องเล่นในรถยนต์มาตลอดยาวนาน ถึง 25ปี เข้าไปแล้วครับ ใครสนใจลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูนะครับ
*** เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ อย่าให้อุปกรณ์ความบันเทิงหรือการติดต่อใดๆ เบี่ยงเบนความสนใจในขณะขับรถและควรรักษากฏจราจรด้วยนะครับ
[gradeA]