Razer Basilisk V3 Pro อสรพิษไร้สาย มากับแท่นชาร์จเสริม เพิ่มความถี่ไปถึงระดับ 4,000Hz
ตั้งแต่ใช้เมาส์ตัวนี้มา ไม่มีอะไรขัดใจเลย ปุ่มกดไม่เคยลั่นเอง ควบคุม แบตเตอรี่อึดใช้ได้ จากที่ผมใช้งานเฉลี่ยวันละประมาณ 7 ชั่วโมง หยิบเข้าหยิบออก แบตเตอรี่ไม่เคยเหลือต่ำกว่า 50% สะดวกและคล่องตัวตามคอนเซปการออกแบบที่ทำมาให้ใช้คู่กัน ทั้งตัวเมาส์และแท่นชาร์จแสดงสีไฟร่วมกันได้สวยงาม ด้วยไฟบริเวณฐานล่างของทั้งคู่ทำให้การแสดงไฟไปในทางเดียวกัน และยังแสดงสีไฟเดียวกันเมื่อยามเราวางชาร์จเพื่อบอกสถานะแบตเตอรี่ได้เองด้วย
The Good
- เข้ามือทั้งขนาด รูปร่าง และการวางตำแหน่งของปุ่มกด
- เชื่อมต่อไร้สายได่ในเทคโนโลยีสูง 4K Hz HyperPolling Wireless เมื่อใช้งานคู่กับ Razer Mouse Dock Pro
- ล้อหมุนของเมาส์ HyperScroll tilt wheel ทำงานได้ในโหมด Smart Reel โดยจะเปลี่ยนตัวเองจากลักษณะของ Tactile Cycling ในขณะหมุนล้อช้า ไปเป็นแบบ Free-spinning ได้เองเมื่อหมุนล้อเร็วหรือแรงมากขึ้น สร้างการใช้งานที่คล่องมือ ทั้งในการเล่นเกมหรือใช้ในชีวิตประจำวันด้านอื่นๆ
- ปุ่มสวิตช์ Razer Optical Mouse Switches Gen-3 มีแรงตึงของปุ่มกำลังน่าใช้ ไม่แข็งไม่นิ่ม แรงสะท้อนดี ตอบสนองอย่างไวแต่ไม่มีการคลิ๊กเกินให้พบเจอเลยตลอดการใช้งาน
- ใช้เซนเซอร์ออพติคัลเกรดสูง Focus Pro 30K แม่นยำ ใช้งานได้เสถียร แม้บนพื้นผิวโต๊ะในหลายๆ รูปแบบ
- วางตำแหน่งแสงไฟได้สวย แยกปรับได้มากถึง 13โซนบนตัวเมาส์
The Bad
- การใช้งานให้เต็มเทคโนโลยี ควรใช้คู่กันกับแท่น Razer Mouse Dock Pro
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
ฟังก์ชั่นและประโยชน์ในการใช้งาน
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
Razer Basilisk V3 Pro เมาส์เกมมิ่งเกรดตัวท็อปของวงการมาแล้วครับ คุณสมบัติขั้นสูงมีมาเพียบ ตั้งแต่การออกแบบภายนอก การใช้งาน ปุ่มควบคุมต่างๆ รวมุถึงอุปกรณ์เสริมและซอฟท์แวร์ที่พัฒนามารองรับ เป็นเมาส์ตัวจบของวงการ อสรพิษในมือตัวจริง!
Razer Basilisk V3 Pro เป็นเมาส์ไร้สายชนิดสมบูรณ์ หมายถึงรองรับระบบไร้สายทั้งการใช้งานและการชาร์จพลังงานนั้นเองครับ รองรับการชาร์จไร้สายในมาตรฐาน Qi แต่ถึงจะบอกอย่างนั้น แต่ถ้าจะให้เมาส์ตัวนี้กลายร่างเป็นเมาส์ระดับตำนานตัวจริง ก็ต้องอาศัยคู่หูของมันด้วย นั้นคือ Razer Mouse Dock Pro ซึ่งทำหน้าเป็นแท่นชาร์จไร้สาย พร้อมเพิ่มขยายอัตราการรับข้อมูล (Polling Rate) ของ Basilisk V3 Pro ให้ไปถึงระดับ 4K นั้นเองครับ ซึ่งทาง Razer ก็มีทั้งจำหน่ายแยกกันและเปิดจำหน่ายออกมาเป็นคู่ในราคาพิเศษด้วย
ผมจะพามาดูความพิเศษของ Razer Basilisk V3 Pro และ Razer Mouse Dock Pro เจ้าคู่หูตัวร้ายคู่นี้กันไปทีละส่วนครับ ว่ามันดีที่ตรงไหนกันบ้าง
การออกแบบภายนอก
แน่นอนว่า Razer Basilisk V3 Pro ไม่ใช่รุ่นแรกของซีรี่ส์ มันถูกพัฒนามาหลายต่อหลายรุ่นแล้ว โดยเป็นเมาส์มือขวาที่ได้รับการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของแบรนด์ใหญ่อย่าง Razer บริษัทผู้ช่ำชองการผลิตเมาส์ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนหลายล้านคนทั่วโลก เชื่อประสบการณ์ได้
โดยในรุ่นนี่จะเป็นเมาส์แบบฟลูไซด์ เข้าเต็มอุ้งมือ ออกแบบให้วางมือและกำใช้แบบเต็มน้ำหนักมือ ทั้งห้านิ้วจะมีจุดรองรับเอาไว้ทั้งหมด ขนาด 130 x 75.4 x 42.5 มม. หนัก 112กรัม
รองรับไฟ Razer Chroma RGB แสดงสีสันรอบตัวได้ถึง 13 จุด สวยงามเพราะมีการวางไฟไว้ใต้ฐานเมาส์ ส่องเล่นแสงกระทบกับพื้นให้ดูมีออร่า ปรับสีสันได้ 16.8ล้านสี ภายในโปรแกรม Razer Synapse และจัดแสดงไฟได้หลากหลายลักษณะ รวมถึงการแสดงแสงสีร่วมกับอุปกรณ์ Razer อื่นๆ ร่วมกันได้ ซึ่งอุปกรณ์ของ Razer จะปรับแต่งและทำงานภายใต้โปรแกรมเดียวกันได้ทั้งหมดครับ
หนึ่งในจุดเด็ดของ Razer Basilisk V3 Pro คือการออกแบบล้อหมุนของเมาส์มาเป็นแบบพิเศษ “HyperScroll tilt wheel” ซึ่งอันนี้หลายคนได้มาลองแล้วจะเลิฟเลยครับ เพราะโดยปกติตัวล้อหมุนของเมาส์มักจะมีการออกแบบกลไกภายในมาในสองรูปแบบ นั้นคือ
- แบบแรก Free-spinning modes ล้อหมุนเมาส์ชนิดปล่อยฟรี ไม่มีกลไกในการห้ามล้อ หมุนได้ลื่น หมุนได้เร็ว หมุนได้สุดหน้าทีเดียวแบบปล่อยล้อฟรี ไม่มีกลไกแบบแมคคานิคภายในใส่มาให้เราได้รู้สึกถึงจำนวนบรรทัด หรือจังหวะในขณะหมุน
- และแบบที่สอง Tactile Cycling หรือตัวล้อหมุนเมาส์ที่มีสัมผัสรู้สึกถึงจังหวะการหมุนได้ มีการตอบสนองแบบเป็นขั้นลำดับจากกลไกภายใน ให้เรารู้สึกถึงขั้นบรรทัด ซึ่งผมมักจะเรียกมันว่า เป็นล้อหมุนเมาส์แบบ “กึ๊ก กึ๊ก” ^^
ในเมาส์หลายๆตัว เราอาจจะพบว่าเขามีตัวเลือกให้สามารถสลับโหมดล้อหมุนให้ใช้ได้ทั้งสองแบบครับ แต่สำหรับ Razer Basilisk V3 Pro มีโหมดพิเศษมากไปกว่านั้น นั่นคือโหมด “Smart Reel Mode”
Smart Reel Mode จะสามารถทำงานไปมาในสองลักษณะของล้อหมุนเมาส์ร่วมกัน สลับไปมาได้เองอัตโนมัติ โดยในขณะที่เราหมุนล้อด้วยความเร็วต่ำ ตัวล้อจะทำงานแบบ Tactile Cycling ให้เรารู้สึกได้ถึงลำดับขั้นการหมุนแบบชัดๆ ไปทีละจังหวะ แต่ถ้าเราขยับเพิ่มความแรงหรือเร็วในการหมุนเมื่อไหร่ ตัวล้อจะไม่ฝืนใดๆ และจะเปลี่ยนไปทำงานแบบ Free-spinning modes ในทันทีแบบเนียนๆ เลยครับ โดยเราสามารถเปิดใช้งานโหมดนี้และสลับไปในแบบ Free-spinning และ Tactile Cycling ในโปรแกรม Razer Synapse ครับ
ซึ่งการทำงานในสองลักษณะนี้ถูกออกแบบกลไกเอาไว้เรียบเนียนมากครับ เวลาใช้จะไม่ขัดหรือมีจังหวะให้เรารู้สึกสะดุดใดๆ เลยแม่แต้นิดเดียว อยากจะหมุนช้าหรือเร็วมันจะเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเราได้ดั่งใจ รองรับอารมณ์ผู้ใช้ได้สมบูรณ์สุดๆ ครับ
Razer Basilisk V3 Pro จะมีปุ่มควบคุมบนตัวเมาส์มากถึง 10(+1) ปุ่ม วางตำแหน่งเข้าถึงได้ง่ายครับโดยเฉพาะปุ่มบริเวณนิ้วโป้งด้านซ้ายของเมาส์ ได้รับการออกแบบใหม่ และใช้ปุ่มสวิตช์กดแบบ Razer Optical Mouse Switches ที่พัฒนามาใน เจนเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว เป็นรุ่นที่ขจัดปัญหาการเกิดคลิกซ้อนที่ไม่ได้ตั้งใจได้ในระดับเป็นศูนย์กันเลยทีเดียวครับ! ไม่เกิดการหน่วงในจังหวะเด้งกลับ รับคำสั่งได้ในเพียงเสี้ยว 0.2มิลลิวินาที แต่จะไม่เกิดการรับคำสั่งเกินหรือการคลิ๊กซ้อนแบบไม่ตั้งใจเกิดขึ้นมาโดยเด็ดขาด
ชุดสวิตช์มีความทนทานสูง ทดสอบมาตรฐานการใช้งานที่ทนต่อการคลิ๊กได้มากถึง 90 ล้านครั้ง แข็งแรงทนทานมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับชุดสวิตช์รุ่นก่อนถึง 25% ใช้งานกันได้นานครับ ตัวนี้รับประกันยาวให้นานถึงสองปีจาก Razer ด้วยนะครับ
ด้านล่างใช้วัสดุรองขาเมาส์แบบ PTFE 100% พร้อมปุ่ม Profile สำหรับการสลับชุดข้อมูลคำสั่งที่เราเซ็ตไว้ ซึ่งเราสามารถบันทึกเก็บลงหน่วยความจำในตัวเมาส์ได้มากถึง 5 โปรไฟล์ด้วยกันครับ กดสลับใช้ได้ที่ปุ่มใต้ฐานตรงนี้โดยไม่ต้องอาศัยเปลี่ยนบนคอมพ์
ติดตั้งออพติคัลเซนเซอร์ Focus Pro 30K เรียกได้ว่าเป็นเซ็นเซอร์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมเกมมิ่งเมาส์ของ Razer ให้ความแม่นยำสูงมาก และมีประสิทธิภาพการติดตามได้บนแทบทุกพื้นผิวรวมถึงโต๊ะกระจกที่ไม่สะท้อนเงาด้วยครับ รองรับการทำงานร่วมกับฟังก์ชันอัจฉริยะอย่าง AI และการวิเคราะห์พื้นผิวที่กำลังใช้อัตโนมัติ กำหนดเอาไว้ในระดับที่ต้องการอ
ออกแบบที่จัดเก็บ USB Dongle ไว้ภายใต้ฝาปิดแบบหมุน ซึ่งฝาปิดตัวนี้เราสามารถเปลี่ยนไปใช้ Wireless Charging Puck หรือตัวรับการชาร์จไร้สายในมาตรฐาน Qi มาใส่แทนได้ครับ (ขายแยกกัน) ก็จะทำให้ Razer Basilisk V3 Pro รองรับระบบการชาร์จไร้สายได้นั้นเอง (*ฝาปิดแบบ Wireless Charging Puck จะแถมฟรีภายในกล่องของแท่นชาร์จ Razer Mouse Dock Pro มาให้ครับ)
เมื่อเปลี่ยนใส่ Wireless Charging Puck หน้าตาจะมีสัญลักษณ์ของการชาร์จแบบนี้ครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Razer Basilisk V3 Pro ก็จะมีสายตัวเมาส์ พร้อมสาย Speedflex Cable USB Type C สายเชื่อมต่อแบบไร้แรงต้านเวลาขยับเมาส์ มาพร้อมกับหัวแปลง USB-A to USB-C สลักคำว่า Razer มาให้ เผื่อจะใช้ต่อ USB Dongle มาวางไว้บนโต๊ะ เพื่อให้ใกล้เมาส์มากขึ้นเพิ่มการตอบสนองที่ดีขึ้น และสติ๊กเกอร์ลายโลโก้สวยๆ จาก Razer แถมมาให้ครับ
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องของตัวฐาน Razer Mouse Dock Pro ภายในกล่องจะแถม Wireless Charging Puck หรือฝาปิดข้างใต้เมาส์ ที่ทำจะทำให้เมาส์ซึ่งรองรับฝาปิดตัวนี้ สามารถชาร์จพลังงานได้ในมาตรฐานไร้สาย Qi นั้นเองครับ นั้นรวมถึง Razer Basilisk V3 Pro ด้วยนั้นเอง
ด้านบนทำหน้าที่เป็นฐานชาร์จไฟ และใช้แรงแม่เหล็กยึดตัวเมาส์ในเวลาวางชาร์จ โดยด้านใต้ของฐานใส่ยางหน้าสัมผัสที่มีแรงยึดจับกับพื้นผิว เพื่อในเวลาวางชาร์จเมาส์และหยิบออกจะได้ไม่เคลื่อนง่ายๆ และ Razer Mouse Dock Pro ยังทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมต่อกับ PC, Notebook ผ่านพอร์ต USB นอกจากจะทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จไร้สาย Qi แล้ว ก็เป็นตัวรับสัญญาณของเมาส์ในเทคโนโลยีใหม่ Razer HyperPolling 4K Hz Transceiver ไปในตัวพร้อมกัน
มีจุดแสดงไฟ Razer Chroma RGB 8 จุด ปรับแต่งไฟได้ 16.8ล้านสี และยังใช้สัญลักษณ์แสงไฟเป็นการบอกสถานะแบตเตอรี่ของเมาส์ในขณะชาร์จด้วย โดยจะแสดงสีร่วมกับตัวเมาส์ไปพร้อมกันโดยอัตโนมัติ แบ่งเป็นสามระดับให้เราสังเกตเห็นได้ง่ายๆ สีแดง=แบตเตอรี่น้อย สีเหลือง=แบตเตอรี่ปานกลาง และ สีเขียว=แบตเตอรี่เต็ม
การใช้งานภายใน
การเชื่อมต่อของ Razer Basilisk V3 Pro กับ PC, Notebook จะสามารถเชื่อมต่อได้สามรูปแบบครับ ทั้งการเสียบสายผ่านพอร์ต USB Type C ด้านหน้าตัวเมาส์ และแบบเชื่อมต่อผ่านสัญญาณไร้สาย ทั้งสัญญาณบลูทธ และแบบ Razer HyperSpeed Wireless 2.4Hz ซึ่งเป็นระบบไร้สายของ Razer ที่พัฒนาขึ้นมาเอง โดยจะใช้กับตัวรับที่เป็น USB Dongle ขนาดเล็ก ซึ่งแถมมาให้ภายในกล่อง
การเชื่อมต่อครั้งแรก และการตั้งค่าต่างๆ จะทำผ่านโปรแกรม Razer Synapse ทั้งหมดครับ (ดาวน์โหลด Razer Synapse) ทั้งตัวเมาส์ Razer Basilisk V3 Pro และฐาน Razer Mouse Dock Pro ใช้โปรแกรมควบคุมตัวเดียวกัน
การเชื่อมต่อในแบบ Razer HyperSpeed Wireless มีข้อดีเยอะครับ มีความเสถียรของสัญญาณสูง นิ่งและเนียนกว่า ไม่กระตุกสะดุด และมีความไวในการตอบสนองที่สูงกว่าการเชื่อมต่อไร้สายในมาตรฐานอื่นๆ มากถึง 25% เป็นระบบไร้สายสำหรับเกรดเกมมิ่งโดยเฉพาะ และอีกข้อดีที่สำคัญ คือด้วยตัวรับ USB Dongle เพียงตัวเดียว จะรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้มากกว่า 1 อุปกรณ์พร้อมกันขึ้นไปครับ ฉะนั้นใครใช้อุปกรณ์ของ Razer ที่มีมาตรฐาน Razer HyperSpeed Wireless เดียวกันอยู่มากกว่า 1 ตัว เช่นเมาส์และคีย์บอร์ด ก็เสียบตัวรับเอาไว้เพียงตัวเดียวพอครับ ไม่เปลืองพอร์ต USB และให้ความเสถียรของสัญญาณสูงได้อยู่เช่นเดิมด้วยครับ
และสำหรับ Razer Basilisk V3 Pro ยังไปได้ไกลกว่านั้น ด้วยคู่หูของมัน Razer Mouse Dock Pro เมื่อเรานำมาใช้เป็นตัวรับข้อมูลแทน USB Dongle ที่แถมมา ก็จะการเป็นการเชื่อมต่อไร้สายที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น นั่นคือระบบ 4K Hz HyperPolling Wireless ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานของ Razer
4K Hz HyperPolling Wireless เป็นเทคโนโลยีที่สร้างความเร็วการส่งข้อมูลของตัวเมาส์ออกไปแบบไร้สายได้ในระดับ 4,000Hz หรือระดับ 4K นั้นเองครับ โดยเป็นความเร็วในขณะที่เราใช้งานแบบไร้สายด้วย! นับเป็นความเร็วที่สูงมากๆ ครับ นับเป็นประมาณ 4 เท่าเมื่อเทียบกับมาตรฐานเมาส์เกมมิ่งทั่วไป ที่ส่วนใหญ่จะรองรับ Polling Rate อยู่ที่ 1000Hz แม้จะใช้การเชื่อมต่อแบบเสียบสายอยู่ก็ตามครับ
ทุกเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยววินาที ที่มีการขยับแม้เพียงเล็กน้อย เมาส์จะรับรู้ระยะเพียงเล็กน้อยที่เกิดขั้นนั้น และส่งข้อมูลไปบอก PC หรือ Notebook แบบถี่ยิบถึง 4000 ครั้งต่อวินาที! และแน่นอนว่า PC หรือโน๊ตบุ๊คของเราก็ต้องมีดีพอตัวนะครับ ไม่งั้นด้วยชุดคำสั่งระดับ 4000Hz จะทำให้คอมพ์ของเราเหนื่อยเอาการได้เช่นกัน แนะนำว่าควรเปิดค่า Polling Rate ในระดับที่เหมาะสมกับคอมพ์ของเราจะดีกว่าถ้าพบเจออาการสะดุดหลังเปิดค่า Polling Rate สูงมากเกินไป
การจะเปิดโหมด 4K Hz Wireless Polling Rate จะต้องถอดตัวสาย USB หรือตัวรับ Razer HyperSpeed Wireless Dongle ตามปกติที่มากับเมาส์ออกจากคอมพ์ซะก่อนนะครับ แล้วเสียบตัว Razer Mouse Dock Pro เข้าไปกับคอมพ์แทน หลังจากนั้นก็เชื่อมต่อเมาส์เข้ากับตัว Razer Mouse Dock Pro เพื่อใช้เจ้าฐานชาร์จของเราเป็นตัวรับสัญญาณในแบบ 4,000Hz
ภายในโปรแกรม Razer Synapse ก็จะทำหน้าที่เป็นตัวปรับตั้งค่าสีไฟ การแสดงสีไฟ และการเซ็ตค่าต่างๆ ทั้งหมดของอุปกรณ์ Razer รวมถึงการอัพเดทระบบต่างๆ ของอุปกรณ์ด้วยครับ รวมถึงการเลือกระดับ Polling Rate ก็สามารถเลือกได้ในหน้าโปรแกรมนี้เช่นกัน
สำหรับการใช้งานของเมาส์ ต้องบอกเลยว่าตอบสนองขั้นสุดครับ ไว แม่นยำ และสรีระศาสตร์ยังคงยอดเยี่ยม ปุ่มควบคุมวางตำแหน่งได้ถูกที่ถูกจุด
ที่ผมชอบคือแรงตึงของปุ่มกด Razer Optical Mouse Switches Gen-3 ไม่แข็งไม่นิ่ม แรงสะท้อนดี ไม่ลึกมากเกินไป ใช้แล้วสนุกครับ เข้ามือและคล่องมือ รวมถึงล้อหมุน HyperScroll Tilt Wheel ในโหมด Smart Reel Mode หมุนมันมือดีมาก จะไปช้าหรือไปเร็วก็ได้ดั่งใจ มันเหมาะทั้งในตอนเราเล่นเกมในหลายๆ จังหวะเวลาเลื่อนหน้าจอ หรือการใช้ในกิจวัตรประจำวันด้วยครับ รวมถึงการทำงานด้วยนะ โหมดล้อหมุนของเมาส์ตัวนี้มันดีมาก ^^
ตั้งแต่ใช้เมาส์ตัวนี้มา ไม่มีอะไรขัดใจเลยครับ ปุ่มกดไม่เคยลั่นเอง ควบคุม แบตเตอรี่อึดใช้ได้ จากที่ผมใช้งานเฉลี่ยวันละประมาณ 7 ชั่วโมง หยิบเข้าหยิบออก แบตเตอรี่ไม่เคยเหลือต่ำกว่า 50% สะดวกและคล่องตัวตามคอนเซปการออกแบบที่ทำมาให้ใช้คู่กัน ทั้งตัวเมาส์และแท่นชาร์จแสดงสีไฟร่วมกันได้สวยงาม ด้วยไฟบริเวณฐานล่างของทั้งคู่ทำให้การแสดงไฟไปในทางเดียวกัน และยังแสดงสีไฟเดียวกันเมื่อยามเราวางชาร์จเพื่อบอกสถานะแบตเตอรี่ได้เองด้วยครับ
Razer Basilisk V3 Pro มีราคาเปิดจำหน่ายที่หน้าเว็บไซด์ Razer.com ในราคา 159.99$
มีราคาพิเศษสำหรับการซึ้อคู่กับอุปกรณ์เสริม
- Razer Basilisk V3 Pro + Razer Wireless Charging Puck ในราคา 169.99$
- หรือซึ้อคู่ Razer Basilisk V3 Pro + Razer Mouse Dock Pro (รวม Razer Wireless Charging Puck ภายในแพ็ค) ราคา 199.99$